Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1418
สวนสวรรค์นั้นตั้งอยู่ในทะเลของดวงดาวจี่หยานซึ่งหลินเทียนเองก็นำทางอสรพิษม่วงและเหลาเหลาออกไปจากสถานที่แห่งนี้อย่างรวดเร็ว
ที่นี่เป็นสถานที่ๆเต็มไปด้วยคลื่นทะเลที่พัดเอากลิ่นอายเค็มเข้ามา
อสรพิษม่วงที่กำลังหันมองออกไปรอบๆได้แต่สั่นสะท้านไปทั้งตัว
“นี่ข้า…..ออกมาได้แล้ว ?! ข้าออกมาแล้ว! ข้าออกมาแล้ว ! ”
มันส่งเสียงสั่นๆออกมา
เป็นเพราะว่ามันเกิดและเติบโตขึ้นภายในสวนสวรรค์จนระดับพลังอยู่ในเขตแดนกึ่งนิรันดร์แท้จริงทว่าตอนนี้มันสามารถออกมายังโลกภายนอกได้แล้วทำให้มันไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลยด้วยซ้ำ มันแทบจะกระโดดโลดเต้นไม่ต่างกับเด็กเลยก็ว่าได้
“ยินดีกับผู้อาวุโสด้วย ”
หลินเทียนพูดออกมา
เป็นเพราะเขาเองก็พอจะเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่ายว่าที่นี่มันก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากคุกดีๆซึ่งการที่ต้องถูกขังเอาไว้เป็นเวลาเนิ่นนานและในที่สุดก็ออกมาได้นั้นมันน่าตื่นเต้นขนาดไหน
อสรพิษม่วงได้หันมองมาทางเขาด้วยสายตาที่ซาบซึ้งพลางพูดออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า
“ขอบคุณเพื่อนตัวน้อยมากๆ ! ขอบคุณจริงๆ ! ”
แม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสำหรับหลินเทียนมากนักทว่ามันก็ยังรู้สึกซาบซึ้งอยู่ดี
“ท่านผู้อาวุโสก็สุภาพเกินไป ก่อนหน้านี้เพิ่งได้ท่านช่วยมาจากเงื้อมมือของสามอนันตกาลนั่นแถมยังต้องให้ท่านช่วยหลังจากที่ออกไปจากที่นี่”
หลินเทียนพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
“ยังไงก็ต้องแสดงความขอบคุณอยู่ดีเพราะสำหรับข้าแล้วมันเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ! ”
อสรพิษม่วงได้ส่งเสียงออกมาพร้อมทั้งหันมองออกไปรอบๆอยู่นานก่อนที่จะพูดขึ้นว่า
“อ่อใช่ แล้วเพื่อนตัวน้อยอยากจะไปที่ไหนก็ไปได้เลยแล้วหลังจากนั้นเจ้าอยากจะหาตำแหน่งของดาวดวงไหนก็บอกมาได้เลย หากว่ายังมีอะไรให้ช่วยอีกก็รบกวนได้เสมอ ตราบเท่าที่ข้าทำได้ข้าก็จะไม่ปฏิเสธ ”
หลินเทียนนั้นเป็นคนช่วยมันออกมาจากคุกแห่งนี้ทำให้มันรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณอย่างมาก
“ขอบคุณท่านมากๆแต่ไม่ต้องรีบขนาดนั้น รุ่นเยาว์คิดจะเก็บตัวบ่มเพาะเสียหน่อยเพื่ออาศัยสมุนไพรฟินิกซ์หลากสีในการตัดผ่านเขตแดนนิรันดร์อมตะ ”
หลังจากนั้นเขาก็ได้พูดต่อด้วยรอยยิ้มว่า
“หลังจากนั้นเราก็ควรจะไปเยี่ยมขุมพลังที่มันต้องการจะฆ่าเราเมื่อครู่เพราะพวกมันได้เสียบรรพบุรุษไปหมดแล้วแถมภายในขุมพลังยังเต็มไปด้วยสมบัติมากมายดังนั้นเราก็ควรจะไปชิงมันมาให้หมดเพราะถึงอย่างไรหลังจากที่ท่านตัดผ่านแล้วก็ยังจำเป็นต้องใช้สมบัตินิรันดร์แท้จริงอยู่ดี ”
เขาไม่ใช่คนที่จะเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่แล้ว ในเมื่อตระกูลฟานไล่ล่าเขาแถมนิกายเฉินเจียวและนิกายจี่หยานที่ไม่ได้มีความแค้นอะไรกับเขายังกล้าลงมือดังนั้นเขาจึงไม่มีทางปล่อยให้มันจบไปเฉยๆแน่นอน เขาคิดเอาไว้ว่าหลังจากนี้จะไปปล้นพวกมันให้หมดไม่ให้เหลืออะไรเอาไว้แม้แต่น้อย
แล้วหลังจากที่กลับไปยังดาวสวรรค์สิบชั้นแล้วก็สามารถเอาทรัพยากรเหล่านี้ไปขยายขุมพลังของตัวเองเพิ่มขึ้นอีก
อสรพิษม่วงที่ได้ยินเช่นนั้นเองก็ได้หัวเราะออกมาก่อนที่จะพูดต่อว่า
“มีบุญคุณต้องทดแทนมีแค้นต้องชดใช้ นี่แหละสิ่งที่ควรเป็น ! เอาตามที่เจ้าว่าแล้วกัน หลังจากเจ้าตัดผ่านเขตแดนนิรันดร์อมตะได้แล้วเราไปกันเลย ! ”
มันเป็นคนตรงไปตรงมาอยู่แล้วดังนั้นการที่บรรพบุรุษของขุมพลังทั้งสามไล่ล่าหลินเทียนแบบนี้ก็สมควรที่จะต้องเอาคืนอยู่แล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นมันก็เป็นอย่างที่หลินเทียนว่าเอาไว้ด้วยว่าหลังจากที่ตัดผ่านเขตแดนนิรันดร์แท้จริงแล้วมันก็จำเป็นต้องมีอาวุธนิรันดร์แท้จริงอยู่ด้วย การที่ติดตามหลินเทียนไปปล้นขุมพลังเหล่านี้เพื่ออาวุธนิรันดร์แท้จริงแล้วก็ถือเป็นข้อเสนอที่ดีมากๆ
“นี่มัน….”
เหลาเหลาที่อยู่ข้างๆได้แต่มองไปยังทั้งสองคนพร้อมทั้งอดคอหดไปไม่ได้พลางคิดอยู่ในใจว่าสองคนนี้เป็นคนที่ชั่วร้าวจริงๆถึงขั้นคิดจะปล้นสามขุมพลังใหญ่ทั้งหมด
“ไปกัน ”
หลินเทียนพูดออกมา
เขากวาดสายตาออกไปรอบๆก่อนที่จะรีบเหาะจากไปทางทิศใต้จนพบกับดินแดนที่เต็มไปด้วยทะเลทราย
เมื่อมองออกไปแล้วจะพบได้กับทะเลทรายขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถสัมผัสถึงกลิ่นอายชีวิตได้แม้แต่น้อย
“สถานที่แห่งนี้มันไม่เหมาะจะทำอะไรด้วยซ้ำ เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่ ? ”
เหลาเหลาได้ถามออกมา
เป็นเพราะหากพูดตามปกติแล้วการจะดูดกลืนสมุนไพรล้ำค่านั้นจำเป็นต้องเลือกสถานที่ๆเหมาะสม มีพลังฉีที่หนาแน่นทว่าตอนนี้หลินเทียนกลับมุ่งตรงมายังทะเลทรายที่แห้งแล้งไร้ผู้คนนี่มันทำให้นางผงะไปทันที
ไม่เพียงแค่นางเท่านั้นเพราะแม้กระทั่งอสรพิษม่วงเองก็ยังประหลาดใจไม่ต่างกัน
“เดี๋ยวก็รู้เองล่ะ ”
หลินเทียนพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อพร้อมทั้งเดินไปยังใจกลางของสถานที่แห่งนี้ก่อนที่จะนั่งขัดสมาธิลง
อุณหภูมิภายในสถานที่แห่งนี้ถือว่าสูงมากก็จริงแต่ก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขา ระหว่างที่กำลังหมุนวนเคล็ดวิชาดวงใจสุริยันอยู่นั้นเขาก็ได้คว้าเอาสมุนไพรฟินิกซ์หลากสีออกมา
มันเป็นสมุนไพรที่มีใบหลากสีส่องประกายแสงและกลิ่นหอมที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายออกมาอย่างเข้มข้น
บึ้สส ~!
เขาไม่ลังเลเลยที่จะเริ่มการหล่อหลอมมันเพื่อดูดกลืนพลังงานเหล่านี้
นี่ทำให้ร่างกายของเขาเปล่งประกายแสงสีทองออกมาอย่างเข้มข้นเสมือนดั่งคบเพลิงเลยก็ว่าได้
กลิ่นอายของเขาพุ่งสูงขึ้นถึงขีดสุดและยังคงพุ่งต่อไป
“จากสถานการณ์นี้แล้วน่าจะอีกประมาณสามวันก็น่าจะตัดผ่านได้แล้ว ”
อสรพิษม่วงที่อยู่ไกลออกไปได้ส่งเสียงออกมา
“การบ่มเพาะของเจ้านี่มันเร็วเกินไปแล้ว ตอนพบกันยังเป็นเพียงเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าตอนปลายเท่านั้นแต่ไม่กี่เดือนก็ตัดผ่านเขตแดนนิรันดร์อมตะได้แล้วนี่มัน……”
เหลาเหลาได้แต่พึมพำออกมา
หลินเทียนยังคงนั่งขัดสมาธิอยู่กับที่ขณะที่เคล็ดวิชาหมุนวนต่อไป
“บึ้สส ~! ”
ประกายแสงที่แผดออกมาจากร่างของเขายิ่งเข้มข้นขึ้นไปอีก
ตระกูลฟาน……
“วะ…..ว่าไงนะ ?! ท่านบรรพบุรุษสิ้นแล้ว ?! ”
เสียงโห่ร้องถูกส่งออกมาอย่างดังขณะที่ผู้อาวุโสเขตแดนนิรันดร์อมตะคนนั้นได้แต่สั่นไป
เป็นเพราะไม่นานมานี้มีข้อมูลถูกส่งกลับมาว่าบรรพบุรุษของพวกเขาที่บุกไปยังสวนสวรรค์เพื่อสังหารหลินเทียนได้ถูกสังหารลงด้วยการโจมตีเดียวอย่างง่ายดายและในเวลาเดียวกันนั้นเองที่ผู้ดูแลหอตะเกียงวิญญาณได้มาแจ้งว่าตะเกียงวิญญาณของบรรพบุรุษได้ดับลง
“นี่มัน…เป็นไปได้อย่างไรกัน ?! ”
“ท่านบรรพบุรุษ…..”
“ไม่ นี่มันไม่ใช่ความจริง ! ”
ผู้คนตระกูลฟานพากันหวาดหวั่นไปตามๆกัน
เป็นเพราะว่าอีกฝ่ายเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลพวกเขาซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเสาหลักของตระกูลก็ว่าได้แต่ตอนนี้กลับถูกสังหารลงแล้ว !
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่อีกสองขุมพลังใหญ่เองก็ได้รับข้อมูลแบบเดียวกันทำให้ผู้มีอำนาจทั้งหลายได้แต่หวาดหวั่น
“นี่มัน…..เป็นไปได้อย่างไรกัน ?! มันเกิดเรื่องแบบนี้ได้ไง ! ”
“ไม่ใช่ว่าข้างกายมันมีเพียงเด็กสาวที่ยังไม่อยู่ในเขตแดนวิญญาณนิรันดร์หรือไง ทำไมอยู่ดีๆถึงได้มีกึ่งนิรันดร์แท้จริงโผล่ออกมาได้ ?! ”
“ท่านบรรพบุรุษ …….”
ผู้เชี่ยวชาญของทั้งสองขุมพลังต่างพากันส่งเสียงสั่นๆออกมาเพราะว่าคนที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาได้ตกตายลงแล้ว !
………….
ทะเลทรายที่ห่างไกลผู้คน……..
บึ้สสส ~!
หลินเทียนที่อยู่ใจกลางสถานที่แห่งนี้เปล่งประกายแสงแห่งสัจธรรมออกมาอย่างเข้มข้น
ระหว่างนี้กลิ่นอายของเขาก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและเข้าใกล้เขตแดนนิรันดร์อมตะอย่างรวดเร็ว
เขาสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายได้อย่างชัดเจนทำให้เขายิ่งจดจ่ออยู่กับการหล่อหลอมพลังภายในร่าง
พริบตาเวลาก็ได้ผ่านไปกว่าสามวันเต็ม
วันนี้เป็นวันที่สมุนไพรฟินิกซ์หลากสีได้ถูกดูดกลืนจนหมดพร้อมๆกับคลื่นพลังที่แผดออกมาจากร่างของเขาอย่างรุนแรง
“เขตแดนนิรันดร์อมตะ ”
อสรพิษม่วงที่อยู่ห่างออกไปได้ส่งเสียงออกมาด้วยดวงตาที่เปล่งประกายความสุขออกมา
“เร็วจริงๆ ”
เหลาเหลาเองก็ได้แต่มองออกไปด้วยสีหน้าที่ตกตะลึงอย่างมาก
หลินเทียนที่อยู่ใจกลางสถานที่แห่งนี้ได้ลืมตากลับขึ้นมาหลังจากที่สัมผัสได้ว่าตัวเองตัดผ่านแล้ว
เขากำหมัดเล็กน้อยพร้อมทั้งสัมผัสถึงพลังที่อัดแน่นอยู่ภายในร่างว่ามันเหนือชั้นกว่าตอนอยู่ในเขตแดนกึ่งนิรันดร์อมตะกันจนเทียบไม่ได้
“เยี่ยม ! ”
เขาพึมพำกับตัวเองด้วยดวงตาที่ส่องประกายออกมา
และมันเป็นตอนนี้เองที่ม่านฟ้าได้สั่นไหวพร้อมๆกับการก่อตัวของคลื่นสายฟ้าอันทรงพลัง
ม่านฟ้าได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นสีดำทมิฬปกคลุมพื้นที่โดยรอบทั้งหมดเอาไว้ด้วยกลิ่นอายทำลายล้างอันน่าสะพรึงกลัว