Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1419
เสียงฟ้าร้องคำรามดังสนั่นหวั่นไหวสั่นสะท้านไปทั่วทิศทางขณะที่หมู่เมฆแผดขยายตัวออกสร้างเป็นคลื่นพายุสายฟ้าอันทรงพลัง
“นี่มัน…..ทัณฑ์สวรรค์ ?! ”
สีหน้าของอสรพิษม่วงเปลี่ยนไปโดยทันที
“นี่มีคนตัดผ่านเขตแดนวิญญาณนิรันดร์แถวนี้ถึงได้นำพามันมา ? แต่ที่นี่….ไม่มีใครหนิ ”
เหลาเหลาได้ถามออกมาด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจพลางพูดต่อว่า
“ยิ่งไปกว่านั้นพลังทำลายของมัน…….ใช่ระดับที่เขตแดนวิญญาณนิรันดร์จะสามารถชักนำมาได้ ?! ”
ทึ้มม ~!
เสียงฟ้าร้องคำรามถูกส่งออกมาขณะที่โลกทั้งใบถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด
อสรพิษม่วงกวาดตามองออกไปรอบๆด้วยดวงตาที่หดเล็กลงหลังจากที่เห็นว่าคลื่นพายุเหล่านั้นก่อตัวขึ้นเหนือศีรษะของหลินเทียน
“นี่มัน…”
ท่าทางของมันเปลี่ยนไปอย่างมาก
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่เหลาเหลาเองก็ตระหนักได้ว่าทัณฑ์สวรรค์นี้พุ่งเป้าไปทางหลินเทียน
หลินเทียนที่ยืนอยู่ใจกลางสถานที่แห่งนี้ได้ลุกกลับขึ้นมาพร้อมทั้งหันมองออกไปแล้วพูดว่า
“ท่านผู้อาวุโส ช่วยถอยห่างออกไปหน่อย รุ่นเยาว์กำลังจะก้าวข้ามทัณฑ์สวรรค์”
หลังจากที่คำพูดของเขาได้จบลงแล้วเสียงฟ้าร้องคำรามอย่างดังก็ได้ถูกส่งออกมาอีกครั้ง
“นี่มัน…..เป็นทัณฑ์สวรรค์ของเจ้าจริงๆ ?! ”
“นี่…….”
เหลาเหลาและอสรพิษม่วงเองก็ได้แต่ผวาไปเพราะแม้จะสัมผัสได้ว่าพลังทำลายล้างของมันพุ่งเป้าไปที่หลินเทียนแต่หลังจากที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้แล้วก็ยังอดผงะไปไม่ได้
ด้วยเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่ากลับสามารถนำพามาซึ่งทัณฑ์สวรรค์ได้ ?!
นี่มันเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยด้วยซ้ำ !
ตู้มม ~!
เสียงฟ้าร้องคำรามถูกส่งออกมาอีกครั้งพร้อมๆกับความรู้สึกอันตรายที่ทำลายได้ทุกสิ่ง
ม่านสายฟ้าทั้งหลายแผดขยายออกไปรอบทิศทาง
ตู้มม !
กลิ่นอายทำลายล้างอันน่าสะพรึงกลัวได้ปกคลุมพื้นที่โดยรอบเอาไว้ขณะที่พื้นดินรอบข้างแหลกสลายเป็นชิ้นๆ
เหลาเหลาได้แต่สั่นสะท้านไปเพราะว่าพลังทำลายล้างระดับนี้มันสามารถบดขยี้ได้ทุกสิ่งเลยก็ว่าได้
แม้กระทั่งอสรพิษม่วงเองก็ยังมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปไม่ต่างกัน
ตอนนี้มันเข้าใจแล้วว่าทำไมหลินเทียนถึงได้เลือกตัดผ่านที่นี่เพราะเขารู้ดีอยู่แล้วว่าหลังจากที่ตัดผ่านแล้วจะชักนำทัณฑ์สวรรค์ที่น่าสะพรึงกลัวนี้มาและกังวลว่ามันจะทำให้คนอื่นติดร่างแหไปด้วย
ทึ้มม ~!
โลกทั้งใบมืดสนิทลงภายในชั่วพริบตา
กลิ่นอายทำลายล้างยังคงก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
“พลังทำลายล้างระดับนี้มัน……..”
ร่างกายของเหลาเหลาได้แต่สั่นสะท้านไม่หยุดเพราะว่าต่อให้เป็นเขตแดนนิรันดร์อมตะตอนปลายก็ไม่มีทางต้านได้อย่างแน่นอน
“เพื่อนตัวน้อย ข้าจะช่วยเจ้าเอง ”
อสรพิษม่วงได้ส่งเสียงออกมา
มันตระหนักได้ถึงพลังทำลายของทัณฑ์สวรรค์นี้เป็นอย่างดีว่าสามารถสังหารได้แม้กระทั่งเขตแดนนิรันดร์อมตะตอนปลายจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่หลินเทียนจะตัดผ่านได้
เพราะถึงอย่างไรแม้หลินเทียนจะไม่ธรรมดาแต่ก็เพิ่งตัดผ่านเท่านั้น
“ขอบคุณท่านผู้อาวุโสมากๆแต่ไม่จำเป็น ”
หลินเทียนตอบกลับไป
เขาแหงนมองขึ้นไปพลางสัมผัสถึงพลังทำลายของมันโดยที่ไม่ได้แสดงสีหน้าที่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย
เขาสูดหายใจเข้าลึกเล็กน้อยพร้อมทั้งหมุนวนทักษะเบญจอัสนีสะท้านฟ้าสร้างคลื่นสายฟ้าสีเงินขึ้นมาปกคลุมร่างกายเอาไว้
มันเป็นกลิ่นอายที่ทรงพลังถึงขั้นทำให้ม่านฟ้าสั่นไหวอย่างรุนแรง
วังน้ำวนสายฟ้าที่กำลังก่อตัวเหมือนจะได้รับผลกระทบไม่น้อย
“ใช้ทักษะสายฟ้าในตำนานที่ได้มาแทรกแซงทัณฑ์สวรรค์ ?! ”
ดวงตาของอสรพิษม่วงถึงกับเบิกกว้างขึ้น
มันที่อยู่ห่างออกไปได้แต่จ้องมองไปยังร่างของหลินเทียนพร้อมทั้งถอยกลับไป
ในตอนที่หลินเทียนได้สังเวยทักษะนี้ออกมามันทำให้กลิ่นอายของหลินเทียนเปลี่ยนไปอย่างมากเสมือนว่าเป็นเทพอัสนีที่กำลังแผดกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวออกมา
“ก้าวข้ามได้แน่ๆ ”
อสรพิษม่วงส่งเสียงออกมาด้วยดวงตาที่เปล่งประกายอย่างมาก
อย่างไรก็ตามแม้มันจะรู้สึกแบบนั้นแต่ก็ยังคงจับจ้องอย่างระมัดระวังเพราะหากเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นก็จะสามารถยื่นมือเข้าช่วยได้ทันท่วงที
คลื่นสายฟ้าอันทรงพลังรายล้อมร่างของหลินเทียนเอาไว้เสมือนว่าเขาเป็นราชันแห่งสายฟ้าที่กำลังแหงนมองกลับขึ้นไปยังทัณฑ์สวรรค์
“มา ”
เขาส่งเสียงออกมา
ทึ้มม ~!
ม่านฟ้าได้สั่นไหวขณะที่กลิ่นอายทำลายล้างยิ่งทวีคูณความรุนแรงขึ้นไปอีก
เสมือนว่าสัมผัสได้ถึงการยั่วยุของหลินเทียนทำให้ทัณฑ์สายฟ้าระลอกแรกผ่าลงมาอย่างไม่ปราณี
ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ระหว่างเส้นทางของมันได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นอดีตไปอย่างฉับพลัน
หลินเทียนยังคงยืนรับมืออยู่กับที่ไม่ได้ขยับไปไหนพร้อมทั้งเหวี่ยงหมัดที่รายล้อมไปด้วยสายฟ้าออกไป
ตู้มมม ~!
คลื่นพลังทำลายอันหนักหน่วงได้อัดเข้ากับลำแสงสายฟ้าทำให้เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงออกไปรอบทิศทาง
เสียงฟึ้บ ~! ถูกส่งออกมาก่อนที่ทัณฑ์สายฟ้าระลอกแรกจะแหลกสลายหายไป
“หมัดเดียวสามารถทำลายทัณฑ์สายฟ้านั่นได้…..”
เหลาเหลาที่อยู่ห่างออกไปอดสั่นไปไม่ได้
แม้กระทั่งอสรพิษม่วงเองก็ได้แต่อ้าปากค้างไปเพราะมันตระหนักถึงพลังทำลายของทัณฑ์สายฟ้าระลอกนี้ดีทว่าหลินเทียนกลับสามารถทำลายมันลงได้ง่ายๆ
หลินเทียนที่ยืนอยู่ใจกลางสถานที่แห่งนี้ได้ก้มมองกำปั้นที่อัดแน่นไปด้วยสายฟ้าของตัวเองด้วยแววตาที่เปล่งประกาย……การโจมตีเมื่อครู่ของเขาทำให้คลื่นสายฟ้าปั่นป่วนอย่างมากทำให้สามารถทำลายมันลงได้ง่ายๆแถมเมื่อหมุนวนทักษะนี้แล้วมันทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองมีความน่าเกรงขามแบบเดียวกันกับทัณฑ์สวรรค์ไม่มีผิด
“ใช้ได้จริงๆ ”
ก่อนหน้านี้หลังจากที่เขารู้ว่าทักษะนี้มีผลช่วยบั่นทอนพลังทำลายของทัณฑ์สวรรค์นั้นเขาก็เชื่อว่ามันจะต้องเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับเขาในอนาคตแน่ๆและตอนนี้เขาก็ยืนยันความคิดของตัวเองได้แล้ว
“มาอีก ”
เขาส่งเสียงออกมาอย่างดัง
“ทึ้มม ~! ”
แทบจะในเวลาเดียวกันกับที่เขาพูดจบลงแล้วคลื่นสายฟ้าก็ได้สั่นไหวก่อนที่จะแปรเปลี่ยนกลายเป็นฝนสายฟ้าที่โหมกระหน่ำลงมาโจมตีเข้าใส่ร่างของเขา
“เปรี้ย ! ”
“เปรี้ยย ~~! ”
“เปรี้ย ! ”
มิติโดยรอบแหลกสลายหายไปพร้อมทั้งเผยให้เห็นการไหลเวียนของมิติที่อยู่ภายใน
สายลมอันรุนแรงได้พัดผ่านสถานที่แห่งนี้ทำให้มันก่อตัวขึ้นเป็นพายุทะเลทรายอันน่าสะพรึงกลัว
หลินเทียนยังคงยืนอยู่กับที่ขณะที่ผมสีดำยาวของเขาโบกสะบัดไปมาด้วยสีหน้าที่ราบเรียบไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย
ดวงตาของเขาส่องประกายแสงสีเงินออกมาเล็กน้อยขณะที่หมุนวนทักษะเบญจอัสนีสะท้านฟ้าส่งคลื่นสายฟ้าสีเงินขึ้นไปรับการโจมตีนี้เอาไว้
“ตู้มม ~! ”
“ตู้ม ! ”
“ตู้มมม ! ”
การปะทะกันอย่างรุนแรงได้ระเบิดทุกสิ่งทุกอย่างสลายหายไป
พริบตาทัณฑ์สายฟ้าระลอกที่สองก็ถูกขจัดไปอย่างง่ายดาย
เขากำหมัดเอาไว้เล็กน้อยพร้อมทั้งแหงนหน้ามองขึ้นไปยังม่านฟ้าขณะที่ร่างกายส่งเสียงสายฟ้าร้องคำรามออกมา
“ทึ้มม ~! ”
ม่านฟ้าได้สั่นไหวอย่างรุนแรงอีกครั้ง
ทัณฑ์สายฟ้าระลอกที่สามได้ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งแปรเปลี่ยนกลายเป็นคลื่นสายฟ้าอันน่าสะพรึงกลัว
และมันเป็นเวลาเดียวกันนี้เองที่ทัณฑ์สายฟ้าระลอกที่สี่และห้าได้ก่อตัวขึ้นพร้อมๆกันก่อนที่จะผ่าลงมาพร้อมๆกับระลอกที่สามสร้างเป็นภูเขาสายฟ้าที่พร้อมจะทำลายดาวดวงนี้ด้วยพลังทำลายที่น่าสยดสยอง
เหลาเหลาที่อยู่ห่างออกไปถึงกับอดสูดหายใจเข้าลึกไปไม่ได้เพราะว่านางสัมผัสได้ถึงความอันตรายนี้เป็นอย่างดีและรู้ว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าพลังทำลายระดับนี้แล้วต่อให้เป็นเขตแดนนิรันดร์อมตะตอนปลายก็จะสูญสิ้นลงภายในชั่วพริบตา
ขนาดดวงตาของอสรพิษม่วงเองก็ยังหรี่เล็กลงอย่างมาก
เป็นเพราะว่าทัณฑ์สายฟ้าระลอกนี้ถึงขั้นสร้างแรงกดดันให้กับมันที่อยู่ในเขตแดนกึ่งนิรันดร์แท้จริงได้และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือหลินเทียนไม่เพียงแต่จะนำพาทัณฑ์สวรรค์มาในตอนที่ตัดผ่านทว่ากลับนำพาทัณฑ์สวรรค์ที่น่าสะพรึงกลัวขนาดนี้
“ตู้มม ~! ”
ทัณฑ์สายฟ้าระลอกที่สามได้กดทับลงมาอย่างรุนแรง
หลินเทียนยังคงยืนอยู่ด้วยสีหน้าที่ราบเรียบไม่ได้หวาดหวั่นเลยแม้แต่น้อย
เขาประสานมือเข้าหากันเพื่อหมุนวนทักษะเบญจอัสนีสะท้านฟ้าเพื่อส่งคลื่นสายฟ้าออกไปปะทะกับมัน
ฟึ้บบ ~!
ทัณฑ์สายฟ้าระลอกที่สามได้ส่งเสียงออกมาก่อนที่จะถูกบดขยี้แหลกสลายหายไป
หลังจากนั้นระลอกที่สี่และห้าก็ได้สั่นไหวพร้อมทั้งแหลกสลายหายไปตามๆกัน
“เจ้านี่มันสามารถใช้ทักษะนั่นทำลายทัณฑ์สายฟ้าพวกนี้ได้ง่ายๆแบบนี้นี่มันจะน่ากลัวเกินไปไหม ? ”
เหลาเหลาได้แต่จ้องมองไปยังร่างของหลินเทียนที่รายล้อมไปด้วยประกายสายฟ้าสีเงินพร้อมทั้งระลึกถึงบางสิ่งพลางพูดออกมาว่า
“หรือว่าที่ถ่อไปที่สวนสวรรค์ก็เพื่อชิงเอาทักษะนี้สำหรับการรับมือทัณฑ์สวรรค์ ?! ”