Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1424
คลื่นสายฟ้าสีเงินรายล้อมพื้นที่แห่งนี้เอาไว้ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญกว่าสามคนถูกสังหารลงทำให้ผู้คนที่อยู่โดยรอบได้แต่สั่นสะท้านไป
“ระยำเอ้ย ! ”
ผู้อาวุโสสูงสุดได้ส่งเสียงคำรามออกมาขณะที่คลื่นพลังเทวะอันหนักหน่วงถูกสังเวยออกมาอัดเข้าใส่ทางหลินเทียนอย่างบ้าคลั่ง
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่คนอื่นๆเองก็สังเวยทักษะเทวะที่แข็งแกร่งของตัวเองออกมาซัดเข้าใส่พร้อมๆกัน
เสียงระเบิดถูกส่งออกมาอย่างดังขณะที่กลิ่นอายทำลายล้างแผดออกไปรอบทิศทาง
พวกเขารู้ดีอยู่เต็มอกแล้วว่าถึงอย่างไรตัวเองก็ต้องตายดังนั้นถึงได้พยายามรวมพลังกันเพื่อลากเอาหลินเทียนไปด้วยให้ได้
หลินเทียนแสยะออกอย่างเย็นชาขณะที่หมุนวนทักษะเบญจอัสนีสะท้านฟ้าโดยที่ไม่ได้สนใจอีกฝ่ายแม้แต่น้อยก่อนที่จะปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของหนึ่งในพวกเขาอีกครั้ง
อีกฝ่ายได้แต่ส่งเสียงอุทานออกมาว่า
“เจ้า………..”
เป็นเพราะว่าเขาใช้จิตสัมผัสของตัวเองตรึงไว้กับร่างของหลินเทียนทว่าก็ยังจับการเคลื่อนไหวของหลินเทียนไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
ตู้มม ~!
คลื่นพลังสายฟ้าอันเข้มข้นได้เหวี่ยงอัดเข้าใส่ร่างของเขาอย่างจัง
อ๊ากกก ~~~!
เสียงกรีดร้องถูกส่งตามออกมาขณะที่ร่างของเขาแหลกสลายหายไปเหลือไว้เพียงแค่ดวงวิญญาณที่พุ่งหนีไปอย่างยากลำบากเท่านั้น
หลังจากนั้นเองที่คลื่นสายฟ้าได้ผ่าลงมากลางดวงวิญญาณของเขาจนแหลกสลายหายไป
พริบตาผู้เชี่ยวชาญสี่คนจากสิบสองคนก็ได้ตกตายลงจนหมด
“นี่มัน……ผิดมนุษย์เกินไปแล้ว ! ”
เหลาเหลาที่อยู่ห่างออกไปได้ส่งเสียงออกมา
เป็นเพราะว่าที่อ่อนแอที่สุดในหมู่คนเหล่านี้คือเขตแดนนิรันดร์อมตะตอนกลางและแข็งแกร่งที่สุดอยู่ในเขตแดนกึ่งอนันตกาลดดังนั้นการรวมพลังของพวกเขาสามารถสยบทุกคนภายใต้เขตแดนอนันตกาลได้สบายๆทว่าหลินเทียนกลับสามารถสังหารสี่คนลงได้ภายในชั่วพริบตาเท่านั้น
แปดคนที่เหลืออยู่ต่างพากันแสดงสีหน้าที่โกรธจัดถึงขีดสุดออกมาตามๆกัน
เป็นเพราะว่าพวกเขาไม่สามารถตามการเคลื่อนไหวของหลินเทียนได้เลยแม้แต่น้อย
มันเป็นความรู้สึกที่ทำให้พวกเขาไม่สบายใจและโกรธอย่างมาก
“กล้าสู้ซึ่งๆหน้ากับข้าไหม !? ”
ผู้อาวุโสคนหนึ่งส่งเสียงออกมา
หลินเทียนหันมองออกไปด้วยสีหน้าที่ราบเรียบก่อนที่จะปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของอีกฝ่ายภายในชั่วพริบตา
นี่ทำให้อีกฝ่ายได้แต่สั่นสะท้านไปกับความเร็วนี้ก่อนที่จะก้าวถอยหลังกลับไปแล้วพูดว่า
“นี่เจ้า…..”
“แกร๊ง ! ”
เสียงกระบี่คำรามดังสนั่นหวั่นไหวถูกส่งออกมาขณะที่คลื่นกระบี่อันแข็งแกร่งฟาดฟันผ่านม่านฟ้า
พุฟฟฟ ~!
ร่างของชายคนนี้ได้ขาดออกเป็นสองท่อนขณะที่ดวงวิญญาณพุ่งหนีไปอย่างรวดเร็วแต่ก็ถูกหลินเทียนคว้าเอาไว้และทำลายไป
ณ ตอนนี้เหลือผู้มีอำนาจภายในนิกายอยู่เพียงแค่เจ็ดจากสิบสองคนเท่านั้น
“ระยำ ! ”
เจ็ดคนที่เหลืออยู่ได้แต่จ้องเขม็งไปทางหลินเทียนพลางกระโจนออกไป
หลินเทียนหันมองไปทางคนเกล่านี้ด้วยสีหน้าที่ราบเรียบอย่างมาก
ทักษะเบญจอัสนีหมุนวนสร้างคลื่นสายฟ้าอันทรงพลังออกมารายล้อมพื้นที่แห่งนี้เอาไว้พร้อมทั้งรับการโจมตีทั้งหมดก่อนที่ร่างของเขาจะหายไปและปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของผู้อาวุโสอีกคนพลางเหวี่ยงหมัดสายฟ้าอัดเข้าใส่อย่างจัง
พุฟฟ ~!
อีกฝ่ายไม่ทันจะเบี่ยงหลบได้ทันทำให้ร่างกายของเขาแหลกสลายหายไปโดยทันที
คลื่นสายฟ้าได้บดขยี้ดวงวิญญาณของเขาลงหลังจากนั้น
“มาต่อ ”
หลินเทียนพูดออกมา
เขาพุ่งออกไปปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของผู้อาวุโสอีกคนพร้อมทั้งบดขยี้ร่างกายและดวงวิญญาณของอีกฝ่ายไปอย่างฉับพลัน
“ชาติชั่วเอ้ย ! ”
ผู้เชี่ยวชาญที่เหลืออยู่เพียงห้าคนได้แต่แสดงสีหน้าที่โกรธจัดออกมาพร้อมทั้งกระโจนเข้าใส่ทางหลินเทียนอย่างบ้าคลั่ง
อย่างไรก็ตามกลับไม่มีใครสามารถจับการเคลื่อนไหวของเขาได้เลยแม้แต่น้อยแถมยังหลบการโจมตีทั้งหมดของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย
พริบตาหลินเทียนก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของผู้อาวุโสคนหนึ่งอีกครั้ง
“อ๊ากก ~! ”
อีกฝ่ายได้ส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างดังก่อนที่ดวงวิญญาณจะแตกดับไป
“ผู้อาวุโสกว่าแปดคน……”
เหล่าศิษย์ทั้งหลายพากันส่งเสียงออกมาด้วยความหวาดหวั่น
เป็นเพราะเวลาเพิ่งจะผ่านพ้นไปได้ไม่นานทว่าผู้อาวุโสทั้งแปดคนของพวกเขาได้ถูกสังหารลงจนสิ้นซาก
“อ๊ากก ~! ”
ผู้อาวุโสสูงสุดและจ้าวนิกายพากันส่งเสียงคำรามออกมาด้วยดวงตาสีแดงก่ำ
“เหลือสี่คนเท่านั้น ”
หลินเทียนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบพลางพูดต่อว่า
“มาต่อกัน ”
ประกายสายฟ้าที่รายล้อมร่างของเขาเอาไว้นั้นถือเป็นหนึ่งในเขตแดนทำลายล้างที่ได้ชื่อว่าเขตแดนราชันเบญจอัสนีที่สามารถเคลื่อนที่ชั่วพริบตาโดยที่ยากจะจับการเคลื่อนไหวและมีเพียงคนที่แข็งแกร่งกว่าเขามากถึงจะสัมผัสได้
ณ ตอนนี้ที่เขาได้สังเวยทักษะนี้ออกมาแล้วมันเรียกได้ว่าเขากลายเป็นผู้ควบคุมอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตามมันก็เผาผลาญพลังเทวะอย่างมากทำให้เขาไม่สามารถคงสภาพมันไว้ได้นานนัก
“ข้าจะจัดการพวกเจ้าทั้งหมดภายในสามสิบลมหายใจ ”
เขาพูดออกมา
เมื่อสิ้นสุดคำพูดลงแล้วร่างของเขาก็ได้สลายหายไปอีกครั้งก่อนที่จะปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของจ้าวนิกาย
ทึ้มม ~!
หมัดอันทรงพลังของเขาถูกส่งออกไปซึ่งมันเป็นการผสานระหว่างร่างกายที่แข็งแกร่ง ทักษะเบญจอัสนีสะท้านฟ้าและทักษะเทวะอย่างหมัดจักรพรรดิโกลาหล
นี่ทำให้สีหน้าของอีกฝ่ายเปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวงพร้อมทั้งรีบสังเวยสัจธรมมากมายออกมารับการโจมตีของหลินเทียนเอาไว้
การโจมตีของทั้งสองได้อัดเข้าใส่กันอย่างจัง
“เปรี้ยย ~! ”
“เปรี้ย ~! ”
“เปรี้ยย ~! ”
เสียงปริแตกถูกส่งออกมาจากพื้นที่โดยรอบขณะที่ร่างของจ้าวนิกายถูกกระแทกลอยเคว้งออกไปไกลด้วยสภาพที่แหลกสลายไปกว่าครึ่งร่าง
หลินเทียนยังคงยืนอยู่โดยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆก่อนที่จะปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของอีกฝ่ายภายในชั่วพริบตา
“เจ้า…”
“ตาย ”
หลินเทียนได้ส่งเสียงออกมาพร้อมทั้งเหวี่ยงหมัดจักรพรรดิโกลาหลอัดเข้าใส่อีกครั้ง
นี่ทำให้ร่างกายของอีกฝ่ายแหลกสลายหายไปขณะที่ดวงวิญญาณเริ่มแตกร้าวไปทั่วจึงพยายามพุ่งหนีไป
หลินเทียนยังคงแสดงสีหน้าที่ราบเรียบออกมาพร้อมทั้งตวัดนิ้วส่งลำแสงสายฟ้าออกไปบดขยี้ดวงวิญญาณนั้นไป
“เหลือแค่พวกเจ้าแล้ว ”
เขาหันมองออกไปยังผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสามคนพร้อมทั้งประสานมือเข้าด้วยกันเพื่อสร้างง้าวอัสนีแล้วซัดออกไป
ความเร็วของมันสูงถึงขั้นที่ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของอีกฝ่ายภายในชั่วพริบตา
“สลายไปซะ ”
ทั้งสามคนส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดังพร้อมทั้งบดขยี้การโจมตีนี้ไปอย่างรวดเร็ว
ทว่ามันเป็นตอนนี้เองที่ร่างของหลินเทียนได้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของพวกเขาโดยที่ไม่มีใครสามารถจับการเคลื่อนไหวได้เลยแม้แต่น้อย
“พุฟฟ ~! ”
ร่างกายของผู้อาวุโสที่เป็นคนส่งเสียงเมื่อครู่ได้แหลกสลายกลายเป็นกองเลือดที่ฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศ
หลินเทียนที่เข้าประชิดร่างเองก็ได้ส่งคลื่นสายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนอัดเข้าใส่ดวงวิญญาณของอีกฝ่ายโดยทันที
“อ๊ากก ~! ”
เสียงกรีดร้องถูกส่งออกมาอย่างดังขณะที่ดวงวิญญาณของชายชราได้แหลกสลายหายไป
“นี่มัน…….กึ่งอนันตกาลเองก็ยังถูกสังหารลงได้แบบนี้นี่มัน…..เพิ่งตัดผ่านมาแท้ๆแต่กลับแข็งแกร่งขนาดนี้ ?! ”
เหลาเหลาส่งเสียงออกมาด้วยความตกตะลึง
ภายในดวงตาของนางมีภาพร่างของหลินเทียนที่กำลังรายล้อมไปด้วยคลื่นสายฟ้าอันเข้มข้นไม่ได้ต่างจากเทพสายฟ้าเลยแม้แต่น้อย
“ยังเหลืออยู่อีกสอง ”
หลินเทียนหันมองออกไปพร้อมทั้งพุ่งเข้าใส่โดยทันที
“ตู้มม ~! ”
เขาประสานมือเข้าหากันพร้อมทั้งสังเวยเอาง้าวอัสนีออกมาพร้อมๆกับพยัคฆ์ขาวฟาดฟันเข้าใส่ศัตรูตรงหน้า
“ฆ่า ! ”
ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสองที่ยังเหลือรอดพากันส่งเสียงคำรามออกมาด้วยความโกรธ
การโจมตีของทั้งสองอัดเข้าใส่กันอย่างจังทำให้มิติโดยรอบแหลกสลายหายไป
“ตู้มม ~! ”
“ตู้ม ~! ”
ร่างสองร่างลอยเคว้งออกไปไกลด้วยสภาพที่แหลกไปกว่าครึ่งตัว
หลินเทียนที่อยู่อีกด้านสั่นไหวไปเล็กน้อยด้วยใบหน้าที่ซีดลงหลังจากที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
เขาหมุนวนเคล็ดวิชาสุริยันปรินิพพานเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นสายฟ้าทั้งหลายก็ได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นอาวุธอันทรงพลังโถมเข้าใส่ทางชายชราทั้งสองคนที่อยู่ห่างออกไป
“พุฟ ~ !”
“พุฟ ! ”
เลือดสาดกระจายออกไปรอบทิศทางขณะที่ร่างกายของอีกฝ่ายแหลกสลายหายไปเหลือไว้เพียงดวงวิญญาณที่แตกร้าว
“วิ้สส ~! ”
เสียงพุ่งผ่านอากาศถูกส่งออกมาขณะที่ร่างของหลินเทียนปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของพวกเขาพร้อมทั้งซัดคลื่นสายฟ้าอันหนักหน่วงบดขยี้ดวงวิญญาณของทั้งสองลงอย่างง่ายดาย