Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1426
เสียงดังสนั่นหวั่นไหวถูกส่งออกมาขณะที่ข่ายอาคมสังหารเขตแดนนิรันดร์แท้จริงเปิดทำงานซึ่งพลังทำลายล้างที่ส่งออกมานั้นเรียกได้ว่าพื้นที่โดยรอบถูกปกคลุมไปด้วยจิตสังหารอย่างเข้มข้น
คลื่นพลังจิตสังหารอันเข้มข้นได้แผดออกไปอย่างรุนแรง
เสื้อผ้าของหลินเทียนและคนอื่นๆโบกสะบัดไปตามสายลมขณะที่สีหน้าไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อย
“ขนาดบรรพบุรุษเขตแดนอนันตกาลยังชิงเอาไปไม่ได้แต่พวกเจ้าก็ยังอุส่าคิดแต่เรื่องนี้จริงๆเลยนะ ”
หลินเทียนพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
นี่ทำให้สีหน้าของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญถึงกับตกต่ำลงขณะที่จิตสังหารอันน่าสะพรึงกลัวไหลทะลักออกมา
“ต้องโทษที่เจ้ากล้าเข้ามาที่นี่เอง ! ”
“มันเป็นสมบัติของโลกใบนี้ ขุมพลังของข้าปกครองโลกนี้มาอย่างเนิ่นนานดังนั้นสมบัตินั่นมันไม่เหมาะที่จะอยู่ในมือผู้เชี่ยวชาญระดับเจ้า ! ”
“ไม่ต้องไปเถียงกับมันให้เปลืองน้ำลาย รีบจับตัวมันเอาไว้แล้วสังหารพวกมันเพื่อล้างแค้นให้กับท่านบรรพบุรุษกัน ! ”
เหล่าผู้เชี่ยวชาญพากันส่งเสียงอันดุร้ายออกมา
“จับตัวมัน ! ”
ผู้อาวุโสสูงสุดที่หนึ่งได้ส่งเสียงออกมาขณะที่กระบี่นิรันดร์และข่ายอาคมสังหารกดทับเข้าใส่ทางหลินเทียนและคนอื่นๆ
แรงกดดันอันหนักหน่วงไม่ต่างจากห้วงจักรวาลกดทับเข้าใส่ร่างของพวกเขา
หลินเทียนได้หันมองออกไปยังข่ายอาคมที่รายล้อมอยู่รอบๆด้วยสีหน้าที่ราบเรียบอย่างเคย
“เพื่อนตัวน้อย ข้าจัดการเอง ”
อสรพิษม่วงได้ส่งเสียงออกมา
หลินเทียนพยักหน้าพร้อมพูดว่า
“งั้นต้องรบกวนท่านด้วย ”
“ไม่ต้องเกรงใจ ”
อสรพิษม่วงพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้แล้วมันทำให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญที่อยู่รอบๆต่างพากันแสดงสีหน้าที่ดุร้ายออกมาโดยทันที
“เป็นเจ้าแล้วยังไง ต่อให้อยู่ในเขตแดนกึ่งนิรันดร์แท้จริงก็ไม่มีทางรับมือกับอาวุธนิรันดร์แท้จริงและข่ายอาคมพิทักษ์ของเราได้ ! ”
จ้าวนิกายส่งเสียงออกมา
อสรพิษม่วงหันมองออกไปทางฝ่ายตรงข้ามเล็กน้อยก่อนที่จะแผดคลื่นพลังอสูรอันเข้มข้นออกมา
และหลังจากนั้นเองที่เตาพลังวิญญาณได้ถูกสังเวยออกมาจากภายในร่างของมันพร้อมทั้งแผดกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวออกไปรอบทิศทาง
พริบตานี้เองที่ร่างกายของเหล่าผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายได้แต่พากันสั่นสะท้านไปอย่างต่อเนื่อง
“เตาพลังวิญญาณจี่หยาน ! ”
พวกเขาได้แต่ผงะไปเพราะว่ารู้จักมันเป็นอย่างดีเนื่องจากว่าเป็นอาวุธประจำนิกายจี่หยาน
นี่ทำให้ศิษย์ทั้งหลายที่อยู่โดยรอบพากันโง่งมไปทันที
“อาวุธไพ่ตายของนิกายจี่หยานกลับ…..อยู่ในมือของเขา ?! ”
“นี่..ไปยืมมา ?! มันเป็นไปไม่ได้เพราะว่าบรรพบุรุษของพวกเขาเองก็ตกตายลงด้วยเงื้อมมือของพวกมันเช่นกัน แล้วจะเป็นไปได้ไงที่จะให้ยืมมา ? ”
“งั้น…….ก็ไปชิงเอามา ?! นี่มัน…..”
เหล่าศิษย์พากันสั่นสะท้านอย่างไม่หยุดหย่อน
“ตู้มมม ~!”
กลิ่นอายทำลายล้างอันทรงพลังระเบิดมิติโดยรอบแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
อสรพิษม่วงที่มีอาวุธนิรันดร์แท้จริงอยู่ในมือได้ปลดปล่อยคลื่นพลังอันหนักหน่วงออกมาอย่างต่อเนื่องซึ่งแรงกดดันของมันยิ่งใหญ่กว่าของกระบี่นิรันดร์ตั้งไม่รู้กี่เท่าตัวเลยด้วยซ้ำ
อาวุธทั้งสองล้วนเป็นอาวุธระดับเดียวกันแต่เหตุผลที่เตาพลังวิญญาณจี่หยานแข็งแกร่งกว่าก็เพราะว่ามันอยู่ในมือของกึ่งนิรันดร์แท้จริงดังนั้นความต่างชั้นนี้ถึงได้ยิ่งใหญ่อย่างมาก
“ทำไมเจ้า…..ถึงได้มีไพ่ตายของนิกายจี่หยานกัน ?! ”
ผู้คนทั้งหลายพากันส่งเสียงออกมาด้วยความรู้สึกที่ตกตะลึงอย่างมาก
เพราะก่อนหน้านี้พวกเขามั่นใจอย่างมากว่าจะสามารถสยบหลินเทียนและพวกพ้องได้ด้วยข่ายอาคมสังหารและอาวุธนิรันดร์แท้จริงทว่าหลังจากที่เห็นอาวุธในมือของอสรพิษม่วงแล้วพวกเขาก็ได้แต่สั่นไปตามๆกัน
เพราะด้วยระดับกึ่งนิรันดร์แท้จริงผนวกกับอาวุธนิรันดร์แท้จริงแล้วมันทรงพลังกว่าการผสานการโจมตีของพวกเขามาก
“เจ้า……”
อีกฝ่ายได้แต่จ้องมองไปทางอสรพิษม่วงและหลินเทียนด้วยร่างกายที่สั่นไม่หยุด
หลินเทียนหันมองกลับไปโดยที่ไม่ได้ตอบอะไรกลับแม้แต่น้อย
“ได้ตายอนาถแน่ๆ ”
เหลาเหลาพึมพำออกมา
เมื่อสิ้นสุดคำพูดของนางแล้วกลิ่นอายนิรันดร์แท้จริงและพลังแห่งสัจธรรมได้กระเพื่อมออกมาอย่างรุนแรง
อสรพิษม่วงเขตแดนกึ่งนิรันดร์แท้จริงสังเวยทักษะโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของมันออกมาทำให้เกิดแรงปะทุไม่ต่างจากภูเขาไฟระเบิดพวยพุ่งออกมาจากร่างของมันส่งผลให้พลังทำลายที่กระบี่นิรันดร์และข่ายอาคมสังหารส่งออกมาเริ่มพังทลายลง
“ช่วยกันส่งถ่ายพลังให้กับกระบี่นิรันดร์ !”
ผู้อาวุโสสูงสุดที่หนึ่งได้ส่งเสียงโห่ร้องออกมาก่อนที่ผู้คนทั้งหลายจะพากันส่งถ่ายพลังออกไปอย่างบ้าคลั่ง
อย่างไรก็ตามคนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขาเป็นเพียงเขตแดนกึ่งอนันตกาลเท่านั้นแต่อีกฝ่ายเป็นถึงตัวตนระดับกึ่งนิรันดร์แท้จริงดังนั้นถึงได้ถูกคลื่นกระแทกปลิวออกไปไกลด้วยสภาพที่โชกไปด้วยเลือดกันหมด
อสรพิษม่วงที่รายล้อมไปด้วยกลิ่นอายอันเข้มข้นได้คว้าเข้าใส่กระบี่นิรันดร์ตรงหน้าพร้อมทั้งทำลายตราประทับของมันไป
“เพื่อนตัวน้อยรับไว้ ”
หลังจากที่ทำลายตราประทับไปแล้วมันก็ส่งให้กับหลินเทียน
หลินเทียนยกมือขึ้นมารับเอาไว้พร้อมทั้งตีตราประทับของตัวเองลงไปทันที
มันเป็นกระบี่ยาวสามฟุตที่สร้างขึ้นจากแร่ที่พิเศษอย่างมากซึ่งหลังจากที่ส่งถ่ายพลังลงไปเล็กน้อยมันก็ส่งเสียงกระบี่คำรามออกมาอย่างดังเสมือนต้องการจะฉีกม่านฟ้าออกเป็นเสี่ยงๆ
“เป็นกระบี่ที่ดี ”
ดวงตาของเขาส่องประกายออกมาเพราะว่ามันถือเป็นกระบี่ที่ล้ำค่ามากๆ !
“ไพ่ตายของนิกายเรา…..”
“มันเป็นแบบนี้ได้อย่างไรกัน …..”
เหล่าศิษย์พากันผงะไปด้วยสีหน้าที่หวั่นเกรง
หลินเทียนที่เพิ่งจะมาถึงได้ไม่นานกลับสามารถชิงเอาไพ่ตายของพวกเขาไปได้ง่ายๆ
นั่นน่ะไพ่ตายประจำนิกายพวกเขา !
“ไอ้เวรเอ้ย ! เอาคืนมานะ ! ”
เหล่าผู้เชี่ยวชาญพากันส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดังขณะที่ผู้อาวุโสสูงสุดที่หนึ่งกระโจนเข้าใส่ทางหลินเทียน
“เหอะ ! ”
อสรพิษม่วงส่งเสียงแสยะออกมาอย่างเย็นชาก่อนที่จะแผดคลื่นพลังอสูรโถมเข้าใส่ร่างของอีกฝ่าย
“อ๊ากก ~~! ”
เสียงกรีดร้องถูกส่งตามกลับมาขณะที่ร่างกายและดวงวิญญาณของอีกฝ่ายสลายหายไป
เพราะถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็แค่เขตแดนกึ่งอนันตกาลเท่านั้นแล้วจะต่อกรกับกึ่งนิรันดร์แท้จริงได้อย่างไรกัน
“ท่านผู้อาวุโสสูงสุด ! ”
จ้าวนิกายส่งเสียงสั่นๆออกมา
ผู้อาวุโสสูงสุดอีกสองคนที่เหลือเองก็ได้แต่หวาดหวั่นอยู่กับที่
“เจ้า……”
พวกเขาพากันจ้องมองออกไปทางอสรพิษม่วงพร้อมทั้งอดก้าวถอยกลับไปไม่ได้
อสรพิษม่วงแสยะออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะเปิดฉากโจมตีอีกครั้ง
ตู้มมม ~!
มันไม่จำเป็นต้องใช้เตาพลังวิญญาณแม้แต่น้อยและทำเพียงแค่โบกมือส่งคลื่นพลังอสูรออกไปขยี้ฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น
“อ๊ากกก ~~~! ”
เสียงร้องโหยหวนถูกส่งออกมาขณะที่ผู้อาวุโสสูงสุดที่สองและสามแหลกสลายหายไป
มันเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะสามารถต่อต้านพลังทำลายล้างระดับกึ่งนิรันดร์แท้จริงได้ดังนั้นจึงถูกสังหารลงภายในไม่นาน
พริบตาสถานที่แห่งนี้ก็ได้ถูกปกคลุมด้วยความเงียบสงบอีกครั้งและเหลือเอาไว้เพียงเหล่าศิษย์ที่ได้แต่สั่นไปเพราะความกลัว
“แล้วจะเอายังไงกับคนเหล่านี้ดี ? ”
อสรพิษม่วงได้ส่งเสียงออกมา
“หากว่าไม่ได้คิดจะต่อต้านก็ปล่อยพวกเขาไปเถอะ ”
หลินเทียนตอบกลับไป
เขาหันมองออกไปยังศิษย์ทั้งหลายที่มีสภาพไม่ต่างไปจากเหล่าศิษย์นิกายจี่หยานดังนั้นถึงได้ปล่อยให้คนเหล่านี้จากไปแต่หากว่าไม่ก็สามารถอยู่ต่อซึ่งเขาจะไม่มีวันไอ้โอกาสอีกครั้งและจะฆ่าอย่างไม่ปราณี
แน่นอนว่าเหล่าศิษย์ทั้งหลายล้วนเลือกที่จะหนีไปเพราะถึงอย่างไรความแข็งแกร่งที่อสรพิษม่วงแสดงออกมานั้นมันไม่มีอะไรที่พวกเขาจะสามารถต่อต้านได้เลย
เสียง วิ้ส วิ้ส วิ้สส ถูกส่งออกมาไม่หยุดขณะที่เหล่าศิษย์พากันพุ่งหนีไป
“หนีกันเร็วจริงๆเลยนะ ”
เหลาเหลาพึมพำออกมา
“เอาสมบัติกัน ”
หลินเทียนพูดออกมา
เป็นเพราะว่าผู้เชี่ยวชาญของอีกฝ่ายได้ถูกสังหารไปจนหมดแล้วแถมยังชิงเอาอาวุธนิรันดร์แท้จริงมาแล้วด้วยดังนั้นเขาและคนอื่นๆถึงได้มุ่งหน้าเข้าไปภายในส่วนลึกเพื่อเก็บเกี่ยวเอาสมบัติทั้งหมดออกมา
ในหมู่เคล็ดวิชาบ่มเพาะนี้มีเคล็ดวิชาที่ล้ำค่าที่สุดอยู่ในเขตแดนนิรันดร์แท้จริงคือเคล็ดวิชาเข็มทิศล้ำลึก
หลินเทียนเก็บพวกมันเอาไว้ทั้งหมดพร้อมทั้งอาศัยพลังของอสรพิษม่วงขุดเอาเส้นชีพจรวิญญาณทั้งหมดไปไม่มีเหลือ
“ไปกันเถอะ ”
เป็นเพราะสมบัติได้ถูกเก็บกู้มาทั้งหมดแล้วดังนั้นถึงได้เหาะขึ้นไปพร้อมทั้งส่งคลื่นกระบี่อันทรงพลังเข้าทำลายสิ่งก่อสร้างทั้งหลายแล้วเหาะจากไป
หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็ได้ไปถึงตรงหน้าของขุมพลังแห่งใหม่ซึ่งแน่นอนว่านี่คือตระกูลฟานที่โด่งดัง
เมื่อมาถึงที่นี่แล้วเขาไม่รอช้าเลยที่จะก้าวเข้าไปอย่างไม่ลังเล