Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1439
คลื่นกระบี่สีทองอันทรงพลังที่ฟาดฟันออกไปนั้นสามารถสังหารใครก็ตามที่อยู่ภายใต้เขตแดนอนันตกาลได้อย่างง่ายดายซึ่งเมื่อการโจมตีนี้ได้อัดเข้ากับม่านพลังที่ขอบของสถานที่แห่งนี้กลับถูกกลืนกินไปจนหมด
“แปลกมากๆ ตอนถูกดึงเข้ามาไม่เห็นสัมผัสได้ถึงม่านพลังเลยแม้แต่น้อย แล้วทำไมถึงได้…..”
คิ้วของจระเข้เบญจธาตุได้แต่ขมวดเข้าหากันอย่างหนัก
“เป็นเพราะมันไม่ได้ป้องการการเข้ามาถึงไม่สามารถสัมผัสได้ ”
หลินเทียนตอบกลับ
ม่านพลังป้องกันนั้นมีอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็นการป้องกันการเข้าจากด้านนอกโดยที่ไม่ได้รับผลกระทบใดๆหากว่าก้าวออกไปหรืออาจจะไม่สามารถเข้าได้และออกได้ มีแม้กระทั่งป้องกันไม่ให้สามารถออกไปได้
แน่นอนว่าการป้องกันภายในสถานที่แห่งนี้คือไม่ให้สิ่งมีชีวิตที่อยู่ภายในก้าวออกไปได้แต่จะไม่ได้รับกระทบหากก้าวเข้ามา
“แล้วจะเอาไงกันดี ? หนียังไง ? ”
จระเข้เบญจธาตุได้เอ่ยปากถามออกมาพร้อมทั้งมองออกไปทางหลินเทียนเพราะดูเหมือนว่ามันไม่สามารถทำลายม่านพลังนี้ได้เลย
“ตอนนี้ก็ยังไม่รู้หรอก ”
หลินเทียนพูดออกมา
“หากว่าจะให้ใช้กำลังแล้วด้วยระดับพลังของเราก็คงไม่สามารถทำลายมันได้ ตอนนี้ก็คงจะต้องเข้าไปภายในเพื่อสำรวจสภาพแวดล้อมดูเสียก่อน ”
เป็นเพราะว่าจี้ห้อยคอของเหลาเหลานั้นพิเศษอย่างมากและสามารถทำลายผนึกได้แทบทุกอย่างเนื่องจากผสมผสานพลังจากเศษเสี้ยววิญญาณกระบี่ของเขาเอาไว้
อย่างไรก็ตามระหว่างทางกลับนั้นเสมือนว่าเศษเสี้ยววิญญาณได้ถูกร่างกายของเขาดูดไปทำให้ไม่สามารถใช้มันทำลายม่านพลังภายในสถานที่แห่งนี้ได้
ทางเลือกเดียวในตอนนี้คือการสำรวจสถานที่แห่งนี้เพื่อหาเส้นทางกลับออกไป
เป็นเพราะหากว่าไม่สามารถหาวิธีออกไปได้ก็จะติดอยู่ที่นี่ตลอดไป
“ไปกันเถอะ ”
จระเข้เบญจธาตุหันหน้ามองออกไปพร้อมทั้งพูดต่อว่า
“ดูๆแล้วมันเป็นสถานที่ๆอับโชคดีจริงๆ ”
“แค่มองก็รู้แล้ว ”
หลินเทียนตอบกลับไป
การที่อยู่ดีๆถูกดูดมาอยู่ภายในสถานที่ๆไม่รู้จักแถมเมื่อมองออกไปแล้วยังพบว่ามันรายล้อมไปด้วยกลุ่มหมอกสีดำเข้มแถมหลายๆที่ยังมีป้ายหลุมศพที่แตกหัก พื้นดินสีเลือดและพืชพันธุ์สีดำแปลกๆที่เจริญเติบโตอยู่รอบทิศทาง
มันเป็นสถานที่ๆให้ความรู้สึกหม่นหมองเป็นอย่างมาก
“ไปกันเถอะ ”
หลินเทียนพูดออกมา
เพียงแค่ยืนอยู่เฉยๆมันไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้ดังนั้นถึงจำเป็นต้องเข้าไปด้านในเพื่อสำรวจมันเสียก่อน
ซึ่งระหว่างนี้เขาก็ไม่ได้กังวลอะไรเพราะถึงอย่างไรมันก็ยังไม่ได้เผชิญหน้ากับอันตรายใดๆแถมต่อให้กังวลไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรอยู่ดี
นี่ทำให้พวกเขาพากันเดินเข้าไปภายในอย่างรวดเร็ว
ภายในสถานที่แห่งนี้มีพื้นที่ๆกว้างใหญ่ถึงขั้นที่มากกว่าดาวบางดวงเลยด้วยซ้ำ พื้นดินของมันมีสภาพที่เปียกชื้นแถมยังเต็มไปด้วยใบไม้ที่เหี่ยวเฉาคอยส่งเสียงกร๊อปออกมาเป็นพักๆแถมยังมีกลิ่นเหม็นแปลกๆ
หลินเทียนก้าวเดินออกไปโดยที่แผดตรามังกรออกไปรอบทิศทางเพื่อตรวจสอบสภาพพื้นที่แห่งนี้
ไม่นานเวลาก็ได้ผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมงเต็มและมันเป็นตอนที่พวกเขาพากันเดินทางไปถึงใจกลางของสถานที่แห่งนี้
“เจ้าหนู พบอะไรบ้างไหม ? ”
จระเข้เบญจธาตุได้ถามออกมา
หลินเทียนส่ายศีรษะของเขาพร้อมกับพูดว่า
“ไม่ ”
“ไม่ ? ไม่ใช่ว่าเจ้าเชี่ยวชาญด้านนี้ ? ผ่านมากว่าหนึ่งชั่วโมงแล้วยังไม่พบอะไรเลย ? ”
“จะพูดให้ถูกคือข้าบ่มเพาะทักษะฝังมังกรที่ควบคุมอาณาเขตของโลกทั้งหลาย มันต่างกัน ”
“ช่างเถอะ ถึงอย่างไรมันก็แขนงเดียวกันนั่นแหละ ”
“อยากถูกตบหรือไง ? ”
หลินเทียนอยากจะกระทืบมันอย่างมาก
จระเข้เบญจธาตุได้แต่แสดงสีหน้าป่วยๆออกมาพร้อมทั้งหันมองออกไปรอบๆ
เหลาเหลาเองก็เดินตามหลังหลินเทียนอย่างระมัดระวังโดยที่มีเสี่ยวไท่ชูคอยนอนเกาะไหล่หลินเทียนอยู่อย่างสบายใจ
พริบตาเวลาอีกกว่าหนึ่งชั่วโมงก็ได้ผ่านไปอีกครั้ง
เมื่อมองออกไปรอบๆแล้วจะพบว่าพืชพันธุ์มีให้เห็นน้อยลงแถมพื้นดินยังเปียกแฉะมากกว่าเก่าพร้อมทั้งกลิ่นหอมของสมุนไพรที่โชยออกไปรอบทิศทาง
“กลิ่นนี้มัน…….”
สีหน้าของหลินเทียนได้เปลี่ยนไปโดยทันที
เป็นเพราะกลิ่นหอมในอากาศนี้ค่อนข้างแรงเอามากๆถึงขั้นที่เข้มข้นเสียยิ่งกว่าสมุนไพรฟินิกซ์หลากสีที่เพิ่งได้รับมาเลยด้วยซ้ำ
แถมกลิ่นอายนี้ยังไม่ใช่แค่ต้นๆเดียวแต่เป็นกลิ่นอายที่ผสมผสานระหว่างสมุนไพรนับร้อยชนิดรวมๆกัน
จระเข้เบญจธาตุถึงกับผงะไปพร้อมทั้งพูดว่า
“สถานที่ๆดูตกต่ำแบบนี้มันมีกลิ่นอายสมุนไพรที่เข้มข้นขนาดนี้ได้อย่างไรกัน ?! ”
เหลาเหลาเองก็ประหลาดใจไม่น้อยเช่นเดียวกัน
“ไปสำรวจกันเถอะ ”
เขาหันมองไปทางทั้งสองคนพร้อมทั้งก้าวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
เป็นเพราะว่าตัวเขาเองก็เคยอ่านตำรามากมายมายซึ่งกลิ่นหอมของมันเหมือนๆกับลักษณะเฉพาะของสมุนไพรที่เขารู้จักซึ่งมันมีค่าเสียยิ่งกว่าสมุนไพรฟินิกซ์หลากสีด้วยซ้ำ
ไม่นานพวกเขาก็พากันเดินเท้าออกไปไหกลกว่าหลายกิโลเมตร
ณ ตอนนี้เองที่พวกสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมที่เข้มข้นขึ้นกว่าเก่าก่อนที่จะได้พบกับสวนสมุนไพรอยู่ตรงหน้าซึ่งกินพื้นที่หลายตาราเมตรแถมยังรายล้อมไปด้วยประกายแสงและกลิ่นอายโอสถอันเข้มข้น
“ที่นี่มัน……มีสวนสมุนไพรแบบนี้ด้วย ?! ”
เหลาเหลาได้แต่ผงะไป
“ดอกหมื่นวิญญาณสามารถเพิ่มระดับพลังของเขตแดนจ้าวสวรรค์ได้ ! โสมรากแก่นนิรันดร์สามารถเพิ่มระดับพลังของเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าได้ ! แถมยังมีแม้กระทั่งสมุนไพรล้ำลึก ดอกไม้วิญญาณหวนคืน…….”
สายตาของจระเข้เบญจธาตุว่างเปล่าไปโดยทันที
หลินเทียนเองก็ผงะไปไม่น้อยเพราะไม่คิดเลยว่าจะพบกับสวนสมุนไพรภายในสถานที่แบบนี้
สมุนไพรเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีค่าอย่างมากแถมยังสามารถเพิ่มระดับพลังได้โดยทันที
“เก็บกันให้หมดเลย ! ”
จระเข้เบญจธาตุส่งเสียงออกมาอย่างตื่นเต้นด้วยน้ำลายที่ไหลย้อยออกมาพร้อมทั้งกระโจนออกไปโดยทันที
ดวงตาของหลินเทียนยังคงส่องประกายออกมาขณะที่จ้องมองออกไปยังสวนด้านหน้า
อย่างไรก็ตามมันเป็นตอนนี้เองที่หัวใจของเขาได้สั่นไหวอย่างรุนแรงหลังจากที่มองไปยังศพเหี่ยวๆที่กำลังจ้องมองมาทางพวกเขาและสร้างความรู้สึกขนหัวลุกให้อย่างฉับพลัน
“กลับมานี่ ! ”
เขายื่นมือออกไปคว้าร่างของจระเข้เบญจธาตุเอาไว้โดยทันที