Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1443
ความเร็วของหลินเทียนนั้นถือว่าสูงมากๆแถมยังพุ่งนำเสี่ยวไท่ชูและคนอื่นๆผ่านอากาศออกไปจากสถานที่แห่งนี้อย่างรวดเร็ว
ใจกลางห้องโถงนี้เป็นที่ๆร่างของชายชราถูกตรึงเอาไว้ด้วยดวงตาที่ล้ำลึกและราบเรียบเป็นอย่างมากก่อนที่จิตสัมผัสอันทรงพลังของเขาจะโถมเข้าใส่ทางหลินเทียนเพื่อปิดกั้นพื้นที่โดยรอบทั้งหมดเอาไว้
ดวงตาของหลินเทียนส่องประกายออกมาพร้อมทั้งสังเวยกระบี่อาวุธนิรันดร์แท้จริงออกมาพลางส่งคลื่นกระบี่ศุกลสวรรค์ออกไปรับเอาไว้
แกร๊ง ~!
เสียงกระบี่คำรามดังสนั่นหวั่นไหวถูกส่งออกมาอย่างดังขณะที่คลื่นกระบี่อันน่าสะพรึงกลัวได้ฟาดฟันคลื่นจิตสัมผัสของชายชราจนแหลกสลายหายไป
ร่างของหลินเทียนถูกกระแทกปลิวออกไปไกลแต่ก็ยังใช้อาวุธนิรันดร์แท้จริงปกป้องร่างกายเอาไว้
สภาพของเขาในตอนนี้ยังอยู่ดีและรับมือได้ดีกว่าครั้งก่อนหน้านี้มาก
เขาอาศัยเจดีย์ราชันอมตะปกป้องร่างกายของพวกเขาเอาไว้พร้อมทั้งสังเวยทักษะเบญจอัสนีสะท้านฟ้าออกมาห่อหุ้มกระบี่ในมือเอาไว้พลางฟาดฟันคลื่นกระบี่ศุกลสวรรค์อันทรงพลังออกไปอัดกระแทกเข้าใส่จิตสัมผัสของอีกฝ่ายแล้วพุ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
“หยุด ! ”
น้ำเสียงแหบอันเย็นยะเยือกถูกส่งออกมาขณะที่คลื่นพลังจิตสัมผัสโถมเข้าใส่ร่างของหลินเทียน
“ไม่ต้องออกมาส่งก็ได้ ”
หลินเทียนส่งเสียงออกมา
ทักษะเบญจอัสนีสะท้านฟ้าของเขาได้หมุนวนอย่างรวดเร็วก่อนที่จะสังเวยก้าวย่างแห่งสวรรค์พุ่งผ่านอากาศออกไปเพื่อเบี่ยงหลบการโจมตีของชายชรา
หลังจากนั้นเขาก็ทิ้งระยะห่างออกไปจากสถานที่แห่งนี้ไกลมากแล้ว
ชายชราที่อยู่ภายในห้องโถงได้แต่จ้องมองไปทางเขาที่อยู่ห่างออกไปไกลโดยที่ไม่ได้ไล่ตามออกไป
หน้าอกของเขายังคงมีหอกแหลมเสียบเอาไว้ซึ่งก่อนหน้านี้เลือดมันได้หยุดไหลไปแล้วทว่าตอนนี้กลับมีเลือดใหม่ไหลออกมา
“มันเป็นของข้า ! ”
น้ำเสียงอันเย็นยะเยือกถูกส่งออกมาอย่างทรงพลัง
หลินเทียนยังคงปกป้องร่างกายเอาไว้ขณะที่พุ่งหนีออกไปไกลอย่างมาก
“ไอ้แก่นั่นมันไม่ได้ตามมา ?! ”
จระเข้เบญจธาตุได้แต่จ้องมองไปทางด้านหลัง
“ดูเหมือนว่าจะถูกหอกนั่นสยบเอาไว้ทำให้ไม่สามารถขยับได้ในตอนนี้แถมระยะที่จิตสัมผัสครอบคลุมเองก็ดูจะไม่กว้างเท่าไหร่ ”
เหลาเหลาได้พูดออกมา
“เป็นอย่างที่นางพูดนั่นแหละ ”
หลินเทียนพูดออกมาเช่นกัน
เป็นเพราะอีกฝ่ายอาศัยพลังจิตสัมผัสเป็นอาวุธคอยโมตีเข้าใส่เขาหลายครั้งโดยที่ร่างกายของตัวเองไม่ได้ขยับแม้แต่น้อยทำให้เขาสัมผัสได้เลยว่าร่างกายของอีกฝ่ายนั้นอ่อนแอและปั่นป่วนอย่างมากทำให้ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ตามใจชอบแถมระยะของจิตสัมผัสที่ใช้งานได้เองก็แคบเอามากๆ
ระหว่างนี้เขาก็ยังคงก้าวต่อไปเรื่อยๆโดยที่ไม่ได้หยุดพักหายใจแม้แต่น้อย
ไม่นานก็กลับมาสู่สถานที่ๆเต็มไปด้วยซากปรักหักพังโดยที่ไม่มีจิตสัมผัสของชายชราไล่ล่ามาอีกต่อไป
พวกเขาพุ่งผ่านออกไปอย่างรวดเร็ว
“ดูเหมือนว่ามันจะไม่สามารถไล่ตามมาได้จริงๆสินะ ”
จระเข้เบญจธาตุได้แต่จ้องมองกลับไปพร้อมทั้งอดสั่นไปไม่ได้
“ไอ้แก่นั่นมันแข็งแกร่งจริงๆเลยนะ ขนาดได้รับบาดเจ็บหนักขนาดนั้นแล้วยังแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้ หากว่ามันอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดข้าคิดว่ามันคงทำลายได้แม้กระทั่งดาวทั้งดวงเลยด้วยซ้ำ ”
“แข็งแกร่งมากๆ ”
เหลาเหลาได้กลืนน้ำลายกลับลงไป
เสี่ยวไท่ชูเองก็ได้แต่คอหดไป
หลินเทียนเองก็ตระหนักได้ถึงความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายดีแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรในตอนนี้เพราะว่าท้ายที่สุดพวกเขาก็ไม่ได้สูญเสียอะไรในตอนนี้
“ไปกันเร็ว ! ”
เขาส่งเสียงออกมาพร้อมทั้งเก็บเอาอาวุธทั้งหลายกลับไปแล้วพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
ด้วยพลังของตราโบราณในมือของเขาแล้วเขาเชื่อว่ามันจะต้องสามารถฝ่าข้ามม่านพลังออกไปได้อย่างแน่นอน
“ไปกัน ! ”
จระเข้เบญจธาตุเองก็ไม่ได้แปลกใจอะไรไปกับเจดีย์ราชันอมจะหรืออาวุธอื่นๆของเขาแม้แต่น้อยเพราะมันเคยได้ยินเรื่องเหล่านี้มาตั้งแต่สามปีก่อนแล้ว
เสี่ยวไท่ชูเองก็เป็นแบบเดียวกัน
ส่วนเหลาเหลานั้นนางเป็นคนแรกๆที่ได้เห็นมันและรู้ดีว่ากระบี่อาวุธนิรันดร์แท้จริงนั้นมาจากที่ไหนดังนั้นจึงยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแปลกใจไปกับสิ่งเหล่านี้
พวกเขาพากันพุ่งผ่านออกไปด้วยความเร็วที่สูงมากๆก่อนที่จะไปถึงสุดขอบของผืนแผ่นดินแห่งนี้ที่สามารถมองเห็นหมู่ดาวมากมายอยู่ห่างออกไปได้
หลินเทียนหยิบเอาตราโบราณสีน้ำเงินในมือออกมาพร้อมทั้งคว้ามือออกไปยังม่านพลังที่อยู่ห่างออกไป
ฟึ้บบ ~!
ม่านพลังที่สัมผัสเข้ากับมือขวาของเขาได้ฉีกออกพร้อมทั้งเผยให้เห็นช่องว่างขนาดใหญ่ก่อนที่มือขวาของเขาจะสามารถเอื้อมออกไปด้านนอกได้
“ใช้ได้จริงๆด้วย ”
จระเข้เบญจธาตุได้แต่แสดงสีหน้าที่มีความสุขออกมาเพราะแม้จะคาดการณ์เอาไว้ก่อนแล้วแต่เมื่อได้เห็นกับตาก็ยังอดประหลาดใจไปไม่ได้
เหลาเหลาเองก็ส่งเสียงออกมาว่า
“งั้นเราก็รีบไปจากที่นี่กันเถอะ หากว่าไอ้แก่นั่นมันหยุดจากหอกได้เราก็คงจะได้ตายกันหมดแน่ ”
หลินเทียนพยักหน้าของเขาพร้อมทั้งส่งถ่ายพลังออกไปห่อหุ้มพากเขาแล้วก้าวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
“ในที่สุดก็ออกมาได้เสียที ! ”
จระเข้เบญจธาตุถอนหายใจออกมา
หลินเทียนที่ยืนอยู่ด้านนอกเองก็ได้แต่หันมองออกไปทางผืนแผ่นดินที่ค่อยๆออกห่างไปเรื่อยๆ
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็หันมองกลับลงไปยังตราสีน้ำเงินในมือของเขา
มันเป็นตราโบราณที่สลักอักษรคำว่า หยวนเอาไว้
“ดูเหมือนว่ามันจะเป็นสิ่งของที่ไม่ธรรมดาเลยเพราะมันเป็นสิ่งที่ชายชราคนนั้นต้องการ ”
จระเข้เบญจธาตุส่งเสียงออกมาพลางพูดต่อว่า
“ข้าล่ะสัมผัสได้เหมือนว่าม่านพลังที่ห่อหุ้มผืนแผ่นดินเอาไว้เป็นสิ่งที่เกิดจากตราโบราณนี้ด้วยซ้ำ ”