Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1453
กระบี่สีทองในมือของยี่ชวนนั้นคืออาวุธอนันตกาลซึ่งการที่ถือครองอาวุธระดับนี้เอาไว้ในมือทำให้กลิ่นอายที่ยี่ชวนส่งออกมานั้นทรงพลังอย่างมาก
“กลิ่นอายของนายน้อย….”
“นี่มัน…แข็งแกร่งมาก ! ”
“กระบี่นั่นมัน ?! ”
ศิษย์หลายๆคนได้แต่พากันแสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมาตามๆกันขณะที่จ้องมองไปยังกระบี่ในมือของอีกฝ่ายด้วยหัวใจที่สั่นสะท้าน
เป็นเพราะคลื่นพลังกระบี่ที่ส่งออกมามันร้ายกาจเป็นอย่างมาก
เจียงยี่ชวนนั้นรู้สึกพึงพอใจไปกับสายตาที่ผู้คนรอบข้างมองมาทางเขาอย่างมากพลางคิดว่าการที่ขายหลินเทียนไปให้กับขุมพลังอื่นนั้นเป็นเรื่องที่ชาญฉลาดจริงๆ
เขาก้าวเดินออกมาจากภายในขณะที่เหล่าศิษย์พากันหลีกทางให้กับเขาด้วยตัวเอง
นี่ทำให้สายตาของยี่ชวนได้ไปหยุดอยู่ที่ร่างของหลินเทียน เสี่ยวไท่ชูและจระเข้เบญจธาตุไปโดยทันที
และมันเป็นเวลาเดียวกันนี้เองที่สีหน้าของเขาได้เปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวงถึงขั้นที่อดก้าวถอยหลังกลับไปไม่ได้
“เจ้า…….”
ใบหน้าของเขาถึงกับซีดลงโดยทันที
เป็นเพราะว่าผู้ที่รุกล้ำเข้ามาภายในขุมพลังของพวกเขานั้นคือหลินเทียนและเมื่อมองไปยังสายตาที่เย็นยะเยือกนี้แล้วก็ทำให้เขาสังหรณ์ใจไม่ดีไปโดยทันทีเพราะนี่หรือว่า….หลินเทียนจะรู้เรื่องตระกูลจ้าวแล้ว ?
“ไอ้ระยำเลี้ยงเสียข้าวสุก กระบี่ในมือมันใช้ง่ายไหมล่ะ ? ”
จระเข้เบญจธาตุส่งเสียงแสยะออกมา
เป็นเพราะวินาทีแรกที่เห็นร่างของยี่ชวนนั้นมันก็สังเกตุเห็นได้เลยว่ากระบี่ในมืออีกฝ่ายนั้นเป็นอาวุธอนันตกาลและเดาได้ว่ามันน่าจะเป็นรางวัลที่ได้มาจากการขายพวกเขาให้กับตระกูลจ้าวเพราะว่าไม่มีทางเลยที่ขุมพลังระดับนี้จะถือครองอาวุธระดับนั้นได้และมันยิ่งทำให้ความเย็นยะเยือกในสายตาของมันยิ่งพุ่งสูงขึ้นขณะที่จิตสังหารอันน่าสะพรึงกลัวไหลทะลักออกมาไม่หยุด
เสี่ยวไท่ชูเองก็เบิกตากว้างออกมาขณะที่จ้องเขม็งไปที่ร่างของยี่ชวนด้วยสีหน้าที่โกรธจัดไม่ต่างกัน
แววตาของหลินเทียนในตอนนี้ส่องประกายความเย็นยะเยือกถึงขีดสุดออกมาพลางก้าวเข้าหาร่างของอีกฝ่ายทีละก้าว
ยี่ชวนได้แต่สั่นสะท้านไปอย่างรุนแรงพร้อมๆกับรีบก้าวถอยหลังกลับไป
เป็นเพราะไม่ต้องบอกก็รู้ว่าหลินเทียนล่วงรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว
นี่ทำให้เขาถึงกับผงะและตกตะลึงไปในเวลาเดียวกันเพราะหลังจากที่เขารายงานเรื่องนี้ออกไปแล้วตระกูลจ้าวก็ได้ส่งกองกำลังผู้อาวุโสสูงสุดเขตแดนกึ่งอนันตกาลออกไปถึงสามคนซึ่งการที่หลินเทียนจะรู้เรื่องนี้ได้ก็แปลว่าสามคนนั้นได้พบตัวหลินเทียนและลงมือแล้วแต่ทว่าทำไมหลินเทียนถึงยังอยู่ดีแล้วยังมาที่นี่ได้ ? หรือว่าทั้งสามคนมันไม่สามารถสยบหลินเทียนลงได้ ?! มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน ?!
ยิ่งคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกแต่เมื่อเห็นว่าหลินเทียนกำลังเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆก็ยิ่งทำให้หัวใจของเขาสั่นไหวไม่หยุด
“สหายหลิน ฟังข้าอธิบายก่อนนะ…..”
“วิ้สส ~! ”
เสียงพุ่งผ่านอากาศถูกส่งออกมาขณะที่ร่างของหลินเทียนปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของอีกฝ่ายพร้อมทั้งถีบอัดหน้าอกเข้าให้อย่างจัง
ตู้มมม ~~!
ร่างของยี่ชวนลอยเคว้งออกไปกระแทกกับผนังหินที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลทำให้กระอักเลือดออกมาคำโตพร้อมๆกับส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนออกมาไม่หยุดขณะที่กระดูกทั้งร่างแหลกสลาย
“นายน้อย ! ”
เหล่าศิษย์ทั้งหลายต่างพากันแสดงสีหน้าที่หวาดหวั่นออกมาเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่หลินเทียนได้ลงมือด้วยตัวเอง
ยี่ชวนยังคงกระอักเลือดออกมาไม่หยุด
“ยี่ชวน ! ”
จ้าวตำหนักที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลได้ส่งเสียงออกมาเพราะหลังจากที่เห็นยี่ชวนหยิบเอากระบี่ออกไปก็ทำให้เขาหมดห่วงเพราะรู้ดีว่าอาวุธอนันตกาลนั้นแข็งแกร่งอย่างมากและคงจะสามารถสังหารศัตรูลงได้ง่ายๆจึงใช้เวลาเก็บเอายาทิพย์ทั้งหลายอย่างระมัดระวังแล้วค่อยตามออกมาที่นี่ก่อนที่จะเห็นภาพลูกชายของเขากองอยู่กับพื้นด้วยสภาพที่โชกไปด้วยเลือด
เขาพุ่งเข้าประชิดร่างของยี่ชวนอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งแสดงสีหน้าที่โกรธจัดออกมา
“ท่านพ่อ……”
ยี่ชวนได้ส่งเสียงออกมาด้วยใบหน้าที่ซีดเผือดหลังจากที่กระดูกแตกไปทั้งร่างแถมด้วยระดับพลังของเขาในตอนนี้กลับไม่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บของตัวเองได้แม้แต่น้อย
“ระยำเอ้ย ! ใครเป็นคนทำกัน ! ”
จ้าวตำหนักส่งเสียงคำรามออกมาด้วยความโกรธหลังจากที่เห็นลูกของตัวเองได้รับบาดเจ็บพร้อมทั้งปลดปล่อยจิตสังหารอันเข้มข้นของเขตแดนจักรพรรดิโกลาหลออกมาพลางส่งถ่ายพลังเข้าไปในร่างของลูกชายเพื่อฟื้นฟูอาการบาดเจ็บแต่วินาทีที่พลังเทวะของเขาไหลเข้าไปกลับถูกคลื่นสายฟ้าอันทรงพลังที่อยู่ภายในร่างของยี่ชวนบดทำลายจนสิ้น
นี่ทำให้เขายิ่งโกรธจัดพร้อมทั้งส่งถ่ายพลังออกไปมากกว่าเก่า
ทว่าผลลัพธ์ก็ไม่ได้ต่างไปจากเดิมเลยแม้แต่น้อย
หลินเทียนยังคงก้าวเดินเข้าใกล้อีกครั้งด้วยท่าทางที่สุขุมเป็นอย่างมาก
แน่นอนว่าลูกถีบเมื่อครู่เป็นการยั้งมือเอาไว้เพราะหากว่าฆ่าอีกฝ่ายลงง่ายๆก็คงจะสบายไป
อีกอย่างเหตุผลที่มันไม่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ก็เพราะว่าเขาเป็นคนทำมันเนื่องจากระหว่างที่เตะไปเมื่อครู่นั้นเขาได้ผสานพลังของสายฟ้าเอาไว้เพื่อปิดกั้นเส้นพลังทั้งหมดของอีกฝ่ายทำให้ไม่สามารถขับเคลื่อนพลังเทวะภายในร่างได้ดังนั้นต่อให้จ้าวตำหนักพยายามส่งถ่ายพลังไปเท่าไหร่แต่ก็จะถูกคลื่นสายฟ้าของเขาทำลายลงและทำให้ยี่ชวนต้องแบกรับความเจ็บปวดต่อไปอย่างต่อเนื่อง
นี่ทำให้ยี่ชวนได้แต่จ้องมองไปทางหลินเทียนด้วยสายตาที่หวาดหวั่นยิ่งกว่าเก่า
“ท่านพ่อ…..ช่วย..ข้า…ด้วย…….เป็นเขา…..เขาเป็นคน…ที่ข้าเพิ่งเล่าให้ท่านฟัง ”
เขาส่งเสียงแผ่วๆออกมาด้วยน้ำเสียงที่หวาดหวั่น
แน่นอนว่าจ้าวตำหนักเองก็เข้าใจอย่างดีดังนั้นถึงได้หันมองไปทางหลินเทียนด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างมากเนื่องจากเขาได้ยินมาแล้วว่า…..อย่างน้อยๆอีกฝ่ายก็เป็นถึงเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าและการที่อีกฝ่ายบุกมาแบบนี้ก็แสดงว่ารู้เรื่องที่ยี่ชวนเอาข้อมูลไปขายมาแล้ว ?! หรือว่าความกังวลที่เขาคิดอยู่ก่อนหน้านี้กำลังเป็นจริง ?!
“ความผิดของตัวลูกไม่เกี่ยวกับตัวพ่อ หลีกทางไป ”
หลินเทียนก้าวเดินออกไปพร้อมทั้งส่งเสียงอันทุ้มต่ำออกมา
“เจ้า…..คิดจะทำอะไรลูกชายข้ากัน ?! ”
จ้าวตำหนักส่งเสียงออกมา
“จะทำอะไร ? ”
จระเข้เบญจธาตุที่อยู่ห่างออกไปได้ส่งเสียงคำรามออกมาว่า
“เราอุส่าช่วยชีวิตไอ้ระยำนี่เอาไว้แถมยังให้ยาทิพย์กับมันมากมายแต่มันกลับกล้าแว้งกัดเราแบบนี้แล้วเจ้าคิดว่าเราจะทำอะไรมัน ?! ”
เป็นเพราะจิตสังหารอันเข้มข้นที่ไหลทะลักออกมาทำให้จ้าวตำหนักรู้ดีว่าอีกฝ่ายต้องการจะฆ่ายี่ชวนดังนั้นเขาจึงอดสั่นไปไม่ได้
“เจ้า……”
“หลีกทางไป ”
หลินเทียนส่งเสียงออกมาพร้อมทั้งส่งกลิ่นอายกระแทกร่างของอีกฝ่ายปลิวออกไปไกล
“ท่านจ้าวตำหนัก ! ”
ศิษย์ทั้งหลายพากันส่งเสียงสั่นๆออกมา
เป็นเพราะผู้จ้าวตำหนักของพวกเขาเป็นถึงเขตแดนจักรพรรดิโกลาหลแต่ทว่าตอนนี้กลับถูกกลิ่นอายกระแทกปลิวออกไปไกลง่ายๆแบบนี้ ?!
ยี่ชวนที่กระดูกแตกไปทั้งตัวและกระอักเลือดออกมาไม่หยุดได้แต่จ้องมองไปทางหลินเทียนด้วยสีหน้าที่หวาดหวั่นยิ่งกว่าเก่า
“สหาย…หลิน…ข้า…ผิดไปแล้ว ! ความโลภมันบดบังตาข้าแต่ได้โปรด….อย่าลดตัวลงมาอยู่ระดับเดียวกับข้าเลย…..ไว้ชีวิตข้าเถอะ ”
เขาอ้อนวอนออกมา
หลินเทียนโบกมือส่งลำแสงสีทองทะลวงผ่านร่างของอีกฝ่ายเพื่อทำลายการบ่มเพาะไปอย่างสมบูรณ์
หลังจากนั้นเองที่คลื่นพลังสายฟ้าเริ่มกัดกินเลือดเนื้อของอีกฝ่ายจากภายในอย่างบ้าคลั่ง
“อ๊ากก ~~! ”
ยี่ชวนส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างน่าสังเวชเพราะเนื่องจากการที่สูญเสียการบ่มเพาะไปทำให้ความสามารถในการอดทนของเขาลดลงหลายเท่าส่งผลให้ความเจ็บปวดที่กระดูกแตกไปทั้งตัวและเลือดเนื้อที่กำลังถูกกัดกินอย่างบ้าคลั่งทำให้ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวจนเสียรูป
“ยี่ชวน ! ”
จ้าวตำหนักถึงกับมีดวงตาสีแดงก่ำพร้อมทั้งกระโจนเข้าใส่ทางหลินเทียน
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่มิติโดยรอบได้สั่นไหวพร้อมๆกับปรากฏร่างของชายชราห้าคนที่เป็นผู้อาวุโสสูงสุดเขตแดนจ้าวสวรรค์ซึ่งได้รับรายงานจากเหล่าศิษย์มาว่ามีคนบุกเข้ามาภายในขุมพลังของพวกเขา
“อวดดีนักนะ ! ”
ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งห้าคนส่งเสียงคำรามออกมาหลังจากที่เห็นสภาพที่น่าสังเวชของยี่ชวนพร้อมทั้งพากันกระโจนเข้าใส่ทางหลินเทียนพร้อมๆกัน
“ไสหัวไปซะ ! ”
จระเข้เบญจธาตุที่อยู่ห่างออกไปได้ส่งเสียงคำรามออกมาพร้อมๆกับระเบิดคลื่นพลังอสูรอันเข้มข้นออกมากระแทกเข้าใส่ร่างของพวกเขา
ตู้มมม ~!
ร่างของผู้อาวุโสสูงสุดทั้งห้าและจ้าวตำหนักถูกซัดลอยเคว้งออกไปไกลด้วยสภาพที่โชกไปด้วยเลือด
“ท่านจ้าวตำหนัก ท่านผู้อาวุโสสูงสุด ! ”
เหล่าศิษย์ทั้งหลายได้แต่พากันสั่นไปด้วยความกลัว
นี่ทำให้พวกเขาอดหันมองไปทางจระเข้เบญจธาตุด้วยสีหน้าที่หวาดหวั่นไม่ได้
“กลิ่นอายอสูรเขตแดนจักรพรรดิ….ว่างเปล่า นี่มัน…..”
พวกเขาพากันมีใบหน้าที่ซีดลงอย่างมาก
เป็นเพราะว่าตัวคนระดับนี้มัน…เป็นตัวตนระดับเดียวกันกับบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งพวกเขา !
นี่ขุมพลังของพวกเขาไปกระตุกหนวดตัวตนระดับนี้ ?!
“อ๊ากก ~! ”
ยี่ชวนได้แต่ส่งเสียงกรีดร้องออกมาไม่หยุดขณะที่ต้องแบกรับความเจ็บปวดถึงขีดสุด
หลินเทียนยังคงก้มมองลงมาทางเขาด้วยสายตาที่เย็นยะเยือกขณะที่ใช้กระบี่ชี้ไปที่ศีรษะของอีกฝ่าย
จิตสังหารอันเย็นยะเยือกทำให้มิติโดยรอบถึงกับปริแตก
ยี่ชวนที่ยังคงส่งเสียงร้องโอดครวญออกมาอย่างดังถึงกับนิ่งไปหลังจากที่ต้องเผชิญหน้ากับจิตสังหารระดับนี้และมันทำให้หว่างขาของเขาเปียกเป็นดวง
“นะ…ไม่ ! อย่าฆ่าข้า ! ใช่ ใช่…..ข้ารู้ตำแหน่งที่ตั้งของขุมสมบัติที่อยู่ห่างออกไปจากที่นี่ มันมีถ้ำธรรมดาๆที่เป็นของนิรันดร์แท้จริงซึ่งภายในเต็มไปด้วยสมบัติมากมาย ! ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าแล้วจะต้องสามารถเปิดเอาขุมสมบัติที่อยู่ภายในไปได้อย่างแน่นอน ได้โปรด……อย่าฆ่าข้า ! ”