Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1456
ถ้ำแห่งนี้มีความกว้างประมาณสามเมตรซึ่งหลินเทียนและคนอื่นๆที่เข้ามาเองก็ได้พบกับกองตะไคร่มากมายซึ่งหากมองดูดีๆแล้วจะพบว่าสถานที่แห่งนี้มันก็ไม่ได้ต่างไปจากสถานที่ธรรมดาๆเลยด้วยซ้ำและหากว่าไม่ได้เป็นเพราะได้ยินมาว่ามันเป็นสถานที่บ่มเพาะของนิรันดร์แท้จริงมาก่อนแล้วก็คงคิดไม่ถึงว่ามันจะอยู่ที่นี่
“ไปกัน ”
หลินเทียนพูดออกมา
พวกเขาพากันเดินเข้าไปภายในซึ่งแม้ว่ามันจะมีแสงสลัวๆแต่ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อพวกเขา
พวกเขาเข้าไปภายในพร้อมทั้งสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของนิรันดร์แท้จริงรวมถึงพลังสัจธรรมที่เข้มข้นได้อย่างรวดเร็ว
“กลิ่นอายของนิรันดร์แท้จริงและสัจธรรมแห่งนิรันดร์ ”
จระเข้เบญจธาตุถึงกับมีดวงตาที่เปล่งประกายออกมาพร้อมพูดต่อว่า
“ดูเหมือนว่าไอ้เวรนั่นจะพูดความจริงสินะ ”
แม้ว่าจากสัญญาณต่างๆแล้วจะดูเหมือนว่าสถานที่ๆว่ามีอยู่จริงแต่เมื่อมาถึงที่นี่อย่างแท้จริงแล้วก็ทำให้มันเชื่ออย่างสุดใจ
หลินเทียนได้หันมองออกไปเล็กน้อยด้วยดวงตาที่ส่องประกายออกมาหลังจากสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายเหล่านี้
ไม่นานพวกเขาก็พากันเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว
มันเป็นตอนนี้เองที่กลิ่นอายที่หม่นหมองได้กระเพื่อมออกมาทำให้มิติโดยรอบบิดตัวอย่างรุนแรงเสมือนว่าต้องการจะกลืนกินร่างของพวกเขาเข้าไป
“นี่มัน ?! ”
นี่ทำให้สีหน้าของจระเข้เบญจธาตุถึงกับเปลี่ยนสีไปอย่างใหญ่หลวง
เป็นเพราะว่าแม้ตอนนี้มันจะอยู่ในเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าทว่าหลังจากที่ต้องเผชิญหน้ากับวังน้ำวนตรงหน้าแล้วมันกลับสัมผัสได้ถึงความตายที่กำลังโถมเข้าใส่
หลินเทียนเองก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปไม่ต่างกันเพราะว่าเขาสัมผัสได้ดีว่าต่อให้เป็นเขตแดนนิรันดร์อมตะตอนปลายก็ไม่มีทางเลยที่จะรับมือกับมันได้
ทว่าสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้นก่อนที่จะกระทืบเท้าขวาเพื่อส่งตรามังกรออกไป
ตรามังกรส่องประกายแสงเจิดจรัสขณะที่ทะลวงผ่านพื้นดินลงไปทำให้วังน้ำวนตรงหน้าสั่นไหวและจางหายไปอย่างช้าๆ
แน่นอนว่าด้วยระดับพลังของเขาผนวกกับทักษะฝังมังกรแล้วมันจึงไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะทำลายมัน
“ไม่แปลกใจเลยที่พวกมันไม่สามารถฝ่าออกไปได้ ด้วยอาณาเขตพวกนี้แล้วมีเพียงเขตแดนอนันตกาลขึ้นไปเท่านั้นถึงจะผ่านไปได้ ”
จระเข้เบญจธาตุส่งเสียงออกมา
หลินเทียนพยักหน้าของเขาพร้อมทั้งก้าวเดินต่อเข้าไป
พวกเขาพากันสำรวจพื้นที่แห่งนี้ด้วยตรามังกรพร้อมทั้งพบว่ามันรายล้อมไปด้วยอาณาเขตที่ทรงพลังมากมายถึงขั้นเรียกได้ว่าน่าสะพรึงกลัวเลยด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตามสำหรับเขาแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากนักเพราะสามารถจัดการมันด้วยทักษะฝังมังกรได้อย่างง่ายดาย
“แกร๊ง ! ”
“แกร๊ง ! ”
“แกร๊ง ~! ”
เสียงกระบี่คำรามถูกส่งออกมาก่อนที่อักขระสังหารอันทรงพลังจะปรากฏขึ้นมา
“ข่ายอาคมสังหาร อย่างน้อยๆก็สามารถลบล้างเขตแดนอนันตกาลตอนต้นได้สบายๆ ”
หลินเทียนมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอีกครั้ง
จระเข้เบญจธาตุและเสี่ยวไท่ชูเองก็ต่างพากันแสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมาเพราะว่ามันให้ความรู้สึกที่อันตรายอย่างมาก
วิ้สส วิ้สส วิ้สสส ! เสียงพุ่งผ่านอากาศถูกส่งออกมาขณะที่ลำแสงสังหารพุ่งเข้าใส่ทางหลินเทียน
“จะเอายังไงล่ะเจ้าหนู ? ”
มันได้ส่งเสียงออกมาเพราะว่าลำแสงสังหารที่ทรงพลังขนาดนี้มันและเสี่ยวไท่ชูไม่สามารถต่อกรได้
หลินเทียนพยักหน้าของเขาพร้อมทั้งสังเวยเคล็ดวิชาหนึ่งวิญญาณสวรรค์เพื่อสร้างอักขระอาคมขึ้นมาซัดออกไปสลายพลังของมันลงอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นพลังทำลายของมันก็ถูกบั่นทอนลงไปอย่างมากทำให้ถูกทำลายลงด้วยฝ่ามือของหลินเทียนได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นเขาก็ผสานทักษะเบญจอัสนีสะท้านฟ้าเข้าด้วยกันพร้อมทั้งสังเวยเอาง้าวอัสนีออกมาซัดเข้าใส่อักขระข่ายอาคมที่รายล้อมพื้นที่แห่งนี้เอาไว้เพื่อทำลายมัน
“ไปกันเร็ว ! ”
เขาส่งเสียงออกมาพร้อมทั้งรีบพุ่งออกไปพร้อมๆกันคนอื่นๆ
ไม่รู้เลยว่าสถานที่แห่งนี้มันลึกขนาดไหนซึ่งระหว่างที่กำลังเดินเท้าเข้าไปก็ยิ่งต้องระมัดระวังอย่างมากแต่ก็ยังพบเจอกับอุปสรรค์มากมายทว่าก็ถูกหลินเทียนจัดการลงได้อย่างง่ายดาย
“แปลกจริงๆเลยแหะ นี่ใช่สถานที่บ่มเพาะของเขตแดนนิรันดร์แท้จริง จริงๆ ? ”
จระเข้เบญจธาตุได้แสดงสีหน้าที่สงสัยออกมาพลางพูดต่อว่า
“ดูๆแล้วการป้องกันของมันไม่น่าจะเปราะบางแบบนี้ไหม ? ”
เป็นเพราะว่าระหว่างเดินทางเข้ามานั้นพวกเขาก็ได้เผชิญหน้ากับข่ายอาคมมาสังหารมากมายแต่ก็ถูกหลินเทียนจัดการลงได้อย่างง่ายๆซึ่งนี่ทำให้พวกเขาเกิดรู้สึกสงสัยอย่างมากว่ามันไม่ควรจะสามารถจัดการลงได้ง่ายๆแบบนี้
หลินเทียนที่ได้ยินเช่นนั้นก็ได้พยักหน้าอย่างเห็นด้วยว่า
“ก็จริง ”
ตัวเขาเองล้วนแล้วแต่เชี่ยวชาญหลายๆแขนงก็จริงแต่การที่ต้องจัดการกับข่ายอาคมที่เขตแดนนิรันดร์แท้จริงวางเอาไว้ก็เป็นเรื่องที่ยากถึงขั้นที่บางทีอาจจะไม่สำเร็จก็เป็นได้ทว่าข่ายอาคมที่อยู่ตลอดทางกลับง่ายจนผิดวิสัยมากๆ
“หรือว่าข่ายอาคมเหล่านี้มันเป็นสิ่งที่นิรันดร์แท้จริงวางเอาไว้ส่งๆถึงได้ถูกทำลายลงได้ง่ายๆ ?”
จระเข้เบญจธาตุวิเคราะห์
“มีความเป็นไปได้แต่ก็อาจจะเป็นเพราะเหตุผลอื่น ”
หลินเทียนตอบกลับ
เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนักพร้อมทั้งพากันก้าวเดินเข้าไปภายใน
ไม่นานพวกเขาก็พบว่าสถานที่แห่งนี้ค่อยๆกว้างขึ้นๆ แถมยังมีกลุ่มแสงส่องประกายอยู่ตรงหน้าเสมือนว่ามันเป็นช่องว่างของมิติ
“ที่นี่มีช่องว่างมิติอยู่ด้วยงั้นรึ ”
จระเข้เบญจธาตุส่งเสียงออกมาด้วยดวงตาที่เปล่งประกายพลางพูดว่า
“หรือว่าด้านหลังนั่นจะเป็นที่อยู่ของนิรันดร์แท้จริงกัน ? ”
“เข้าไปแล้วเดี๋ยวก็รู้เองนั่นแหละ ”
หลินเทียนตอบกลับ
เป็นเพราะเมื่อมาถึงที่นี่แล้วเขาไม่ได้รู้สึกถึงภัยอันตรายใดๆแม้แต่น้อยดังนั้นถึงได้พากันเดินเข้าไปภายในอย่างรวดเร็ว
ไม่นานพวกเขาก็ได้รับความรู้สึกเหมือนกำลังก้าวผ่านม่านพลังบางอย่างเข้าไปก่อนที่ร่างของพวกเขาจะปรากฏตัวขึ้นภายในมิติแห่งอื่น
เมื่อมองอกไปแล้วจะพบกับภูเขาและป่าไม้เก่าแก่มากมายซึ่งห่างออกไปจะมีลำธารขนาดใหญ่ให้ความรู้สึกไม่ได้ต่างไปจากโลกใบเล็กที่มีกลิ่นอายของนิรันดร์แท้จริงที่เข้มข้นกว่าก่อนหน้านี้หลายพันเท่าผสมผสานอยู่ในอากาศ
“สถานที่แห่งนี้ต้องเป็นที่อยู่ของนิรันดร์แท้จริงอย่างแน่นอน ”
แววตาของจระเข้เบญจธาตุยิ่งส่องประกายออกมามากกว่าเก่า
เป็นเพราะว่าก่อนที่จะก้าวเข้ามาภายในช่องว่างมิตินี้มันก็สังหรณ์ใจเอาไว้แล้วว่ามันมีความเป็นไปได้สูงมากๆที่สถานที่แห่งนี้จะเป็นที่อยู่ของนิรันดร์แท้จริงซึ่งหลังจากที่ได้เห็นสภาพโดยรอบแล้วก็ยืนยันได้ทันที
“น่าจะใช่ ”
หลินเทียนพยักหน้าของเขา
ดวงตาของเขาส่องประกายออกมาขณะที่จิตสัมผัสอันทรงพลังแผดออกไปโดยรอบพื้นที่
ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็พากันเดินทางออกไปยังทิศตะวันออกของสถานที่แห่งนี้
ไม่นานพวกเขาก็ไปถึงตรงหน้าของตำหนักแห่งหนึ่งที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่มากซึ่งส่งกลิ่นอายของนิรันดร์แท้จริงออกมาจากภายใน
“ที่นี่แหละ ”
เมื่อมาถึงที่นี่แล้วพวกเขาก็ไม่ลังเลเลยที่จะเปิดประตูแล้วก้าวเข้าไป
ภายในสถานที่แห่งนี้มีเสาหินมากมายที่มีลูกแก้วไฟถูกจัดวางเอาไว้ทำให้ภายในส่องสว่างซึ่งระหว่างที่กำลังก้าวเดินเข้าไปภายในส่วนลึกนั้นพวกเขาก็ต่างระมัดระวังกันอย่างมาก
ที่ส่วนลึกของสถานที่แห่งนี้มีประตูขนาดใหญ่ซึ่งเป็นเพราะไม่สามารถสัมผัสถึงกลิ่นอายที่อันตรายได้ทำให้พวกเขาพากันเปิดประตูเข้าไปภายในอย่างรวดเร็วก่อนที่จะต้องประหลาดใจไปตามๆกัน
เป็นเพราะว่าพื้นที่ด้านหลังประตูนี้มีขนาดใหญ่มากๆแถมยังรายล้อมไปด้วยสมบัตินาๆชนิดไม่ว่าจะเป็นอาวุธ ยาทิพย์หรืออื่นๆ
“นั่นมัน….ดอกฟ้าสะท้านและสมุนไพรจักรพรรดิ….”
จระเข้เบญจธาตุส่งเสียงออกมาด้วยดวงตาที่เปล่งประกายพร้อมพูดต่อว่า
“มันสามารถเพิ่มระดับพลังให้กับเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าได้โดยทันที ! ”
สายตาของมันจดจ่ออยู่กับยาทิพย์มากมายที่อยู่โดยรอบด้วยดวงตาที่เปล่งประกายอย่างมากเพราะพวกมันล้วนมีประโยชน์ต่อเขาและเสี่ยวไท่ชูอย่างมาก
“ยาทิพย์มังกรยักษ์ ”
หลินเทียนมองไปยังขวดหยกโปร่งแสงที่ภายในบรรจุยาทิพย์ขนาดเท่าหัวแม่มือเอาไว้สองเม็ดซึ่งมันรายล้อมไปด้วยอักขระมากมายและมีลักษณะแบบเดียวกันกับตามที่ตำราว่าเอาไว้ว่าแถมยังมีสรรพคุณช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญเขตแดนนิรันดร์อมตะตัดผ่านระดับพลังไปได้อย่างไม่มีเงื่อนไข
ดวงตาของเขาส่องประกายแสงออกมาเพราะว่าด้วยยาทิพย์นี้แล้วเขาสามารถตัดผ่านเขตแดนกึ่งอนันตกาลได้อย่างรวดเร็ว
“เก็บมัน ”
เขาพูดออกมา
“เก็บเร็วเจ้าหนู ไอ้หนูน้อยขยับเร็ว ! ด้วยสมบัติพวกนี้มันพอที่จะทำให้เราตัดผ่านเขตแดนกึ่งนิรันดร์อมตะได้เลยนะ ! ”
จระเข้เบญจธาตุส่งเสียงอันตื่นเต้นออกมาขณะที่หันไปพูดกับเสี่ยวไท่ชู
นี่ทำให้มันและอสูรน้อยพากันพุ่งออกไปเก็บเกี่ยวเอายาทิพย์ทั้งหลายมาอย่างรวดเร็ว
ส่วนอาวุธที่อยู่โดยรอบนั้นไม่ได้น่าสนใจเท่าไหร่นักเพราะแข็งแกร่งที่สุดก็เป็นเพียงอาวุธวิญญาณตอนปลายซึ่งถูกยกให้กับหลินเทียนทั้งหมดส่วนทักษะเทวะและเคล็ดวิชาบ่มเพาะนั้นแม้จะไม่มีประโยชน์สำหรับเขาแต่ก็ยังมีค่าไม่น้อย
“ก่อนไอ้เวรนั่นจะตายนี่มันมีประโยชน์เหมือนกันนะ ”
จระเข้เบญจธาตุส่งเสียงหัวเราะออกมา
เป็นเพราะว่าด้วยทรัพยากรบ่มเพาะเหล่านี้แล้วมันเพียงพอจะทำให้พวกเขาตัดผ่านระดับพลังไปได้อย่างรวดเร็ว
มันเรียกได้ว่าเป็นการเก็บเกี่ยวที่คุ้มค่าเอามากๆ
“ก็จริง ”
หลินเทียนพยักหน้าของเขาและอดยิ้มออกมาไม่ได้
เสี่ยวไท่ชูดึงผมของเขาเล็กน้อยก่อนที่จะชี้กรงเล็บออกไปยังมุมๆหนึ่ง
หลินเทียนหันมองตามออกไปพร้อมทั้งพบกับประตูที่รายล้อมไปด้วยอักขระมากมาย
“ไม่คิดเลยว่าจะมีห้องโถงอยู่อีก ”
จระเข้เบญจธาตุส่งเสียงพร้อมทั้งพูดต่อด้วยดวงตาที่เปล่งประกายว่า
“หรือว่าภายในจะมีสมบัติที่สุดยอดกว่านี้ ?”