Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1460
ดวงวิญญาณของบรรพบุรุษตระกูลจ้าวได้แหลกสลายหายไปกลายเป็นเพียงประกายระยิบระยับเท่านั้น
นี่ทำให้ผู้คนที่อยู่โดยรอบได้แต่พากันแสดงสีหน้าที่หวาดกลัวออกมาตามๆกัน
“นี่มัน…..สุดๆไปเลย ! ”
จระเข้เบญจธาตุได้ส่งเสียงสั่นๆออกมา
แม้กระทั่งบรรพบุรุษตระกูลเจียงเองก็ยังผงะไปไม่น้อยเพราะการที่สามารถต่อยอัดร่างของเขตแดนอนันตกาลจนแหลกสลายแถมยังฉีกดวงวิญญาณของอีกฝ่ายเป็นชิ้นๆได้นี่มันโหดเหี้ยมถึงขั้นทำให้หัวใจของเขาหวาดหวั่นไปทันที
บรรพบุรุษตระกูลหวูแหละคนอื่นๆที่ก่อสร้างร่างกายกลับมาเองถึงกับมีใบหน้าที่ซีดเผือดเป็นกระดาษ
“เจ้า….”
เมื่อมองออกไปทางหลินเทียนแล้วพวกเขาทั้งสามคนได้แต่สั่นไปด้วยความกลัวเพราะว่าศพที่หลินเทียนกำลังควบคุมอยู่นี้มันแข็งแกร่งจนเกินไป
หลินเทียนได้ส่งเสียงแสยะออกมาขณะที่ดวงตาที่กลวงโบ๋ของร่างไร้วิญญาณส่องประกายออกมาให้ความรู้สึกไม่ได้ต่างไปจากวิญญาณร้ายจากขุมนรกที่พร้อมจะกลืนกินพวกเขา
หลังจากนั้นเขาก็ได้เหวี่ยงหมัดอันทรงพลังออกไป
บรรพบุรุษตระกูลหวูและคนอื่นๆได้แต่พากันแสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมาพร้อมทั้งสังเวยทักษะเทวะที่ทรงพลังออกมารับการโจมตีนี้เอาไว้
ตู้มมม ~!
คลื่นพลังทำลายอันแข็งแกร่งถูกส่งออกมาอย่างบ้าคลั่ง
“เหอะ ”
หลินเทียนส่งเสียงแสยะออกมาก่อนที่จะเหวี่ยงหมัดสวนกลับไป
มันเป็นหมัดธรรมดาๆไม่ใช่ทักษะเทวะใดๆแต่ทว่ากลับแฝงไปด้วยพลังทำลายล้างที่บดขยี้การโจมตีทุกอย่างของอีกฝ่ายจนสลายหายไป
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่ร่างของทั้งสามคนได้ถูกกระแทกจนลอยเคว้งออกไปไกลด้วยสภาพร่างกายที่แตกร้าว
มันเป็นพลังทำลายที่สามารถบดขยี้ได้ทุกสิ่ง !
หัวใจของบรรพบุรุษตระกูลหวูและคนอื่นๆในตอนนี้ได้แต่สั่นสะท้านหลังจากทักษะเทวะของพวกเขาไร้ผลแถมหลินเทียนเองยังตอบโต้กลับมาเพียงแค่หมัดธรรมดาทว่ามันทรงพลังถึงขั้นที่ทำให้ร่างกายของพวกเขาแตกร้าว
นี่ทำให้สีหน้าของพวกเขาดูน่าเกลียดลงอย่างมากก่อนที่จะหันมองไปทางกันและกันพร้อมทั้งหันหลังพุ่งหนีไป
เป็นเพราะพวกเขาตระหนักดีว่าไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถต่อกรกับหลินเทียนได้อย่างแน่นอน
“คิดจะหนีงั้นรึ ? ”
เสียงแสยะถูกส่งออกมาจากทางหลินเทียนขณะที่เขาพุ่งออกไปพร้อมทั้งสังเวยพลังเทวะที่หลงเหลืออยู่ออกมาปิดกั้นพื้นที่โดยรอบทั้งหมดเอาไว้
นี่ทำให้อีกฝ่ายได้แต่ผงะไปเนื่องจากมิติรอบข้างได้ถูกปิดกั้นเอาไว้อย่างสมบูรณ์แบบ
มันเป็นเวลาเดียวกันนี้เองที่ร่างของหลินเทียนได้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของพวกเขาพร้อมทั้งเหวี่ยงหมัดอันทรงพลังเข้าใส่อย่างไม่รอช้า
บรรพบุรุษทั้งหลายได้แต่พากันแสดงสีหน้าที่หวาดหวั่นออกมาพร้อมทั้งสังเวยทักษะเทวะรวมถึงปรากฏการณ์ทะเลความรู้ออกมารับเอาไว้
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับหมัดอันไร้เทียมทานของหลินเทียนแล้วทักษะเทวะทั้งหมดของพวกเขากลับถูกบดขยี้จนกลายเป็นเสี่ยงๆเหลือไว้เพียงประกายระยิบระยับอยู่กลางม่านฟ้าเท่านั้น
“วิ้สส ! ”
หลินเทียนพุ่งผ่านอากาศออกไปปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของบรรพบุรุษตระกูลหวูอย่างรวดเร็ว
นี่ทำให้อีกฝ่ายได้แต่รีบก้าวถอยหลังกลับไป
น่าเสียดายที่ความเร็วของหลินเทียนมันสูงกว่าอีกฝ่ายเป็นอย่างมากพร้อมทั้งยื่นมือขวาออกไปคว้าร่างอีกฝ่ายเอาไว้
“ได้โปรด…”
“บึ้สส ~! ”
หลินเทียนได้ใช้มือขวาคว้าร่างของอีกฝ่ายเอาไว้พร้อมทั้งซัดมือซ้ายเข้าใส่อย่างโหดเหี้ยม
พุฟฟ ~!
อีกฝ่ายไม่สามารถเบี่ยงหลบไปไหนได้ก่อนที่ร่างกายของชายชราจะระเบิดออกเป็นชิ้นๆเหลือไว้เพียงดวงวิญญาณที่พุ่งหนีไปอย่างยากลำบาก
หลินเทียนแสยะออกมาก่อนที่จะเหวี่ยงหมัดอันทรงพลังอัดเข้าใส่ดวงวิญญาณของชายชราอย่างจัง
มิติโดยรอบแหลกสลายหายไปขณะที่คลื่นพลังทำลายกวาดออกไปรอบทิศทางทำให้ผู้คนที่อยู่รอบๆถึงกับรู้สึกท้องไส้ปั่นป่วน
บรรพบุรุษตระกูลหวูได้แต่สั่นสะท้านไปด้วยความกลัวพร้อมทั้งส่งเสียงออกมาว่า
“ได้…….”
เสียงกรีดร้องโหยหวนถูกส่งตามออกมาก่อนที่ดวงวิญญาณของอีกฝ่ายจะแหลกสลายหายไป
หลังจากบรรพบุรุษตระกูลจ้าวแล้วตระกูลหวูก็ตกตายลงไปตามๆกัน
“เฮือก ! ”
บรรพบุรุษตระกูลเจียงที่อยู่ด้านหลังถึงกับอดสูดหายใจเข้าลึกไปไม่ได้เพราะไม่คิดเลยว่าหลินเทียนจะควบคุมร่างของนิรันดร์แท้จริงสังหารผู้เชี่ยวชาญเขตแดนอนันตกาลตอนปลายถึงสองคนลงได้ง่ายๆแบบนี้
จระเข้เบญจธาตุถึงกับส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งเพราะมันรู้สึกสะใจเป็นอย่างมากที่คนที่คิดปล้นชิงทรัพย์พวกเขาได้ตกตายลงเสียเองแบบนี้
เสี่ยวไท่ชูเองก็ส่งเสียงร้องออกมาพลางโบกกรงเล็บของมันเพื่อแสดงความรู้สึกแบบเดียวกับจระเข้เบญจธาตุออกมา
ด้านหน้าพวกเขาเหลือเพียงบรรพบุรุษสองคนจากนิกายสังหารเทพและนิกายต้าเฮิงที่มีสีหน้าที่ตกต่ำเป็นอย่างมากเพราะไม่คิดเลยว่าสถานการณ์จะกลับกลายเป็นแบบนี้ไปเสียได้
ชายชรานิกายสังหารเทพได้หันมองไปทางหลินเทียนพร้อมทั้งพูดออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า
“สหายตัวน้อย พวกเราผิดเองที่คิดจะสร้างปัญหาให้กับเจ้า เฒ่าคนนี้ขออภัย มันพอจะมีวิธีให้เราญาติดีกันอีกได้รึไม่ ? ”
“คิดว่าสมองข้ามีปัญหาหรือไงกัน ? ”
หลินเทียนแสยะออกมา
เป็นเพราะกลุ่มคนเหล่านี้คิดจะฆ่าชิงทรัพย์ของเขาแล้วหลังจากที่รู้ว่าสู้ไม่ได้ถึงได้อยากให้เขาปล่อยมันไป ? คิดว่าเขาเป็นคนโง่หรือไงกัน ?
เขาพุ่งออกไปปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของอีกฝ่ายภายในชั่วพริบตา
หลังจากนั้นก็ยังทำเพียงแค่เหวี่ยงหมัดออกไปอย่างจังเท่านั้น
อีกฝ่ายได้แต่แสดงสีหน้าที่โกรธและหวาดกลัวออกมาในเวลาเดียวกันพร้อมทั้งสังเวยอาวุธอนันตกาลตอนปลายออกมารับการโจมตีนี้เอาไว้
สัจธรรมทั้งหลายของอีกฝ่ายได้แหลกสลายหายไปก่อนที่อาวุธอนันตกาลจะแตกร้าวและระเบิดออก
“น่าเสียดายจริงๆ ”
จระเข้เบญจธาตุรู้สึกเสียดายอย่างมากเพราะอาวุธที่ล้ำค่าแบบนั้นกลับถูกทำลายลงแบบนี้
วินาทีที่มันถอนหายใจออกมา หมัดของหลินเทียนก็ได้บดขยี้ทุกสิ่งอย่างลงจนไม่มีเหลือก่อนที่จะปะทะเข้ากับร่างของชายชราอย่างจัง
“ทึ้มม ~! ”
หมัดอันทรงพลังส่งเสียงฟ้าร้องดังสนั่นหวั่นไหวออกมา
มันเป็นไปไม่ได้เลยที่อีกฝ่ายจะเบี่ยงหลบได้ดังนั้นถึงได้แหลกสลายเหลือไว้เพียงดวงวิญญาณที่พยายามจะพุ่งหนีไปแต่ก็ถูกหลินเทียนคว้าเอาไว้แล้วฉีกออกจนตายทั้งเป็น
ณ ตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญเขตแดนอนันตกาลที่มาที่นี่ทั้งหมดเหลืออยู่เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น
หลินเทียนหันมองออกไปทางชายชราคนสุดท้ายพร้อมทั้งก้าวเดินออกไป
“สหายตัวน้อยโปรดเมตตา ! เฒ่าคนนี้พร้อมชดใช้ตราบเท่าที่สหายตัวน้อยต้องการอะไรข้าก็จะสนองให้โดยทันที ”
ชายชราส่งเสียงสั่นๆออกมาเพราะไม่อยากจะตายไปเหมือนๆกับคนอื่นๆ
เป็นเพราะหากตายลงแล้วก็จะไม่หลงเหลืออะไรอีกต่อไป
“ไม่จำเป็นหรอก หลังจากที่ข้าฆ่าเจ้าไปแล้วทุกอย่างที่เจ้าครอบครองก็จะกลายเป็นของข้าอยู่ดี ”
หลินเทียนพูดออกมา
นี่ทำให้ชายชราได้แต่สั่นสะท้านไปพร้อมๆกับพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆว่า
“นี่เจ้า…คิดจะ…ทำลายขุมพลังของข้า ?! ”
เป็นเพราะแม้ว่าภายในนิกายของเขามีทั้งข่ายอาคมสังหารเขตแดนนิรันดร์แท้จริงและอาวุธนิรันดร์แท้จริงอยู่ก็จริงแต่ทว่าหลินเทียนกลับมีร่างของนิรันดร์แท้จริงอยู่ดังนั้นหากว่าหลินเทียนอาศัยร่างนี้บุกเข้าไปก็จะไม่มีใครสามารถขวางทางหลินเทียนได้เลยแม้แต่น้อย
“มันก็ต้องดูก่อนว่าพวกเจ้าต้อนรับข้าอย่างไร หากว่ายังกล่าคิดจะเป็นศัตรูกับข้าเพื่อชิงเอาสมบัติของข้าแล้วข้าก็จะทำลายมันทิ้งไปแต่หากว่าพวกมันว่านอนสอนง่ายข้าก็แค่ชิงเอาสมบัติพวกมันแล้วปล่อยพวกมันไป ”
หลินเทียนตอบกลับ
หลังจากที่พูดจบแล้วเขาก็พุ่งเข้าประชิดร่างของอีกฝ่ายอย่างฉับพลัน
“หยุด……”
“พุฟฟ ! ”
หลินเทียนเหวี่ยงหมัดอันทรงพลังอัดเข้าใส่ร่างของชายชราจนแหลกสลายหายไปพร้อมทั้งบดขยี้ดวงวิญญาณของอีกฝ่ายไปอย่างไม่รอช้า
นับนากนี้เป็นต้นไป บรรพบุรุษของขุมพลังทั้งสี่ได้ตกตายลงอย่างสมบูรณ์แล้ว !
“นี่….”
บรรพบุรุษตระกูลเจียงที่อยู่ห่างออกไปได้แต่จ้องมองไปทางเขาด้วงดวงตาที่หดเล็กลงอย่างมาก
การที่สามารถสังหารเขตแดนอนันตกาลตอนปลายได้สี่คนภายในเวลาสั้นๆนี้มันเป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆ
จระเข้เบญจธาตุส่งเสียงหัวเราะออกมาว่า
“ตราบเท่าที่มีร่างๆนี้เราไร้เทียมทานภายใต้เขตแดนนิรันดร์แท้จริงอย่างสมบูรณ์ ”
เป็นเพราะความแข็งแกร่งที่หลินเทียนแสดงออกมามันน่าตกตะลึงอย่างมาก
หลินเทียนที่อยู่ใจกลางสนามรบเองก็ได้หันหลังพุ่งออกไปหยุดอยู่ตรงหน้าร่างกายหยาบของเขาพร้อมทั้งกลับคืนร่างเก่าแล้วเก็บเอาร่างนิรัดนร์แท้จริงกลับเข้าไปภายในโลกใบเล็กของเขา
“ไม่สะดวกเท่าร่างกายของตัวเองจริงๆ ”
เขาพึมพำอยู่กับตัวเอง
เป็นเพราะว่าร่างนี้มันแข็งแกร่งเกินไปทำให้ดวงวิญญาณที่ใช้ควบคุมมันเองก็รู้สึกแย่ไม่แพ้กัน
หลังจากนั้นเขาก็ได้หันไปพูดขอบคุณบรรพบุรุษตระกูลเจียงว่า
“ขอบคุณท่านผู้อาวุโสมากๆขอรับ ”
บรรพบุรุษตระกูลเจียงได้ส่ายศีรษะพร้อมตอบกลับด้วยรอยยิ้มฝืนๆว่า
“อย่าขอบคุณไปเลย เฒ่าคนนี้ไม่ได้ทำอะไรด้วยซ้ำ ”
เป็นเพราะว่าก่อนที่จะออกมาเขาคิดไว้แล้วว่าพร้อมที่จะเสียสละเพื่อปกป้องหลินเทียนกลับไปให้ได้แต่ไม่คิดเลยว่าหลินเทียนจะมีร่างนิรันดร์แท้จริงอยู่แถมยังใช้มันสังหารศัตรูลงได้ง่ายๆแบบนี้นี่มันทำให้เขาทำตัวไม่ถูกไปทันทีเพราะเหมือนว่าเขาไม่จำเป็นต้องมาเลยด้วยซ้ำ
“ท่านผู้อาวุโส แม้ว่าท่านจะไม่ได้ทำอะไรแต่แค่คิดที่จะช่วยรุ่นเยาว์ก็ทำให้รุ่นเยาว์ซาบซึ้งแล้วดังนั้นต้องขอบคุณขอรับ ”
หลินเทียนตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
บรรพบุรุษตระกูลเจียงได้โบกมือพร้อมทั้งพูดว่า
“เอาล่ะ แล้วคิดจะไปไหนต่อ ? กลับไปที่ตระกูลเจียงกับเฒ่าคนนี้ไหม เหลาเหลาดูเป็นห่วงเจ้ามากเลยนะ ”