Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1461
หลินเทียนที่ได้ยินเช่นนั้นได้คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“รุ่นเยาว์ยังมีเรื่องวุ่นให้จัดการอีกพักหนึ่งดังนั้นขอช่วยท่านผู้อาวุโสกลับไปบอกเหลาเหลาด้วยว่าไม่ต้องเป็นห่วงแล้วรุ่นเยาว์จะกลับไปหลังจากที่เสร็จเรื่องทางนี้แล้ว”
บรรพบุรุษตระกูลเจียงได้แต่ผงะไปเพราะแม้จะได้ยินอยู่ว่าหลังจากที่จัดการบรรพบุรุษทั้งหลายไปแล้วหลินเทียนจะมุ่งตรงไปยังขุมพลังของนิกายตงเฮิงเพื่อปล้นเอาทรัพยากรทั้งหมดไปดังนั้นแล้วก็คงไม่ปล่อยขุมพลังอื่นๆเอาไว้แน่ๆ
ณ ตอนนี้เขาก็ได้แต่พยักหน้าพร้อมทั้งพูดว่า
“เอาล่ะ งั้นเฒ่าคนนี้ไม่รบกวนเจ้าแล้วกันเพราะในเมื่อสหายตัวน้อยมีร่างนิรันดร์แท้จริงแล้วขุมพลังทั้งสี่ก็คงไม่มีทางต่อต้านเจ้าได้อย่างแน่นอน ”
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันเป็นร่างที่แข็งแกร่งอย่างมากและเพียงแค่ความแข็งแกร่งทางร่างกายก็เพียงพอที่จะสามารถทำลายล้างข่ายอาคมทั้งหมดลงได้ง่ายๆ อย่าว่าแต่เรื่องที่เขาได้ยินมาจากเหลาเหลาก่อนแล้วว่าหลินเทียนนั้นถือครองอาวุธนิรันดร์แท้จริงเอาไว้ดังนั้นก็คงจะไม่เป็นปัญหาอะไรมากนัก
“หลังจากที่จัดการเรื่องทั้งหมดแล้วก็ตามมาที่ตระกูลของเราแล้วกัน พวกเราจะจัดงานเลี้ยงฉลองให้อย่างใหญ่โตเลยล่ะ ”
เขาพยักหน้าให้กับหลินเทียนด้วยรอยยิ้มพร้อมทั้งหันหลังจากไปอย่างรวดเร็ว
หลินเทียนได้แต่มองออกไปจนร่างของชายชราเลือนหายไปก่อนที่จะหันมองไปทางจระเข้เบญจธาตุและเสี่ยวไท่ชูแล้วพูดว่า
“ไปเยี่ยมขุมพลังทั้งหลายกันเถอะ ”
“ขุมพลังทั้งสี่นั้นมีอาวุธนิรันดร์แท้จริงอยู่ดังนั้นเราก็ไปชิงกลับมาให้หมดกันเลย ข้าล่ะตั้งหน้าตั้งตารอเลยล่ะ ! ”
ดวงตาของจระเข้เบญจธาตุส่องประกายออกมา
ณ ตอนนี้พวกเขาต่างพากันเหาะออกไปยังสถานที่แห่งหนึ่งอย่างรวดเร็ว
แทบจะในเวลาเดียวกันนี้เองที่ขุมพลังทั้งหลายต่างสั่นสะท้านไปด้วยความกลัวหลังจากที่พบว่าตะเกียงวิญญาณของบรรพบุรุษตัวเองได้ดับลง
“นี่ท่าน…บรรพบุรุษ…ได้ตกตายลงแล้ว ?! ”
“ไม่ใช่ว่าท่านบรรพบุรุษออกไปแกะรอยตามชายที่ครองครองกลุ่มก้อนพลังงานเจ็ดวีนั่นหรือไง…….”
“เป็นไปได้อย่างไรกัน ?! ”
“ท่านบรรพบุรุษเป็นถึงอนันตกาลตอนปลาย ! ไม่ใช่ว่าชายคนนั้นยังไม่อยู่ในเขตแดนอนันตกาล ?! เป็นไปได้อย่างไรที่จะสามารถสังหารท่านได้…..”
“นี่……”
ขุมพลังทั้งสี่พากันแสดงสีหน้าที่หวาดหวั่นออกมาตามๆกัน
หลินเทียนเองก็พากันเหาะต่อไปโดยที่ก้าวข้ามภูเขาและแม่น้ำไปมากมาย
หลังจากที่ผ่านไปได้ไม่กี่ชั่วโมงพวกเขาก็พากันมุ่งหน้าเข้าไปภายในตระกูลจ้าวโดยทันที
“บรรพบุรุษของพวกเจ้าได้ถูกพวกเราสังหารไปแล้วดังนั้นหากว่ายังรู้ขีดจำกัดก็อย่าขัดขืนแล้วส่งมอบสมบัติทั้งหมดมาไม่งั้นพวกข้าจะทำลายล้างขุมพลังพวกเจ้าทิ้งให้หมด ! ”
จระเข้เบญจธาตุส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดัง
ระหว่างนี้มันก็ได้สร้างภาพร่างจิตสัมผัสขณะที่หลินเทียนใช้ร่างนิรันดร์แท้จริงสังหารบรรพบุรุษทั้งหลายของอีกฝ่ายไปจนหมดทำให้สีหน้าของผู้คนโดยรอบถึงกับหวาดหวั่นไปตามๆกัน
หลังจากนั้นหลินเทียนก็ได้สังเวยเอาร่างนิรันดร์แท้จริงออกมาพร้อมทั้งสวมวิญญาณเข้าใส่พลางปลดปล่อยกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวออกมาทำให้ผู้คนโดยรอบได้แต่พากันแสดงสีหน้าที่หวาดกลัวออกมา
“พะ….พวกเราจะไม่ต่อต้าน”
ผู้นำตระกูลจ้าวส่งเสียงสั่นๆออกมาพลางพูดต่อว่า
“พวกเราจะยกสมบัติทุกอย่างให้แต่โดยดี ”
เป็นเพราะว่าบรรพบุรุษของพวกเขาได้ถูกสังหารลงไปแล้วส่วนผู้อาวุโสสูงสุดเองก็ถูกฆ่าตายไปก่อนนานแล้วทำให้ตอนนี้คนที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่ในเขตแดนนิรันดร์อมตะตอนกลางเท่านั้นแล้วจะให้ไปสู้กับหลินเทียนได้อย่างไรกัน ? ต่อให้มีข่ายอาคมและอาวุธนิรันดร์แท้จริงก็ไม่เพียงพอที่จะต่อต้านได้และจะจบลงที่ตระกูลพวกเขาที่ต้องล่มสลาย
“เป็นทางเลือกที่ดีมากๆ ”
หลินเทียนส่งเสียงออกมา
เป็นเพราะว่าตระกูลจ้าวไม่สามารถต่อต้านเขาได้ดังนั้นถึงได้รีบชิงเอาทรัพยากรทั้งหมดไปรวมถึงอาวุธนิรันดร์แท้จริง อาวุธอนันตกาลและคริสตัลวิญญาณกว่าแสนล้านกิโลกรัมและยาทิพย์อื่นๆอีกมากมาย
“ทำใจซะเถอะ ทีหลังก็อย่าคิดว่าตระกูลตัวเองแข็งแกร่งถึงได้กล้าไปยั่วยุคนอื่นๆเอาง่ายๆไม่งั้นจะไปเจอเข้ากับคนที่พวกเจ้าไม่สามารถล่วงเกินได้อีก ”
หลินเทียนพูดออกมา
ท้ายที่สุดเขาก็ได้กวาดสายตามองไปยังผู้นำตระกูลจ้าวและคนอื่นๆก่อนที่จะหันหลังเดินจากไป
ใบหน้าของผู้นำตระกูลจ้าวและคนอื่นๆในตอนนี้ซีดเผือดเป็นอย่างมากและได้แต่มองหลินเทียนเดินจากไปพร้อมๆกับสมบัติของพวกเขาด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดรวดร้าวแต่ก็ทำได้เพียงแต่กัดฟันเอาไว้จนถึงช่วงที่หลินเทียนและคนอื่นๆจากไปแล้วส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดังเท่านั้น
หลินเทียนและคนอื่นๆได้เดินทางออกไปจากตระกูลจ้าวไปไกลมากแล้วก็จริงแต่ก็สามารรถได้ยินเสียงคำรามดังสนั่นหวั่นไหวได้อยู่ดีทว่าพวกเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรและมุ่งหน้าต่อไปยังขุมพลังอื่นๆ
เป็นเพราะว่ามันเป็นขุมพลังที่ยิ่งใหญ่ดังนั้นที่ตั้งถึงได้ไม่เป็นความลับอะไร
ไม่นานพวกเขาก็พากันมุ่งหน้าไปถึงนิกายตงเฮิง นิกายสังหารเทพพร้อมทั้งสังเวยเอาร่างนิรันดร์แท้จริงออกมาขณะที่จระเข้เบญจธาตุฉายภาพร่างจิตสัมผัสตอนที่สังหารบรรพบุรุษทั้งหลายออกไปทำให้อีกฝ่ายไม่กล้าขัดขืนและยอมส่งมอบสมบัติทั้งหมดอย่างเชื่อฟัง
ท้ายที่สุดพวกเขาก็ไปถึงตระกูลหวูเป็นที่สุดท้าย
พลังฉีภายในสถานที่แห่งนี้เข้มข้นและไม่ธรรมดาแถมยังรายล้อมไปด้วยอักขระมากมายซึ่งหลังจากที่พวกเขาก้าวเข้ามาแล้วก็ฉายภาพแบบเดียวกันออกไปทำให้ผู้คนโดยรอบได้แต่พากันสั่นไหวไปตามๆกัน
แต่แน่นอนว่าคนที่หวาดกลัวที่สุดนั้นคือนายน้อยตระกูลหวูอย่างหวูซี่ที่มีใบหน้าซีดเผือดเนื่องจากเขาเคยส่งมือสังหารออกไปฆ่าหลินเทียนถึงสองครั้งแต่ก็ไม่คิดเลยว่าหลินเทียนจะแข็งแกร่งถึงขั้นที่ถือครองร่างนิรันดร์แท้จริงเอาไว้ทำให้สังหารได้แม้กระทั่งเขตแดนอนันตกาลตอนปลาย
เขาเป็นคนส่งคนออกไปสังหารหลินเทียนถึงสองครั้งแต่ไม่คิดเลยว่าคนๆนั้นจะแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้
ณ ตอนนี้เขาได้แต่จ้องมองไปทางหลินเทียนพร้อมๆกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆว่า
“สหาย…หลิน……”
“ไงเจ้าหวูซี่ ได้พบกันอีกแล้วนะ ”
จระเข้เบญจธาตุได้เย้ยหยันออกมา
หลินเทียนไม่อยากจะสนทนากับอีกฝ่ายพร้อมทั้งส่งคลื่นกระบี่อันทรงพลังพุ่งออกไป
พุฟฟ ~
ร่างของหวูซี่ได้ระเบิดออกพร้อมๆกับดวงวิญญาณที่แหลกสลาย
“บรรพบุรุษของเจ้าถูกสังหารลงเพราะคิดจะชิงเอาสมบัติของข้า ”
หลังจากนั้นเขาก็ได้หันไปมองที่ผู้นำตระกูลหวูและคนอื่นๆพลางพูดว่า
“ข้าเป็นคนที่ไม่ชอบถูกเอาเปรียบดังนั้นในเมื่อบรรพบุรุษของพวกเจ้าคิดจะฆ่าข้าดังนั้นตระกูลของเจ้าก็ต้องชดใช้ดังนั้นจงส่งมอบอาวุธนิรันดร์แท้จริงและสมบัติอื่นๆมาซะแล้วข้าจะทำเป็นเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่งั้นชะตากรรมของพวกเจ้าจะกลายเป็นแบบเดียวกันกับของตำหนักป้าว ”
นี่ทำให้ผู้นำตระกูลหวูและคนอื่นๆได้แต่สั่นสะท้านไปด้วยความกลัวเพราะพวกเขาเห็นภาพร่างจิตสัมผัสที่จระเข้เบญจธาตุแสดงออกมาดีว่าถึงอย่างไรก็สามารถต่อต้านหลินเทียนได้ถึงแม้จะใช้อาวุธนิรันดร์แท้จริงและข่ายอาคมสังหารก็ตามที
หลังจากที่พวกเขาทำแบบนั้นไปแล้วขุมพลังของพวกเขาก็จะกลายเป็นอดีตไปทันทีซึ่งการที่ขุมพลังที่สืบเชื้อสายกันมาเนิ่นนานต้องล่มสลายลงแบบนี้มันใช่ความเสี่ยงที่พวกเขาจะรับได้
พวกเขายังไม่อยากตายและไม่อยากให้ตระกูลของตัวเองต้องหายไปจากดาวดวงนี้
“เรา……ยอมจำนน ! ”
ผู้อาวุโสสูงสุดที่หนึ่งได้ส่งเสียงกัดฟันพูดออกมา
“ดีมากๆ ”
หลินเทียนตอบกลับ
เขา จระเข้เบญจธาตุและคนอื่นๆต่างพากันยึดเอาทรัพยากรทั้งหมดไปก่อนที่จะหันหลังแล้วเดินจากไปจากสถานที่แห่งนี้
“อ๊ากก !!!”
ผู้อาวุโสสูงสุดและผู้มีอำนาจทั้งหลายพากันส่งเสียงคำรามออกมาด้วยความเจ็บแค้น
………..
หลินเทียนและคนอื่นๆพากันจากไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็จากสถานที่แห่งนี้ไปไกลแสนไกลขณะที่จระเข้เบญจธาตุแสดงท่าทางที่ตื่นเต้นออกมา
“ครั้งนี้โชคดีไม่น้อยเลยนะ ! ”
เป็นเพราะหากรวมเอาทรัพยากรทั้งหมดที่ได้มานั้นพวกเขาได้รับอาวุธนิรันดร์แท้จริงถึงสี่ชิ้น อาวุธอนันตกาลอีกยี่สิบหกชิ้น คริสตัลวิญญาณกว่าสี่แสนล้านกิโลกรัมและอื่นอีกมากมาย
หลินเทียนสังเวยเอาอาวุธนิรันดร์แท้จริงสองชิ้นออกมาพร้อมทั้งลบตราประทับมันออกแล้วส่งให้กับจระเข้เบญจธาตุและเสี่ยวไท่ชู
“ยาทิพย์ของขุมพลังเหล่านี้น่าจะเพียงพอที่จะทำให้พวกเจ้าตัดผ่านเขตแดนนิรันดร์อมตะกันได้ หาที่เหมาะๆดูดกลืนมันแล้วกัน ”
เขาพูดออกมา
“ได้ ข้าเองก็คิดแบบเดียวกัน ”
ดวงตาของจระเข้เบญจธาตุเปล่งประกายออกมา
หลินเทียนพยักหน้าของเขาพร้อมทั้งค้นหาสถานที่ปลอดภัยๆที่อยู่ไม่ไกลก่อนที่จะวางข่ายอาคมปิดกั้นเอาไว้และเอายาทิพย์ทั้งหลายออกมาซึ่งแม้ว่ามันจะไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับจระเข้เบญจธาตุและเสี่ยวไท่ชูมากนักแต่หากนำมันมารวมกันแล้วก็คงเพียงพอที่จะทำให้ทั้งสองตัดผ่านเขตแดนนิรันดร์อมตะได้