Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1463
ชายชราคนนี้มันน่ากลัวเกินไปแล้ว แม้ว่าจะมีสภาพไม่ต่างจากซากศพแต่มันกลับให้ความรู้สึกที่น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก
สายตาของอีกฝ่ายลึกล้ำและเย็นยะเยือกอย่างมาก
“หนีเร็วเจ้าหนู ! ”
จระเข้เบญจธาตุได้ส่งเสียงออกมา
หลินเทียนได้หันมองออกไปด้วยสีหน้าที่น่าเกลียดเป็นอย่างมากพร้อมทั้งสังเวยทักษะก้าวย่างแห่งสวรรค์ออกมาจนถึงขีดสุดแล้วพุ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
ทว่ามันก็ยังไม่เพียงพอที่จะทิ้งระยะห่างออกจากชายชราเพราะอีกฝ่ายสามารถเข้าประชิดร่างของเขาได้อย่างง่ายดายแถมยังคว้าฝ่ามืออันทรงพลังเข้าใส่ทางเขาและคนอื่นๆ
หลินเทียนและคนอื่นๆได้แต่รู้สึกขนหัวลุกไปตามๆกันและได้แต่มองไปยังฝ่ามือยักษ์ที่กดทับเข้าใส่โดยมิอาจขัดขืนได้
“ข้าเองก็ตัดผ่านเขตแดนนิรันดร์อมตะมาได้ไม่นานแต่กลับต้องกลายเป็นศพที่กองอยู่กับพื้นไป ?! ”
จระเข้เบญจธาตุถึงกับอยากร้องไห้ออกมา
เสี่ยวไท่ชูเองก็ได้แต่จ้องมองออกไปและพยายามที่จะทำลายการพันธนาการนี้แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไร้ผลเนื่องจากอีกฝ่ายมันแข็งแกร่งจนเกินไป
ตู้มม
ฝ่ามือของอีกฝ่ายได้เข้าประชิดร่างของพวกเขาอย่างรวดเร็ว
“บึ้สส ! ”
มันเป็นตอนนี้เองที่ห่วงจักรวาลได้สั่นไหวก่อนที่คลื่นพลังอันหนักหน่วงจะกวาดเข้าใส่อย่างรุนแรง
ปรากฏร่างของสัตว์อสูรที่รายล้อมไปด้วยเกล็ดสีดำทมิฬบนร่างกายที่ใหญ่โตไม่ได้ด้อยไปกว่าดวงดาวขึ้นตรงหน้าของพวกเขา
“โร๊ววว ! ”
ก่อนหน้านี้มันจำศีลอยู่ที่นี่และถูกปลุกขึ้นด้วยเสียงการปะทะกันทำให้มันรู้สึกโกรธจัดเป็นอย่างมากพร้อมทั้งส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดังทำให้ห้วงจักรวาลที่อยู่โดยรอบถึงกับปริแตก
ฝ่ามือของชายชราถูกกระแทกกลับไปทำให้การปิดกั้นทั้งหมดสลายหายไปอย่างฉับพลัน
เสียงพุ่งผ่านอากาศถูกส่งออกมาขณะที่หลินเทียนและคนอื่นๆต่างพากันพุ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
เป็นเพราะเมื่อครู่พวกเขาเพิ่งเกือบจะตายลงด้วยเงื้อมมือของอีกฝ่าย
“นั่นมัน …….. อสูรดวงดารา ?”
จระเข้เบญจธาตุได้แต่จ้องมองกลับไป
“น่าจะใช่”
หลินเทียนตอบกลับด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
เป็นเพราะว่ามันมีบันทึกเกี่ยวกับอสูรดวงดาราอยู่ว่ามันถือเป็นหายนะแห่งห้วงจักรวาลที่มีพละกำลังที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
อีกฝ่ายเป็นอสูรที่อยู่ท่ามกลางห้วงจักรวาลซึ่งอาศัยการดูดกลืนแก่นพลังจากดาวเป็นอาหารทำให้แข็งแกร่งถึงขั้นสังหารเขตแดนอนันตกาลลงได้ง่ายๆ
“โร๊วว ~! ”
อสูรดวงดาราส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดังด้วยคลื่นพลังที่ทำให้ท้องไส้ของพวกเขาปั่นป่วนอย่างรุนแรง
ดวงตาขนาดใหญ่ของมันจ้องมองออกไปขณะที่มันอ้าปากดูดกลืนแก่นดาวที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลรวมถึงร่างของชายชราเข้าไปด้วย
จระเข้เบญจธาตุได้แต่ผงะไปพร้อมทั้งส่งเสียงหัวเราะออกมาว่า
“ไอ้แก่นั่นโชคร้ายจริงๆเลยนะ ! สมน้ำหน้ามัน ! ”
หลินเทียนเองก็ผงะไปไม่น้อยเพราะไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะถูกกินไปง่ายๆแบบนี้เลย ?
อสูรดวงดาราร่างยักษ์ที่กลืนชายชราลงไปแล้วได้หันมองมาทางเขาด้วยสายตาที่ดุร้ายอย่างเคย
“โร๊ววว ! ”
มันส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดังพร้อมทั้งสร้างแรงดึงดูดอันรุนแรงดูดเขาร่างของหลินเทียนและคนอื่นๆเข้าหาตัวเอง
ทว่ามันเป็นตอนนี้เองที่ร่างกายที่ใหญ่ยักษ์ของมันได้สั่นไหวก่อนที่จะส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนออกมาทำให้แรงดูดที่มีต่อหลินเทียนและคนอื่นๆสลายหายไป
พุฟฟฟ ~!
กองเลือดระเบิดออกมาจากช่องท้องของมันขณะที่ชายชราก้าวเดินออกมาด้วยร่างกายที่ชโลมไปด้วยเลือด
หลินเทียนและคนอื่นๆที่เห็นเช่นนั้นถึงกับอดสั่นไปไม่ได้เพราะชายชราคนนั้นสามารถฉีกหน้าท้องของอีกฝ่ายออกมาได้โดยที่ไม่ได้รับความเสียหายใดๆเลยแม้แต่น้อย
ช่องท้องที่ถูกฉีกออกทำให้เลือดไหลทะลักออกมาไม่หยุด
อย่างไรก็ตามพลังแห่งดวงดาราได้พวยพุ่งออกมาจากร่างของมันพร้อมทั้งรีบรักษาอาการบาดเจ็บไปอย่างรวดเร็ว
ณ ตอนนี้มันได้แต่จ้องมองลงมาทางชายชราด้วยสายตาที่โกรธจัดถึงขีดสุดพร้อมทั้งส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดังก่อนที่จะอ้าปากงับเข้าใส่ร่างของชายชราอย่างไม่รอช้า
ครั้งนี้มันไม่ได้คิดจะกลืนร่างของชายชราลงไปอีกแต่ต้องการจะเคี้ยวร่างของอีกฝ่ายให้ตายคาปากของมัน
วินาทีนี้เองที่ปากของมันได้อ้าออกกว้างพร้อมทั้งเผยให้เห็นซี่ฟันที่ให้ความรู้สึกน่าสยดสยองเป็นอย่างมาก
ชายชรายังคงแสดงสีหน้าที่ราบเรียบออกมาโดยที่สายตาของเขายังคงจับจ้องไปทางหลินเทียนและไม่ได้สนใจอสูรดวงดาราเลยแม้แต่น้อย เขาทำเพียงแค่ยกมือขึ้นมาพร้อมทั้งส่งคลื่นลำแสงสีดำออกไป
มันเป็นลำแสงที่เย็นยะเยือกและหม่นหมองเป็นอย่างมากก่อนที่จะทะลวงเข้าใส่ร่างของอีกฝ่ายไป
วินาทีนี้เองที่อสูรดวงดาราได้สั่นไหวอย่างรุนแรงพร้อมทั้งส่งเสียงกรีดร้องดังสนั่นหวั่นไหวออกมาก่อนที่ร่างกายจะระเบิดออกแล้วตกตายลงโดยทันที
กองเลือดสีแดงสดเจิ่งนองไปทั่วพื้นที่แห่งนี้
หลินเทียนและคนอื่นๆที่อยู่ห่างออกไปได้แต่อดสั่นไปไม่ได้
“นี่มัน…….”
ดวงตาของจระเข้เบญจธาตุถึงกับเบิกกว้างขึ้น
เสี่ยวไท่ชูได้แต่รู้สึกขนหัวลุกไปด้วยร่างกายที่สั่นๆของมัน
หลินเทียนเองก็รู้สึกชาไปทั้งตัวไม่ต่างกัน
เป็นเพราะว่าอสูรดวงดารานั้นเป็นตัวตนที่น่ากลัวและถือได้ว่าเป็นหนึ่งในหายนะแห่งห้วงจักรวาลทว่ากลับถูกชายชราสังหารลงได้ง่ายๆแบบนี้
“ไอ้หนูรีบหนีกันเร็ว ! ”
จระเข้เบญจธาตุส่งเสียงสั่นๆออกมาเพราะว่าอีกฝ่ายมันแข็งแกร่งเกินไปถึงขั้นทำให้มันรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว
หลินเทียนเองก็รีบใช้พลังโอบร่างพวกเขาเอาไว้พร้อมทั้งพุ่งหนีไปอย่างไม่รอช้า
เป็นเพราะเมื่อต้องเผชิญหน้ากับตัวตนที่ร้ายกาจแบบนี้แล้วพวกเขาทำได้เพียงแค่หนีไปเท่านั้น
วิ้สส ! เสียงพุ่งผ่านอากาศถูกส่งออกมาขณะที่เขาพุ่งหนีไปไกลพร้อมๆกับคนอื่นๆ
ชายชราที่ยืนอยู่ด้วยร่างที่ชโลมไปด้วยเลือดของอสูรดวงดารายังคงจ้องมองไปทางทิศที่หลินเทียนพุ่งหนีไปพร้อมทั้งก้าวเทาออกไปโดยที่ใช้พลังปิดกั้นพื้นที่โดยรอบเอาไว้อีกครั้ง
หลังจากนั้นเขาก็เข้าประชิดร่างของหลินเทียนและคนอื่นๆ
หลินเทียนและคนอื่นๆต่างพากันมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวงและได้แต่จ้องมองไปยังร่างของชายชราที่กำลังพุ่งเข้ามาใกล้
หลินเทียนกัดฟันเอาไว้แน่นก่อนที่จะหยิบเอาตราจักรพรรดหยวนที่ได้มาก่อนหน้านี้แล้วพูดว่า
“อย่าขยับไม่งั้นข้าจะทำลายมัน ! ”
มันเป็นตราขนาดเท่าฝ่ามือสลักอักษรคำว่าหยวนเอาไว้ซึ่งเขารู้ดีว่ามันเป็นสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการแม้จะไม่รู้ว่ามีเอาไว้ทำอะไรได้ก็ตามแต่ก็ตระหนักดีว่าอีกฝ่ายให้ความสำคัญกับมันเอามากๆ
แต่ความเป็นจริงก็เป็นอย่างที่เขาคาดการณ์เอาไว้เพราะชายชราให้ความสำคัญกับมันมากถึงขั้นที่หยุดเท้าลงโดยทันที
ทว่ามันเป็นเพียงแค่ชั่วพริบตาเท่านั้นก่อนที่คลื่นพลังอันหนักหน่วงจะระเบิดออกมาโอบร่างของหลินเทียนเอาไว้
“อย่างเจ้าน่ะรึจะสามารถทำลายมันได้ ? ”
น้ำเสียงอันเย็นยะเยือกนี้ทำให้ผู้คนโดยรอบได้แต่รู้สึกสั่นสะท้านไป
“ครั้งนี้ซวยแล้วแน่ๆ ! ”
จระเข้เบญจธาตุส่งเสียงออกมา
สีหน้าของหลินเทียนในตอนนี้ดูน่าเกลียดเป็นอย่างมากเพราะไม่สามารถขยับได้แม้แต่น้อยและได้แต่มองไปยังคลื่นพลังทำลายล้างที่กำลังกดทับเข้ามา
บึ้สส !
มันเป็นตอนนี้เองที่ตราในมือของเขาได้ส่องประกายแสงอันทรงพลังออกมาพร้อมกระเพื่อมออกไปรอบทิศทาง
นี่ทำให้ฝ่ามือที่กำลังกดทับเข้าใส่ได้แหลกสลายหายไปก่อนที่ร่างของชายชราจะถูกกระแทกออกไปไกล
มิติโดยรอบได้กลับมาอยู่ในสภาพปกติทำให้พวกเขาสามารถขยับร่างกายได้อีกครั้ง
บึ้สส ~!
ตราในมือของเขาส่องประกายแสงที่อบอุ่นและยิ่งใหญ่ออกมาอย่างต่อเนื่อง
“นี่มัน……”
สีหน้าของเขาได้เปลี่ยนไปโดยทันที
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่คนอื่นๆก็ได้แต่แสดงสีหน้าที่ประหลาดใจออกมา
เป็นเพราะตั้งแต่ที่ได้รับมันมาเขาก็ใช้เวลาศึกษามันอยู่นานแต่ก็ไม่พบอะไรแถมยังไม่สามารถใช้งานมันได้แต่ครั้งนี้มันกลับเคลื่อนไหวด้วยตัวเองพร้อมทั้งส่งคลื่นพลังออกมากระแทกร่างของชายชราจนปลิวออกไปไกล
“บึ้สส ! ”
มันเป็นประกายแสงที่ทรงพลังเสมือนว่าสามารถคงอยู่ได้ตลอดไป
ชายชราที่ถูกกระแทกปลิวออกไปไกลได้พยุงร่างตัวเองกลับขึ้นมาอีกครั้งขณะที่สายตาจับจ้องไปยังตราที่อยู่ในมือของหลินเทียนอย่างไม่วางตา
เขาพุ่งออกมาพร้อมทั้งคว้ามือเข้าใส่หลินเทียนพลางพูดว่า
“เอามา ! ”
หลินเทียนผงะไปพร้อมทั้งซัดตรานี้เข้าใส่อีกฝ่าย
ตู้มม ~!
เสียงดังสนั่นหวั่นไหวถูกส่งออกมาขณะที่ร่างของชายชราถูกกระแทกปลิวออกไปไกลทำให้เลือดสาดกระจายไปทั่วพื้นที่
ภาพเหล่านี้ทำให้หลินเทียนและคนอื่นๆได้แต่โง่งมไปทันทีเพราะไม่สามารถสัมผัสถึงกลิ่นอายที่ร้ายกาจอะไรได้แต่กลับสามารถสร้างความเสียหายให้กับชายชราได้อย่างง่ายดาย
ชายชราได้พยุงร่างตัวเองกลับขึ้นมาด้วยสภาพหน้าอกที่เลือดไหลทะลักออกมาจากแผลเก่าที่เคยถูกหอกแทงเอาไว้ซึ่งแน่นอนว่าบาดแผลยังไม่หายดีสมบูรณ์
“ไอ้พวกมดปลวก ! ”
เขาจ้องมองไปทางหลินเทียนด้วยสายตาที่เย็นชาอย่างมากขณะที่คลื่นพลังอันหนักหน่วงได้ระเบิดออกมาอย่างบ้าคลั่งพร้อมทั้งคว้ามือเข้าใส่ทางหลินเทียน