Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1467
หมู่ดาวนั้นเป็นสถานที่ๆกว้างใหญ่อย่างมากซึ่งภายในห้วงจักรวาลนี้ก็เต็มไปด้วยหมู่ดาวมากมายที่บรรจุไปด้วยดวงดาวนับไม่ถ้วนซึ่งดาวจักรพรรดินี้ถือเป็นดาวที่โดดเด่นที่สุด
เป็นเพราะว่ามันได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดแห่งหมื่นหมูดาวทั้งปวงจึงได้ชื่อว่าเป็นแกนหลักของห้วงจักรวาลที่แท้จริง
แน่นอนว่าความหมายของมันคือดวงดาวอันดับหนึ่งในหมู่ดาวนับหมื่นๆ
“ไม่คิดเลยว่าจะมาโผล่อยู่ที่นี่ได้ ”
หลินเทียนได้แสดงสีหน้าที่ประหลาดใจออกมา
เป็นเพราะว่าเขาได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับมันมาจากตำราบันทึกโบราณที่ได้มาว่าโลกเองก็เคยได้อยู่ในระดับเดียวกันกับดาวดวงนี้ซึ่งถือว่าเป็นรองเพียงแค่ดาวดวงนี้ดวงเดียวเท่านั้น
“ดาวจักรพรรดินี้เป็นดาวที่แข็งแกร่งที่สุดและได้ยินมาว่ามีคนที่แข็งแกร่งถึงขั้นสามารถฉีกม่านจักรวาลระหว่างดินแดนนิรันดร์ได้ ”
จระเข้เบญจธาตุผงะไป
หลินเทียนเองก็รู้จักดาวดวงนี้เป็นอย่างดีทว่ากลับไม่รู้อะไรเกี่ยวกับดินแดนนิรันดร์เลยแม้แต่น้อยและรู้เพียงว่าเหนือไปจากห้วงจักรวาลเหล่านี้แล้วยังมีสถานที่ในตำนานอย่างดินแดนนิรันดร์อยู่อีก
หลังจากนั้นก็ได้ถามว่า
“อยากจะรู้เหมือนกันว่าการที่สามารถฉีกมิติไปยังดินแดนนิรันดร์ได้นี่ต้องอยู่ในระดับพลังอะไรกัน ? ”
“ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะในตำราไม่ได้มีบันทึกเอาไว้แต่อย่างน้อยๆก็ต้องเขตแดนนิรันดร์แท้จริง ”
หลินเทียนตอบกลับ
นี่ทำให้พวกเขาได้แต่พากันนิ่งเงียบไปทันที
ฟู้วว ~!
สายลมได้พัดผ่านเข้ามากระทบร่างของพวกเขาให้ความรู้สึกที่อบอุ่นและผ่อนคลายเป็นอย่างมาก
พริบตาพวกเขาก็ได้แต่จ้องมองไปยังโลกตรงหน้าอยู่นาน
“แล้วเราจะเอาไงกันต่อดีล่ะเจ้าหนู ? ”
จระเข้เบญจธาตุได้ส่งเสียงออกมา
หลินเทียนเองก็ยังไม่ทันคิดถึงได้ตอบกลับไปว่า
“ที่นี่เป็นดาวที่ทรงพลังอำนาจที่สุดถึงขั้นที่กว้างใหญ่กว่าดาวตงเฮิงหลายพันเท่าดังนั้นจึงขึ้นชื่อว่าเป็นดาวที่เหมาะแก่การบ่มเพาะที่สุดดังนั้นในเมื่อเราอุส่ามาถึงแล้วก็เก็บเกี่ยวประสบการณ์กัน จะได้ตัดผ่านเขตแดนอนันตกาลเสียที ”
“ข้าเองก็คิดแบบเดียวกัน ”
จระเข้เบญจธาตุส่งเสียงออกมาพลางพูดต่อว่า
“ข้าจะต้องตัดผ่านให้ได้ ”
“ไปสอบถามกันหน่อยว่ามีที่ไหนเหมาะกับการบ่มเพาะบ้าง ”
หลินเทียนพูดออกมา
นี่ทำให้พวกเขาต่างพากันออกเดินทางออกไปยังถนนแห่งหนึ่งอย่างรวดเร็ว
ตามถนนเองก็มีผู้คนสัญจรไปมากันอย่างมากมาย
“ได้ยินมาว่ามีคนค้นพบดินแดนบ่มเพาะภายในที่รกร้าง ? ถึงขั้นทำให้เขตแดนอนันตกาลเองก็ยังตื่นตัว ? ”
“ล้อเล่นหรือเปล่า ? ”
“ข้าจำได้ว่าที่นั่นมันไม่มีอะไรเลยด้วยซ้ำ ทำไมอยู่ดีๆถึงได้มีดินแดนบ่มเพาะที่ทำให้เขตแดนอนันตกาลเองก็ยังต้องสนใจ ?! ”
ผู้คนพากันส่งเสียงออกมา
หลินเทียนและคนอื่นๆที่ได้ยินเช่นนั้นเองก็อดประหลาดใจไปไม่ได้
เป็นเพราะพวกเขารู้ดีว่ามันเป็นสถานที่ๆให้กำเนิดสมบัติอันยิ่งใหญ่กว่าโลกภายนอกมาก
ตั้งแต่ที่เริ่มบ่มเพาะมาพวกเขาก็เคยเข้าไปภายในดินแดนบ่มเพาะมาแล้วหลายต่อหลายครั้งแถมยังได้รับประโยชน์มามากมายแต่ก็เพิ่งเคยได้ยินว่ามีแม้กระทั่งสถานที่ๆทำให้อนันตกาลเองก็ยังต้องสนใจ
“ขนาดเขตแดนอนันตกาลเองก็ยังสนใจนี่มัน……”
“แสดงว่าอย่างน้อยๆก็ต้องเป็นสถานที่ๆหาได้ยากยิ่งมากๆและมีม่านพลังที่แข็งแกร่งคอยป้องกันเอาไว้ทำให้เขตแดนอนันตกาลธรรมดาๆไม่สามารถฝ่าไปได้ ……นี่มัน…ใครเป็นคนค้นพบกัน ? ”
“ได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้มันมีคลื่นกระบี่สีครามพุ่งผ่านอากาศออกไปเฉือนห้วงมิติออกแล้วเผยให้เห็นดินแดนบ่มเพาะที่อยู่ภายใน ”
“เห็นเพียงแค่คลื่นกระบี่นั้นแต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร ? ”
“น่าจะใช่ ”
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญพากันส่งเสียงออกมาขณะที่มุ่งหน้าออกไปยังทิศทางหนึ่ง
แน่นอนว่ามันเป็นสถานที่ตั้งของดินแดนบ่มเพาะอย่างแน่นอน
หลินเทียนและคนอื่นๆที่ได้ยินบทสนทนานี้ก็ได้แต่พากันผงะไป
จระเข้เบญจธาตุหันมองมาทางเขาพร้อมทั้งพูดว่า
“เจ้าหนู ไอ้คลื่นกระบี่ที่ว่านี่มัน…..”
หลินเทียนเองก็อดตอบกลับไปแบบฝืนๆไม่ได้ว่า
“น่าจะเป็น…ฝีมือของข้าเอง ”
เป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้เขาได้ส่งคลื่นกระบี่สังหารไล่ล่าชายชราไปซึ่งส่วนหนึ่งของมันได้พุ่งทะลวงผ่านออกไปไกลและเป็นเส้นทางเดียวกันกับที่กลุ่มคนเหล่านี้กำลังมุ่งหน้าไปไม่มีผิด
แน่นอนว่ามันเป็นคลื่นกระบี่ที่เขาส่งออกไปเพื่อโจมตีชายชราอย่างแน่นอน
“นี่มันจะไม่…….บังเอิญเกินไปหน่อยหรือไง ? ”
จระเข้เบญจธาตุถึงกับแสดงสีหน้าป่วยๆออกมา
เป็นเพราะการโจมตีของหลินเทียนทำให้ม่านพลังของดินแดนบ่มเพาะได้ถูกทำลายลงส่งผลให้ค้นพบดินแดนบ่มเพาะที่แม้แต่เขตแดนอนันตกาลเองก็ยังต้องสนใจ
หลินเทียนเองก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้ก่อนที่จะปรับอารมณ์อย่างรวดเร็วแล้วหันมองออกไปยังกลุ่มผู้เชี่ยวชาญพลางพูดว่า
“ไปกันเถอะ ”
เป็นเพราะว่าสถานที่ๆแม้แต่เขตแดนอนันตกาลเองก็ยังต้องสนใจแบบนี้แล้วมันจะต้องอัดแน่นไปด้วยสมบัติที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
นี่ทำให้พวกเขาพากันมุ่งหน้าตรงไปยังทิศทางเดียวกันอยู่กว่าสี่ชั่วโมงก่อนที่จะไปถึงพื้นที่รกร้างแห่งหนึ่ง
เมื่อมองออกไปแล้วจะพบได้ว่าสถานที่แห่งนี้ได้ถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิงแถมยังมีเศษฝุ่นฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศเสมือนว่าเพิ่งแบกรับพลังทำลายล้างที่หนักหน่วงทำให้สถานที่แห่งนี้พังทลายลง
“ที่รอยแยกมิตินั่นยังมีกลิ่นอายของตราจักรพรรดิหยวนอยู่เลย ดูเหมือนว่ามันจะเป็นคลื่นกระบี่ของเจ้าจริงๆนะ ”
จระเข้เบญจธาตุพูดออกมาและยืนยันได้ทันทีว่าคลื่นกระบี่ที่กลุ่มคนทั้งหลายพูดถึงขั้นเป็นการโจมตีก่อนหน้านี้ของหลินเทียนและเมื่อมาเห็นกับตาตัวเองแล้วก็ยังอดแสดงสีหน้าป่วยๆออกมาไม่ได้