Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1471
“กึ่งนิรันดร์แท้จริง ? ”
เมื่อฟังคำพูดนี้จากหลินเทียนแล้วก็ทำให้จระเข้เบญจธาตุได้แต่ผงะไปพร้อมทั้งอดถามออกมาไม่ได้ว่า
“จะจัดการได้ไหม ? ”
เป็นเพราะมันรู้ว่าหลินเทียนนั้นถือครองร่างนิรันดร์แท้จริงอยู่และสามารถสังหารเขตแดนอนันตกาลตอนปลายลงได้ง่ายๆแต่ตัวตนระดับกึ่งนิรันดร์แท้จริงก็ยังอดทำให้มันเป็นกังวลไม่ได้
“ไม่น่าจะทำได้ง่ายๆแต่ก็สามารถฆ่ามันได้ ”
หลินเทียนพูดออกมา
เมื่อมองอกไปทางซ่งหวางที่อยู่ห่างออกไปแล้วเขาสัมผัสได้เลยว่าอีกฝ่ายนั้นแข็งแกร่งไม่ธรรมดาแต่ด้วยระดับพลังของเขาผนวกกับร่างนิรันดร์แท้จริงแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะสังหารอีกฝ่าย
จระเข้เบญจธาตุได้หันมองออกไปและเมื่อเห็นความมั่นใจนี้ก็ทำให้ความเป็นกังวลของมันสลายหายไปโดยทันที
“แล้วกลุ่มหมอกพวกนี้มันมาจากไหนกัน ถึงขั้นทำให้แม้แต่กึ่งนิรันดร์แท้จริงเองก็ยังไม้กล้าฝ่าเข้าไป ”
มันได้แต่มองออกไปด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจไม่น้อย
เนื่องจากว่าเขตแดนกึ่งนิรันดร์แท้จริงนั้นเข้าใกล้นิรันดร์แท้จริงแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถทำอะไรกลุ่มหมอกเหล่านี้ได้
“ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันแต่ช่างมันเถอะ รู้ไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร ”
หลินเทียนหันมองออกไปโดยที่ไม่ได้สนใจอะไรเพราะถึงอย่างไรมันก็กำลังค่อยๆสลายตัวไปอย่างช้าๆและพวกเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรู้ด้วยว่ามันมาจากไหน
เขา จระเข้เบญจธาตุและเสี่ยวไท่ชูต่างพากันหันมองออกไปยังกลุ่มหมอกที่อยู่ห่างไกลออกไปจนเวลาผ่านไปกว่าหนึ่งเดือนเต็ม
วันนี้เป็นวันที่กลุ่มหมอกได้สลายหายไปอย่างสมบูรณ์
เมื่อมองออกไปแล้วจะพบกับอุโมงค์ขนาดใหญ่ที่ส่องประกายแสงสีเงินออกมาจากภายในโดยที่ไม่รู้เลยว่ามันมีความลึกขนาดไหน
กลิ่นอายแห่งดวงดาวอันเข้มข้นถูกส่งออกมาจากภายในสถานที่แห่งนี้
“เหมืองนั่นอยู่ในภูเขาใหญ่ลูกนี้ ?! ”
จระเข้เบญจธาตุได้แต่มองออกไปด้วยดวงตาที่ส่องประกาย
หลินเทียนพยักหน้าของเขาพร้อมตอบว่า
“น่าจะใช่ ”
เป็นเพราะมันไม่มีทางเลยที่จะส่งกลิ่นอายอันเข้มข้นออกมาขนาดนี้ได้
และแทบจะในเวลาเดียวกันนี้เองที่กลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งทั้งหลายต่างพากันเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งพุ่งเข้าใส่อุโมงค์ตรงหน้าด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ
ในขั้นตอนเหล่านี้ซ่งหวางนั้นเป็นคนที่อยู่แถวหน้าสุดโดยที่ไม่มีใครกล้าล่วงล้ำออกไปเพราะพวกเขาล้วนหวาดหวั่นเป็นอย่างมากเนื่องจากอีกฝ่ายมีสถานะลองลงมาจากจักรพรรดิของราชวงศ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ดาวทั้งปวง
หลังจากนั้นเวลาก็ได้ผ่านไปอย่างรวดเร็วขณะที่ซ่งหวางพุ่งเข้าไปภายในส่วนลึกพร้อมๆกันกับคนอื่นๆที่แววตาส่องประกายออกมาอย่างเข้มข้น
หลินเทียนและคนอื่นๆยังคงอยู่ด้านนอกพื้นที่แห่งนี้ขณะที่แววตาของจระเข้เบญจธาตุส่องประกายออกมาพลางพูดว่า
“เจ้าหนู กลุ่มหมอกได้สลายหายไปหมดแล้ว เราเองก็ไปกันเถอะ”
มันได้แต่มองออกไปด้วยความรู้สึกที่หยุดไม่อยู่เพราะหากได้รับแร่ดาราทั้งหมดภายในสถานที่แห่งนี้มาก็จะทำให้มันตัดผ่านเขตแดนอนันตกาลได้โดยทันที
“ไม่ เราจะไม่เข้าไปกัน ”
หลินเทียนจ้องมองออกไปพร้อมทั้งพูดต่อว่า
“เราออกห่างจากสถานที่แห่งนี้กันก่อนแล้วหาสถานที่เหมาะๆให้ร่างหลักของข้าหลบซ่อนตัวแล้วข้าจะใช้ร่างนิรันดร์แท้จริงหาโอกาสจัดการกับซ่งหวางภายในเหมืองนั่นส่วนพวกเจ้าก็ช่วยข้าปกป้องร่างหลักด้วยแล้วกัน ”
จระเข้เบญจธาตุที่ได้ยินเช่นนั้นได้ตอบกลับว่า
“อ่อใช่ ลืมไปเลยว่ามันต้องมีคนคอยดูแลร่างกายของเจ้าระหว่างที่ควบคุมร่างนิรันดร์แท้จริง ”
หลังจากนั้นมันก็ได้พูดต่อว่า
“เอาล่ะ ข้าและเจ้าหนูน้อยจะเป็นคนช่วยดูแลร่างของเจ้าเอง ยิ่งไปกว่านั้นด้วยระดับพลังของพวกข้าในตอนนี้ต่อให้เข้าไปก็ไม่ได้อะไรอยู่ดี ”
นี่ทำให้พวกเขาพากันทิ้งระยะห่างออกไปจากสถานที่แห่งนี้อยู่ไกลมากๆก่อนที่จะวางข่ายอาคมป้องกันแล้วนั่งขัดสมาธิลงพลางเปิดเอาโลกใบเล็กเพื่อเอาร่างไร้วิญญาณออกมาแล้วควบคุมมันด้วยดวงวิญญาณของตัวเอง
“เอาล่ะ ได้แล้ว ”
น้ำเสียงของเขาถูกส่งออกมาจากร่างๆนี้
“ไปเถอะ ดูแลตัวเองด้วยแล้วกัน ข้ากับเจ้าหนูน้อยจะดูแลร่างกายของเจ้าให้อง ”
จระเข้เบญจธาตุส่งเสียงออกมา
เสี่ยวไท่ชูเองก็ส่งเสียงตอบรับเช่นกันก่อนที่จะโบกกรงเล็บให้กับเขาเพื่อเป็นการให้กำลังใจ
หลินเทียนพยักหน้าให้กับเจ้าหนูน้อยและจระเข้เบญจธาตุก่อนที่จะหันหลังจากไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่กลับออกมานั้นเขาก็พุ่งผ่านออกไปด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่ออย่างมากและไม่ลังเลเลยที่จะเข้าไปภายในเหมืองที่อยู่ห่างออกไป
แม้ว่าด้านนอกของเหมืองจะมีกลิ่นอายแห่งดวงดาวที่เข้มข้นแต่วินาทีที่เข้าไปภายในเหมืองก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่เข้มข้นยิ่งกว่าเก่าหลายเท่าตัวถึงขั้นทำให้เขาอดแสดงสีหน้าที่ประหลาดใจออกมาไม่ได้
“ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่แค่เยอะธรรมดาๆแต่มันเยอะจนน่ากลัวเลยสินะ ”
เขาคิดอยู่ภายในใจ
ระหว่างที่กำลังคิดอยู่ก็ยังคงพุ่งผ่านเข้าไปภายในอย่างรวดเร็ว
ระหว่างทางเขาก็พบกับเศษหินที่ถูกขุดมากมายซึ่งบ่งบอกว่ามันเคยเป็นที่อยู่ของสมบัติแต่กลับถูกคนขุดออกไปแล้ว
ไม่นานเขาก็ได้พบกับกองศพของผู้เชี่ยวชาญและอสูรที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าภายในสถานที่แห่งนี้มีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งคอยปกป้องและสังหารกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่รุกล้ำเข้ามาภายในแต่พวกมันเองก็ถูกสังหารลงเช่นกัน
เขาจ้องมองเข้าไปภายในขณะที่ความเร็วเพิ่มสูงขึ้นไปอีกก่อนที่จะพบกับกลิ่นอายที่เข้มข้นถึงขั้นที่แทบจะก่อตัวขึ้นกลายเป็นของเหลวเลยก็ว่าได้
หลังจากนั้นไม่นานก็สัมผัสได้ถึงพลังเทวะอันหนักหน่วงที่กำลังระเบิดออกมาพร้อมๆกับพลังอสูรอันเข้มข้น
มันทำให้เขารีบเร่งฝีเท้าของตัวเองมากขึ้นไปอีกก่อนที่จะพบกับกลุ่มผู้เชี่ยวชาญอยู่ตรงหน้า
“โร๊วว ~! ”
อสูรร่างยักษ์ได้ส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดังขณะที่กลุ่มอสูรและกลุ่มผู้เชี่ยวชาญพากันกระโจนเข้าใส่กันซึ่งอสูรแต่ละตัวล้วนปลดปล่อยกลิ่นอายที่ไม่ธรรมดาออกมาโดยที่อ่อนแอที่สุดอยู่ในเขตแดนจ้าวสวรรค์ส่วนแข็งแกร่งที่สุดมีแม้กระทั่งเขตแดนอนันตกาลหลายตัว
“อ๊ากก ! ”
เสียงกรีดร้องถูกส่งออกมาจากผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งที่ถูกฉีกร่างและกลืนกินลงไปทั้งเป็น
พุฟฟฟ ~!
กองเลือดระเบิดออกมาขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเขตแดนอนันตกาลตอนปลายคนหนึ่งได้ลงมือส่งคลื่นพลังอันหนักหน่วงระเบิดร่างของอสูรเขตแดนอนันตกาลแหลกสลายหายไปเป็นกองเลือด
หลินเทียนที่อยู่รอบนอกได้แต่มองไปยังศึกสงครามตรงหน้าก่อนที่จะหันมองออกไปยังจุดๆหนึ่งด้วยแววตาที่ส่องประกายความเย็นยะเยือกออกมา
ประกายแสงสีเงินถูกส่งออกมาจากกลุ่มก้อนแร่ขนาดเท่าๆกับกำปั้นที่อัดแน่นไปด้วยพลังแห่งดวงดาวอันเข้มข้น
“แร่ดารา ”
ดวงตาของเขาส่องประกายออกมาโดยทันที
เป็นเพราะว่ามันคือแร่ที่ก่อตัวขึ้นจากพลังงานอันเข้มข้นของดวงดารา
“มีอยู่เยอะมาก ”
เขาหันมองออกไปรอบๆทั่วทุกมุมห้องพร้อมทั้งพบว่าอย่างน้อยๆมันก็มีอยู่หลายล้านก้อน !
มันเป็นตัวเลขที่เรียกได้ว่าน่าสะพรึงกลัวอย่างมากเพราะอย่างน้อยมันสามารถทำให้เขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่ากว่าร้อยคนตัดผ่านเขตแดนอนันตกาลกันได้ทั้งหมด
ภาพเหล่านี้ทำให้เขาอดสูดหายใจเข้าลึกไปไม่ได้เพราะมูลค่าของมันในตอนนี้ถึงขั้นทำให้แม้แต่เขตแดนนิรันดร์แท้จริงเองก็ยังต้องผวาไป
วิ้สส ~!
วิ้ส !
วิ้สสส ~!
เสียงพุ่งผ่านอากาศถูกส่งออกมาขณะที่กลุ่มผู้เชี่ยวชาญปะทะเข้ากับกลุ่มอสูรมากมายซึ่งระหว่างนั้นก็หาโอกาสเก็บเกี่ยวเอาแร่ดาราทั้งหลายไปตามมุมต่างๆของห้องโดยที่ไม่มีไกลกล้ารุกล้ำไปมากกว่านี้เนื่องจากห่างออกไปไม่ไกลนั้นมีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังพุ่งผ่านออกไปพร้อมๆกับชายชราขณะที่ในมือเก็บเกี่ยวเอาแร่ดาราทั้งหลายลงไปภายในขวดหยกซึ่งแน่นอนว่านี่คือซ่งหวาง
เห็นได้ชัดว่าผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายหวั่นเกรงในตัวขุมพลังที่หนุนหลังซ่งหวางเอาไว้ทำให้ไม่กล้ารุกล้ำเข้าไปมากแถมตัวซ่งหวางเองก็ยังแข็งแกร่งอยู่มากถึงขั้นที่เขตแดนอนันตกาลตอนปลายเองก็ยังรับมือเขาได้เพียงแค่ไม่กี่กระบวนท่าเท่านั้น
หลินเทียนหันมองออกไปพร้อมทั้งเตรียมการจะเก็บเกี่ยวแร่ดาราเหล่านั้น
ทว่ามันเป็นตอนนี้เองทีเขาได้หยุดเท้าลงและได้แต่มองไปยังขวดหยกในมือของซ่งหวางที่อัดแน่นไปด้วยแร่ดารามากมายพลางหรี่ตาลงเล็กน้อย
เป็นเพราะจากสถานการณ์ ณ ปัจจุบันแล้วแร่ดารากว่าเก้าในสิบส่วนล้วนตกอยู่ในเงื้อมมือของซ่งหวาง
“เราก็แค่รออยู่เฉยๆจนกว่ามันจะเก็บเอาแร่ทั้งหมดไปแล้วค่อยฆ่าชิงทรัพย์มันมาก็ได้ ”
เขาแสยะออกมา
แม้ว่าการฆ่าชิงทรัพย์จะเป็นเรื่องที่ขัดศีลธรรมอย่างมากแต่อีกฝ่ายเป็นคนที่สั่งฆ่าเขาอย่างโหดเหี้ยมดังนั้นมันจำเป็นต้องพูดเรื่องศีลธรรมกับมันอีก ?
ในเมื่อมันกล้าส่งคนมาฆ่าเขาแล้วงั้นเขาก็จะต้องเอาคืนโดยการฆ่ามันแล้วชิงเอาแร่ดาราทั้งหมดของมันไป