Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1472
ภายในเหมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยแร่ดารามากมายส่องประกายแสงสีเงินออกมาอย่างเข้มข้น
“โร๊วว ~ !”
เสียงอสูรคำรามถูกส่งออกมาอย่างดังขณะที่พลังอสูรอันเข้มข้นระเบิดออกไปรอบทิศทาง
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่กลุ่มผู้เชี่ยวชาญเองก็พยายามเก็บเกี่ยวแร่เหล่านั้นไประหว่างที่เผชิญหน้ากับฝูงสัตว์อสูร
“ไสหัวไปไกลๆ ! ”
ซ่งหวางได้ส่งเสียงออกมาขณะที่เก็บเอาแร่ดารามากมายลงไปพร้อมทั้งโบกมือส่งการโจมตีออกไปสังหารอสูรเขตแดนอนันตกาลตอนต้นลงได้ง่ายๆซึ่งแน่นอนว่านี่คือพลังของกึ่งนิรันดร์แท้จริงที่แข็งแกร่ง
หลินเทียนหันมองออกไปซึ่งแม้ว่าอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งและโหดเหี้ยมอย่างมากแต่ก็ไม่ได้ห้ามไม่ให้คนอื่นๆเก็บเกี่ยวเอาแร่เหล่านี้เพราะถึงอย่างไรคนที่มาที่นี่ก็ล้วนเป็นตัวตนระดับผู้อาวุโสสูงสุดของขุมพลังต่างๆรวมถึงผู้เชี่ยวชาญเร่ร่อนที่แม้ระดับพลังของซ่งหวางจะสามารถจัดการกับพวกเขาได้ทั้งหมดแต่การกระทำเช่นนั้นจะเป็นการล่วงเกินขุมพลังทั้งดาวทำให้แม้ราชวงศ์ของพวกเขาจะแข็งแกร่งแต่ก็ไม่คิดจะทำเรื่องบ้าๆแบบนั้น
ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องที่สำคัญที่สุดคือกลุ่มผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เก็บเกี่ยวเอาแร่จากมุมห้องต่างๆโดยที่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เขาดังนั้นถึงไม่ได้ว่าอะไร
หลินเทียนที่อยู่ห่างออกไปได้หรี่ตาลงเล็กน้อยขณะที่จ้องมองออกไปยังขวดหยกในมือของอีกฝ่ายพร้อมทั้งเริ่มก้าวเดินออกไปเก็บเกี่ยวแร่ตามสถานที่ต่างๆ
เพราะแม้เขาจะตั้งใจฆ่าอีกฝ่ายแล้วแต่ก็จะยืนอยู่เฉยๆไม่ได้เพราะหากว่ายืนอยู่นิ่งๆท่ามกลางการแย่งชิงของผู้คนทั้งหลายแล้วก็จะกลายเป็นจุดสนใจของคนโดยรอบไปทันที
นี่ทำให้เขาก้าวเดินออกไปพร้อมทั้งแย่งชิงแร่ดารากับคนอื่นๆอย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าระหว่างนี้เขาไม่ได้เปิดเผยระดับพลังของตัวเองออกไปแม้แต่น้อยและทำเพียงแค่หยิบเอาแร่ต่างๆที่อยู่ตามมุมขึ้นมาเพื่อไม่ให้กลายเป็นจุดสนใจของคนอื่นๆ
เสียงอสูรกู่ร้องคำรามถูกส่งออกมาอย่างดังขณะที่กลุ่มคนพากันเข้าปะทะกับฝูงสัตว์อสูรอันทรงพลังอยู่เป็นครั้งคราวทำให้สถานที่แห่งนี้แทบจะถล่มลงมา
ไม่นานเวลาก็ได้ล่วงเลยไปกว่าสี่ชั่วโมงเต็มและมันเป็นตอนนี้มีเสียงกรีดร้องถูกส่งออกมาอย่างดังก่อนที่การต่อสู้จะหยุดลงหลังจากที่แร่ดาราทั้งหมดได้ถูกเก็บเกี่ยวไปหมดแล้ว
“ยินดีกับนายน้อยซ่งหวางด้วยที่เก็บเกี่ยวได้ขนาดนี้ ต้องฉลองให้กับราชวงศ์จริงๆ ”
ผู้เชี่ยวชาญเขตแดนอนันตกาลคนหนึ่งส่งเสียงออกมา
ระหว่างนี้คนอื่นๆเองก็ต่างพากันแสดงความยินดีอย่างพร้อมเพียง
“ที่ไหนกันล่ะ ก็ได้มาพอประมาณเท่านั้นแหละ ”
ซ่งหวางได้ตอบกลับด้วยสีหน้าที่ราบเรียบอย่างมาก
หลินเทียนที่กำลังจ้องมองไปทางอีกฝ่ายเองก็ได้แต่แสยะอยู่ภายในใจเพราะผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายเก็บเกี่ยวไปได้เพียงแต่หนึ่งในสิบส่วนของแร่ทั้งหมดเท่านั้นแล้วยังกล้าพูดออกมาแบบนี้อีก
“เป็นเพราะนายน้อยมีน้ำใจที่กว้างใหญ่จริงๆที่ไม่ห้ามให้พวกเราเก็บเอาแร่เหล่านี้ไม่งั้นพวกเราก็คงไม่ได้มันหรอก ”
หนึ่งในผู้คนส่งเสียงออกมา
หลายๆคนเองก็ส่งเสียงสะท้อนออกมาแบบเดียวกันด้วยรอยยิ้ม
ซ่งหวางได้ยิ้มออกมาจางๆพร้อมทั้งตอบกลับว่า
“พวกท่านก็พูดเกินไป สถานที่แห่งนี้ถูกค้นพบมาด้วยกันแล้วข้าจะไปยึดเอาไว้คนเดียวได้อย่างไรกัน ? ”
คำพูดเหล่านี้ทำเหมือนว่าเขามีจิตใจที่เผื่อแผ่อย่างมาก
ซ่งหวางได้พยักหน้าเล็กน้อยพร้อมทั้งก้าวเดินออกไปจากสถานที่แห่งนี้พร้อมๆกับชายชรากึ่งอนันตกาล
ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆเองก็เดินตามออกไปเช่นกัน
เป็นเพราะสมบัติที่อยู่ที่นี่ได้ถูกเก็บเกี่ยวไปหมดแล้วดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นอะไรต้องอยู่อีกต่อไป
หลินเทียนที่กำลังจ้องมองอยู่เองก็ได้เดินเข้าไปรวมกับกลุ่มผู้เชี่ยวชาญเพื่อเข้าใกล้ร่างของซ่งหวางอย่างช้าๆ
ไม่นานก็พบกับแหล่งแสงขึ้นตรงหน้าของพวกเขาก่อนที่จะพากันกลับขึ้นไปอย่างรวดเร็ว
ซ่งหวางได้แต่แสดงสีหน้าที่ยิ้มแย้มออกมาเพราะว่าเก้าในสิบของสมบัติทั้งหมดอยู่ในมือของเขาและอย่างน้อยๆมันจะสร้างกองกำลังอนันตกาลได้กว่าเก้าสิบคนในระยะเวลาสั้นๆซึ่งเขาที่เป็นคนนำกลับไปจะได้รับความชอบครั้งใหญ่ทำให้มีประโยชน์กับตัวเองมากๆ
เมื่อคิดถึงจุดนี้แล้วก็ยิ่งทำให้ใบหน้าของเขายิ้มแย้มขึ้นมากกว่าเก่าพลางหันไปพูดกับชายชราว่า
“ไปกัน กลับไปที่…….”
“ตู้มม ~! ”
มันเป็นตอนนี้เองที่ม่านฟ้าได้สั่นไหวอย่างรุนแรงขณะที่หมัดอันทรงพลังอัดเข้าใส่ร่างของเขาและขัดจังหวะคำพูดของเขาไปทันที
หลินเทียนที่อยู่ห่างออกไปและจดจ่ออยู่กับทุกการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายได้ฉวยโอกาสนี้เปิดฉากโจมตีเข้าใส่ด้วยความเร็วดั่งสายฟ้า
มันเป็นหมัดที่ทรงพลังและอัดแน่นไปด้วยพลังทำลายล้างและความเร็วที่ปกคลุมร่างของอีกฝ่ายเอาไว้อย่างฉับพลัน
ซ่งหวางที่ต้องเผชิญหน้ากับคลื่นพลังทำลายล้างระดับนี้อย่างไม่ทันตั้งตัวได้แต่ส่งเสียงออกมาว่า
“เจ้า…..”
“พุฟฟ ~! ”
หมัดของหลินเทียนได้อัดกระแทกเข้าใส่กลางหน้าอกของซ่งหวางพร้อมทั้งส่งร่างของเขาลอยเคว้งออกไปไกล
นี่ทำให้สีหน้าของผู้คนที่อยู่โดยรอบทั้งหมดถึงกับเปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวงเพราะไม่คิดเลยว่าจะมีคนกล้าลงมือกับคนของทางราชวงศ์ นี่มันจะกล้าหาญและบ้าบิ่นเกินไปแล้ว !
ระหว่างนี้พวกเขาก็พากันหันมองไปทางร่างของหลินเทียนด้วยความรู้สึกที่ตกตะลึงอย่างมากเพราะหมัดธรรมดาๆกลับกระแทกร่างของกึ่งนิรันดร์แท้จริงลอยเคว้งไปไกลได้แบบนี้ นี่มันแข็งแกร่งขนาดไหนกัน ?!
“นายน้อย ! ”
ชายชราผู้ติดตามได้ส่งเสียงออกมาด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างมากพร้อมทั้งสังเวยทักษะอันทรงพลังออกมาอัดเข้าใส่ทางหลินเทียนอย่างบ้าคลั่ง
หลินเทียนทำเพียงแค่โบกมือกลับไปทำลายการโจมตีของอีกฝ่ายลงก่อนที่คลื่นพลังของมันจะกระแทกร่างของชายชราลอยเคว้งออกไปไกล
ดวงตาของเขาได้ส่องประกายออกมาก่อนที่จะพุ่งตามร่างของซ่งหวางที่ลอยเคว้งออกไปไกล
อีกฝ่ายนั้นเป็นถึงกึ่งนิรันดร์แท้จริงของขุมพลังที่แข็งแกร่งอย่างมากดังนั้นถึงได้พยุงตัวเองกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็วพร้อมพลางหันมองกลับไปทางหลินเทียนด้วยสายตาที่เย็นยะเยือกว่า
“เจ้าเป็นใคร ?! ”
เป็นเพราะได้รับการโจมตีที่ทรงพลังอย่างไม่ทันตั้งตัวทำให้ใบหน้าของเขาซีดลงอย่างมากซึ่งเห็นได้ชัดว่าได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก
เขาไม่คิดเลยว่าจะมีคนที่กล้าเปิดฉากโจมตีใส่เขาในสถานที่แห่งนี้ !
หลินเทียนไม่ได้ปริปากแม้แต่น้อยพร้อมทั้งเข้าประชิดร่างของอีกฝ่ายแล้วเปิดฉากโจมตีเข้าใส่อีกครั้ง
ตู้มม ~!
เขาเหวี่ยงหมัดอันทรงพลังเข้าใส่ด้วยพลังทำลายล้างที่แทบจะบดขยี้ทุกสรรพสิ่ง
ซ่งหวางที่ต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีระดับนี้ได้แต่อดทำให้เขารู้สึกตกตะลึงไปไม่ได้
เขาส่งเสียงคำรามออกมาเล็กน้อยพร้อมทั้งสังเวยทักษะเทวะที่ทรงพลังออกมารับการโจมตีเอาไว้
การโจมตีของทั้งสองได้อัดใส่กันอย่างรุนแรง
“ตู้มม ~! ”
“ตู้ม ! ”
“ตู้มม ! ”
เสียงดังสนั่นหวั่นไหวถูกส่งออกมาพร้อมๆกับคลื่นพลังเทวะที่หนักหน่วงทำให้มิติโดยรอบพังทลายลงมาโดยทันที
หลินเทียนที่กำลังควบคุมร่างนิรันดร์แท้จริงอยู่เองก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปไม่ต่างกันเพราะไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งได้ขนาดนี้แถมยังรับการโจมตีต่อเนื่องของเขาได้กว่าสามสิบครั้งซึ่งนี่ถือเป็นความแข็งแกร่งที่ทำให้เขาประหลาดใจไม่น้อย
ทว่าความรู้สึกนี้ก็ได้สลายหายไปอย่างรวดเร็วเพราะแม้อีกฝ่ายจะแข็งแกร่งอย่างไรแต่ก็ยังเป็นฝ่ายเสียเปรียบทำให้กลิ่นอายที่อีกฝ่ายส่งออกมายิ่งแผ่วเบาลงอย่างต่อเนื่อง
นี่ทำให้เขาเปิดฉากโจมตีอย่างรุนแรงและรวดเร็วมากกว่าเก่าและส่งผลให้อีกฝ่ายถูกกระแทกถอยกลับไปด้วยร่างกายที่สั่นสะท้าน
หลังจากนั้นไม่นานหมัดที่เขาซัดออกไปก็ได้บดขยี้การโจมตีและการป้องการของอีกฝ่ายลงก่อนที่จะกระแทกเข้าใส่ร่างของอีกฝ่ายอย่างจัง
นี่ทำให้เลือดไหลทะลักออกมาขณะที่ร่างกายของซ่งหวางถึงกับแตกร้าวไปทั้งตัว
“บึ้สส ~! ”
หลินเทียนได้คว้ามือของเขาออกไปพร้อมทั้งชิงเอาขวดหยกมาจากร่างของอีกฝ่ายซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นสมบัติที่ใช้เก็บแร่ดาราจำนวนมหาศาลไป