Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1474
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับกลิ่นอายนิรันดร์แท้จริงและสัจธรรมแห่งนิรันดร์ของอีกฝ่ายแล้วมันถึงกับทำให้สีหน้าของหลินเทียนเปลี่ยนไปเล็กน้อยเพราะการที่อีกฝ่ายที่อยู่ในเขตแดนกึ่งนิรันดร์แท้จริงสามารถแผดกลิ่นอายที่แม้จะเบาบางออกมาได้แต่มันก็เป็นพลังที่ก้าวข้ามขีดจำกัดของสัจธรรมทั้งสามพันชนิดไปแล้ว
อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก
เป็นเพราะว่าต่อให้อีกฝ่ายมีกลิ่นอายแบบนั้นแล้วยังไง จะต่อกรกับร่างนิรันดร์แท้จริงของเขาได้ ?
เขาแสยะออกมาพร้อมทั้งรับคลื่นพลังของอีกฝ่ายเอาไว้ด้วยหมัดอันทรงพลังของเขาที่ผสานไปด้วยกลิ่นอายนิรันดร์แท้จริงที่ทำให้มิติโดยรอบสั่นสะท้านอย่างรุนแรง
ฟึ้บบ ~!
กลิ่นอายอันเบาบางของซ่งหวางได้ถูกบดขยี้สลายหายไปโดยทันที
ซ่งหวางได้แต่แสดงสีหน้าที่ประหลาดใจออกมาพร้อมตอบกลับไปว่า
“เจ้า……”
เขานั้นอยู่ในเขตแดนกึ่งนิรันดร์แท้จริงแล้วแถมยังมีกลิ่นอายอันเบาบางของเขตแดนนั้นแต่ก็ยังคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเทียนก็ยังสามารถทำลายการโจมตีของเขาลงได้อย่างง่ายดาย
“เหอะ ! ”
หลินเทียนส่งเสียงแสยะออกมาอย่างเย็นชาพร้อมทั้งซัดหวัดอันทรงพลังออกไปกดทับเข้าใส่ร่างของอีกฝ่ายอย่างไม่รอช้า
พลังหมัดและกลิ่นอายผสมผสานเข้าด้วยกันกลายเป็นพลังแห่งการทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก
พุฟฟ ~!
ซ่งหวางได้รับบาดเจ็บอย่างหนักหน่วงขณะที่ร่างของเขาลอยเคว้งออกไปท่ามกลางม่านฟ้า
เขาส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดังขณะที่ดวงวิญญาณอันแข็งแกร่งของเขาได้ก่อสร้างร่างกายหยาบขึ้นมาใหม่อีกครั้งพลางจ้องมองกลับไปทางหลินเทียนด้วยสายตาที่อาฆาตแค้นพร้อมทั้งสังเวยสัจธรรมและกลิ่นอายอันเบาบางออกมาอีกครั้ง
เป็นเพราะหลินเทียนชิงเอาสมบัติของเขาไปทั้งหมดดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องฆ่าหลินเทียนเพื่อเอามันคืนมา
ตู้มม ~!
กลิ่นอายอันเบาบางส่งผลให้มิติโดยรอบสั่นไหวไม่หยุดพร้อมทั้งโถมเข้าใส่ทางหลินเทียนพร้อมๆกัน
หลินเทียนแสยะออกมาว่า
“เมื่อครู่เพิ่งถูกบดขยี้ไปรอบนึงแล้วยังกล้าสังเวยของแบบนี้ออกมาอีก ? ”
เขาเหวี่ยงหมัดของเขาออกไปอัดกระแทกเข้ากับการโจมตีของอีกฝ่ายโดยทันที
เสียง ฟึ้บบ ~! ถูกส่งออกมาขณะที่กลิ่นอายทั้งหมดของซ่งหวางถูกสลายหายไป
เขาพุ่งเข้าประชิดร่างของอีกฝ่ายอย่างไม่รอช้าพร้อมทั้งเหวี่ยงหมัดอันทรงพลังอัดเข้าใส่
“พุฟฟ ~! ”
เลือดสาดกระจายออกไปทั่วทิศทางขณะที่ร่างของซ่งหวางได้ถูกบดขยี้แหลกสลายหายไปอีกครั้ง
หลินเทียนได้คว้ามือขวาของเขาออกไปจับร่างวิญญาณของอีกฝ่ายเอาไว้
“แกร๊ง ! ”
เสียงกระบี่คำรามถูกส่งออกมาจากดวงวิญญาณของอีกฝ่ายพร้อมทั้งปรากฏอาวุธอนันตกาลตอนกลายที่ส่งกลิ่นอายอันทรงพลังและแผดแสงเจิดจรัสออกมาอย่างเข้มข้นรับฝ่ามือของหลินเทียนเอาไว้
หลินเทียนเหวี่ยงฝ่ามือตบอัดลงไปอย่างเต็มกำลังพร้อมทั้งบดขยี้อาวุธนี้แหลกสลายหายไป
ทว่ามันก็เปิดโอกาสให้ซ่งหวางได้ก่อสร้างร่างกายกลับขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
“หนังเหนียวนักนะ แต่ถึงอย่างไรเจ้าก็ต้องตายอยู่ดี ”
เขาจ้องมองก่อนที่จะพูดออกไปพร้อมทั้งก้าวเดินเข้าหาโดยทันที
ซ่งหวางนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมากดังนั้นเขาจึงต้องใช้พลังทั้งหมดเพื่อฆ่าอีกฝ่ายให้ได้
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับหลินเทียนแล้วสีหน้าของซ่งหวางในตอนนี้นั้นเย็นชาเป็นอย่างมากเพราะรู้ดีว่าด้วยระดับพลังของตัวเองในตอนนี้มันไม่เพียงพอจะต่อกรกับหลินเทียนอย่างแน่นอน
“วิ้สสส ~! ”
เสียงพุ่งผ่านอากาศถูกส่งออกมาขณะที่หลินเทียนเหวี่ยงหมัดอันทรงพลังอัดเข้าใส่อย่างไม่ปราณี
ทึ้มม ~!
มิติโดยรอบแหลกสลายหายไปด้วยพลังทำลายระดับนี้
ซ่งหวางรีบสังเวยทักษะเทวะอันทรงพลังออกมารับการโจมตีเหล่านี้เอาไว้
“โปรดช่วยเหลือข้าด้วย แล้วข้าจะจดจำบุญคุณครั้งนี้เอาไว้ ”
มันเป็นตอนนี้เองที่เขาส่งเสียงออกมา
เป็นเพราะด้วยระดับพลังของเขาในตอนนี้มันไม่เพียงพอจะต่อกรกับหลินเทียนอยู่แล้วแต่สถานที่แห่งนี้ก็ยังมีผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆถึงขั้นที่มีแม้กระทั่งเขตแดนอนันตกาลตอนปลายดังนั้นหากว่าคนทั้งหมดนี้ยื่นมือเข้าช่วยเขาแล้วก็มั่นใจเป็นอย่างมากว่าจะต้องสามารถจัดการกับหลินเทียนได้อย่างแน่นอน
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้แล้วผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายที่อยู่โดยรอบต่างพากันแสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมาเพราะว่าซ่งหวางกำลังขอความช่วยเหลือ ?!
พวกเขาพากันหันมองออกไปทางหลินเทียนด้วยแววตาที่ส่องประกายออกมาเล็กน้อย
เป็นเพราะว่าซ่งหวางนั้นเป็นถึงคนสำคัญของขุมพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในห้วงจักรวาลดังนั้นในเมื่ออีกฝ่ายเปิดปากด้วยตัวเองแบบนี้แล้วหากว่าช่วยสำเร็จก็จะเป็นการสร้างความสัมพันธ์กับอีกฝ่ายแต่ก็อดหันมองไปยังร่างนิรันดร์แท้จริงที่สำแดงพลังอันน่าสะพรึงกลัวออกมาไม่ได้
ซ่งหวางสัมผัสได้ถึงความลังเลของผู้คนได้เป็นอย่างดีและได้แต่กัดฟันระหว่างที่รับมือกับการโจมตีของหลินเทียน
“ช่วยข้าด้วย หากว่าสามารถสังหารมันได้แล้วข้าจะแบ่งแร่ดาราครึ่งหนึ่งที่ได้ให้กับทุกคนที่ยื่นมือช่วยอย่างเท่าเทียม ”
ในตอนนี้เขาไม่สามารถต่อกรกับหลินเทียนได้เลยและเป็นเพราะว่าทุกคนล้วนแล้วแต่รู้สึกลังเลทำให้ไม่มีใครกล้ายื่นมือเข้าช่วยเขาดังนั้นจึงจำเป็นจ้องสร้างแรงจูงใจให้กับอีกฝ่าย
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้แล้วผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายต่างพากันแสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมาตามๆกัน……เป็นเพราะหลังจากที่จัดการกับหลินเทียนได้แล้วพวกเขาจะได้รับแร่ดารากว่าครึ่งสำหรับทุกๆคนที่ได้ยื่นมือเข้าช่วย ?!
ต้องรู้ก่อนนะว่าซ่งหวางนั้นได้รับแร่ดาราไปกว่าเก้าในสิบส่วนดังนั้นต่อให้แบ่งครึ่งแล้วแบ่งเท่าๆกันก็ยังถือว่าเป็นจำนวนที่มหาศาลอย่างมาก !
“ในเมื่อนายน้อยซ่งเอ่ยปากขนาดนี้แล้วพวกเราจะอยู่เฉยได้อย่างไรกัน ? ”
“ใช่ ! ”
“คนที่กล้าใช้ร่างศพเพื่อลอบสังหารคนอื่นแบบนี้จะปล่อยให้มีชีวิตอยู่ไม่ได้ ต้องฆ่ามัน ! ”
“หากว่ามันไม่ฉวยโอกาสโจมตีทีเผลอแล้วจะเป็นคู่ต่อสู้ของนายน้อยได้อย่างไรกัน ? คนแบบนี้มันไม่สมควรอยู่อีกต่อไป ”
“ลงมือ ฆ่ามันให้ได้ ! ”
“กล้าล่วงเกินนายน้อยแบบนี้มันอวดดีจริงๆ ! รุมมัน ต่อให้มันมีร่างนิรันดร์แท้จริงก็ไม่มีทางรับมือกับพวกเราพร้อมๆกันได้ ! ”
“ฆ่ามันให้ได้ ! ”
นี่ทำให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายต่างพากันกระโจนเข้าใส่ทางหลินเทียนด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อพลางส่งเสียงชักชวนออกมาเพราะต่อให้หลินเทียนควบคุมร่างนิรันดร์แท้จริงอยู่ก็จริงแต่ก็มีแค่ร่างเปล่าๆดังนั้นคงไม่มีทางเลยที่จะต่อกรกับพวกเขาได้
หลินเทียนที่กำลังควบคุมร่างอยู่ได้หันมองออกไปยังกลุ่มผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายพร้อมทั้งส่งเสียงอันเย็นยะเยือกออกมาว่า
“ข้าขอเตือนนะว่าหากใครกล้าขยับข้าจะฆ่ามันให้เฮี้ยน ! ”
หลังจากที่ส่งเสียงออกมาแล้วก็เหวี่ยงหมัดอันทรงพลังอัดเข้าใส่ร่างของซ่งหวางอย่างไม่รอช้า
กลิ่นอายระดับนี้ทำให้กลุ่มผู้เชี่ยวชาญหวาดหวั่นก็จริงแต่มันก็สลายหายไปอย่างรวดเร็ว
เป็นเพราะว่าสิ่งเย้ายวนที่ได้รับมามันยั่วยวนอย่างมากทำให้แววตาของพวกเขาต่างส่องประกายความเย็นยะเยือกออกมา
“เป็นแค่พวกที่ไม่กล้าเปิดเผยตัวตนออกมาแบบนี้ยังกล้าอวดดีอีกงั้นรึ ! ”
“คนๆเดียวคิดว่าร่างนิรันดร์แท้จริงมันไร้เทียมทาน ?! ”
“ลงมือเลย ! มันต่อกรกับพวกเราทั้งหมดพร้อมๆกันไม่ได้หรอก ! ที่นี่มีอนันตกาลอยู่นับสิบๆคนแถมยังมีเขตแดนอื่นๆอยู่อีก หากว่าพวกเราร่วมมือกันกับนายน้อยแล้วจะต้องสามารถจัดการมันได้อย่างแน่นอน ! ”
“ใช่ ! ”
“ฆ่ามันให้ได้ ! ”
กลุ่มคนพากันส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดังพร้อมทั้งกระโจนเข้าใส่ทางหลินเทียนอย่างบ้าคลั่ง
ทั้งสิบสองคนนี้ล้วนแล้วแต่อยู่ในเขตแดนอนันตกาลตอนปลายกันทั้งหมดซึ่งพวกเขานั้นเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของขุมพลังต่างๆที่สังเวยทักษะเทวะอันทรงพลังกดทับเข้าใส่ทางหลินเทียนอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย
หลังจากการโจมตีนี้แล้วผู้เชี่ยวชาญเขตแดนอื่นๆเองก็ล้วนพากันเปิดฉากโจมตีออกมาเพราะตราบเท่าที่พวกเขาพยายามมากพอจนสามารถสยบหลินเทียนได้แล้วหลังจากนี้ก็จะได้รับส่วนแบ่งจากซ่งหวางซึ่งสำหรับเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าและนิรันดร์อมตะแล้วมันถึงเป็นสมบัติสวรรค์เลยก็ว่าได้เพราะหากว่าได้รับมามากพอก็จะทำให้พวกเขาตัดผ่านเขตแดนอนันตกาลได้ง่ายๆ
เขตแดนอนันตกาลนั้นคือเขตแดนที่ไม่มีวันแตกดับอย่างแท้จริง
“ฆ่า ! ”
ผู้คนพากันส่งเสียงโห่ร้องออกมาอย่างดังพร้อมๆกับส่งคลื่นพลังทำลายล้างอัดเข้าใส่ทางหลินเทียนอย่างไม่คิดชีวิต
มันเป็นพลังที่ถึงขั้นทำให้แม้แต่หลินเทียนเองก็ยังรู้สึกถึงแรงกดดันที่ไม่ธรรมดา
อย่างไรก็ตามเขาก็ยังไม่ได้สนใจอะไรมากนักพร้อมๆกับดวงตาที่ส่องประกายความเย็นยะเยือกถึงขีดสุดออกมา
“ในเมื่อรนหาที่ตายกันนักงั้นข้าจะสนองให้ ! ”
เขาส่งเสียงอันเย็นชาออกมา
เมื่อพูดจบแล้วกระบี่นิรันดร์แท้จริงอันทรงพลังก็ได้ถูกสังเวยออกมาจากร่างของเขาก่อนที่กลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวจะปะทุออกมาอย่างบ้าคลั่งโดยที่ให้ความรู้สึกเสมือนว่าสามารถฟาดฟันได้ทุกสรรพสิ่ง
มันคืออาวุธนิรันดร์แท้จริง !
เป็นเพราะเพื่อความแน่ใจเขาถึงได้นำมันติดตัวมาด้วยก่อนแล้วดังนั้นตอนนี้ถึงได้ใช้มือเหี่ยวๆคว้ามันเอาไว้พร้อมทั้งกวัดแกว่งออกไปโดยที่ไม่ได้ใส่แรงแม้แต่น้อย
แกร๊ง !
เสียงกระบี่คำรามถูกส่งออกมาอย่างดังขณะที่คลื่นกระบี่อันทรงพลังได้สะบั้นทักษะเทวะทั้งหลายสลายหายไปภายในชั่วพริบตา
“อาวุธนิรันดร์แท้จริง ?! ”
สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้คนโดยรอบไม่เว้นซ่งหวางเองก็ยังต้องมีร่างกายที่สั่นสะท้านไป