Divine King of All Directions – สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ - ตอนที่ 1475
กระบี่นี้รายล้อมไปด้วยอักขระอันทรงพลังมากมายส่องประกายกลิ่นอายกระบี่ที่รุนแรงออกมาอย่างเข้มข้นเสมือนว่าสามารถสะบั้นดวงดาวลงได้อย่างง่ายดายทำให้มิติโดยรอบบิดตัวอย่างรุนแรง
“เขา…..มีแม้กระทั่งอาวุธนิรันดร์แท้จริง ! ”
กลุ่มคนพากันส่งเสียงสั่นๆออกมา
เป็นเพราะว่านอกจากจะควบคุมร่างนิรันดร์แท้จริงแล้วยังติดอาวุธนิรันดร์แท้จริงมาด้วย นี่มันแข็งแกร่งขนาดไหนกัน !?
“นี่…….”
กลุ่มคนที่เพิ่งพากันส่งเสียงโหวกเหวกออกมาว่าจะให้ความช่วยเหลือซ่งหวางต่างพากันมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวง
ซ่งหวางเองก็มีสีหน้าที่น่าเกลียดลงอย่างเห็นได้ชัดเพราะเขาเพิ่งวางเหยื่อล่อให้คนยื่นมือเข้าช่วยจัดการกับหลินเทียนเนื่องจากคิดว่ามีเพียงนิรันดร์แท้จริงเท่านั้นแต่ไม่คิดเลยว่าหลินเทียนจะมีแม้กระทั่งอาวุธนิรันดร์แท้จริงอยู่ในมือ
อาวุธระดับนี้แม้กระทั่งเข้าเองก็ยังไม่มีสิทธิ์ถือครองมันได้ด้วยซ้ำ
“ระยำเอ้ย ! ”
นี่ทำให้เขาได้แต่กัดฟันเอาไว้แน่น
หลินเทียนที่กำลังคว้ากระบี่เอาไว้ในมือได้หันมองออกไปทางผู้คนโดยรอบพร้อมทั้งกวัดแกว่งมันออกไปอย่างไม่รอช้า
แกร๊ง !
เสียงกระบี่คำรามถูกส่งออกมาอย่างดังขณะที่คลื่นกระบี่พุ่งผ่านอากาศออกไปด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ
“พุฟฟ ~! ”
“พุฟ ! ”
“พุฟฟ ~! ”
เลือดสาดกระจายออกไปรอบทิศทางขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเขตแดนอนันตกาลตอนปลายพากันกระอักเลือดออกมาก่อนที่จะถูกกระแทกลอยเคว้งออกไปไกลส่วนผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆล้วนตกตายลงโดยทันที
“นี่มัน…”
ภาพเหล่านี้ทำให้ผู้คนโดยรอบต่างพากันแสดงสีหน้าที่หวาดหวั่นถึงขีดสุดออกมา
เป็นเพราะกระบี่เดียวกับสร้างพลังทำลายล้างได้ขนาดนี้นี่
หลินเทียนแสยะออกมาอย่างเย็นชาพร้อมทั้งฟาดฟันกระบี่ในมือเข้าใส่ทางผู้คนที่อยู่รอบทิศทางอย่างไม่ปราณี
มันเป็นคลื่นกระบี่ที่อัดแน่นไปด้วยกลิ่นอายนิรันดร์แท้จริงจึงสามารถบดขยี้ทุกสรรพสิ่งได้อย่างง่ายดาย
“พุฟฟ ~! ”
“พุฟ ~ ”
“พุฟฟ ~ ”
ร่างของผู้เชี่ยวชาญเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าและอื่นๆหลายคนได้ระเบิดออกก่อนที่ดวงวิญญาณจะแหลกสลายหายไป
ด้วยพลังทำลายระดับนี้ทำให้ผู้คนที่อยู่ต่ำกว่าเขตแดนอนันตกาลตอนปลายนั้นไม่ได้ต่างไปจากเศษเถ้าธุลีเลยแม้แต่น้อย
“สองกระบี่…….สังหารผู้เชี่ยวชาญไปแล้วกว่าสามสิบคน ”
ผู้เชี่ยวชาญกว่าร้อยคนที่อยู่ที่นี่นั้นไม่ได้ตอบรับข้อเสนอของซ่งหวางกันหมดเนื่องจากหลายๆคนยังรู้สึกหวาดหวั่นไปกับพลังทำลายล้างของหลินเทียนทำให้ตอนนี้พวกเขาได้แต่แสดงสีหน้าที่ตกตะลึงและรู้สึกมีความสุขที่เมื่อครู่ไม่ได้เลือกเปิดฉากโจมตีเข้าใส่ทางหลินเทียนพร้อมกับคนอื่นๆไม่งั้นพวกเขาก็คงจะตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับคนตรงหน้า
เป็นเพราะแค่มองดูก็รู้แล้วว่าต่อให้รวมพลังกันก็ไม่ใช่คู่มือของหลินเทียนอยู่ดีซึ่งคนเหล่านี้ล้วนคิดว่าหลินเทียนมีเพียงแค่ร่างนิรันดร์แท้จริงเท่านั้นแต่พวกเขาคิดผิดไป ! ด้วยความแข็งแกร่งระดับนี้แล้วใครจะไปสามารถต่อกรได้กัน ?
“เจ้า…..”
เหล่าผู้เชี่ยวชาญที่อยู่เบื้องหน้าและร่วมมือกับซ่งหวางเหลืออยู่เพียงแค่สามสิบสามคนเท่านั้นและสิบสองคนอยู่ในเขตแดนอนันตกาลตอนปลาย สิบคนเขตแดนกึ่งอนันตกาล อีกสิบเอ็ดคนอยู่ในเขตแดนนิรันดร์อมตะตอนปลายที่กำลังยืนสั่นสะท้านไม่หยุด
หลินเทียนได้หันมองไปทางพวกเขาด้วยดวงตาที่กลวงโบ๋พร้อมๆกับแววตาที่ส่องประกายความไม่แยแสออกมา
เขาก้าวเท้าเดินออกไปพร้อมทั้งเปิดฉากโจมตีสังหารเข้าใส่กลุ่มคนตรงหน้าโดยการพุ่งออกไปปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของเขตแดนกึ่งอนันตกาลคนหนึ่งแล้วเหวี่ยงหมัดเข้าใส่
“พุฟฟ ~!”
ร่างของอีกฝ่ายได้ระเบิดออกเป็นชิ้นๆก่อนที่ดวงวิญญาณจะแตกสลายกลายเป็นประกายระยิบระยับไป
เขาพุ่งออกไปปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของอีกคนอย่างต่อเนื่องพร้อมทั้งซัดหมัดอันทรงพลังเข้าใส่อีกครั้ง
ทึ้มมม ~! ~!
หมัดๆนี้ทำให้มิติโดยรอบสั่นไหวอย่างรุนแรงเสมือนว่ามีท้องฟ้ากำลังถล่มทลายลงมา
อีกฝ่ายได้แต่ส่งเสียงอุทานออกมาอย่างดังว่า
“ไม่นะ ! ได้โปรด…..”
“พุฟฟ ~! ”
หมัดธรรมดาๆได้อัดกระแทกเข้ากลางร่างกึ่งอนันตกาลจนร่างกายของอีกฝ่ายแหลกสลายหายไปไม่มีเหลือ
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่กระบี่ในมือของเขาได้สั่นไหวพร้อมทั้งส่งคลื่นกระบี่อันทรงพลังออกไปรอบทิศทาง
พุฟฟ ~!
พุฟ ~
พุฟฟ~!
คลื่นกระบี่อันหนักหน่วงได้แปรสภาพของผู้คนกลายเป็นกองเลือดไปขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเขตแดนนิรันดร์อมตะตอนปลายหกคนได้ตกตายลง
นี่ทำให้ผู้คนโดยรอบได้แต่พากันสั่นสะท้านไปไม่หยุด
เป็นเพราะว่าซ่งหวางเอ่ยปากชวนดังนั้นผู้เชี่ยวชาญเขตแดนอนันตกาลตอนปลายทั้งสิบสองคนถึงได้ยอมเข้าช่วยแต่ตอนนี้หนึ่งในชายชราได้หันมองไปทางซ่งหวางแล้วพูดว่า
“ต้องขออภัยนายน้อยด้วยจริงๆแต่ข้าไม่ต้องการรางวัลจากท่านแล้ว……ข้าไม่สามารถต่อกรกับเขาได้ ”
เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญเร่ร่อนที่หลังจากพูดจบแล้วได้หันหลังพร้อมทั้งพยายามออกห่างจากสถานที่แห่งนี้เพราะว่าหลินเทียนนั้นแข็งแกร่งจนเกินไปทำให้ไม่มีทางเลยที่ใครในที่นี้จะสามารถต่อกรได้
ซ่งหวางที่มีสีหน้าน่าเกลียดอยู่แล้วก็ยิ่งตกต่ำลงไปกว่าเก่า
เป็นเพราะแม้หลินเทียนจะสังเวยอาวุธนิรันดร์แท้จริงออกมาแต่เขาก็เชื่อว่าหากรวมพลังกันแล้วก็น่าจะเพียงพอที่จะจัดการกับหลินเทียนลงได้และเขาจะต้องชิงเอาแร่ดารากลับมาให้ได้แต่ทว่าตอนนี้กลับมีคนเอ่ยปากล้มเลิกความตั้งใจที่จะช่วยเขาแล้ว
นี่ทำให้เขารู้สึกโกรธจัดเป็นอย่างมาก
แกร๊ง !
เสียงกระบี่คำรามถูกส่งออกมาขัดจังหวะคำพูดของชายชราเอาไว้ขณะที่คลื่นกระบี่พุ่งเข้าใส่ทางเขา
พุฟฟ ~! ~!
คลื่นกระบี่อันทรงพลังทะลวงผ่านร่างของชายชราจนทำให้ร่างของอีกฝ่ายมีรูเลือดอยู่กลางหน้าอก
“ก่อนหน้านี้ยังแห่กันเข้ามาโจมตีข้าอยู่เลยแต่ตอนนี้คิดจะถอยงั้นรึ คิดว่ามันมีเรื่องง่ายๆแบบนี้อยู่ด้วย ? ”
หลินเทียนส่งเสียงอันเย็นยะเยือกออกมา
เมื่อสิ้นสุดคำพูดแล้วเขาได้พุ่งเข้าประชิดร่างของอีกฝ่ายโดยทันที
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับหลินเทียนเช่นนี้แล้วสีหน้าของชายชราเองก็ถึงกับเปลี่ยนสีไปทันทีเพราะเขาตระหนักได้ถึงความร้ายกาจของร่างนิรันดร์แท้จริงนี้เป็นอย่างดีดังนั้นถึงได้รีบหันหลังพุ่งหนีไป
น่าเสียดายที่มันสายเกินไปแล้ว
“ทึ้ม~! ”
หลินเทียนเหวี่ยงหมัดอันทรงพลังของเขาอัดเข้าใส่ร่างของชายชราอย่างจัง
พุฟฟ ~!
ร่างของชายชราได้ถูกบดขยี้ลงด้วยการโจมตีเหล่านี้ขณะที่ดวงวิญญาณแตกร้าวไปทั้งตัวเสมือนว่าแต่สัมผัสเบาๆมันก็จะแหลกสลายหายไปทำให้อีกฝ่ายได้แต่แสดงสีหน้าที่หวาดหวั่นออกมา
หลินเทียนโบกมือของเขาออกไปบดขยี้ร่างวิญญาณของอีกฝ่ายจนสลายหายไปอย่างสมบูรณ์
“ตะ..ตายแล้ว….เขตแดนอนันตกาลตอนปลายกลับถูกสังหารลงง่ายๆแบบนี้นี่มัน……”
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายที่อยู่นอกสนามรบพากันสั่นสะท้านไปตามๆกัน
ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ภายในเองก็มีร่างกายที่สั่นไหวอย่างต่อเนื่อง
เสียง วิ้ส วิ้ส วิ้สส ถูกส่งออกมาขณะที่กลุ่มผู้เชี่ยวชาญพากันหันหลังพุ่งหนีไปจากที่นี่
“เหอะ ! ”
หลินเทียนได้แสยะออกมาอย่างเย็นชาพร้อมทั้งฟาดฟันคลื่นกระบี่ออกไปปกคลุมร่างของพวกเขาทั้งหมดเอาไว้ทำให้พวกเขาถูกปิดกั้นเอาไว้ในอาณาเขตที่เฉพาะเจาะจง
หลังจากนั้นร่างของเขาก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของกึ่งอนันตกาลคนหนึ่งพร้อมทั้งเหวี่ยงหมัดกระแทกร่างและบดขยี้ดวงวิญญาณของอีกฝ่ายสลายหายไปอย่างสมบูรณ์
“พุฟฟ ~! ”
ไม่นานก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าผู้เชี่ยวชาญอีกคนและลงมือสังหารไปอย่างรวดเร็ว
จริงๆแล้วเขามาที่นี่ก็เพื่อชิงเอาแร่ดาราและสังหารซ่งหวางแต่ตอนนี้ไม่ได้เปิดฉากโจมตีเข้าใส่ซ่งหวางอีกต่อไปแต่เริ่มสังหารผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้
เพราะหากเทียบกันแล้วเขารู้สึกรังเกียจคนประเภทนี้มากเสียกว่าซ่งหวางเสียอีก
“แกร๊ง ! ”
เสียงกระบี่คำรามถูกส่งออกมาอย่างดังขณะที่คลื่นกระบี่ศุกลสวรรค์ถูกส่งออกไปรอบทิศทางพร้อมทั้งบดขยี้ร่างของกึ่งอนันตกาลไปสามคนและเขตแดนนิรันดร์อมตะตอนปลายไปสี่คน
“สหายโปรดอภัยให้ด้วย ! พวกข้ารู้สำนึกแล้วว่าไม่ควรจะเปิดฉากโจมตีเข้าใส่เจ้า ”
ผู้เชี่ยวชาญเขตแดนนิรันดร์อมตะตอนปลายคนหนึ่งส่งเสียงสั่นๆออกมาพลางพูดต่อว่า
“ได้โปรดให้โอกาส…….”
“แกร๊ง ! ”
เสียงกระบี่คำรามดังสนั่นหวั่นไหวถูกส่งออกมาขัดจังหวะคำพูดของอีกฝ่ายเอาไว้พร้อมทั้งทะลวงผ่านหน้าผากของมันไป
หลังจากที่สังหารชายคนนี้แล้วเขาก็ยังคงลงมือสังหารอย่างต่อเนื่อง
ตัวเขาส่งความคิดออกไปเพื่อฟาดฟันคลื่นกระบี่เข้าใส่ผู้เชี่ยวชาญสิบกว่าคนที่ยังเหลือรอดอยู่ทำให้พวกเขาพากันลอยเคว้งออกไปไกลด้วยสภาพที่โชกไปด้วยเลือด
หลังจากนั้นเสียงพุ่งผ่านอากาศก็ได้ถูกส่งออกมาขณะที่เขาพุ่งออกไปปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของชายชราเขตแดนอนันตกาลตอนปลายคนหนึ่งและเหวี่ยงหมัดบดขยี้ร่างกายหยาบของอีกฝ่ายเป็นชิ้นๆ
วิ้สสส ~!
ร่างวิญญาณของชายชราที่ยังคงไม่แตกดับได้รีบพุ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
ทว่าความเร็วของหลินเทียนนั้นสูงกว่ามากพร้อมทั้งคว้ามือเข้าใส่ดวงวิญญาณของอีกฝ่าย
ชายชราได้แต่สั่นสะท้านไปไม่หยุดเสมือนว่ากำลังถูกเทพแห่งความตายคว้าคอเอาไว้ถึงได้แต่มองไปทางหลินเทียนพลางพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นกลัวว่า
“ได้โปรดเมตตาข้าด้วย ! ข้าเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายเตาพลังวิญญาณหยก ! ”
“ผู้อาวุโสสูงสุดแล้วไง ? ”
หลินเทียนส่งเสียงอันเย็นยะเยือกออกมาว่า
“ขนาดนายน้อยราชวงศ์เกียรติภูมิข้ายังคิดจะฆ่าแล้วคิดว่านิกายของเจ้าเป็นอะไร ? คิดว่ามันแข็งแกร่งว่าราชวงศ์ไหม ? ”