Don’t Heal the Others เล่นเกมออนไลน์ อย่าไปฮีลมันเลย! - ตอนที่ 102
เพียงแต่มองไปที่ใบหน้าของก็เห็นได้ชัดว่าเด็กคนนี้นั้นหยิ่งพยองถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไรออกมากมาย และภารกิจนี้ ต้องยากมากแน่นอน เพราะเขาไม่กล้าที่จะทำภารกิจนี้คนเดียวและขอความช่วยเหลือจากพระคนหนึ่ง
“เฮ้ ไอหนู นี้มันเป็นภารกิจแบบไหนกัน?”
เจ๋าซือ ถามด้วยความสงสัย
“มันอาจเป็นภารกิจของโซน” เฉียงกวนเอาเฉิน ไตรตรองเกี่ยวกับภารกิจก่อนจะตอบ เจ๋าซือ
“ว่าไงนะ?” เจ๋าซือ ตกตะลึง ซึ่งดึงดูดความสนใจของคนอื่น
“นายคิดว่านายจะทำภารกิจของโซนได้ด้วยตัวคนเดียวรึ?” เตียจู อดไม่ได้ที่จะพูดออกไป
เสี่ยวเฟิง รู้สึกประหลาดใจ พอๆ กับ ซื๋ออี้ เขาไม่รู้ว่า เฉียงกวนเอาเฉิน ได้รับภารกิจของโซนของเมือง เตียนหลง มาแล้ว
ภารกิจโซน ที่ก็คือภารกิจที่มีไว้เปิดโซน หลังจากที่ทำภารกิจนี้สำเร็จ โซนระดับ 15 จะปรากฏขึ้นที่เมือง เตียนหลง แม้ว่ามันจะเป็นโซนใหญ่สำหรับผู้เล่น 20 คน แต่มันก็จะไม่มีความยากนักเมื่อระหว่างที่ปฏิบัติทำภารกิจนั้น และจะทำสำเร็จ ได้อย่างง่ายดายโดยการทำตามเงื่อนไขของภารกิจให้สำเร็จ
แต่ถึงกระนั้น ภารกิจมันยังคงยากสำหรับคนเพียงสองคนที่จะทำมันได้สำเร็จ ดังนั้นเด็กคนนี้ถึงมีความกล้าหาญมาก
ก่อนที่จะทำภารกิจของโซน สถานที่นั้นอยู่ในแผนที่ แทนที่จะเป็นทางเข้าโซน ดังนั้นมันจะไม่ส่งผลใดๆ ต่อ รอบการลงโซน ที่เสียวเฟิงกับ ซื๋ออี้ ได้ใช้ไป
ภายในโบสท์ที่คร่ำครึ มีสัตว์ประหลาดรูปร่างเหมือนคนและผู้ศรัทธาคืนชีพนั้นอยู่ไปทั่ว เมื่อพวกเสี่ยวเฟิงเข้าไปยังรูปปั้นดินที่พังทลายระหว่างที่ต่อสู้กับพวกสัตว์ประหลาด พวกเขาก็ได้ค้นพบทางเข้าไปสู่ห้องลับซึ่งเป็นตำแหน่งที่แท้จริงของภารกิจนี้
“บัฟให้ที”
ดูเหมือนว่า เฉียงกวนเอาเฉิน จะเคยมาที่นี้ ดังนั้นเขาจึงเริ่มจะวังตัวเมื่อเข้ามาอยู่ด้านหน้าทางเข้าห้องลับ และพูดขึ้นมาระหว่างที่เข้าเดินเข้าไป
ซื๋ออี้ ให้ พรชีวิต กับ เฉียงกวนเอาเฉิน เสี่ยวเฟิงที่กำลังมองไปทั่ว ก็ให้ พรอาวุธ กับเขาด้วยเช่นกัน แต่ ซื๋ออี้ นั้นก็ชอบที่จะเพิ่ม พรอาวุธ หลังจากที่เธอได้เพิ่ม พรชีวิตไปแล้ว ดังนั้น พรอาวุธของเธอจึงคลุมไปกับของ เสี่ยวเฟิง
ฉนั้น เฉียงกวนเอาเฉิน จึงได้ยินเสียงเตือนสองครั้ง ครั้งแรกเป็น ค่าพลังโจมตีที่ถูกเพิ่มขึ้นโดย เสี่ยวเฟิง และครั้งที่สอง เป็น ค่าพลังโจมตีที่ถูกเพิ่มโดย ซื๋ออี้.
จากนั้น เด็กคนนี้ ก็ตะลึงงัน และไม่เชื่อสิ่งที่เขาเห็นบน แทบสถานะของเขา และเขาถึงกับต้องขยี้ตาทั้งสองข้างพื่อจะมองเห็นมันได้อย่างชัดเจน
“พ..พล…พลังโจมตี หนึงร้อยสี่สิบเชี่ยวหรอ?!”
เด็นคนนี้ ตกตะลึงและมองที่ยังเสี่ยวเฟิงด้วยดวงตาที่เกือบจะถล่นออกมาของเขา และใบหน้าของเขาก็ถูกเติมเต็มไปด้วยความตกใจ
“พี่ชาย เสี่ยว ของเราเป็น ฮีลเลอร์หมายเลขหนึ่ง จะประหลาดใจอะไรมากมายละ?” เจ้าโง่” เจ๋าซือ พูดด้วยความภูมิใจแม้ว่าเขาก็ตกตะลึงไปกับสิ่งที่เขาเห็นเช่นกัน
เฉียงกวนเอาเฉิน มองไปที่เสี่ยวเฟิงด้วยความชมเชย จากนั้นเขาก็หันไปทาง ซื๋ออี้ แล้วพูดอย่างอายๆ
“ลูกพี่ ไม่ต้องเพิ่มบัฟให้กับผมหรอก บัฟของพี่มันไม่ค่อยมีประโยชน์อะไร แล้วมันก็ยังไม่ได้ถึงครึง ของบัฟของ เสี่ยวเฟิง ด้วยซ้ำ”
ซื๋ออี้ เหล่ ดวงตาที่น่ารักของเธอทันที และเผยให้เห็นถึงอันตรายในตาของเธอ เธอเดินไปดึงหูทั้งสองข้างของ เฉียงกวนเอาเฉิน และทำให้ศรีษะของเขาเอียง
“แก ว่า ไง นะ?”
“โอ้ยยย! ผมผิดไปแล้ว! หยุดที! มันเจ็บนะ ผมผิดไปแล้ว!” เฉียงกวนเอาเฉิน ร้องออกมาในทันที ถึงความเจ็บปวดจะถูกทำให้อ่อนเบาลงในเกมนี้ ความเจ็บปวดจะถูกลดลงก็ต่อเมื่ออยู่ระหว่างการต่อสู้แบบนองเลือดเท่านั้น และผู้เล่นก็สามารถรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดจากการโจมตีตามธรรมดาได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
“ระวังปากแกเอาไว้!”
ซื๋ออี้ ปล่อยมือจากหัวของเขาและเตือน เฉียงกวนเอาเฉิน ซึ่งนั้นทำให้เขารู้สึกกลัวและไปหลบอยู่ข้างหลังเสี่ยวเฟิง
เสี่ยวเฟิง ส่ายหัว เพราะเขารู้ว่า เฉียงกวนเอาเฉิน นั้นสามารถดิ้นหนี ซื๋ออี้ ได้อย่างง่ายด่าย แต่เขาก็ไม่ทำ ดูเหมือนว่าเขาจะเคารพนับถือ ลูกพี่ลูกน้องของเขา จริงๆ
ทั้งห้าคนเข้าไปใน ห้องลับ อย่างระวัง ถึงอย่างไรมันก็ยังเป็นภารกิจของโซน ดังนั้นแม้มันจะง่าย ตัวบอสก็ยังยากที่จะต่อกรด้วยอยู่ดี และพวกเขาก็อาจตายได้ในทันทีถ้าพวกเขาไม่ตั้งสติ
หลังจากที่เวลาคูลดาวน์ 30 วินาทีผ่านไป เฉียงกวนเอาเฉิน ก็ อดใจรอไม่ไหวที่จะเร่งให้ เสี่ยวเฟิง เพิ่ม พรอาวุธ ให้กับเขา เพราะเขาเสียเวลารอมานานแล้ว
“ฮ่าฮ่า จะไม่มีใครหยุดฉันได้! พลังโจมตี 200 วู้ฮู้!”
หลังจากที่เสี่ยวเฟิง เพิ่ม พรอาวุธ ให้กับเขา เฉียงกวนเอาเฉิน ก็เริ่มหัวเราะออกมาอย่างหยิ่งพยอง จากนั้นเขาก็วิ่งเข้าไปในฝูงสัคว์ประหลาดและกำจัดพวกมันด้วยดาบยาวของเขา
“-147!”
“-151!”
“-142!”
“คริติคอล-268!”
- ··
ตัวเลขมากมายลอยออกมาจากเหล่ามอนเสตอร์ และหลอดพลังชีวิตของพวกมันก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัก
“ว้าว! ดีมากเลย!”
เฉียงกวนเอาเฉิน นั้นพอใจอย่างมากกับสิ่งนี้และกลับไปกำจัดพวกมันต่อ หลังจากนั้นพวกสัตว์ประหลาดเหล่าก็เกือบที่ถูกกำจัดไปแล้วทั้งหมด
“ไอเด็กนี้ ก็เก่งไม่เบานิ!”
พี่น้อง นิโคลัส ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับดาบ แต่พวกเขารู้สึกได้ว่า สิ่งที่ เฉียงกวนเอาเฉิน กระทำด้วยดาบของเขา นั้นคล่องแคล่ว และ ไม่เหมือนกับผู้เล่นธรรมดาเหล่านั้น ที่ใช้อาวุธของพวกเขาไม่เป็นสะด้วยซ้ำ
ในขณะที่ เฉียงกวนเอาเฉิน ใช้ดาบนั้นได้ง่ายดายและคล่องแคล่ว และเขาก็สามารถจู่โจมด้วยดาบของเขาได้โดยไม่ต้องหยุดพัก
นั้นสร้างความประทับใจกับ สองพี่น้อง นิโคลัส และพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่เด็กคนนี้อย่างจริงจังขึ้น
แม้แต่ เสี่ยวเฟิง ก็รู้สึกประทับใจเช่นกันและเขาก็คิดว่า เขาคงจะไม่ใช้แค่เด็กคนหนึ่งแล้ว
“ก่อนหน้านี้ ฉันสามารถตัดเลือดของมันออกได้เพียง 30 หรือ 40 เปอร์เซ็นเท่านั้น แต่ตอนนี้มันรู้สึกดีมากๆเลยละ!?”
เด็กคนนี้ ตื่นเต้นอย่างมาก ราวกับว่าเขาเพิ่งได้รับของเล่นชิ้นใหม่และเขาไม่หยุดหย่อนตลอดทางที่เขาได้กวาดล้างมอนเสตรอ์ตัวเล็กทั้งหมดและทำให้คนอื่นๆ หมดโอกาสที่จะทำเช่นนั้น
“มันน่าจะอยู่ที่นี่ พวกเราจะต้องกำจัดบอสและได้รับเควสไอเทม”
ความลับข้างใต้โบสเก่านั้น ไม่ยิ่งใหญ่อะไร ดังนั้นพวกเขาจึงมาถึงที่ห้องมืดๆ หลังจากที่ได้กำจัดมอนสเตอร์ตัวจ๋อยตามทางไปทั้งหมด ซึ่งดูเหมือนว่าจะถูกใช้เพื่อขังคน
“มันดูมืดมนจัง”
เจ๋าซือ พูดออกมาหลังจากที่เขาได้มองไปรอบๆ และมั่นใจว่านี้เป็น หอผู้ป่วย ที่มีอุปกรณ์ที่เอาไว้ใช้ในการทรมานจำนวนมากแขวนไว้บนกำแพงที่เปื้อนเลือด
ความจริงแล้ว พวกเขารู้สึกถึง บรรยากาศอันมืดมนและเยือกเย็น ได้ก่อนที่พวกเขาจะเข้ามาในห้อง
“ภูมิหลังของภารกิจนี้บอกไว้ว่ายังไงนะ?” เตียจู ถาม
“ดูเหมือนว่า สังฆราช(pontifex/pontiff) แห่งวิหารแห่งแสง หันไปคบหากับกองทัพมืด และได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับเวทมนต์บ้างอย่างในโบทส์แห่งนี้ แต่เขาทำล้มเหลว ซึ่งความล้มแหลวนั้นทำลายเมืองนี้ทั้งเมืองและเปลี่ยนมันไปเป็นสถานที่ที่แปดเปื้อนและไม่สามาถที่จะชะล้างได้” เฉียงกวนเอาเฉิน คิดถึงเรื่องราวของภารกิจที่อยู่ตรงหน้าและพูดออกมา
“เป็นภารกิจที่นายรับมาจากวิหารแห่งแสงของเมืองเตียนหลงอย่างนั้นรึ? เสี่ยวเฟิง ถามด้วยความสงสัยและเขาก็รู้ในทันทีว่ามันเกี่ยวข้องกับวิหารแห่งแสง
“ปล่าว ภารกิจนี้ได้รับมาจาก คฤหาสน์ของเจ้าเมือง NPC ได้บอกมาว่าเป็นเพราะว่า ผู้ก่อเหตุคือพระสังฆราชที่หันไปเข้ากับกองทัพมืดนั้น ดังนั้นวิหารแห่งแสงจึงปฏิเสธที่จะรับผิดชอบ และไม่ยอมส่งใครมาชะล้างเมืองแห่งนี้ แต่เมืองนั้นก็เป็นเขตแดนของจักรวรรดิ ฉนั้น เจ้าเมืองจึงไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากส่งนักผจญภัยเข้ามาที่นี้ ถ้าพวกเราทำภารกิจของเราสำเร็จ ก็จะมีทหารจากเมืองเตียนหลงเข้ามาสร้างฐานทัพและกลุ่มจุดเคลื่อนย้าย (teleport formation) จากนั้นที่นี้ก็จะเปิดเป็นโซนพิเศษ ” เฉียงกวนเอาเฉิน ส่ายหัวแล้วพูดขึ้น
“โอเค” เสี่ยวเฟิงพยักหน้าและคาดว่ามันก็คงจะคล้ายกันกับ ฐานทัพ ของ ฟอเวิดแค็มฟ
“ได้เลเวลไปหาบอสแล้ว ไปกันเถอะ”
หอผู้ป่วยนั้นกว้างใหญ่และพวกเขาทั้งห้าคนก็เดินเข้าไปข้างในที่ตามหลังกันไปที่ละคน ในแสงสลัว พวกเขาก็มองเห็น ใครคนหนึง ที่นิ่งเงียบและดูเหมือนกับ ร่างไร้วิญาณอยู่บนเก้าอี้เหล็กที่ใช้สำหรับการสอบสวน อยู่ตรงกลางของห้อง
“นี้คือบอสงั้นหรอ?”
“ไม่น่าจะใช่ เขามีหลอดเลือดและเป็นปกติ เขาเป็นมอนเสตอร์ชั้นสูง ระดับ 15 ชื่อว่า ตัวทดลองหมายเลข 17”
พวกเขาทุกคนรู้แปลกใจเล็กน้อย เพราะว่าไม่มีบอสอยู่ในหอผู้ป่วยที่ว่างเปล่าแห่งนี้ เหลือแต่มอนเสตอร์ระดับสูงที่นั้งอยู่บนเก้าอี้เหล็กเท่านั้น
“เราฆ่ามันก่อนจากนั้นค่อยหาต่อ ”
พี่น้อง นิโคลัส พูดขึ้นหลังจากที่พวกเขามองไปรอบๆ แล้วไม่พบอะไร
“เริ่มกันเถอะ”
เสี่ยวเฟิงจำใจตกลง .เฉียงกวนเอาเฉิน ยังคงตื่นเต้นกับการฆ่ามัน
“ฮูมมม!”
“อู่ลาล้า!”
ในเวลานี้ พวกเขาสังเกตุเห็นว่า ตัวทดลองหมายเลข 17 ถูกล็อคติดอยู่กับเก้าอี้เหล็กด้วยโซ่เหล็กขึ้นสนิม เมื่อ เฉียงกวนเอาเฉิน เริ่มเข้าไปใกล้ มันก็ยกหัวของมันขึ้นแล้วคำรามซึ่งทำให้ โซ่เหล็กครูด กันเสียงดัง
แต่มันก็ยังถูกล็อคให้กับที่ และมันก็ไม่สามารถดิ้นหลุดออกมาได้ไม่ว่ามันจะพยายามแบบไหนก็ตาม ดังนั้น มันก็สามารถที่จะถูกโจมตีเหมือนกันกับเป้าหมายที่มีชิวิต
“มันไม่ง่ายไปหน่อยหรอ?”
เฉียงกวนเอาเฉิน แทงมันด้วยดาบสองครั้ง และตัวทดลองก็ไม่สามารถที่จะป้องกันตัวได้ จกานั้น เฉียงกวนเอาเฉิน ก็รู้สึกแปลกๆ และตัดสินใจที่จะฆ่ามันทันที
ด้วยหลอดเหลือที่เหลือ ศูนย์ ศรีษะของตัวทดลองหมายเลข 17 ก็ก้มลงมา เมื่อนั้น เสี่ยวเฟิงจึงรู้สึกได้ว่าบ้างอย่างผิดแปลกไป
“ถอยออกมา! มีบ้างอย่างผิดปกติ!”
มันก็ยังสายเกินไป สำหรับ เสี่ยวเฟิงที่จะพูดมันออกมาแล้ว หลังจากนั้นหน้าอกของ ตัวทดลองหมายเลข 17 ก็เริ่มระเบิดก็าซสีดำเริ่มไหลออกมาเหมือนกับของเหลว
โชคดีสำหรับ เฉียงกวนเอาเฉิน ที่ตอบสนองอย่างรวดเร็วและรักษาระยะห่างจากก็าซโดยการตีลังกาย้อนหลังกลับไป
“ดูเหมือนว่านั้นคือบอสนะ เวทมนต์พวกนั้น” เสี่ยวเฟิงพูดออกมาระหว่างที่จ้องไปยังก๊าซสีดำ
ทุกคนตื่นตระหนก พวกเขาเห็นก็าซสีดำเริ่มแยกออกจากร่างของตัวทดลองและรวมตัวกันเพื่อก่อเป็นรูปร่าง
มันเหมือนกับของเหลว ที่ดูคล้ายกับปิโตรเลียมเจลลี่ จากนั้นมันก็เปลี่ยนไปอย่างแม้จริงเป็น ลูกบอลที่ดูแปลกประหลาดและมีเส้นผ่านศูนย์กลางยาวสองเมตร มันยังมีก้อนเนื้อแปลกประหลาดอยู่ไปทั่ว ทำให้ทุกคนนั้นขนลุก
ในขณะเดียวกัน หลอดพลังชีวติและสถานะของมันก็ปรากฏขึ้น
ปีศาจแห่งความน่ารังเกียจ
เลเวล: 15
ชนิด: บอสชั้นสูง
HP : 11000/11000
ค่าพลังโจมตี: 95-100
ค่าความฉลาด:99-110
ค่าพลังป้องกัน: 88-98
ค่าพลังป้องกันเวทมนต์: 80-85
ทักษะ:
หนามบมแห่งความเกลียดชัง หนามบมแห่งความหวาดกลัว การเติบโต ความมืดหนึ่งเดียว ฝันร้ายหนึ่งเดียว
คำอธิบาย : มอนสเตอร์ เกิดจากความเกลียดชังด้านลบ มีความสามารถในการแพร่ความหวาดกลัวแม้จะอยู่ในพลังที่ต่ำ
คุณสมบัตื: เป็นบอสชั้นสูง มีพลังโจมตีที่สูงและมีพลังป้องกัน และสามารถโจมตีได้ทั้งทางกายภาพและทางเวทย์มนตร์