Don’t Heal the Others เล่นเกมออนไลน์ อย่าไปฮีลมันเลย! - ตอนที่ 124
ผัวะ!
เสี่ยวเฟิงทุบไปที่ด้านหลังหัวของผีดิบชาวบ้าน พร้อมกันนั้นตัวเลขความเสียหายก็ปรากฎขึ้นมา แล้วมันก็ตายไปทันที
“-1188 คริ!”
ปิ๊ง ปิ๊ง
เสี่ยวเฟิงบัฟใส่ตัวเองอีกมากมาย เขาจัดการพวกมอนสเตอร์อย่างง่ายดาย
พวกนักรบและคนอื่นๆที่อยู่ด้านหลังเขาต่างก็ยืนงงกันเป็นแทบๆ พวกเขาไม่เคยเห็นความเสียหายเยอะขนาดนี้มาก่อน พระคนนี้สามารถจัดการพวกมอนสเตอร์ได้โดยที่ไม่ต้องมีพวกเขาช่วย แถมยังมีบัฟที่สามารถเพิ่มพลังตัวเองได้เยอะสุดๆอีก นี่อาจจะเป็นพลังที่แท้จริงของผู้เล่นที่เก่งที่สุดในฮัวเซียแน่ๆ
ดวงตาของเฉียนเองก็มองเสี่ยวเฟิงอย่างปลาบปลื้ม เธอรู้อยู่แล้วว่าชายคนนี้เก่งกาจก็จริง แต่ก็เพิ่งจะเคยเห็นฝีมือที่แท้จริงของเขาในวันนี้
แม้เธอจะไม่ใช่ผู้เล่นสายบู๊แบบนี้แต่ก็รู้ดีว่าพลังโจมตีของผู้เล่นทั่วไปน่าจะมีราวๆ 120 แต่ของเสี่ยวเฟิงนั้นสูงถึง 1200 นี่เป็นระยะห่างที่ขาดช่วงสุดๆ
“เขาคือพระเทพจริงๆ… โคตรเก่ง…”
นักรบและคนอื่นๆต่างก็ช็อคและไม่รุ้จะพูดอะไรดี พวกเขารู้แค่ว่าหมอนี่คือพระเทพที่สามารถผ่านเควสทดสอบได้ด้วยตัวคนเดียวแน่ๆ
เสี่ยวเฟิงเมินพวกเขาอย่างสิ้นเชิงแล้วรีบมุ่งหน้าไปยังใจกลางเมือง เป้าหมายคือบอสตัวแรกของที่นี่นายทหารผีดิบ
เฉียนเองก็รีบวิ่งตามเขาไปในขณะที่คนอื่นๆได้แต่มองเสี่ยวเฟิงตาปริบๆ
“เอาไงกันต่อดี?”
เฉียนถามเสี่ยวเฟิง
“ไม่ต้องไปสนใจหรอก”
ชายหนุ่มส่ายหัว เขาไม่ได้อยากจะยุ่งหรือปะทะคารมอะไรกับผู้เล่นธรรมดาอยู่แล้ว
ตอนนี้มีเพียงแค่เฉียนเท่านั้นที่ตามเขามาในลานกว้างนี้ ดังนั้นชายหนุ่มจึงใช้สกิลได้อย่างเต็มที่ นั่นรวมถึงโฮลี่ไลท์เมื่อเลือดของเขาเหลือต่ำกว่า 15% ,และค้อนแห่งความยุติธรรมที่ตอนนี้ทำความเสียหายได้มากถึง 2000 หน่วย
เสี่ยวเฟิงจัดการบอสได้ในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง แถมในครั้งนี้เขาโชคดีที่ดรอปไอเทมระดับตำนานได้ด้วย
เข็มขัดผู้กล้า
ระดับ ตำนาน
ชนิด หมวก
เลเวล 15
ความต้องการ ว่องไวไม่ต่ำกว่า 75
ค่าสเตตัส
อัตราการหลบหลีก +15%
แข็งแกร่ง +18
ว่องไว +23
ทนทาน +18
จิตใจ +18
ปัญญา +18
พิเศษ
ประสาทสัมผัสเฉียบคม อัตราการหลบหลีกเพิ่มขึ้นอีก 10% เป็นเวลา 30 วินาที คูลดาวน์ 1 ชั่วโมง
เสี่ยวเฟิงใส่มันทันทีในช่องเข็มขัด และพบว่าค่าสเตตัสของเขาเพิ่มขึ้นพอสมควร แต่สกิลของไอเทมชิ้นนี้ไม่จำเป้นสำหรับเขาเท่าไหร่นัก
ไอเทมอื่นๆก็ไร้ค่าสำหรับเขาเพราะค่าสเตตัสที่ต่ำเกินไป เขาไม่อยากจะใส่ของที่มีคุณภาพต่ำกว่าสีเงินหรือระดับหายากสุดๆอีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงโยนของเหลือใข้ทั้งหมดให้กับเฉียน
หญิงสาวเองก็ได้ค่าประสบการณ์มากมายหลังจากที่ทำเควสนี้เสร็จ
“พี่เสี่ยวจะไปเมืองอื่นกับฉันอีกไหม?”
แต่เฉียนก็ระลึกได้ได้ว่าเธอต้องไปที่เมืองอื่นต่อ แล้วในตอนนี้ดูเหมือนว่าเสี่ยวเฟิงจะไม่ได้มีความคิดอยากจะไปเสียเท่าไหร่
“ฉันแก้ปัญหาได้แล้วล่ะ ฉันจะช่วยเธอผ่านเควสแล้วเอาตำแหน่งไปจากนั้นเธอก็ไปซื้อที่ดินตามที่ต้องการดด้วยตัวเองเลย”
ชายหนุ่มปรบมือเข้าหากันแล้วพูดออกมา เขาไม่ได้ต้องการจะไปทุกเมืองกับเฉียนแน่ๆ เพราะว่ามีเมืองอีกตั้ง 10,000 เมืองในเกมนี้ ดังนั้นเขาจึงคิดหาทางออกที่ดีที่สุด
“เห็นด้วยเลย!”
แต่เฉียนดูดีใจผิดจากที่คิดเอาไว้
เพราะเธอเสียเงินไปมากกว่า 9 ล้านทองในการตระเวนซื้อที่ดินในเมืองต่างๆไปแล้วมากมาย ซึ่งมันแพงมากๆและเธอกำลังคิดว่าจะยอมปล่อยที่เหลือไปแต่โดยดี ทว่าเธอไม่คิดว่าเสี่ยวเฟิงจะอาสาช่วยแบบนี้
“ไปกันเถอะ”
ชายหนุ่มเริ่มสัมผัสได้ถึงความคิดแปลกๆของเฉียนแต่ก็ยังตอบไม่ได้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ ก่อนที่จะส่ายหัวแล้วคิดจะพาเธอไปยังวิหารแห่งแสง
ชายหนุ่มคุ้นเคยกับที่นี่ดี และนั่นก็ทำให้เฉียนได้รับประโยชน์ไปด้วย ถ้าเป็นแบบนี้เธอจะต้องกว้านซื้อที่ดินได้มากมายแน่ๆ
แต่คู่นิโคลัสเองก็ทักพวกเขามาก่อน
“พี่เสี่ยวอยู่ไหนน่ะ? ว่างรึเปล่า?”
“ฉางกวงโดนรังแกน่ะ แล้วพวกเราก็สู้เขาไม่ได้ด้วย” เจาซือพูดด้วยความอับอาย
“เกิดอะไรขึ้น?”
เสี่ยวเฟิงรู้สึกประหลาดใจ เพราะฉางกวงเป็นเด็กฉลาดเกินวัยและไม่น่าจะมีใครที่รังแกเขาได้ขนาดนั้น
“มีไอ้สารเลวคนนึงก่อปัญหาที่สมาพันธ์แล้วพวกเราก็เลยตัดสินด้วยกำลังกันนอกเมือง แต่หมอนี่ดันเก่งเกินไปและจัดการพวกเราได้ ถึงฉางกวงจะยังไม่แพ้ก็จริงแต่ก็น่าจะอีกไม่นาน”
“ขอชื่อมันได้ไหม?”
เสี่ยวเฟิงขมวดคิ้วหลังจากได้ยินแบบนั้น เป็นที่รู้กันดีว่าเมื่อคุณโด่งดังก็ต้องมีคนมากมายคอยอิจฉาและขัดแข้งขัดขาคุณ แต่ถ้าอีกฝ่ายดันเป็นผู้เล่นเก่งๆก็จะรับมือยากหน่อย
“หมอนั่นชื่อฮานเฟิง ฉันคุ้นชื่อมันนะแต่ก็นึกไม่ออกอยู่ดี แถมยังปากดีโคตรๆเลยด้วย”
“ฮานเฟิง?”
เฉียนที่ยืนอยู่ใกล้ๆเสี่ยวเฟิงได้ยินบทคุยพวกนี้ ทั้งสองมองหน้ากันแล้วนึกออกทันที
“พวกนายอยู่ที่ไหน? เดี๋ยวฉันไปหา”
เสี่ยวเฟิงถาม และมั่นใจว่าหมอนี่อยู่ในรายชื่อเซเลบแน่ๆ แถมยังเล่นเก่งจนฉางกวงยังสู้ไม่ได้เลยด้วย
ชายหนุ่มเรียกเสี่ยวสุยออกมาที่ทางเข้าเขตนี้แล้วรีบวิ่งฝ่าฝูงชนออกไปหาพวกคู่นิโคลัส
“พี่เสี่ยว ไอ้สารเลวนั่นน่าจะคิดว่าแหวนของมันน่าจะขายได้ราคาสูงอยู่แน่ๆเลย!”
เฉียนตามเขาไปด้วยบนม้านั่น เธอกอดเสี่ยวเฟิงเหมือนเคย
ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไร เจาซือเองก็อยู่ที่นอกเมืองเตียนหลงซึ่งไม่ห่างจากเมืองร้างนี่เท่าไหร่นัก เสี่ยวสุยวิ่งด้วยความเร็วจัดๆจนถึงที่หมายภายใน 10 นาที
แต่เสี่ยวเฟิงก็ได้ยินเสียงดังมาก่อนที่เขาจะไปถึงซะอีก
“เฮ้! พ่อหนุ่ม! แดกข้าวมายัง? กูรอมึงอยู่เลย ทำไมช้าจังวะ?”
“เฮ้! เลิกเป็นนักดาบเหอะมึง เหวี่ยงดาบเหมือนกับเด็กผู้หญิงเลยมึงเนี่ย กระจอกฉิบหาย”
“เฮ้! ไอ้หนูทำการบ้านมายังวะ? แอบแม่มาเล่นเกมรึไง? แม่มึงตามมาตบกบาลแน่!”
“เฮ้ ไอ้หนูหยุดทำไมวะ! ตามกูมาเด้!”
“โอ้ ยอมแพ้เถอะ มึงจับกูไม่ได้หรอก! พอเหอะมึงกลับไปเรียนเดี๋ยวนี้เลยนะ ใกล้จะสอบแล้วนี่?”
“โง่จังวะ? กูบอกให้ไปเรียนไงเพื่อตัวมึงเลยนะ พ่อกับแม่อุตส่าห์ส่งมึงมาเรียนนะเว้ย แต่มึงดันมาเล่นเกมเนี่ยนะ!”
…
เสี่ยวเฟิงมองขึ้นไปก็พบกับนักธนูคนนึงที่กำลังวิ่งหนีแล้วพูดอะไรบางอย่างใส่คนที่วิ่งตามอยู่พร้อมกับยิงธนูไปด้วย
ชื่อบนหัวของเขาคือ ฮานเฟิง น่าจะเป็นคนเดียวกันกับที่ปากหมาแน่ๆ
ฉางกวงเองก็กำลังวิ่งตามเขาด้วยความโกรธสุดๆ และทุกครั้งที่ตามจับไม่ได้ก็ยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นไปอีก ฮานเฟิงเองก็ยังคงยั่วโมโหเขาไปเรื่อยๆ
บล็อก!
น่าแปลกที่แม้ว่าเด็กคนนี้จะโมโหแค่ไหนก็ตามแต่เขาก็ยังคงปัดป้องการโจมตีของฮานเฟิงได้
และที่ทำให้เด็กคนนี้โมโหก็คือหมอนี่มันไม่ยอมสู้กับเขาซึ่งๆหน้าต่างหาก
“พี่เสี่ยวมาแล้ว!”
คู่นิโคลัสที่ได้แต่มองเพราะช่วยอะไรเด็กคนนี้ไม่ได้ ถึงจะพยายามเข้าไปช่วยแต่ก็ถูกยิงตายกลับมาครั้งนึง
และเมื่อพวกเขาเห็นเสี่ยวเฟิงก็รีบตะโกนเรียกทันที
“เฮ้ หยุดทำไมวะ? ใจกล้าหน่อยก็วิ่งเข้ามาเลยเด้! ถ้าอ่อนแอแบบนี้ระวังจะหมดอนาคตนะ!”
ฮานเฟิงหัวเราะทันทีที่เห็นว่าฉางกวงหยุดวิ่ง และหมุนตัวเดินกลับไปโดยไม่ได้สนใจเขาเลย
“เฮ้ จะไปหาเพื่อนรึไง? เรียกแม่งมานี่ดิ๊กูจะฆ่าแม่งตรงนี้เลย!”
ทันใดนั้นฮานเฟิงก็สบตาเข้ากับเสี่ยวเฟิงและเฉียนที่เพิ่งลงมาจากม้า
“เฮ้ เฉียนโตวโตวนี่หว่า!”
เขาจำหญิงสาวคนนี้ได้ทันทีที่เห็นแม้ว่าจะปิดบังชื่อไว้ก็ตาม
จากนั้นฮานเฟิงก็โบกมือและตะโกนอย่างเดือดดาล
“เอาเงินกูคืนมาพร้อมกับแหวนเลยนะเว้ย! ไอ้พวกทุนนิยมโสโครกตายห่าไปซะ! เอากล่องกูคืนมาด้วย!”
เฉียนตะลึงพร้อมกับความรู้สึกอับอาย