Don’t Heal the Others เล่นเกมออนไลน์ อย่าไปฮีลมันเลย! - ตอนที่ 68
เสี่ยวเฟิงไม่คาดว่า หญิงคนนี้จะกลายเป็นปัญหาของเขาเเตสุดท้ายเขาก็ไล่เธอออกไปไม่สำเร็จ แต่เขาพยายามทำเป็นไม่สนใจเธอ เธอคงจะถูกฆ่าอย่างรวดเร็วและถูกส่งกลับไปยังหมู่บ้านฝึกหัด
เสี่ยวเฟิงเดินตรงเข้าไปในภูเขาหิมะ ม้าดำของเขานั้นว่องไวและพวกเขาเข้า่ไปถึงเขตแดนของสัตว์ประหลาด
อย่างรวดเร็ว แต่เสี่ยวเฟิงไม่ดูแผนที่เพราะต้องการที่จะเหลียกเลี่ยงพวกมอนเสอตร์ เพราะฉนั้น เขาจึงไม่ดึงดูดค่าความเกลียดใดๆ เลยแม้ว่าเขากำลังเคลื่อนที่อยู่ในอาณาเขตของพวกมัน
“นี้! สาวกผู้เลื่อมใส ทำไมชื่อของนายถึงแปลกจัง?”
“นี้! แล้วภารกิจของนายบอกให้ทำอะไรละ? ทำไมนายถึงเดินทางไปที่ภูเขาเจิสจรัส? ภูเขานั้นมันอยู่ห่างจากเรามากนะ นายเป็นผู้เล่นระดับเทพ ภารกิจของนายก็ต้องสำคัญมากแน่ๆ ”
“ไนฟ บอกว่านายไม่ใช้ผู้เล่นที่มาจากเมืองเชียงชุย แล้วนายเลือกจุดเกิดที่ไหน?”
“นายช่วยบอกวิธีที่จะทำให้ฉันเป็นพระที่เก่งขึ้นได้ไหม?
ตลอดทางซื๋ออี้ พูดไม่หยุด ถึงเสียงของเธอจะไพเราะ แต่เสี่ยวเฟิงก็เริ่มจะหมดความอดทนกับเธอ สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือผู้หญิงคนนี้น่าจะรวยมาก ดูเหมือนม้าขาวของเธอจะมีราคาที่แพงกว่าม้าดำของเสี่ยวเฟิง เธอจึงเคลื่อนที่ได้ไวกว่าเสี่ยวเฟิงทำให้เขาไมา่สามารถที่จะสลัดเธอออกไปได้ มีมอนเสตอร์อยู่เต็มไปหมดและเขาก็ขวางเธอไว้ไม่ให้เธอไว้ไม่ให้เธอวิ่งออกไปตามใจชอบไม่อย่างนั้นเธอคงจะแซงหน้าเขาไปแล้ว
เสี่ยวเฟิง โกรธและพูดขึ้นอย่างเย็นชา “เธอเป็น พระ ที่เก่งที่สุดใน วอร์สปิริตฮอล์ ไม่ใช่หรอ? ฉันว่าฉันคงเก่งไม่พอที่จะสอนเธอ”
แต่ ซื๋ออี้ ยอมรับถึงจุดอ่อนขอเธออย่างเต็มใจ แล้วพูดว่า “ที่ค่าสถานะของฉันดีก็เพราะว่าฉันใช้อุปกรณ์ที่ยอดเยี่ยม แต่ที่ฉันอ่อนแอ ก็เพราะฉันไม่มี สกิล ใช้เลย วันนี้นายได้ใช้สกิล เพิ่ม HP ของ ไนฟ ไปสองหน ฉันไม่คิดว่านั้นเป็นเรื่องบังเอิญ มันเป็นสกิลรักษาในตำนานใช้ไหม? พระที่สามารถรักษาผู้เล่นได้หลายครั้งภายใจแค่ชั่ววินาที นายช่วยสอนไฉันได้ไหม?”
“เธออยากจะเรียนสกิลนั้นจริงๆ หรอ?”
“ถูกต้อง!”
“ฉันจะสอนเธอ ก็ต่อเมื่อที่เธอสัญญาว่าจะกลับไปและไม่ตามฉันมาอีก หลังจากที่เธอได้เรียนมันแล้ว”
“ได้เลยไม่มีปัญหา!”
ซื๋ออี้ สัญญากับเขาในทันที เสี่ยวเฟิงกลัวว่าเธอจะกลับคำสัญญาเขาจึงพูดขึ้นทันที “ การรักษาแบบ Plug-in เป็นการรักษาแบบคาดการณ์ไว้ก่อน มันจะใช้เวลาราวๆ หนึ่งวินาทีเพื่อให้ โฮลี่ไลท์ ทำงาน และมันก็ยังใช้เวลาหนึ้งวินาทีที่การโจมตีของบอสจะสร้างดาเมจให้กับผู้เล่นอีกด้วย ถ้าเธอใช้สกิล โฮลี่ไลท์ ในตอนที่บอสโจมตีใส่ผู้เล่น เธอจะสามารถเพิ่ม HP ของเขาได้ทันทีเมื่อบอสทำดาเมจ ”
“ฟังดูง่ายจัง”
“มันจะไม่ง่ายเมื่อเธอได้ลองทำมันให้สำเร็จ เธอจะต้องใช้เวลานานในการหาเวลาที่เหมาะที่จะใช้สกิลของเธอ เอาละ เธอก็ลองกลับไปฝึกดู เธอสัญญาว่าจะกลับไปหลังจากที่เธอได้เรียนมัน ”
“ฉันไม่ได้สัญญาอะไรสักหน่อย” ซื๋ออี้ กระพริบดวงตากลมโตที่ชุ่มช่ำของเธอและแกล้งโง่
“เธอบอกว่า เธอจะไม่ตามฉันอีกต่อไปหลังจากที่เธอได้เรียนสกิลนี้” ใบหน้าของเสี่ยวเฟิง ดำมืดขึ้นมาทันที
“ฉันไม่ได้ตามนาย! ฉันก็อยากไปที่ ภูเขาเจิดจรัส เหมือนกัน! ฉันก็เป็นนักพิธรการเหมือนกันและภูเขานั้นก็ไม่ใช้ทรัพย์สินของนายสักหน่อย” ซื๋ออี้ เถียง
เสี่ยวเฟิงไม่สนใจเธอและเร่งฝีเท้าของเขา เข้าเห็นภูเขาหิมะหลายลูกอยู่ห่างออกไป แต่ตอนนี้เขาเข้าไปใกล้มันและระลุกได้ว่าภูเขาที่เขาเห็นนั้นเป็นเพียงแค่เนินหิมะและมีภูเขาอยู่เพียงลูกเดียวเท่านั้น เขาจึงเห็นมันอย่างชัดจึง
สถานที่แห่งนี้อยู่ห่างจากเมือง เชียงชุย มากเพราะเขาใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงก่อนที่เขาจะมาถึงที่นี้ด้วยการขี่ม้าดำที่ว่องไว ผู้เล่นอาจจะสามารถวิ่งจากเมืองหลักเมืองหลังไปถึงอีกเมืองหนึ่งได้ภายในเวลาสองชั่วโมง แต่ไม่มีเมืองหลักเมืองอื่นอยู่ที่ใกล้กับ ภูเขาเจิดจรัส อย่างแน่นอน บิชอปไคเซอร์ บอกกับว่าเมือง เชียงชุย นั้นอยู่ใกล้ ภูเขาเจิดจรัสมากที่สุดเมื่อเขามอบคัมภีร์ย้ายกลับของเมือง เชียงชุย กับเสี่ยวเฟิง
เสี่ยวเฟิงเห็นเค้าโครงของผูเขาเจิดจรัสอยู่ห่างออกไป นั้นไม่ใช้ภูเขาที่มีหิมะปกคลุม นั้นคือเมืองที่อลังการสร้างอยู่บนภูเขาหิมะลูกนั้น! มันเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ
เมืองนั้นเป็นเมืองที่สูงและมีกำแพงเมืองสีขาว โบสท์ที่สูงละฟ้า และสิ่งก็สร้างที่ตระการตา! เมืองนี้ต้องมี่ขนาดใหญ่กว่าเมืองหลักแน่นอน!
นั้นคือภูเขาเจิดจรัส ในขณะที่ภูเขารองรับเมืองศักดิสิทธิ มันมีขนาดสูงเพียงประมาณหนึ่งร้อยเมตรเท่านั้น ความจริงแล้วภูเขาลูกนี้ไม่ได้เตี้ย และมันมีขนาดประมาณตึก 40 ชั้น แต่เสี่ยวเฟิงนั้นไม่ได้รู้สึกประทับใจกับสิ่งที่เขาเห็นและไม่รู้สึกตกใจเลยสักนิด
ด้านหนึงของภูเขานั้นเอียงลง บันไดที่ดูคล้ายกับหยกสีขาวต่อขั้นขึ้นไปยังเมืองศักดิสิทธิที่สูงขึ้นไปกว่า 100 เมตร ข้างราวบันไดทั้งสองข้างมีจุดสีเงินแวววับ ถ้าเสี่ยวเฟิงคิดถูกจุดพวกนั้นน่าจะเป็น อัศวินแสงแห่่ง เมืองศักดฺสิทธิ์
ในเวลานี้ถ้ามองดูแต่ไกลเมืองศักดฺสิทธิ์ทั้งเมืองถูกอาบไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิสีขาว มันดูเหมือนกับน้ำตกขนาดยักษ์ที่ทำมาจากแสงศักดิ์สิทธิ มันไหลลงมาจากท้องฟ้าและอาบเมืองทั้งเมือง
“มันดูตระการตามากจังเลย นั้นคือสำนักงานใหญ่ของวิหารศักดฺ์สิทธิแน่นอน”
ซื๋ออี้ ตะลึงและมองดูเมืองศักดสิทธิ์แต่ไกล ดวงตาของเธอนั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
เสี่ยวเฟิงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยแค่เขาก็กลับมาแคร่งขรึ้มในเวลาต่อมา พวกเขาเดินทางเข้าใกล้ภูเขาเจิดจรัส พวกสัตว์ประหลาดตามทางนั้นมีเลเวลที่สูงขึ้น ครึ้งชั่วโมงที่ผ่านมา เสี่ยวเฟิงไม่สามารถใช้ทักษะสอดแนมชั้นสูงเพื่อตรวจสอบเลเวลของพวกสัตว์ประหลาดได้ พวกมันเป็นอันตรายขึ้นกว่าเดิม
ในเวลานี้ พวกเขาอยู่ที่อาณาเขตของ นกปีกขาว เสี่ยวเฟิงไม่สามารถทีจะมองเห็นเลเวลของพวกมันได้แต่ตามลำดับการกระจาย ของ มอนสเตอร์ตามทางที่พวกเขาเดินทางผ่านมา เขาเชื่อว่านกพวกนี้น่าจะมีเลเวลมากกว่า 50 พวกมันอันตรายมาก นอกจากนั้น นกพวกนี้่กำลังกำลังบินอยู่และระนะความเกลียดของพวกมันก็ไม่คงตัวอย่างมาก
หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็ได้ยิน เสียงแคว้ก
ใบหน้าของเสี่ยวเฟิงเปลี่ยนไปในทันทีของที ซื๋ออี้ จะพูดจบ นกปีกขาวตัวหนึง กำลังบินอบู่บนหัวของเขาและพวกเขาก็อยู่ในระยะความเกลียดของมัน หลังจากที่มันทำเสียงร้องเสียงประหลาดมันก็ทะยานลงมาโจมตี ซื๋ออี้
“ฮ่าฮ่าอ่า เธอไม่รอดแล้ว”
เสี่ยวเฟิง หัวเราะออกมากเสียงดัง ซื๋ออี้ ตื่นตกใจ เสี่ยวเฟิง มองไปที่เธอและโบกมือให้และกำลังจะวิ่งหนีเธอไป ยังไงซะ นกปีกขาวตัวนี้ก็ไม่โดนโจมตีเขา
“อ่าาาา ช่วยฉันด้วย”
ซื๋ออี้ ไม่คิดว่าเสี่ยวเฟิงจะไร้อย่างอายขนดานี้ เขาหันไปและออกวิ่งในทันทีโดยไม่หันกลับมาช่วยเธอ เธอกรีดร้องและวิ่งตามไป
ทีแรก เสี่ยวเฟิงกำลังวิ่งอย่างสบายใจ แต่หน้าของเขาดำมืดขึ้นมาทันทีหลังจากนั้นไม่นาย เขารู้แล้วว่าม้าขาวของ ซื๋ออี้ นั้นมีราคาแพงและว่องไวกว่าม้าดำของเขา หลังจากไม่กี่นานที ซื๋ออี้ ก็แซงหน้าเข้าและเสี่ยวเฟิงก็ถูกทิ้งห่าง ค่าความเกลียดของ นกปีกขาว นั้นจับไปที่ตัวเขาแล้ว
“ห่าเอ้ย!”
ใบหน้าของเสี่ยวเฟิงเปลี่ยนสีและเขาสะบทออกมาเบาๆ เขามุ่งมั่นที่จะซื้อม้าที่ราคาแพงที่สุดหลังจากที่เขาทำภารกิจสำเร็จ
“เฮ้! คุณเทพ ดูเหมือนว่านายกำลังจะโดนนกนั้นฆ่าเอานะ ฮาฮาฮ่า สมน้ำหน้า! นายไม่ควรจะวิ่งหนีแล้วทิ้งฉันไว้คนเดียวแบบนั้น”
แต่ตอนนี้เสี่ยวเฟิงไม่มีเวลาในการคิดแผนการใดได้ มอนเสอร์ที่บินได้นั้นว่องไวและเขาไม่สามารถที่จะสลัดมันออกไปได้ด้วยการข้วบม้าดำของเขา ทันใดนั้น ซื๋ออี้ ก็หัวเราะออกมาเสียงดังราวกับว่าเธอเจออะไรบ้างอย่างที่น่าทึงเข้าให้ นกปีกขาวตัวนั้น อยู่ใกล้เสี่ยวเฟิงมากๆ ในตอนนี้และมันก็เกือบจะเข้าถึงแผ่นหลังของเขา
เสี่ยวเฟิงได้ยินเสียง แคว้ก อีกเสียง
“บัดซบ!”
เสี่ยวเฟิงสะบทออกมาเบาๆ ม้าดำของคงยังคงวิ่งในความเร็วสูงสุด เสี่ยวเฟิงเหวี่ยง โทเทมกระทิงทอง บนหลังม้าของเขา แล้วทุบมันลงไปใส้ นกปีกขาว และทันใดนั้นค้อนทองยักษ์ก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา
“-1!”
เสี่ยวเฟิงยังไม่ได้ สวดเพิ่มพลังอาวุธ ให้กับตัวเขาเอง ดังนั้นพลังโจมตีของสกิลนั้นจึงไม่มากพอที่จะทลายการป้องกันของนกปีกขาว แต่โชคยังดีที่ การโจมตีทำให้เกิดผล สตันท์ ของสกิล ค้อนแห่งการพิพากษาt ค้อนทองคำยักษ์ ตีโดนหัวของนกและนกปีกขาวก็มึนงงและล่วงลงไปบนพื้น
เสี่ยวเฟิง โล่งใจ ม้าดำเขาใส่ความเร็วอีกครั้งและวิ่งออกจากระยะความเกลียดชังของ นกปีกขาว ก่อนที่มันจะพื้นขึ้นมา
“คุณเทพ! นายเจ๋งจัง! มันเป็นมอนเสตอร์ระดับสูง และ นายก็จัดการมันได้! ฉันว่านายน่าจะฆ่ามันได้ด้วย ถ้านกอีกหลายตัวเข้าโจมตีนายพร้อมกัน!.
ซื๋ออี้ ลดความเร็วลง และวิ่งผ่านสี่ยวเฟิง เธอยังชมเขาไว้ด้วย
เสี่ยวเฟิง รู้สึกได้ว่ามีอะไรบ้างอย่างผิดปกติ เขามองไปข้างหน้าและพบกับ นกปักขาวสองตัว กำลังทะยานลงมาเพื่อโจมตีเขา! พวกมันถูก ซื๋ออี้ ล่อมา!
“บัดซบ! เธอเป็นบ้าอะไรของเธอ? ทำไมเธอถึงล่อมันมา?”
เสี่ยวเฟิง สะบทออกมาเสียงดัง และใบหน้าของเข้าดำมืดด้วยความโกรธ
.”ฉันไม่ได้ตั้งใจ! ทำไมนายถึงตะคอดเสียงดังแบบนั้นละ? ฉันวิ่งเร็วเกินแล้วฉันก็ล่อพวกมันมาโดยไม่ได้ตั้งใจ แตาฉันว่านายสามารถฆ่านกสองตัวนี้ได้แบบง่ายๆ” ซื๋ออี้ พูดเสียงเบา ม้าขาวของเธอนั้นรวดเร็ว ดังนั้นเธอจึงหลบอยู่ด้านหลังเสี่ยวเฟิงอย่างไม่แกรงกลัวและเปลี่ยนค่าความเกลียดของพวกมันไปที่เขา
“เธอพูดบ้าอะไรของเธอ?”
เสี่ยวเฟิง สะบทออกมาอย่างต่อเนื่อง นกปีกขาว ทะยานลงมาหาเขา แต่สกิล Hammer of Judgement ยังอยู่ในช่วงเวลา คูลดาวน์ เสี่ยวเฟิงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ม้าดำจะถูกฆ่าไม่ได้เพราะเขาไม่สามารถไปถึง ภูเขาเจิดจรัสได้ด้วยการเดินเท้า ดังนั้นในขณะที่นกสองตัวโฉบลงมา เขาเก็บม้าดำของเขาแล้วพลิกตัวกลับกลางอากาศก่อนที่จะเตะพื้น
เสี่ยวเฟิงได้ยิน เสียง แคว้ก
เสี่ยวเฟิง รอดจากการโจมตีของ นกปีกขาวทั้งสอง แต่ตัวเขาก็เปื่อนไปด้วยดินโคลนและดูสกปรก
แต่เสี่ยวเฟิงไม่มีเวลาในการที่จะทำความสะอาดตัวเอง เขาลุกขึ้นอย่างไม่รอช้าและวิ่งหนีอย่างเร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้
นกปีกขาวทั้งสองตัวยังคงไล่ตามหลังเสี่ยวเฟิงอยู่ พวกมันเร็วกว่าเขา ในบ้างครั้ง พวกมันจะตามเขาทันจากดานหลังและโจมตีเขาจากทั้งสองด้าน ดังนั้น เสี่ยวเฟิงจึงจำเป็นที่จะต้องเคลื่อนไหวสลับซ้ายขวาเพื่อหลบการโจมตีนั้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยโคลนและเขาก็หนีอย่างหวาดกลัว แต่ตอนที่เขาต้องพยามยามอย่างสุดความสามารถที่จะหนีออกจากอาณาเขตของพวกนก และสลัดนักปีกขาวสองตัวนี้ออกไปให้ได้ มันคือหนทางเดียวของเขา
แต่ในขณะที่เขากำลังวิ่งหนี ทันใดนั้น เสี่ยวเฟิงก็รู้สึกถึงบุคคลร่างสูงคนหนึ่งปรากฏขึ้น บุคคลนั้นคือ ซื๋ออี้ ที่กำลังข้วบม้าขาวอยู่ เธอมองเขาอย่างสบายใจและพยามยามอย่างมาก ที่อดกลันเสียงหัวเราะ ใบหน้าของเธอได้เปลี่ยนเป็นสีแดง
เสี่ยวเฟิง กราดเกรี้ยว แต่เขาไม่สามารถที่จะตามเธอหรือสลัดเธอออกไปได้ เขาเกือบจะกระทืบเท้าของเขาด้วยความคลั่ง
แต่เขาสามารถทำได้เพียงจ้องมองหน้าอกโตๆ ของเธอที่กำลังเด้งไปมาตอนที่ม้าขาวกำลังวิ่ง เพื่อระบายความโกรธของเขาเท่านั้น
ในที่สุด เขาก็วิงหนีออกจากอาณาเขาของ นกปีกขาว หลังจากเวลาห้านาที และสะบัดนกบ้าสองตัวนั้นออกไปได้ ใบหน้าของเสี่ยวเฟิงดำมืด และดูเย็นชา เขาเรียกม้าดำของเขาและรีบวิ่งไปยัง ภูเขาเจิสจรัดโดยไม่พูดอะไรออกมา
“นี้ ! ฉันไม่ได้ตั้งใจ นายอย่าเมินฉันสิ”
ซื๋ออี้ ไล่ตามเสี่ยวเฟิง และพูดขึ้นด้วยเสียอันนุ่มนวล แต่เสี่ยวเฟิงจงใจไม่สนใจเธอเลย เราวกับว่าเขาเป็นคนหูหนวก
นกปีกขาวพวกนั้นยากที่จะต่อกรด้วย และเสี่ยวเฟิงก็ใช้เวลาไปหลายนาทีกว่าที่เขาจะสลัดมันออกได้สำเร็จ เสี่ยวเฟิงระวังตัวมากขึ้นและพวกมอนเสตอร์ตัวอื่นก็ไม่เป็นภัยให้กับเขา เขามาถึงตีนเขาอย่างรวดเร็วและบันไดที่เขาเห็นจากระยะไกลก็มาอยู่ตรงหน้าของเขา
“คุณได้เข้ามาในพื้นที่พิเศษ คุณไม่ได้รับอนุญาตในการใช้วงแหวนหรือคัมภีร์คลื่อนย้ายทุกรูปแบบใน พื้นที่นี้ คัมภีร์ย้ายกลับของคุณจะใช้การไม่ได้ชั่วคราว”