Dungeon Defence - ตอนที่ 43
าจะบดขยี้หัวใจของเธอจนแหลกเหลวเอง
ไม่ว่าจิตใจของนางจะเหมือนกระดาษขาวแค่ไหน ก็ไม่สามารถขีดเขียนความรักสักบรรทัด ลงบนเศษกระดาษที่ถูกฉีกออกเป็นหลายแสนชิ้นได้ เป็นวิธีที่ดีที่สุดเเล้ว. วิธีการแยกนางกับฝาบาทออกจากกันนั้นง่ายเเสนง่าย ด้วยคำพูดที่สามารถเฉือนหัวใจง่ายกว่าคมดาบ
ดั่งที่คิดไว้ ทั้งหมดที่ต้องทำคือกระซิบคำพูดไปที่หูของ ฟาร์นาเซ่ หัวใจของเธอจะกลืนกินใบมีดเข้าไปด้วยตัวมันเองและฉีกความคิดของเธอเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
เธอน่ะเป็นเพียงโสเภณีที่น่ารังเกียจและเหมือนขยะที่ถูกพ่อข่มขืน
– ด้วยประโยคเหล่านี้
ฟาร์นาเซ่ เธอคงจะเหนื่อยเเล้ว? หลังจากนางเอาเเต่พูดคำเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า? เธอล้มลงบนขาของเราและฟุบตัวลงไป อย่างไรก็ตามเธอยังไม่ได้ตกสู่ห้วงนิทรา
เพื่อให้คำที่พูดออกมาคมดั่งมีดที่ชัดเจน เราได้เอาปากเข้าใกล้ใบหูของนางให้มากที่สุด เรายินดีน้อมรับความขุ่นเคืองของเธอ ลอร่า เดอ ฟาร์เนเซ่ ถ้าหากเธอยังสามารถกล่าวโทษคนอื่นได้อยู่ล่ะก็นะ
“ลาพิส ทิ้งมันไว้ตรงนั้นซะ”
“……”
“ผมไม่รู้ว่าเธอกำลังจะพูดอะไรออกมา แต่ทิ้งมันไว้ตรงนั้นซะ”
เสียงของฝ่าบาทดึงเราออกมาจากด้านหลัง
เราหันไปทางเสียงที่ปฏิเสธไม่ได้ ลอร์ด ดันทาเลี่ยน กำลังยิ้มอย่างขมขื่น
“……ฝ่าบาท”
“เธอยังเด็กอยู่”
“สักวันเธอจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่”
“เธอกำลังล้ำเส้นเกินไป”
ภายในพูดคุยเล็กน้อยนั้น เราสามารถอ่านความตั้งใจของกันและกันได้ เราอยู่ในความสัมพันธ์ที่เราไม่ได้ปิดบังอะไรจากกันและกันเเล้วและไม่ได้วางแผนที่จะปิดบังสิ่งใดในอนาคตเช่นกัน และเรานั้นไม่ได้ปิดบังการต่อต้านของตัวเองไว้ด้วย
“ถ้ามีอะไรที่มากกว่าการล้ำเส้น ฝ่าบาทเองก็กำลังแอบฟังอยู่ตลอดมิใช่หรือ? เราผู้นี้คิดว่าฝ่าบาททรงผล็อยหลับไปเเล้ว”
“ผมฟังอยู่ตลอด เพราะเธอมีความสามารถในการจัดการผู้คนที่ค่อนข้างเก่ง เเต่ว่าอย่าพยายามกระชากหรือดึงหัวใจของเด็กคนนี้ออกมาอย่างแรงเลย ผมก็เเค่ต้องการที่จะเฝ้ามองเธอ”
“ฝ่าบาท จิตใจของคนเราย่อมเปิดเผยออกมาเองโดยธรรมชาติ และสิ่งที่ผู้คนเปิดเผยด้วยตนเองนั้น แท้จริงแล้วคือจิตใจของพวกเขาเอง ถ้าคิดจะปิดบังและไม่ยอมที่จะถูกเปิดเผย ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องดึงมันออกมาด้วยกำลัง”
“แล้ว? เธอก็ได้ทำออกมาเเล้วนี่เป็นยังไงบ้าง? รู้สึกพอใจหรือยัง?”
“มันอันตราย”
เราได้กล่าวออกมา.
การที่นางมีโอกาสที่จะทำลายตัวเองก็มีโอกาสที่ จะทำลายฝ่าบาทอีกคนด้วยเช่นกัน เพราะหัวใจที่ไร้ก้นบึ้งของเธอ เหมือนกำลังดูดคนที่เข้าใกล้ให้ร่วงหล่นลงไป เรานั้นไม่อยากให้ฝ่าบาทเป็นเช่นนั้น
เรามั่นใจอย่างแน่วแน่ในความสามารถการมองผู้อื่น
จนถึงตอนนี้ คนเดียวที่เรามองเเล้วตัดสินผิดคือดันทาเลียนคนเดียวเท่านั้น
เนื่องจากลอร์ด ดันทาเลี่ยน คนเดียวได้ให้ทั้งความผิดพลาดครั้งแรกของเราและความรักครั้งแรกของเรา เขาเป็นข้อยกเว้นอย่างแท้จริงเป็นข้อยกเว้นเพียงหนึ่งเดียว
“……ฟาร์นาเซ่นอนไม่หลับแม้กลางคืนอันมืดมิด”
“ขอโทษนะ?” “Pardon?”
“นี่เป็นข้อสันนิษฐาน แต่เธอมักถูกทำร้ายทุกคืน นั่นคือเหตุผลที่เธอนอนอ่านหนังสือตลอดทั้งคืน เธออาศัยอยู่ในกลางคืนผ่านตัวหนังสือ จนกระทั่งเธอหมดแรงจนพลิกหน้าต่อไปไม่ได้อีกคือเมื่อเธอหมดสติและหลับไปในที่สุด ในคืนที่ผมพบเธอครั้งแรก ฟาร์นาเซ่กำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องขังตัวเอง”
ฝ่าบาทดึงที่สูบและกัดลงไปบนมัน กลิ่นของใบยาสูบที่แผดเผากระจายไปทั่วห้องนอน ฝ่าบาทมองไปที่เมฆควันซึ่งสร้างขึ้นด้วยปากของตัวเอง
“เป็นยังไงบ้างลาพิส? ไม่น่ารักเลยรึไงที่เด็กคนนั้นจะสิ้นหวังขนาดนี้?”
“เฮ้อ”
เสียงถอนหายใจออกจากริมฝีปากของเรา
ฝ่าบาท ดันทาเลี่ยน ชอบมีนิสัยที่ชอบเปลี่ยนหัวข้อที่จริงจังเป็นเรื่องตลก
มันเป็นการกระทำท่าทางที่ไม่น่าพอใจนัก
“ยังไม่สายเกินไปที่จะกำจัดเธอ”
“ไม่. เธอยังเป็นเด็กที่มีประโยชน์หลายอย่าง”
“ถ้าอย่างนั้น ฝ่าบาทจะโยนเธอทิ้งไปได้หรือไม่เมื่อเธอหมดประโยชน์แล้ว?”
ฝ่าบาทไม่ตอบ แต่เขาสูบไปป์ของเขาแทน ดูเหมือนว่าเขากำลังหวังว่าควันจากท่อจะแสดงคำที่เขาต้องการจะพูดออกมา
หลังจากผ่านไประยะหนึ่ง ฝ่าบาทก็พูดขึ้น
“เธอเป็นเด็กที่ผมพากลับมาเพราะตั้งใจทำให้เธอกลายเป็นลูกเลี้ยง
“……”
คำพูดของฝ่าบาทพูดช่างดูห่างไกลยิ่งนักคงเป็นเพราะว่าฝ่าบาทมีอำนาจเหนือกว่า
แม้ว่าเป้าหมายคือการจัดการกับอนาคต ที่เราไม่สามารถจะรับมือได้เเละผ่าชะตานั้นออกเป็นชิ้นๆ เพื่อจะจัดการทีละส่วน เรากังวลว่าฝ่าบาทอาจกำลังปิดบังความจริงไว้ในคำพูดที่ไร้ซึ่งจุดจบนั้น
…… คำพูดของฝ่าบาทก็เหมือนน้ำ มีความสามารถทำให้คนจมลงไปได้ คำว่ารักนั้นแข็งแกร่งที่สุด ดังนั้นคำนี้จึงฉุดดึงคุณไปไกลมากที่สุดได้ นั่นคือเหตุผลที่เราย้ำเตือนกับตัวเองไว้เพื่อความปลอดภัยโดยบอกกันและกันว่าเรารักอำนาจมากที่สุดเมื่อฝ่าบาทและเราผู้นี้สารภาพรักต่อกัน ด้วยความกังวลกับเชื้อสายของตัวเราเอง การร่วงหล่นและการล่มสลายนี้……เราเก็บบทกลอนที่พูดคนเดียวไว้ในลำคอ
เพราะฝ่าบาทรู้อยู่แล้วไม่ว่าเราจะบอกรักหรือไม่ก็ตาม เราจึงระมัดระวังการพูดคำว่ารักเบาๆนั้นอย่างไม่ใส่ใจ
ถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว
“……เราคนนี้ก็จะเข้าร่วมเช่นกัน”
เราสงสัยว่าคำพูดของเรานั้นได้ทำให้เซอร์ไพรส์หรือเปล่า ดวงตาของฝ่าบาทถึงเบิกกว้างขึ้น
“อะไร? เข้าร่วมอะไร”
“เรานี้ได้ยินมาว่าแม่ของนางเสียชีวิตไปเเล้ว ดังนั้นนางก็ไม่ควรรู้สึกอึดอัดใจเกินไปหากเราจะต้องเติมเต็มช่องว่างนั้นให้เต็ม”
“เดี๊ยวนะ. ทำยังไงล่ะ……”
ฝ่าบาทต้องโปรด ให้เราสั่งสอนนางให้ถูกต้อง ต้องยืดร่างกายของนางให้ตรง ทำยังไงให้หัวนางไม่ค้อมต่ำ อย่าให้นางพูดติดอ่าง สอนไม่ให้เเสดงสีหน้าหงุดหงิด หลังห้ามงอมันจะทำลายการเดิน สอนสิ่งเหล่านี้ให้เธอ ด้วยว่าเธอยังเป็นเด็กควรขัดเกลาเธอให้ดีหากเธอเชี่ยวชาญศาสตร์เหล่านี้เเล้วเธอจะกลายเป็นดั่งสิ่งมหศจรรย์
“แต่ผมตั้งใจจะสอนเธอเองทั้งหมด……”
“เพราะว่าฝ่าบาทเกิดมาพร้อมกับร่างกายที่ควบคุมได้อย่างสมบูรณ์ ท่าทางของฝ่าบาทจึงไม่ตรงกับคนที่อยู่ชนชั้นด้านล่าง นางเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา และเราผู้นี้ก็ครึ่งหนึ่งก็เป็นมนุษย์ธรรมดาเช่นกัน กิริยาท่าทางของเราน่าจะเข้ากับฟาร์นาเซ่มากกว่าการเคลื่อนไหวด้วยร่างกายของฝ่าบาท โปรดให้นางได้เรียนรู้วินัยในฐานะข้าราชบริพารแทนวิธีการของราชันย์ด้วย”
“ลาพิส เธอจะไม่เหนื่อยงั้นเหรอ?”
ฝาบาทถามด้วยความเป็นห่วง ใบหน้าของฝ่าบาทมีความนุ่มนวลแผ่กระจายไปทั่วใบหน้าของเขา วิธีการพูดของเขาที่เปลี่ยนไปและกลายเป็นน้ำเสียงปกติ เป็นการแสดงออกต่อเราและน้ำเสียงที่พระองค์จะทรงกระซิบกับเราเป็นบางครั้ง หลังจากแบ่งปันความสนิทสนมกัน
มันค่อนข้างจะเจ้าเล่ห์
ถ้าเราได้ยินเสียงแบบนั้น แม้แต่เราเองก็ยังมีปัญหาในการปฏิเสธได้ยาก
ดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะทำเป็นเจ้าเล่ห์แบบเดียวกัน
“ใช่. เหนื่อยเอามากๆ”
“อึก……!”
“การพูดอย่างตรงไปตรงมามันเป็นเรื่องเหลวไหล เราคนนี้กำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมการอุบายสำหรับการทำสงคราม แต่ต้องกังวลเกี่ยวกับการดูแลเด็กอีกด้วยงั้นสิ? ฝ่าบาทจะต้องประหลาดขนาดไหนกัน? ฝ่าบาทยังคงสติดีเเละมีความคิดอยู่ในหัวบ้างหรือเปล่า
“อึก อ๊ะ อ๊ะ……”
“ฉะนั้นเเล้ว ฝ่าบาทขออะไรสักอย่างนี้แก่เราได้ไหม”
ลอร์ดดันทาเลียนเริ่มมีใบหน้่าที่น้ำไหลจากตา
นี่คือสิ่งที่หมายถึงการได้รับความทุกข์อย่างรู้เท่าทัน
นี่เเหละคือความเจ็บปวด
“ม-ถ้ามันเป็นความต้องการที่ผมสามารถทำได้ล่ะก็นะ”
“อย่าให้คำปรึกษาเพียงปรับทุกข์เเต่ต้องดูแลหัวใจด้วย กระทำไปที่ร่างกายลูบหัวนางบ่อยๆดูเเลนางอย่างสม่ำเสมอ หากจิตใจเเละร่างกายไม่สามารถเป็นหนึ่งเดียวกันได้ จากนั้นเเล้วจิตใจของนางจะจมไปในร่างกายของตัวเอง เเละร่างของเธอก็จะด่ำดิ่งเข้าไปในจิตใจเช่นเดียวกัน
ฝ่าบาทได้คร่ำครวญอยู่นาน
“เธอกำลังจะบอกว่าถ้าฟาร์นาเซ่ร้องขอความเอ็นดูจากผมก็ควรสนองให้เธอใช่ไหม
“เป็นเช่นนั้น”
“ลาพิส เเค่เธอเพียงคนเดียวก็เพียงพอแล้วสำหรับผม”
“มันจะมากเกินไปถ้าจะทำกับคนหลายคน”
“นางเป็นเด็กที่มีพัฒนาการร่างกายน้อยเธอไม่ใช่สเป็กของผมหรอก และหน้าอกของเธอก็เล็กด้วย”
“เราคนนี้ขออภัย แต่ถ้าคนที่หลงใหลในบาร์บาทอสพูดอย่างนั้นเเล้ว คงจะมีความน่าเชื่อถือหรอก……”
“นั่นมันไม่ใช่ ผมนี่เเหละที่ถูกรุมเร้า! นั่นคือ บาบาร์ทอส ต่างหากที่กินผม! เพราะความสัมพันธ์เชิงอำนาจมันอยู่ที่ฝ่ายนั้นโดยสมบูรณ์!”
“นั่นอาจจะเป็นเช่นนั้นในตอนแรก แต่นั่นก็เป็นความจริง เเต่หลังจากนั้นไปข้อเท็จจริงนั้นจะยังคงยืนยันได้อยู่ใช่ไหม? โปรดรวบรวมถ้อยคำของ ฝ่าบาทให้ดี เป็นเรื่องน่าอายที่เรายังคงได้ยินฝ่าบาทพยายามแก้ตัวอยู่”
“เดี๊ยวก่อนสิ. บาบาร์ทอสน่ะ เป็นเครื่องมือสำคัญอย่างยิ่งในการดำเนินแผนของเราไงหล่ะใช่ไหม ถ้าเป็นเเบบนั้น เพราะเธอมีอำนาจมากมาย การใช้มันเพื่อให้ผมนั้นเอาใจเเละให้ตัวเองเห็นด้วยกับเธออย่างที่เธอต้องการไง……”
“ใช่. เพราะฝ่าบาททำผิดพลาด ฝ่ายนั้นก็มองได้ว่าฝ่าบาทมีประโยชน์มากมายต่อฝ่ายนั้นเช่นกัน ฝ่าบาทก็เลยเอาใจใส่เธอเหมือนกันน่ะสิ”
ลอร์ดดันทาเลียนเอามือแตะหน้าผาก ขออภัยด้วย ฝ่าบาทไม่เคยชนะในการโต้เถียงกับเรา นั่นเป็นเพราะเราจะสู้ก็ต่อเมื่อรู้ว่าจะชนะได้เเ้ลวก็เท่านั้น
“……ถ้า. ถ้าผมเป็นพ่อและลาพิสเป็นแม่ แสดงว่าฟาร์นาเซ่คือลูกของเรา ไม่มีกฎหมายห้ามผู้ปกครองและเด็กมีสายเลือดเชื่อมโยงกันใช่ไหม”
“เธอไม่ใช่ลูกสาวที่แท้จริงของฝ่าบาทอยู่แล้ว ทำไมมันถึงสำคัญล่ะ”
“ใช่ไหม. ถูกต้องแล้วใช่ไหม……”
พระองค์ได้หดตัวลง. การต่อต้านครั้งสุดท้ายของเขาถูกเหยียบย่ำอย่างง่ายดาย และธงขาวก็ยกขึ้นจากด้านในของป้อมปราการ หลังจากที่ได้เห็นฝ่าบาทตอนนี้เเล้วใบหน้าของเราก็สดชื่นขึ้นจากการได้รับชัยชนะเเล้ว ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง มุมปากของฝ่าบาทก็ได้บิดเบี้ยวขึ้น
“ลาพีส พวกเราได้มีลูกสาวอย่างกะทันหันใช่ไหม”
“……เป็นเช่นนั้น”
เราเริ่มรู้สึกวิตก
ทุกครั้งที่ฝ่าบาทพูดแนวนี้ เหตุการณ์ที่ไร้สาระก็มักจะเกิดขึ้นเสมอ
“เพราะจะมีลูกสาวไม่ได้หากไม่มีการมีเพศสัมพันธ์ ดูเหมือนว่าเราสองคนจะต้องแบ่งปันความสนิทสนมกันในทันทีเเล้วล่ะนะ”
“……เราคนนี้ขอโทษ แต่ตอนนี้ ไม่ใช่ว่ามันผิดขั้นตอนไปงั้นหรอ?”
“ผมจะไม่ฟังคำคัดค้าน”
ฝ่าบาทได้อุ้มเราขึ้นอย่างกะทันหันแล้วนั่งลงบนเก้าอี้
ในขณะที่เราตะโกนอย่างไร้เดียงสาว่า ‘ย่ะ!’ เหมือนเด็กซุกซน ฝาบาทก็โอบกอดเราไว้
เขาช่างเป็นคนที่ไร้เหตุผลจริงๆ
“ฝ่าบาท การประชุมจะจัดขึ้นในอีกหนึ่งชั่วโมง”
“การประชุมมันทำให้เธอผิดหวังนะ มันจะจบเเบบความรู้สึกที่คั่งค้างรสชาติของการขาดหายอะไรบางอย่างไป
“เเต่ว่าฟาร์นาเซ่จะไม่ตื่นหรอกหรือ? เรายังคงกังวลวานางจะตื่นขึ้นเพราะเสียง“
“การทำให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้ถูกจับได้ก็เป็นเสน่ห์เช่นกัน อา อย่าถอดถุงเท้าสิ ผมชอบมันมากกว่าเมื่อทำในขณะที่เธอยังสวมมันอยู่”
นี้มันผิดปกติเเล้ว
“เราคนนี้จะพูดอีกครั้ง แค่ขั้นตอนก็ผิดเเล้ว ลูกสาวจะถูกสร้างขึ้นหลังจากการมีเพศสัมพันธ์แล้วเหตุใดจึงมีเพศสัมพันธ์หลังจากที่ลูกสาวถูกสร้างขึ้นกันแล้วเล่า?
“โอ้ ขั้นตอนงั้นเหรอ? ลาพิส นี่เธอไม่รู้หรือไง? นี่คือประเทศแห่งควันที่ทุกอย่างถอยหลัง ผู้คนพูดย้อนกลับ คำพูดจะออกเสียงย้อนกลับ ดังนั้น ความสัมพันธ์ของมนุษย์จึงกลับหัวกลับหางเช่นกัน”
ฝ่าบาทวางศีรษะแนบหน้าอกของเราและยิ้มขึ้น
“พูดตามผม. up-u, evol, I”
“uo-y, ev-ol-i?”
มันเป็นคำพูดไร้สาระที่พูดพล่อยๆ
“มันหมายความว่ายังไง?”
“ตอนนี้พูดย้อนกลับ แล้วจะได้รู้”
“ีuoY……”
เราพยายามพลิกแต่ละคำไปมาและออกเสียงมันในปาก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม ‘uo-y, ev-ol, i’ เมื่อพูดย้อนกลับจะเป็น…
i, lo-ve, y-ou.
……เมื่อเป็นแบบนั้นเเล้ว
I love you.
ผู้แปล:(กรี๊ดดดดด จิกหมอน)
……
เรารู้สึกทึ่ง
ไม่คิดว่าเขาจะทำเรื่องตลกแบบเด็กๆ
เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่ขายดอกไม้บนถนนเป็นครั้งแรก คงจะดูถูกละครแบบนี้
ขณะที่เราจ้องมองอย่างเย็นชาไปที่ฝ่าบาท ฝ่าบาทก็กระซิบข้างหูของเรา
“เราจะก่อสงครามต่อจากนี้ไป สงครามที่ทุกอย่างจะกลับหัวกลับหาง เหตุและผลจะถูกย้อนกลับ เสียงจะพันกัน ผู้คนจะบิดเบี้ยว ขุนนางจะกลายเป็นชาวบ้าน เเลชาวบ้านจะกลายเป็นขุนนาง ในโลกนั้น ลาพิส เธอกับผม จะขึ้นสู่จุดสูงสุดไปด้วยกัน”
“……”
“อย่างไรก็ตาม ความรักของเราจะไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าลำดับความรักของเราจะกลับกัน มันก็ยังคงเป็นความรัก”
“เธอเชื่อเรื่องแบบนี้ไหม?“
ทั้งหมดนี้เป็นเเค่ข้อแก้ตัวของฝ่าบาทเพียงเพื่อจะนอนกับเราเพียงครั้งเดียว
น่าทึ่งมาก ฝ่าบาท ช่างวิเศษเหลือเกิน
บุคคลผู้ยิ่งใหญ่ที่จะพลิกโลกทั้งใบเพื่อมีเพศสัมพันธ์กับซัคคิวบัสใจตื้นสายเลือดผสม ไม่ว่าประวัติศาสตร์ของทวีปจะยาวนานเพียงใด เป็นไปได้ว่ามีเพียงลอร์ด ดันทาเลี่ยน คนเดียวที่ดำรงอยู่อย่างเป็นเอกเทศจากโลกใบนี้
แน่นอนว่าเราไม่ได้มีความรู้สึกประทับใจเลย
“……ฝ่าบาทไม่รู้สึกละอายใจที่พูดคำเช่นนี้ออกมาอย่างกล้าหาญมั่งหรือ?”
“ความอัปยศนั่นน่ะ? ผมโยนอารมณ์แบบนั้นทิ้งลงในถังขยะไปตั้งนานเเล้ว”
“โปรดไปเอาบุคลิกนั้นของฝ่าบาทกลับมาจากถังขยะนั่นด้วย”
“จิ๊สส. ทั้งๆที่ชอบข้างในของลาพิสอยู่เเล้วเเท้ ๆเเต่เธอก็พยายามดันมันออกมาอีก“
ถึงฝ่าบาทที่รัก.
เรานั้นพูดไม่ออก
ถ้าคนที่หน้าบูดบึ้งเป็นคนฉลาด ถ้าอย่างนั้นพวกเขาจะกลายเป็นคนหลงตัวเองอย่างน่ากลัว เราเข้าใจได้โดยการมองไปที่ลอร์ด ดันทาเลี่ยน
เพื่อที่ฝ่าบาทจะฟื้นคืนสติได้ ฝ่าบาทจำต้องพบกับบุคคลที่โง่เขลาอย่างตัวเขาเองเสียก่อน
นี่คือปัญหาที่เกิดขึ้น โลกได้จัดการลอร์ด ดันทาเลี่ยนเเล้ว แล้ว เพียงเท่านี้ โลกก็มีพื้นที่เพิ่มขึ้นเเล้ว เพื่อให้คนสองคนที่คล้ายกับลอร์ดดันทาเลียนมีอยู่ แค่คิดว่าแบบนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะละเมิดกฎแห่งธรรมชาติ
“ฮะ……”
ในขณะที่ละทิ้งการต่อต้านไปและคำนวณสิ่งที่เราต้องทำเพื่อที่จะบีบ ลอร์ด ดันทาเลี่ยน ออกมาอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด เราก็ได้ปิดตาของฝ่าบาทด้วยมือ ถ้าเราไปประชุมสาย ก็มีความจำเป็นต้องเร่งรีบสักหน่อย แต่นั่นก็ดี แม้ว่าเราจะมีรูปร่างหน้าตาดี แต่เลือดอีกครึ่งหนึ่งก็เป็นเลือดของซัคคิวบัส
เราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้อยู่เเล้ว