Dungeon Defence - ตอนที่ 49
ngeon Defense: Volume 3 – Chapter 2 (Part 2)
Chapter 2 – Winter (Part2)
▯ผู้พิทักษ์ทางเหนือ มาร์เกรฟแห่งโรเซนเบิร์ก จอร์จ ฟอน โรเซนเบิร์ก
ปฏิทินเอ็มไพร์: ปี 1506 เดือน 2 วันที่ 12
โพล
Ο
— มีข่าวลือหนาหู ถึงจุดจบกำลังใกล้เข้ามาเเล้ว
— มันก็มีคนบอกลือกับข้าเช่นกัน พวกจอมมาร กำลังจะยาทตราทัพเข้ามาเเล้ว เเละพวกมันยังสามารถควบคุมโรคภัยสีดำใส่พวกเราได้อีก
— นั่นมันเป็นข่าวลือปลอมๆ ไม่จริงหรอกน่า……
Ο
นักบุญหญิงแห่งจักรวรรดิ อาเจียนออกมาเป็นเลือดและหมดสติไป
นักบุญหญิงบอกว่าเธอได้เห็นจุดจบของโลกในนิมิตเเห่งความฝัน ทหารมารวมกันเป็นคู่ ความกลัวบนใบหน้าของทหารเเสดงออกมาอย่างชัดเจน กระซิบกระซาบคุยกันว่านักบุญหญิงถูกวิญญาณชั่วร้ายเข้าสิงเสียเเล้ว
Ο
– ควันสีดำจักเข้าปกคลุมภูผา กลืนกินอาณาจักรและทวีปทั้งปวงในที่สุด เมฆสีเทาจะกระจายในไปทั่วทุกที่ทุกขอบเขต ฤดูหนาวจะดำเนินต่อไปโดยไร้ที่สิ้นสุด ความหนาวเหน็บนี้จะยังคงดำเนินต่อไป ทุกอย่างจะถูกหยุดนิ่ง ควันดำจะกลืนกิน สีดำจะ…จะปกคลุ……
Ο
เมื่อถึงตอนนั้น นักบุญหญิงก็อาเจียนเป็นเลือด เลือดเหนียวเพราะมีสารที่ผสมกับเลือดของเธอ เหตุผลที่ข้าสามารถให้รายละเอียดเหตุการณ์นี้ได้อย่างมั่นใจก็เพราะอยู่ในเหตุการณ์เพื่อฟังคำทำนายในคืนนั้น
Ο
เพราะว่าข้าเป็นแม่ทัพที่ดูแลภาคเหนือ ได้เข้าร่วมการประชุมเพราะเป็นสมาชิกชั้นนำระดับสูงของอาณาจักร เราได้รับข้อมูลว่ากองกำลังพันธมิตรจอมมารกำลังจะบุกโจมตีในไม่ช้านี้ พวกเราต้องเตรียมรับมือการรุกราน ข้าไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่เข้าร่วมการประชุมยุทธศาสตร์ แต่ผู้มีอำนาจ เช่น องค์ชายรัชทายาท และองค์หญิง และ นักบุญหญิงก็อยู่ด้วย ในสถานที่เเห่งนี้ นักบุญหญิงถูกวิญญาณร้ายเข้าครอบงำไปเเล้ว
Ο
– สีดำ ควันดำ สีดำจะ……
Ο
นักบุญหญิงกระอักเลือด เธออาเจียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดวงตาของเธอกลอกไปทางด้านหลังศีรษะและเผยให้เห็นดวงตาสีขาวของเธอ มีก้อนบางอย่างจากลำไส้ของเธอปะปนอยู่ในเลือดของเธอเป็นจำนวนมาก นักบุญหญิงชักกระตุก ข้ารีบเรียกหานักบวชและมาช่วยกันรักษาเธอให้หายทันที
องค์หญิงได้ขอร้องออกมา
Ο
– จงเก็บเหตุการณ์นี้เป็นความลับ เราต้องรู้เรื่องนี้เพียงเเค่นี้เท่านั้น อย่าได้เปิดเผยข้อมูลสู่ภายนอก ถ้าพวกทหารได้ยินคำทำนายของนักบุญหญิง พวกเขาจะสั่นสะท้านอย่างหนักเป็นเเน่ หมายความว่าเราจะไม่ยอมให้ขวัญกำลังใจของเราลดลงในสถานการณ์ปัจจุบันที่จอมมารวางแผนรุกราน ไม่ว่าใครจะจ่ายข้อมูลนี้ราคาเท่าไหร่ จงเก็บระวังคำพูดเอาไว้ให้ดี
Ο
ข้าเห็นด้วย
องค์ชายในตอนนี้ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความกลัว ก็พยักหน้าเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ เรื่องนี้จึงถูกฝังไว้เป็นความลับ แต่—ด้วยเหตุผลบางอย่าง ยังไม่พ้นวันผ่านไปคำทำนายก็รั่วไหลออกมาทั้งหมด
ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ทหารผ่านศึกไปจนถึงทหารเกณฑ์ใหม่ พวกเขารู้ข่าวว่านักบุญหญิงอาเจียนเป็นเลือดสีดำทมิฬเมื่อคืนนี้ แม้แต่พ่อค้าเร่ที่อยู่ปลายค่ายทหารก็รู้เนื้อหาของคำทำนาย ผู้คนต่างกระซิบกันว่าเป็นลางสังหรณ์เเห่งรางร้าย
ตลอดทั้งคืน ข้าเดินเตร่ท่ามกลางฝูงชนและตำหนิผู้บังคับบัญชา ไม่มีอะไรน่ากลัวไปกว่าข่าวลือที่บ้าคลั่ง ไม่มีอะไรน่ากลัวไปกว่าเสียงเเห่งวาจา เพราะว่าพวกทหารเป็นคนที่เสียชีวิตและบาดเจ็บได้อย่างง่ายดาย พวกเขาจึงรู้สึกกลัวและหวาดกลัวได้ง่ายเช่นเดียวกัน นั่นคือแก่นแท้ของทหาร ตั้งแต่ข้ามีชีวิตอยู่มานานกว่า 60 ปีแล้ว ได้เห็นหลายครั้งที่กองทัพล่มสลายเนื่องจากข่าวลือที่ไม่มีมูล ไม่มีอะไรจะรับรองได้ว่าครั้งนี้จะไม่เกิดขึ้นเช่นกัน
ข้าต้องการปฏิเสธที่จะพ่ายแพ้ก่อนที่จะเริ่มทำสงครามกับกองกำลังพันธมิตรจอมมาร มาตรการนี้น่าจะหารือกันทันที เหนือสิ่งอื่นใด ข้าไม่สามารถล้มได้จนกว่าข้าจะแก้แค้นให้กับความอัปยศอดสูเมื่อฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว……
“เจ้าหญิง เช้านี้กระหม่อมมาที่นี่เพื่อแสดงความเคารพ”
“เข้ามาได้.”
เจ้าหญิงใช้เวลาอยู่เต็นท์สีขาวแห่งนี้ เธอไม่ชอบนอนใต้หลังคาปราสาทดุจเจ้าหญิง เจ้าหญิงแห่งจักรวรรดิประกาศว่าหากกองทหารอยู่ท่ามกลางหิมะและพายุฝนโหมกระหน่ำ และไม่สามารถป้องกันการตกของหิมะและพายุฝนโหมกระหน่ำนั้นได้ อันตัวเราเองก็จะไม่หลีกเลี่ยงหนีด้วยเช่นกัน ทหารต่างยกย่ององค์หญิงจักรพรรดินีอย่างสูงส่งและเป็นห่วงสุขภาพขององค์หญิงเมื่อเวลานั้นมาถึง
……แน่นอนว่าการกระทำขององค์หญิงจักรพรรดิน่าจะเป็นแผนการทางการเมือง พวกขุนนางส่วนใหญ่คงคิดเเผนการนี้ออกมาไม่ได้เเน่ๆเเละไม่สามารถใช้เเผนการนี้ได้ด้วยตัวเอง เป็นเเผนที่ไม่ตรงจากบุคลิกของเจ้าหญิงเอาเสียเลย ข้าเคารพในความสามารถนี้ของเธอจริงๆ
ผลักผ้าขาวไปด้านข้าง รู้สึกประหลาดใจเมื่อได้เห็นเจ้าหญิง
และเจอเข้ากับฉากที่คาดไม่ถึงว่าจะเจอ
ภายในเต็นท์มีโต๊ะยาววางอยู่
นี่เป็นเรื่องปกติ
เป็นฉากปกติดี
แต่ถ้ามีศพของจระเข้กระจายอยู่บนโต๊ะ และยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเจ้าหญิงแห่งจักรพรรดิถือมีดและแล่จระเข้นั้นโดยตัวเอง ทิวทัศน์ก็เปลี่ยนจากปกติเป็นพันไมล์ได้เลย
“ท่านมาร์เกรฟมาเเสดงความเคารพกับเรา. ช่างเป็นโอกาสที่หายากอะไรเยี่ยงนี้.”
เจ้าหญิงถอดผิวหนังออกจากจระเข้อย่างเงียบๆ
เธอไม่เหลือบมองมาทางข้าเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“ไม่ชอบตัวเรางั้นเหรอ”
“ไม่มีอะไรหรอก ฝ่าบาท แม่ทัพคนนี้เคารพในฝ่าบาทเสมอ”
“นายไม่ได้โกหก เเต่นายก็ไม่ได้พูดเรื่องจริง อย่างไรก็ตาม นายก็ไม่ได้เคารพเรา ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกหรือ?
“……”
“นายพูดว่าเคารพเรา อย่างไรก็ตาม ในบางครั้ง คำว่า ‘ความเคารพ’ ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าวิธีการออกเสียงคำว่า ‘การดูถูก’ ที่ปลอดภัยและอ่อนโยนเเละไม่รุนเเรงกว่า
เเต็ก
เจ้าหญิงแห่งจักรพรรดิโกนเศษไม้หอมแล้วโปรยลงในกระถางธูปทองเหลือง ทองเหลืองซึ่งถูกความร้อนด้วยถ่านกัมมันต์ค่อยๆ จุดชิ้นไม้ที่ลุกเป็นไฟ ไม้หอมก็ไหม้ เมื่อเกิดควัน กลิ่นหอมก็กระจายออกไป กลิ่นหอมกลบกลิ่นเลือดของจระเข้ ขณะที่ซ่อนกลิ่นเลือด ควันหอมก็ลอยขึ้นอย่างหนาแน่น กลิ่นหอมซึมซาบไปถึงลำไส้ของข้า
เเต็ก
เจ้าหญิงแห่งจักรพรรดิถลกหนังจระเข้ออกภายในควันนั้น
เจ้าหญิงลอกผิวหนังโดยการตัดกล้ามเนื้อชั้นนอกออกมาและมีดแทงเข้าไปในชั้นในของกล้ามเนื้อ เจ้าหญิงมองเห็นชิ้นเนื่อของชั้นนอกและชั้นในได้ชัดเจน ข้าประหลาดใจโดยไม่ตั้งใจกับการเคลื่อนไหวของมือที่ชำนาญซึ่งสามารถกรีดเนื้อนั้นและขูดชิ้นเนื้อนั้นออกมาได้เป็นไปดั่งตามธรรมชาติเหมือนคนขายเนื้อมืออาชีพ ข้านึกไม่ออกเลยว่าเมื่อใดและที่ไหนที่ผู้หญิงซึ่งถือกำเนิดในเชื้อสายเลือดชนชั้นที่สูงที่สุดในโลกได้เรียนรู้วิธีการถลกหนังจระเข้ เจ้าหญิงผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งคล้ายกับสถานที่ อันสันโดษ ดั่งที่ที่เธอเกิดและเติบโตมานั้นยากเกินรับมือเธอได้
“นายไม่คิดหรือว่าการพูดคุยที่พูดใส่กันเเละกันควรจะย่อเป็นคำง่ายๆ ได้ใช่ไหม?เช่น ฉันชอบคุณ. ฉันเกลียดคุณจิตใจของตัวคนอาจเริ่มต้นจากตรงนี้ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถไปถึงปลายทางนี้ได้ แม้ว่าผู้คนจะเรียกสิ่งนี้ว่าเป็นเส้นทางหรือวิถีชีวิต แต่เราเรียกมันว่าการเสียเวลาโดยใช่เหตุ เซอร์ โรเซนเบิร์ก. อย่าให้เราเสียเวลาทั้งของนายเเละของเราอีกเลย ทำไมนายถึงมาหาเราทั้งๆ ที่นายเป็นศัตรูกับเรา บอกทีว่าทำไมเราต้องฟังคำพูดของผู้ชายที่ไม่เคารพเราในขณะที่ตอนนี้ยังเป็นเวลาเที่ยงวันอยู่”
นี่เป็นการข่มขู่ หรือเธอเอาจริงกันเเน่?
ข้าไม่สามารถเข้าใจอารมณ์ของอีกฝ่ายได้เลย ไม่มีการแสดงออกบนใบหน้าของเธอ ดูเหมือนว่าเธอกำลังจดจ่ออยู่กับงานถลกหนังจระเข้อย่างหมดจด แม้ว่าเจ้าหญิงจักรพรรดิจะอยู่ข้างนอกปราสาท แต่ก็รู้สึกราวกับว่าเธอยังคงอาศัยอยู่ในวัง รู้สึกเหมือนเธอกลายเป็นวังสะเองเลยต่างหาก ถ้าหากข้าไม่เคยรู้ว่าจำนวนขุนนางที่เธอได้กวาดล้างไปมีมากกว่า 10 ตระกูลข้าอาจจะถูกหลอกโดยรูปลักษณ์ภายนอกของเธอในตอนก็ได้
“ฝ่าบาท ไม่สามารถได้รับความชื่นชมจากขุนนางได้โดยไม่มีเหตุอันใดหรอกนะ”
“โอ้ที่รัก เราไม่ได้ต้องการความชื่นชมจากนายเลย”
เจ้าหญิงแห่งจักรพรรดิระบายความรู้สึกของเธอและหัวเราะ
มันเป็นเสียงหัวเราะที่ไร้ความรู้สึก
“เราแค่ถามว่าความเคารพของนายมีความหมายอย่างไร คำว่าเคารพประกอบด้วย 5 ความหมายที่แตกต่างกันและ 10 รูปแบบของน้ำเสียง นั่นคือเหตุผลที่เราไม่ไว้วางใจในคำพูด สิ่งที่เราต้องการจากนายไม่ใช่การเปล่งวาจา แต่เป็นการกระทำ เเจ่มเเจ้ง-ชัดเจน-เด่นชัด-ปฏิบัติทำ แน่นอนว่านายคงไม่ฟังแน่ๆแม้ว่าเราจะสั่งให้ทำแบบนี้ก็ตาม นายก็เป็นได้เเค่คนแก่ที่ดื้อรั้น”
“……”
“พูดออกมาได้เเล้ว.”
“……ข้อมูลของ จอมมารบาร์บาทอส, จอมมารมาร์บาส และ จอมมารไพม่อน ในฐานะบุคคลสำคัญที่กำลังเรียกกองทัพมารวมกัน แม้ว่ากำลังทหารทั้งหมดจะไม่แน่นอน แต่ก็ชัดเจนว่าพวกเขามีมากกว่า 50,000 แต่มีไม่ถึง 70,000”นาย
“ดูเหมือนว่ามันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด พวกเขาไม่มีบาอัลหรืออากาเรสเข้าร่วมด้วย บาร์บาทอส เป็นพวกโฉดเขลา มาร์บาส ไม่แน่ใจ และ ไพม่อน ก็…ไพม่อน…ก็…….”
“ฝ่าบาทกำลังประเมินกองกำลังศัตรูต่ำเกินไป”
“นั่นจะไม่เป็นเช่นนั้น”
ในขณะนั้น เจ้าหญิงจักรพรรดิมองมาที่ข้าเป็นครั้งแรก
จิตใจของข้ารู้สึกกระสับกระส่ายโดยไม่จำเป็นเพราะดวงตาสีม่วงของเธอรู้สึกเหมือนสามารถเจาะทะลุจิตใจได้
“ไม่. โอ้ที่รักโดยพระเจ้า ไม่เป็นเช่นนั้นเลย! ทำไมถึงคิดว่าเราประเมินกำลังของศัตรูเกินต่ำไป? ในชั่วชีวิตของเรา เราไม่เคยประเมินค่าใครผิดเลย”
“เป็นอย่างนั้นหรอกหรือ”
“เป็นอย่างนั้นแน่นอน.นี่ก็เพื่อเป็นหลักฐานว่าทำไมนายถึงยังมีชีวิตอยู่”
“……”
“นายเป็นคนที่มีความสามารถที่จำเป็นต่ออาณาจักรของเรา ตระกูลโรเซนเบิร์กภักดีต่อราชวงศ์มาตลอด 500 ปีที่ผ่านมา และได้ปกป้องเราจากการรุกรานของจอมมารที่มาจากภูเขาแบล็คเป็นเวลา 1,000 ปี นายเป็นบุคคลที่มีความสามารถ จอร์จ เราเคารพนายนะ. ถ้าบางทีเราไม่เคารพแล้ว – ทหารบางส่วนที่นายสั่งการอยู่คงไม่สามารถควบคุมได้หรอกจริงไหม?
“……”
“นี่คือสิ่งที่หมายถึงการแสดงจุดประสงค์ผ่านการกระทำ มันชัดเจน เเจ่มเเจ้ง และปฏิบัติทำด้วย บางครั้งนะจอร์จ เราก็ไตร่ตรองว่ามันจะดีแค่ไหนถ้าผู้คนใช้ชีวิตโดยที่ไม่ต้องปริปากใช้คำพูดเลย”
เเคว๊ก
กล้ามเนื้อถูกฉีกขาด
เจ้าหญิงแทงมีดของเธอเข้าไปในบริเวณคอของจระเข้ คอนั้นอ่อนกว่าส่วนอื่นๆ บนตัวของจระเข้ เมื่อเจ้าหญิงขยับดาบของเธอ หนังที่คอก็ถูกลอกออกทั้งอย่างนั้น
“โชคดีที่สถานการณ์นั้นไม่ใช่ตอนนี้ สบายใจและมาต่อกันเถอะ หูของเราพร้อมจะรับฟังอย่างสุภาพเเล้ว”
“หากจอมมารกำลังจะบุก พวกเขาต้องเลือกหนึ่งในสามเส้นทาง เส้นทางแรกคือทางผ่านในภูเขา……”
“การเดินทางจะนำไปสู่อาณาจักรทูทัน ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรา”
“……เส้นทางที่สองคือผ่านที่ราบ”
“เส้นทางสู่อาณาจักรโปเเลน-ลิทัวเนียสินะ แน่นอนว่านั่นไม่สำคัญต่ออาณาจักรของเราเช่นกัน เพื่อประโยชน์ของอันดี เราจะต้องสวดอ้อนวอนให้เหล่าทวยเทพช่วยให้กองทัพจอมมารไปที่ภูเขาหรือที่ราบเเทน เราจะสามารถหายใจได้ในขณะที่พวกเขากำลังจะทำสงครามกัน”
“ฝ่าบาท”
ข้าขมวดคิ้ว
ข้าทนไม่ได้กับการตอบสนองแบบนั้น
“เราขอโทษทีนะ แต่ถ้าเรื่องที่นายพูดนี้มันถูกต้อง หลายอาณาจักรก็เป็นมนุษย์แบบเดียวกันกับพวกเราเช่นกัน”
“และไม่มีสัตว์อื่นใดๆที่สามารถฆ่ามนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่ากับมนุษย์ด้วยกันเองเเล้ว เซอร์โรเซนเบิร์ก ได้โปรดหยุดพยายามทำกระเเดะโลกสวยต่อหน้าเราสักที
องค์หญิงจักรพรรดิ์หัวเราะอย่างเขินอาย
“ฤดูหนาวนี้ชาวบ้านถูกเผาจนตายบนภูเขาไปเเล้วกี่คนกันแน่? 100คน? 200คน?”
ข้าปิดปากตัวเองลง
“หรือว่าเป็น 300คน? เราได้ยินมาว่าจำนวนนั้นเกิน 1,000คน ไปเเล้ว และถ้าความทรงจำของเราที่รู้ ชาวบ้านเหล่านั้นก็เป็นมนุษย์แบบเดียวกับเราเช่นกัน เซอร์โรเซนเบิร์กผู้ยิ่งใหญ่ของเราทำอะไรอยู่หรือในขณะที่ชาวบ้านหลายพันคนถูกสังหารหมู่ในฐานะมนุษย์กัน? นายก็เเค่สังเกต นายก็แค่ดูอยู่เพียงเท่านั้น”
“……”
“ไม่คิดหรือว่าคำว่า ‘สังเกต’ เป็นคำเดียวกับ ‘การเฝ้าดูไฟลามทุ่ง’ แค่คำมันแสดงออกอย่างสง่างามมากขึ้นก็เท่านั้นเอง? โอ้ ผู้พิทักษ์ทางเหนือ หนึ่งในสี่มาร์เกรฟ ผู้ควบคุมป้อมปราการทมิฬและป้อมปราการพิศุทธ์—เซอร์ วอน โรเซนเบิร์กเอ๋ย”
ข้าจ้องไปที่ตาของจระเข้ เนื่องจากหัวของข้าก้มลงอยู่ เลยไม่สามารถสบตาเจ้าหญิงจักรพรรดิได้ แต่อย่างน้อยที่สุดข้าตั้งใจที่จะจ้องมองไปที่สัตว์ร้าย
เจ้าหญิงจักรพรรดิปล่อยให้คำพูดไหลออกมา
“ดูเหมือนว่าเราจะเยาะเย้ยรุนแรงมากไปหน่อย ขอโทษที. ขอโทษที่ว่าสำหรับความจริงที่ว่าเราไม่ได้รู้สึกเสียใจเป็นพิเศษ จงจดจำไว้ให้ดีเถิด”
“……ข้าจะจำไว้”
“ดีเเล้ว.”
เเควววววว๊กกกก
เจ้าหญิงจับผิวหนังด้านหลังของจระเข้แล้วฉีกออก หนังหลุดออกมาทันที ผิวลอกออกอย่างราบรื่นตามเส้นที่เธอฉีกขาดก่อนหน้านี้ เมื่อหนังหายไป ก็เผยให้เห็นเนื้อด้านในสีชมพูอ่อน สีของเนื้อจระเข้นั้นเรียบง่ายและเปร่งประกาย
“อย่ากังวลกับทางเดินในภูเขาหรือทางเดินในที่ราบ สิ่งที่เราต้องทำคือปกป้องเส้นทางที่นำไปสู่อาณาจักรของเรา นายต้องการความช่วยเหลือจากราชวงศ์หรือเปล่า?”
“ทางเหนือไม่ต้องการรับความช่วยเหลือจากใคร”
ข้าตอบให้ชัดเจนที่สุด
“แต่ข้าขอแสดงความขอบคุณต่อข้อเสนอของฝ่าบาทที่ช่วย”
“โอ้ ที่รัก ดูเหมือนว่านายจะอารมณ์เสียเพราะการล้อเล่นของเราเเล้ว…… มันจะเป็นเพียงการพ่ายเเพ้ของนายเอานะถ้าชายชราที่สวยงามอย่างนายอารมณ์เสียต่อผู้หญิงที่น่าอับอายคนนี้ แค่ยอมรับการเสริมกำลังอย่างเชื่อฟังก็เพียงพอเเล้ว”
“ข้าขออภัย แต่ฝ่าบาท ข้าไม่ได้ต้องการกำลังเสริมจริงๆ ข้าจะเป็นคนปกป้องภูเขาเอง ดังนั้นเเล้วฝ่าพระบาทควรทำให้หน้าบ้านมั่นคงขึ้นเคียงข้างองค์ชายดีกว่า ด้วยวิธีนี้ หากเราถูกบีบบังคับให้ทำจริงๆ เราจะสามารถติดต่อกับ ทูทัน หรือโปเเลน-ลิทัวเนียและกระจายยุทธวิธีออกไปได้”
“ด้วยกันกับพี่ชายน่ะเหรอ? วิธีการนี้ทำให้เราหัวเราะแน่ๆ”
“……”
“นายก็เห็นว่าพี่ชายเราเป็นคนที่รู้จักกิจการทหารหรือเปล่ายังไม่รูู้เลย? เขาเป็นคนที่ไม่สามารถควบคุมปากและรูทวารของตัวเองได้อย่างถูกต้องตรงกันได้ด้วยซ้ำ? เราเตือนทุกคนให้นิ่งเงียบเกี่ยวกับคำทำนายของนักบุญหญิงในระดับนี้ขนาดนี้เเล้ว แต่ข่าวลือก็แพร่กระจายออกไปภายในคืนเดียว”
“วีรกรรมขององค์ชายมีมากมายนับไม่ถ้วนทีเดียว”
เจ้าหญิงปิดปากของเธอ ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงปิดปากไป ไม่นานหลังจากนั้น เจ้าหญิงจักรพรรดิก็พูดอีกครั้ง
“ปากพี่ชายของเราหลวมกว่ารูก้นของโสเภณีเสียอีก แม้แต่พลทหารก็ไม่เคารพพี่ชายของเรานายกำลังบอกให้รวบรวมกองทัพกับคนแบบนั้นน่ะเหรอ?”
“……สำหรับแม่ทัพคนนี้ องค์ชายก็นับเป็นผู้บัญชาการที่เท่าเทียมกัน ท่านราชาทรงมีคำสั่งให้นายพลคนนี้จัดการภาคเหนือ และองค์ชายไม่ได้อยู่ในข้อสัญญานั้น”
“อย่างงั้น ดูเหมือนว่าเจ้าจะภักดีต่อพระราชบิดาของเราสินะ เข้าใจล่ะ. เราเคารพความจงรักภักดีของนาย ……แต่ยังไงก็เถอะ มาร์เกรฟ นายไม่คิดว่าคำว่ากตัญญูส่องสว่างที่สุดเมื่อลูกทำหน้าที่ลูกที่ดีต่อพ่อแม่ที่ไม่มีค่าหรอกหรือและคำว่าจงรักภักดีจะสว่างขึ้นเมื่อซื่อสัตย์ต่อเจ้านายที่ไม่มีค่าเช่นกันใช่ไหม? ความจงรักภักดีของนายต่อจักรพรรดินั้นยอดเยี่ยมมาก มันน่าประทับใจจริงๆ”
องค์หญิงจักรพรรดิ์แทงมีดลงบนโต๊ะ
เจ้าหญิงเช็ดมือที่เปื้อนเลือดด้วยผ้าขนหนู เมื่อเธอทำอย่างนั้นเสร็จเเล้วก็มาตบไหล่ข้าเบาๆ ใบหน้าของเจ้าหญิงจักรพรรดิอยู่ไกล แต่เสียงของเธอเกือบจะรู้สึกเหมือนถูกกระซิบเข้าหูโดยตรง
“นายเป็นผู้ภักดี เซอร์โรเซนเบิร์ก”
“……”
“แต่นายไม่สามารถซื้อความเคารพจากเราด้วยความจริงใจนั้นได้ หากนายต้องการให้เราเคารพล่ะก็ เหนือสิ่งอื่นใด ก็ต้องได้รับชัยชนะเสียก่อน แม้ว่าเราจะยอมรับคำสั่งทหารเนื่องจากนายเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของสงครามที่จะเกิดขึ้นนี้ แต่ถ้ามีโอกาสเล็กน้อยที่นายทำผิดพลาดล่ะก็…… เอาละเราคงจะผิดหวังกับมันมากเนาะใช่ไหม”
“แม่ทัพคนนี้จะไม่ทำให้ผิดหวัง”
“เราจะเชื่อในตัวนาย”
และเจ้าหญิงก็พูดคำนั้นออกมา
ฮับส์บวร์กจงมอบศรัทธาเพียงครั้งเดียว”
“แดนเหนือจะไม่ลืม”
เราสองคนแลกเปลี่ยนคติพจน์ที่สืบทอดกันในครอบครัวของเราจากราชวงศ์ฮับส์บูร์กและตระกูลโรเซนเบิร์กตามลำดับ การแลกเปลี่ยนคำขวัญที่สืบทอดมาเกือบ 1,000 ปีถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คำปฏิญาณขององค์หญิงจักรพรรดิ์ ซึ่งดูเหมือนบุคคลคนเดียวที่ไม่ไว้วางใจผู้อื่นมากที่สุด รู้สึกว่ามีความหมายมากกว่านั้นมาก ทันทีที่ข้าทำลายศรัทธาเดียวนั้น เธอจะกวาดล้างข้าอย่างไม่ต้องสงสัยเลย……
เจ้าหญิแทงหนังจระเข้ลงบนไม้แล้วยกขึ้นที่ใจกลางค่ายทหารนี้
จระเข้เป็นที่รู้จักในฐานะทายาทของมังกร มังกรเป็นสัญลักษณ์ของจอมมาร ขณะที่จ้องมองไปที่หนังจระเข้ ทหารก็กระซิบกันว่าสัตว์ประหลาดตัวนั้นถูกจับโดยองค์หญิงจักรพรรดิ์ด้วยตัวเองคนเดียว
หลังจากตรวจดูว่าร่องรอยของทหารที่ยังคงหวาดกลัวได้หายไปแล้ว ข้าก็นึกถึงกองทัพของจอมมารที่กำลังเข้าใกล้จากบนภูเขา ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นกองทัพที่แข็งแกร่งหรือเป็นเพียงเเค่กลุ่มก้อน ชะตากรรมใดที่พวกเขาจะก่อเเละนำมันติดตัวมาด้วย เป็นการยากที่จะคาดเดาได้ เฉกเช่นเจ้าหญิงแห่งจักรพรรดิที่ใบหน้าถูกควันปิดบัง กองทัพของจอมมารก็ถูกภูเขาซุกซ่อนในทำนองเดียวกันนั่นเอง แต่ข้าก็ยังตัดสินไม่ได้ว่าควรกลัวสิ่งที่มองไม่เห็นจริงๆหรือข้าควรจะขลาดกลัวสิ่งไหนดี หากข้าควรกลัวสิ่งที่มองไม่เห็นเพราะอยู่ไกล ท่ามกลางความกลัวจากด้านหลังและความกลัวที่อยู่ข้างหน้า ร่างกายของข้าอ่อนระโหยโรยแรงลงไป
ข้าตัดหัวเจ้าหน้าที่ทหารสองคนที่รับผิดชอบในการปล่อยข่าวลือในหมู่ทหารและเเขวนหัวประจานพวกนั้นไว้
ผู้แปล: เฮ้เธอนี่จิตพอๆกับดันทาเลี่ยนเลยระ…หรือว่า เมียใหม่ ถึงเเม้โดยส่วนตัวผมจะอวยให้ไพม่อนเข้าฮาเร็มมาก็เถอะนะ….