Dungeon Defence - ตอนที่ 75
ngeon Defense: Volume 3 – Chapter 6
บทที่ 6 – จอมมาร
▯ราชาแห่งไพร่ ลำดับที่ 71 ดันทาเลี่ยน
เป็นคนชั้นต่ำที่มีความปราถนาในกิเลศเเละตัณหา
เเกล่ะอยากเป็นอะไรกัน?
ราชาแห่งไพร่คนนี้ เอาไพร่มาเป็นคนรัก อีกทั้งยังเเต่งตั้งไพร่ขึ้นมาเป็นแม่ทัพของตัวเอง และเอาไพร่มาเป็นราชองครักษ์อีก เเล้วเเกล่ะอยากเป็นอะไรกัน?
ผมจะพูดอะไรให้ฟัง ผมเห็นใจพวกเเกทุกตัวนะ เเต่สิ่งที่พวกเเกทำมันไม่ช่วยอะไรว่ะ?
—ได้โปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วย
—จะฆ่าดิฉันก็ได้ เเต่ได้โปรดอย่างน้อยก็ขอเเค่ลูกสาาวคนนี้
—ตะ.ตัวเราจะทำงานรับใช้ตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ ได้โปรดปล่อยเราไปที
เจ้าพวกชาวบ้านที่ถูกเปลวเพลิงผลาญ. ช่างล้วนเเล้วแต่อ่อนแอและไร้อำนาจ เพราะงั้นจึงกำลังหมอบราบคาบเเก้วเหมือนสุนัขดุจดั่งพวก วนิพก บาร์บาทอสเยาะเย้ยและหยอกเย้าพวกมัน เป็นเช่นนั้น เมื่อเธอปลิดชีวิตชาวบ้านไป เธอก็ไม่ใส่ใจชื่อของพวกชาวบ้าน นั่นเป็นเพราะว่าชื่อของพวกมันช่างไร้ค่าไม่มีค่าพอให้จดจำแม้กระทั่งมันได้ตายลงไป เพราะผมเห็นพวกชาวบ้านเป็นพวกน่าสงสารหรอกนะ ผมจึงใส่คำพูดเเอบเเฝงที่ไม่เกี่ยวข้องลงไปขณะแปลภาษาให้บาบาร์ทอส
“เเกชื่ออะไร“
“อยากจะสั่งเสียอะไรก่อนตายไหม“
“พวกเเกน่ะเตรียมตัวตายได้เเล้ว“
, ทันทีที่ผมพูดออกไปอย่างนั้นก็รู้ได้ทันทีว่าอีกไม่นานพวกมันก็ต้องพบกับจุดจบของตัวเองและเริ่มร้องไห้ออกมา จนกระทั่งตายลงไป ไม่มีคำพูดใดๆของพวกมันส่งไปถึงบาร์บาทอส เพราะคำพูดของพวกมันที่ไร้ซึ่งอำนาจ ก็เป็นคำพูดที่ไร้ซึ่งความหมาย ‘ปล่อยเราไป ไว้ชีวิตเราด้วย’ แม้แต่คำเหล่านี้ที่สิ้นหวังที่สุดในโลกก็ไม่มีความหมายใดๆ ผมเห็นว่าท่านทั้งหลายที่อยู่ตรงนี้นั้นไม่มีอำนาจ ผมก็ได้เเค่รู้สึกเวทนาพวกมัน
เเล้วเเกล่ะอยากเป็นอะไรกัน?
– ด้วยความเคารพนะฝ่าบาท หญิงคนรักของท่านเป็นเเค่จัณฑาล ส่วนเเม่ทัพก็เป็นเเค่มนุษย์ และผู้คุ้มกันของฝ่าบาทก็เป็นเเค่แม่มดอีก ฝ่าบาทที่่น่าเคารพของพวกเราช่างมีศรัทธาอันเเรงกล้างดงามจริงๆงดงามเสียดแทงจนทะลุท้องฟ้าไปเลยทีเดียว สมกับเป็นราชาแห่งพวกไพร่จริงๆ
ฝ่าบาทต้องโชคดีมากๆเลยที่ได้รับความนิยมจากสตรีนางทั้งหลายข้างกายฝ่าบาท โอ้ฝ่าบาทที่เคารพได้โปรดสอนพวกเราถึงวิธีการหลับนอนกับหญิงชนชั้นต่ำให้หน่อยสิเดี๊ยวพวกเราจะเอาวิธีของท่านไปบอกต่อให้มันกระจายไปทั่วโลกเลย
แม่มด เอาตัวบังหิมะโคลนที่ปามาทางผมอย่างนิ่งเฉย พวกทหารดูหมิ่นและเยาะเย้ยใส่พวกเรา ที่เป็นแบบนั้น เพราะพวกมันไม่รู้สึกผิดเเม้เเต่น้อยเมื่อโยนของสกปรกใส่คนอื่น แต่บางทีเเล้ว เพราะพวกเเม่มดนั้นไม่ได้มีสถานะเท่าเทียมดั่งทหารที่ปาปิมะมาใส่ สำหรับพวกมันเเล้ว พวกเเม่มดมันไม่ได้มีสถานะเป็นคนตั้งเเต่เเรกเเล้ว พวกมันยังพูดกันอีกว่าพวกเเม่มดทุกตัวนั้นไม่มีเเม้เเต่วิญญาณสถิตในกายเนื้อ แต่ถ้าเป็นอย่างนั้น เเล้วผู้ใดกันที่มีวิญญาณสถิตในร่างกายกันเล่า? เเต่ต่อมาผมเห็นเเม่มดปล่อยร่างที่เปลือยเปล่าที่ถูก ทรมาน ฉีกขาด พังทลาย ทุบตี และถูกเหยียบย่ำ ร่างกายเต็มไปด้วยสิ่งสกปรก เต็มไปด้วยบาดแผลและรอยฟกช้ำ พวกเจ้าช่างน่าสงสารจริงๆ ผมจึงมอบเสื้อคลุมให้เเม่มดไป
“ข้าสาบานว่า ข้า ดันทางเลี่ยน จะไม่ตอบรับคำพูดของเจ้าด้วยความเงียบ และจะไม่คืนคำพูดของเจ้าด้วยการดูถูก หากเจ้าต้องเสียเหงื่อและตกเลือดเพื่อข้า ข้าจะตอบเเทนน้ำหนักนั้นแก่พวกเจ้าสำหรับหยาดเหงื่อและเลือดทุกหยดที่ให้ข้ามา”
ทันทีที่ผมกล่าวเสร็จ ก็เข้าใจได้ทันทีว่าผมได้ยอมรับพวกเธอมีสถานะเป็นปุถุชนและเริ่มร้องไห้ออกมา นี่เป็นโลกที่ผู้คนหลั่งน้ำตาเมื่อพวกเขาได้รับการยอมรับในฐานะเป็นคนๆหนึ่งจริงๆสินะ? ‘ผมเองก็เป็นคนเหมือนคนอื่นๆ’ แม้แต่คำเหล่านี้ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในคำที่หลายๆคนมีความปรารถนาที่อยากได้รับที่สุดในโลก คำว่า คน นั้นสำหรับบางคนเเล้วยังไม่ถูกยอมรับให้ใช้กันเลย? ผมจึงเห็นใจว่าพวกเธอทั้งหลายที่ไม่มีอำนาจเเม้เเต่คำว่าเป็น คน คำเดียวยังไม่ถูกยอมรับได้ รู้สึกสงสารพวกเธอทุกคนจริงๆ เเล้วเเกล่ะอยากเป็นอะไรกัน?
“เราขอโทษพ่อ จะไม่ทำมันอีกแล้ว……เราขอโทษ……”
— พ่อของเรากับหญิงสาวคนนี้…… ทำกับหญิงสาวคนนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า……
สถานะทาส. ชีวิตของเธอถูกทำลายลงเพราะความผิดพลาดที่ไม่ใช่ของตัวเอง ผู้คนเมินเฉยและเพิกเฉยต่อเธอซึ่งเป็นแบบนั้น เธอถูกกระทำเเละกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ควรมีอยู่บนโลกใบนี้ พวกเขาได้กักขังเธอไว้ ผมเห็นว่าเธอถูกทรมานและถูกคุมขังถูกตีตรวนตัวเองทุกที่ตลอดไป ร่างกายของเธอกลายเป็นที่หลบซ่อนและโลกทั้งใบคือที่คุมขังเธอไว้ ผมนั้นเข้าใจดีว่าแม้ว่าเธอจะหาคนรักและมีลูกด้วยกัน แต่เด็กคนนั้นที่เกิดมาต้องเป็นลูกของทาสอย่างแน่นอน ดังนั้นร่างกายของเธอจึงกลายเป็นดั่งคำสาป ผมเคยได้ยินเกี่ยวกับคนรับใช้ที่น่าเศร้าที่ตัดอวัยวะสืบพันธุ์ของตนเองเพื่อไม่ให้มันกลายเป็นคำสาปที่ถูกส่งต่อไปยังชั่วลูกชั่วหลาน สำหรับทาสทุกคนล้วนเเล้วเเต่ไม่มีคำตอบทางอื่นนอกจากความตาย อย่างไรก็ตาม ความตายจะเป็นคำตอบที่ถูกได้ยังไงกันล่ะ? เพราะเธอเศร้า ผมเลยกระซิบบอกเธอไป
“เธอไม่ใช่เหยื่ออีกต่อไปเเล้ว ตอนนี้เธอคือผู้ล่า เธอไม่ได้เป็นคนอ่อนแอที่ถูกล่วงเกินอีกต่อไป แต่เธอกลายคนเข้มแข็งที่ไม่ว่าหน้าไหนก็มาล่วงเกินไม่ได้ ถ้ามีคนพยายามจะปลิดชีวิตเธอ ก็จงฆ่าพวกเเม่งซะ ก่อนที่พวกมันจะเข้ามา มันเป็นเรื่องง่ายมากๆ ถ้าไอ้ระยำตัวนั้นมันเป็นพ่อของเธอ ก็เเค่ปิตุฆาตมันไปซะ และถ้าคนคนนั้นเป็นพระเจ้า ก็จงลากมันลงมาเเละสังหารพระเจ้าไปด้วย”
ทันทีที่ผมกล่าวเสร็จ เธอก็นำทหารม้าออกไปสังหารศัตรู เมื่อผมให้อำนาจแก่เธอแล้ว เธอจึงไม่ใช่คนที่ถูกฆ่าอีกต่อไป แต่กลายเป็นคนที่นำความตายมาให้ผู้อื่นเเทน ‘คนที่มันพยายามจะฆ่าผมก่อน ผมก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องฆ่าพวกเขาก่อนยังไงล่ะ’การมีชีวิตอยู่ในขณะที่ไม่สามารถพูดออกมาได้ แม้แต่คำเหล่านี้ที่รุ่นร้อนระอุมากสุดในโลกก็ยังจะไม่ยอมเอ่ยกันอีกเหรอ? ในท้ายที่สุดเเล้ว ผมเห็นว่าจะไม่มีใครเลยที่กล้าจะมาสังหารเธอถ้าเธอมีอำนาจ ผมน่ะรู้สึกเศร้าสำหรับเรื่องราวของเธอทั้งหมดเลยนา เเล้วเเกล่ะอยากเป็นอะไรกัน?
?
ชาวบ้านที่ถูกเเผดเปลวเพลิง แม่มด ทาส
พวกเจ้าทุกคนที่น่าสงสารเอ๋ย ขอโทษสำหรับพวกคนโศกเศร้าด้วยเเล้วกัน? เเต่มันก็แค่นั้นเองเหรอ? นั่นคือเหตุผลที่ทุกๆคนต้องเห็นอกเห็นใจกันงั้นใช่มั้ย ปลอบประโลมให้กัน และดูแลให้กันเหรอ? พวกเจ้าทุกคนจะยังคงเป็นปัจเจกบุคคลซึ่งมีจิตใจดี อ่อนโยน และบริสุทธิ์ตลอดไปมั้ย?ถ้ามีคนมีทำดีขนาดนั้นตลอดกาล นั่นคือสีที่แท้จริงของพวกเจ้างั้นสินะ?
ถ้าเราไปตอนนี้ เมื่อไหร่เราจะได้กลับ
ถ้าเราไปตอนนี้ เมื่อไหร่เราจะได้กลับ
หมู่บ้านของเรากำลังถูกไฟเผา ลูกชายของเรากำลังถูกไฟครอก
อ่าาาา ถ้าไปตอนนี้แล้วเราจะได้กลับเมื่อไหร่……
อย่างไรก็ตาม ใบหน้าที่หัวเราะอย่างโหดเหี้ยมของทหาร ซึ่งแสดงออกมาในขณะที่กำลังปล้นและลอบวางเพลิง ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของพวกเขางั้นหรือ? พวกนั้นฆ๋าชาวบ้านคนอื่นทันทีที่ได้รับอำนาจ เเลนั่นก็ไม่ใช่ใบหน้าที่ถอดหน้ากากออกเสร็จสรรพเเล้วใช่ไหม?
อา พวกเจ้าทุกคนไม่ใช่แค่ใจดี เเต่ยังอ่อนโยน และบริสุทธิ์ เจ้าเองก็เป็นเหมือนกับผม แบบเดียวกัน ผมเป็นคนมีอิทธิพลทรงอำนาจ และพวกเจ้าทุกคนก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าคนที่ยังไม่ได้รับอำนาจ นั่นแหละ. ‘เราก็เลยเหมือนกัน! เรายังต้องการอำนาจเพิิ่มขึ้นอีก!’ แม้แต่คำพูดซึ่งเป็นเสียงโวยวายที่ดังก้องที่สุดในโลก ก็ต้องได้รับอนุญาตให้พูดโดยพวกเจ้าทุกคนก่อน
เเต่ถึงอย่างนั้น เจ้าเพื่อนยากอย่างโรเซนเบิร์กก็คงถือว่าเป็นพวกวนิพกได้เหมือนกันล่ะนะ? เพราะเจ้านั่นต้องการที่จะมีชีวิตอยู่อย่างไร้เดียงสาไปตลอดชีวิตไงล่ะ? ไม่มีความปรารถนาหรือเเรงจูงใจใดๆ? ไม่มีความปรารถนาที่จะอยากมีอำนาจเพิ่มขึ้นในกำมืออีก? เจ้านั่นคิดอยากจะเชื่อฟังตลอดไปเหมือนสัตว์เลี้ยงในเล้าหรือไงกัน? ผมน่ะถือว่ทุกๆคนนั้นเท่าเทียมกัน! ดังนั้น เนื่องจากผมไม่คิดว่าพวกเจ้าทุกคนนั้น ใจดี อ่อนโยน และบริสุทธิ์ ผมเลยจะไม่เห็นอกเห็นใจและปลอบประโลมพวกเจ้าอีกต่อไป ผมจะไม่ดูแลพวกเจ้าทุกตัว
โรเซนเบิร์กเชื่อว่าตนเองมีศักดิ์สูงกว่าทหารใต้อาณัติของตัวเอง นั่นเลยเป็นเหตุผลที่เขาพยายามจะช่วยเหลือทหารในอ้อมเเขนอาณัติที่ถูกผมจับไปทรมาน ด้วยคำพูดคำจาที่เขาใช้นั้นเเสนจะล้าสมัย ชายชราที่เเสนทรมานจากคำพูดอันหนาวเหน็บของตัวเอง
เจ้าพวกไพร่ ผมจะปลิดชีวิตพวกเจ้าทิ้งถ้ามันจำเป็น และถ้ามันจำเป็นจริงๆ พวกเจ้าทุกคนก็เอาชีวิตของผมไปได้เช่นกัน นั่นคือสิ่งที่ผมอยากจะหมายความไว้ว่าชึวิตของทุกๆคนนั้นเเหละที่เท่าเทียมกัน
มีความแตกต่างระหว่างศพที่ถูกไฟไหม้ที่แขวนอยู่บนผนังปราสาทสีดำกับชีวิตที่น่าสังเวชที่ติดอยู่กับกำแพงเหมือนหอยหรือเปล่าล่ะ?
หากมีการแยกเเยะจากกันระหว่างชีวิตและความตาย ก็มีเพียงอำนาจเท่านั้นที่เเยกได้
คนทุกคนมีสิทธิที่จะปรารถนาอำนาจและมีชีวิตอยู่เพื่อมัน
การเห็นพวกเจ้าดิ้นรน กระเสือกกระสน เข่นฆ่า และถูกฆ่าเพื่ออำนาจเป็นสิ่งที่สวยงามสำหรับผมเสมอ
หากพวกมันต้องการเห็นเจ้ากู่ร้องขณะที่คุณเปียกโชกไปด้วยเลือดของศัตรูไซร้แล้ว จอมมารดันทาเลี่ยน ก็ทำได้เพียงแค่หลั่งน้ำตา
เเกอยากเป็นอะไรกัน?
พวกเจ้าไม่ได้เป็นอะไรเลยจนกระทั่งถึงตอนนี้
เเล้วจากนี้ต่อไปพวกเจ้าอยากจะเป็นอะไรหล่ะ?
ทุกๆสิ่งอย่าง.
แทงหอกของเจ้าไปยังผู้คนที่ขโมยคำพูดของเจ้าไป ไอ้พวกที่กีดกันเจ้ากุมขังจิตวิญญาณของเจ้า และจงปลดเปลิ้องความทะเยอทะยานของเจ้าออกมา นำทุกสิ่งที่คนเหล่านั้นขโมยไปจากเจ้าคืนมาซะ ทำแบบนี้กับพวกที่กระทำเจ้าซะ เเล้วพวกเจ้าทุกคนจะกลายเป็นดั่งบุคคลชั้นเลิศ
– – ไว้ชีวิตเราไปเถอะ ได้โปรดอย่าฆ่าเราเลย
– ฉันเป็นคน ฉันก็เป็นคนเช่นกัน
— ใครก็ตามที่อยากฆ่าเรา เราก็เเค่สวนกลับไปปเท่านั้นเองมันไม่มีทางเลือกอื่น……
— เราก็เหมือนกัน! เรายังต้องการอำนาจ……
เ
คำพูดของพวกเจ้าช่างดูยุ่งเหยิงเสียเหลือเกิน
เป็นอะไรไปกัน? เสียงที่เจ้าพวกนี้พูดมันไม่ใช่คำพูด อ้อเเอ้เสียจนคิดว่าเป็นเสียงบ่นของทารกแรกเกิด มันเป็นเสียงเช่นนั้น ผมได้เข้าใจเเล้วว่า แม้ว่าผมจะถือว่าพวกเจ้าเป็นเพื่อนร่วมชาติ แต่พวกเจ้ากลับไม่มีภาษาใช้เป็นของตัวเอง
ก่อนที่จะคร่าชีวิตผู้อื่นได้ ก็ต้องเรียนรู้คำศัพท์เสียก่อนนะ ผมได้ไตร่ตรองอย่างดีเเล้วว่าจะกำหนดคำภาษาประเภทใดมาตีค่าพวกเจ้าดี มันจะต้องเป็นภาษาแห่งการต่อสู้ ภาษาแห่งการสังหาร และเหนือสิ่งอื่นใด ภาษาแห่งอำนาจไงล่ะ
พวกเจ้าทุกคนที่หยิบยื่นจ่ายส่วยให้กับคนที่มีอำนาจ เผชิญหน้ากับศัตรูที่รุกรานและเสียชีวิตอย่างเชื่อฟัง และรู้เเค่วิธีที่จะไม่พอใจผู้อื่นเพียงเพราะไม่มีใครช่วยเจ้าได้ พวกเจ้าต้องได้ตกต้องตายไปตลอดกาลจากนี้ไป เมื่อ โรคภัยสีดำ แผ่กระจายไปทั่วทวีป ชะตากรรมของเจ้าก็ได้ตายไปพร้อมกับวิบากนั้นไซร้เเล้ว
ด้วยความตั้งใจเพียงที่จะแสดงความยินดีกับพวกเจ้าทุกคนที่เสียชีวิตและเกิดใหม่ ผมขอมอบสาส์นนี้แก่พวกเจ้าทุกคน
จงรับฟังกันให้ดี เจ้าพวกไพร่ แทนที่จะเป็นเหล่าทวยเทพที่ตายไป จอมมารต่างหากที่จะมอบภาษาให้เเด่พวกเจ้าเอง
จงกรีดร้องเมื่อถูกจู่โจมและจงโหยหวนเมื่อติดกับ
—โอ้ มนุษย์เอ๋ยจงสดับ
ประวัติศาสตร์นานมาทั้งหมดจนถึงตอนนี้ล้วนเเล้วเเต่เป็นประวัติศาสตร์ความขัดแย้งทางชนชั้น
มีสองสงครามในโลก
หนึ่งคือสงครามระหว่างมนุษย์และปีศาจ
อย่างไรก็ตาม ความจริงที่ว่ายังมีสงครามที่มากไปกว่านั้นอีก
สงครามที่ดำเนินต่อเนื่องมาเป็นเวลา 1,500 ปีที่ผ่านมาโดยไม่ได้พักเลยแม้แต่นิดเดียว
มนุษยเอ๋ยรู้หรือไม่ว่าสงครามนั้นคือสงครามอะไร?
มันคือสงครามทำลายล้างที่คงอยู่ตลอดกาล
เมื่อเทียบกันเเล้วระหว่างสงครามมนุษย์กับปีศาจนั้นช่างเเสนโง่เขลาสิ้นดี
มนุษย์และปีศาจได้ขัดแย้งกันเองเพียง 8 ครั้งตั้งแต่โลกได้ก่อกำเนิดขึ้นมา อย่างไรเสียก็ตามก็ยังมีสงครามครั้งใหญ่ที่กำลังยังคงดำเนินต่อไปทุกปี ทุกเดือน ทุกวัน และทุกวินาที ดำเนินอยู่
เหล่าอาณาประชาราษณ์เเละพวกข้าทาส
เหล่าขุนนางเเละพวกสามัญชน
เหล่าบารอนและพวกข้าราชบริพาร
เหล่าผู้กดขี่และพวกผู้ถูกกดขี่
พวกท่านทุกคนยังไม่ได้ยินกันใช่ไหม
เสียงแหบแห้งของสงครามทำลายล้างที่กำลังต่อสู้กันอยู่ในชนชั้นเหล่านี้?
นี่คือสงครามนิรันดร์ มีเพียงสงครามนี้เท่านั้นที่เป็นสงครามที่แท้จริง
แม้ว่าปีศาจจะหายไปจากทวีป
พวกท่านทุกคนก็ยังคงติดอยู่ในห้วงสงคราม
เมื่อ 1,500 ปีผ่านไปแล้ว และแม้ว่าอีก 1,500 ปีจะไหลผ่านไปอีกครั้ง
สงครามทางชนชั้น สงครามทางอำนาจจะไม่ผันเเปร
บุตรธิดาทุกคนที่ถูกกดขี่ในโลกนี้ จงฟัง
500 ปีที่แล้ว เหล่าจอมมาร ได้ก้าวเข้าสู่ทวีปเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ในวันนั้นผู้ปกครองอาณาจักรต่างๆได้ตริตรองถึงการปกป้องเหล่ามนุษยชาติ
บรรพบุรุษของพวกท่านไปทำสงครามในขณะที่เสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องมนุษยชาติไว้
ถึงแม้ว่าหลังจากที่สงครามสิ้นสุดลง เหล่าข้าทาสก็ยังคงเป็นเเค่ข้าทาสและ
ปวงชนก็ยังคงเป็นเเค่ปวงชน
400 ปีที่แล้ว เหล่าจอมมารได้ลงมายังทวีปเป็นครั้งที่สอง
บรรพบุรุษของท่านเข้าห้ำหั่นกับปีศาจอีกครั้งและได้รับชัยชนะ
เเต่น่าประหลาดใจเพียงใดเเละน่าประทับใจเพียงไหน
พวกท่านคือเกราะกำบังที่ปกป้องมนุษยชาติไว้ได้อย่างแท้จริง
แม้ว่าหลังจากสงครามสิ้นสุดลง พวกไพร่ก็ยังเป็นเเค่พวกไพร่และทหารก็ยังตงเป็นเเค่ทหาร
ถ้าพวกท่านไม่อยู่ตรงนั่นละก็ ทวีปคงจะตกไปอยู่ในเงื้อมมือของเหล่าจอมมารไปแล้ว
ในช่วงหลายร้อยปีที่ผ่านมา พวกท่านทุกคนเป็นผู้พิทักษ์มนุษยชาติและเป็นเจ้าของที่ปกปักษ์อารยธรรมมานานหลายศตวรรษ
300 ปีต่อมา ในวันนี้ เหล่าจอมมารได้มาถึงทวีปแล้ว
เเต่อย่างไรก็ตามอะไรกันนี่? โอ้ พวกเจ้าของทวีป? พวกเจ้าล้วนยังเป็นเเค่ข้าราชบริพาร ยังคงเป็นทาส ยังคงเป็นปวงชน
พวกท่านที่เป็นคนที่อ่อนแอที่สุดในหมู่ผู้อ่อนแอที่กำลังจะตายจากโรคระบาด!
พวกท่านตายไปเพื่ออะไรกันในตอนนี้?
พวกท่านทุกคนยังคงมาปกป้องทวีปนี้ไว้อย่างแน่นอน
ทวีปนั้นเป็นดินแดนที่ยังคงเหมือนเดิมก่อนเกิดสงครามและแม้กระทั่งหลังจากที่มันได้พังทลายลงเเล้วเช่นกัน
พวกท่านก็ยังยากจน ยากไร้ เช่นเดิม
พวกท่านยากไร้มากจนรู้สึกเหมือนต้องอยู่กับมันไปชั่วนิรันดร์
แม้ว่าแม่ของท่านจะป่วย เพราะโรคภัยสีดำ และตายบนเตียงของท่านเอง
พวกท่านทุกคนที่ยากจนยังสิ้นหนทางหาซื้อสมุนไพรไม่ได้เลย
ท่านมีชีวิตอยู่เพื่อเสียสละ
การเสียสละเหล่านั้นมีไว้เพื่ออะไร?
ท่านยังคงมีชีวิตอยู่ในขณะที่ทำสงคราม
เเล้วสงครามนั้นไซร้มีไว้เพื่ออะไร?
ในช่วง 500 ปีที่ผ่านมา พวกท่านได้ตายลงหลายหมื่นชีวิตและเสียน้ำตาไปหลายหมื่นครั้งเพื่อปกป้องความยากไร้ของท่านเองใช่ไหม? ท่านเชื่อฟังผู้ปกครองและคนที่มีอำนาจเพราะพวกท่านทุกคนปรารถนาที่จะยากจนตลอดไปเช่นนั้นหรือ? เเละสำหรับตอนที่แม่ของท่านร่ำไห้ พ่อของท่านถูกขุนนางเฆี่ยนตี และพี่น้องของท่านก็ทรุดตัวลงขณะไถนา ก็เพื่อปกป้องทัศนียภาพเช่นนี้ บนทวีปนี้
พวกท่านตายกันหมดไปแล้วใช่มั้ย?
ไม่เป็นเช่นนั้นเลย
เหล่ามนุษย์เอ๋ยความจริงเป็นแบบนี้ต่างหาก
ราชาที่ปกครองอาณาจักรต่างๆ ทั้งเหล่าจักรพรรดิผู้ครองแห่งจักรวรรดิ และบรรดาขุนนางในดินแดนต่างเรียกร้องหาใช่ท่านไม่
ทวีปที่เหล่าชนชั้นสูงเหล่านั้นที่ต้องการปกป้องมันไม่ใช่ดินแดนของท่านเลย
ผู้มีอำนาจเหล่านั้นมีชีวิตอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ได้โดยไม่ต้องทำการปกป้องชีวิตของผู้คนและดินแดนของผู้อยู่อาศัย เพียงแต่เพื่อจุดประสงค์ในการปกป้องชีวิตของตนเองและโชคชะตาของพวกเขาไว้
โอ้มนุษย์เอ๋ย จงฟัง
สิ่งที่บรรพบุรุษของท่านปกป้องไว้ในขณะที่หลั่งโลหิต
มันไม่ใช่พื้นเเผ่นดินของปวงชน แต่มันเป็นของผู้อื่น
เป็นของครอบครองของชนชั้นศักดินาจอมปลอมเหล่านั้น
อ้า สงครามสิ้นสุดลงแล้ว แต่พวกท่านทุกคนยังคงยากไร้กันอยู่!
เป็นที่ชัดเจนเเล้ว! เนื่องจากพวกท่านทุกคนได้ช่วยให้คนเหล่านั้นขึ้นมามีอำนาจ!
โดยปกติแล้วผู้ปกครองท่านเหล่านั้นเป็นผู้ปกครองประเภทใดกันเล่า? แม้ว่าสัตว์ประหลาดจะมารุมโจมตีที่หมู่บ้านของท่าน พวกชนชั้นนำจะไม่เเยเเสเเละไม่ส่งกองกำลังมาเพื่อปกป้องท่านด้วยซ้ำไป
พวกเขาโยนท่านทิ้ง มนุษย์ ได้ทอดทิ้งท่านไปแล้ว เเต่ทันใดนั้นเอง เหล่าจอมมาร เริ่มรุกคืบเข้ามาใกล้ เเละเหล่าชนชั้นศักดินานั้นก็บังคับให้ท่านทุกคนต้องเสียสละตัวเองในครั้งนี้อีกเช่นกัน
เพื่อมนุษยชาติ!
แม้ว่าโรคภัยสีดำจะแพร่ระบาดไปในหมู่บ้านของท่าน แต่ผู้มีอำนาจเหล่านั้นไม่ได้ให้การรักษาทั้งหมดแก่ท่านเลย พวกเขาโยนทอดทิ้งท่านไปหมดแล้ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อเหล่าจอมมารรุกคืบเข้ามา
พวกศักดินาเหล่านั้นก็กำลังบังคับให้พวกท่านทุกคนต้องเสียสละตัวเอง
เพื่อมนุษยชาติ!
บัดนี้มนุษยชาติที่เหล่าศักดินากล่าวถึงนั้นได้ชัดเจนแล้ว
มนุษยชาติที่พวกเขากำลังพูดถึงคือมนุษย์ที่เรียกว่าขุนนาง
ทวีปที่พวกเขาอยากปกป้องเป็นเพียงดินแดนที่ขุนนางเหล่านั้นครอบครองเท่านั้น
เเล้วมนุษย์ธรรมดาเหล่านี้มีไว้เพื่ออะไรกัน?
เพียงเพื่อเป็นมนุษย์สำหรับต่อต้านค้ำยันสงคราม
สงครามครั้งนี้มีไว้เพื่ออะไรกัน?
มันเป็นเพียงสงครามเพื่อรักษาระบอบชนชั้นนั้นไว้
ประวัติศาสตร์ 1,500 ปีเหล่านั้นมีไว้เพื่ออะไรกัน?
สืบเนื่องมาจาก1500ปีที่ผ่านมา พวกท่านได้ตายลงไปอย่างโง่เขลา เพื่อส่งต่อความยากจนชั่วนิรันดร์ของท่านไปสู่บุตรธิดาของท่านอย่างโง่งม!
โอ้ มนุษยชาติ ที่ไม่ใช่มนุษย์ทั้งหมด เเต่เป็นเหล่าขุนนางกล่าวด้วยวาจาที่เเสนหวานชื่น
แต่พวกท่าน ข้าราช ไพร่ ทาส และราษฎรที่แท้จริง
พวกท่านต่างหากที่เป็นเจ้าของดินเเดนเเห่งนี้
ท่านเป็น ปวงประชา เป็นเจ้าของดินเเดนทั้งหมดนี้
หากแยกกันคิดดีๆเเล้ว? พวกท่านทุกคนจะไปเป็นพวกไพร่เสียได้อย่างไรกัน?
ทุกท่านเป็นเจ้าของดินแดนแห่งนี้
และยิ่งกว่านั้น พวกศักดินาเหล่านั้นมันก็เป็นพวกปรสิต
ยึดติดกับผิวหนังและเส้นเลือดของท่าน
พวกมันไม่ใช่พวกชั้นต่ำที่แท้จริงที่ดูดเหงื่อและเลือดของท่านหรอกหรือ?
เนื่องจากพวกมันเป็นพวกชั้นต่ำ จึงไม่สมควรที่พวกมันทั้งหมดจะเรียกได้ว่าเป็นขุนนางใช่ไหม?
ทำไมพวกขุนนางเหล่านั้นถึงได้ยักยอกเมล็ดข้าวสาลีและข้าวโพดที่คุณเก็บเกี่ยวมาได้กันล่ะ?
ทำไมพวกมันถึงไม่มาปกป้องปวงระชาเมื่อถูกโจมตีโดยมอนสเตอร์ แม้จะอ้างตนว่าเป็นเจ้าของผืนดินนี้กันล่ะ?
สุดท้ายนี้ทำไมถึงยังคงเก็บภาษีทั้งๆที่พวกท่านจะอดตายไปหมดกันล่ะ?
นั่นก็เป็นเพราะหัวโขนที่พวกมันสวมอยู่ไม่ใช่เจ้าของที่เเท้จริง
โอ้ มนุษยชาติเอ๋ย พวกมันไม่ใช่เจ้าของที่เเท้จริง เป็นเพียงแค่หัวขโมย
พวกมันเป็นโจรที่ขโมยทุกอย่างจนท่านต้องตกตะลึง
พวกขุนนางเท่านั้นที่กีดกันท่าน ลิดรอนท่าน พวกมันอาศัยอยู่ในบ้านที่ท่านสร้าง สวมเสื้อผ้าที่ท่านใส่ และกินข้าวโพดที่ท่านเก็บเกี่ยว
เรื่องเหลวไหลไร้สาระนี้ดำเนินอยู่มาตลอด 1,500 ปีที่ผ่านมาได้ยังไง?
มนุษย์เอ๋ย เหตุผลก็คือสิ่งนี้
เป็นเพราะพวกมันถืออาวุธ
ไม่มีเหตุผลอื่นนอกเหนือจากนี้
หากท่านร้องขอให้ลดภาษี พวมันจะยกดาบขึ้น
หากท่านวิงวอนให้พวกมันมอบสมุนไพรแก่ท่าน พวกมันจะยื่นหอกออกมา
หากท่านหลบเลี่ยงงานเพื่อมาเลี้ยงดูแม่ของท่านเอง พวกมันจะลงแส้
ด้วยดาบใบดาบ
ด้วยปลายหอก
และด้วยฟาดแส้
ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วเหล่ามนุษย์ต้องทำอย่างไรได้อีกล่ะ?
ท่านต้องทำอะไรเพื่อปกป้องสิ่งที่เป็นของท่านได้หนอ?
พวกท่านต้องทำอย่างไรเพื่อให้หลุดพ้นจากความยากไร้ได้หนอ!?
ท่านจะถูกฟันด้วยใบดาบและตายใช่หรือไม่หนอ?
ท่านจะถูกแทงด้วยหอกและกรีดร้องออกมาได้ไหมหนอ?
ท่านจะโดนเฆี่ยนตีจนไปถึงกระดูกเลยอ่อนไหมหนอ?
มีเพียงคำตอบเดียว! คำตอบเดียวเท่านั้น!
ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องต่อสู้ด้วยกำลังด้วยพลังทั้งหมด!
ยกขวานขึ้น คว้าหน้าไม้ของท่าน ด้วยแขนของท่าน
ใช้อุปกรณ์ทำฟาร์มของท่านแล้วแทงหัวพวกมัน
เป็นท่านเท่านั้นที่ต้องเป็นผู้เก็บเกี่ยวสิ่งที่ท่านได้เพาะปลูกมา
ให้มันกลายเป็นเรื่องปกติเเละดำเนินมันต่อไปอย่างมีเหตุมีผล
อย่าหลงกลคิดว่าตนเป็นเพียงไพร่
พวกท่านทุกคนคือผู้ที่เป็นเจ้าของดินแดนแห่งนี้
ท่านคือคนที่เป็นมนุษย์อย่างแท้จริง
ทุกๆสิ่งในทวีปนี้เป็นของท่านโดยชอบธรรม!
ท่านต้องทำสงครามเพื่อตัวท่านเองเท่านั้น!
ต่อสู้สิ!
เพราะจะไม่มีใครมาคืนของที่ถูกขโมยไปเเล้ว
ต่อสู้สิ!
เพราะไม่มีใครจะมาใช้ชีวิตแทนท่านได้อีก
ต่อสู้สิ!
โอ้มนุษยชาติเอ๋ยปวงประชาคืออะไรกัน? คำตอบคือพวกท่านนั้นคือทุกอย่าง!
มีเพียงท่านเท่านั้นที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นปวงราษฏร์
ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา สามัญชนคืออะไร?
ไม่มีอะไรเลย!
และต่อจากนี้ไป
ท่านจะได้เป็นอะไรที่ไม่อาจเทียบได้
นั่นคือทุกอย่าง!
สงครามเพื่อฆ่าล้างปีศาจเพื่อขุนนางได้สิ้นสุดลงแล้ว
จงรู้เสียว่าสงครามครั้งใหญ่ที่แท้จริงได้มาถึง
ท่านต้องต่อสู้เพื่อชีวิตของท่านเองและเพื่ออำนาจของท่านเองเท่านั้น
ให้พวกปรสิตที่แสร้งทำเป็นพวกศักดินาได้รู้ว่าใครคือเจ้าของที่แท้จริงด้วยหอก ลูกธนู และพลั่วของท่าน
โหยหาโลกที่ทุกคนๆใช้ชีวิตเป็นเจ้าของ
ตระหนักถึงประวัติศาสตร์ที่ทุกคนต้องดิ้นรนต่อสู้ไปพร้อมกับทุกคน
ทำให้ผู้ปกครองเหล่านั้นสั่นเทาต่อหน้าอำนาจของท่านในฐานะปวงชน
นอกจากกุญแจมือปลอมๆของท่านแล้ว
พวกท่านทุกคนไม่มีอะไรจะเสียในสงครามทำลายล้างนี้ได้อีก
มีเพียงโลกที่ท่านสรรสร้าง ท่านถึงจะได้ทุกสิ่งที่ปราถนา มิเช่นนั้นมันจะเเตกกระจายออกไปต่อหน้าต่อตาของท่าน!
จงสู้กลับ เหล่ามวลมนุษยชาติ!
//จริงๆเเล้วฟอนท์ท่อนปราศรับควรอยู่ตรงกลางนะ เเต่ไม่รู้ทำยังไงถึงจะปรับไว้กึ่งกลางได้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ตอนเเรกคิดว่าจะเปิดรับบริจาคดีไหมเเต่คิดไปคิดมาเปิดรับก็ดีเหมือนกันเผื่อมีคนอยากหารค่า ชานม เเต่ถึงไม่บริจาคก็ไม่เป็นไรขอเเค่สนุกกับการอ่านเรื่องนี้เเล้วคอมเมนท์มาให้อ่านกันก็ได้ผมอ่านหมดเเหละเเค่ไม่ค่อยตอบ 55555555555