Dungeon Defence - ตอนที่ 80 บทนํา
บทนํา
ข้าได้ยินมาว่า หญิงแพศยา เร่ขายร่างของนางให้กับปีศาจ
“ข่าวลือว่านางเป็นผู้หญิงจากบ้านดยุคมันไม่ใช่ความจริงเลย ข้าว่าไม่ใช่แน่นอน”
“ไอ้สาวคนนั้นมันคนไหนกันล่ะ? ใช่คนที่มีข่าวลือว่าแม่ของนางเป็นโสเภณีใช่หรือเปล่า
“มีข้อพิสูทย์ข่าวลือที่ว่าไหมล่ะ?”
“ข้อพิสูจน์? มีสิ, พิสูทย์ได้แน่นอน ในฐานะที่ข้าเป็นนักตีหม้อมามากหน้าหลายตาในชีวิตข้า ข้าสามารถบอกได้ทันทีเลยว่าคนไหนๆ เป็นเบอร์ตองเพียงแค่มองหน้าก็ดูได้จากโหงวเฮ้งของนาง พูดสั้นๆเลยก็คือแค่เห็นหน้าก็รู้เลยว่าขายหม้อหรือไม่ขาย
“ข้ายังไม่หายสงสัยเกี่ยวกับที่แกพูดมาว่ะ เพียงแค่ว่าดูอย่างเดียวมันไม่ครบองค์ประกอบที่จะพิสูทย์ได้ ว่าเธอเป็นคุณโสนาเหวย พูดตามตรงนะ มันยังขาดข้อเท็จจริงไปอีกเยอะ ข้าถึงไม่แน่ใจว่านางเป็นอีตัวจริงไหมนั่น แต่มีสิ่งที่ข้าบอกเป็นข้อเท็จจริงพิสูทย์ได้เลย
ก็คือเอ็งแม่งปากหมาพาจรจริงว่ะ
“งั้นเรอะ? ข้าก็บอกได้เหมือนกันว่าระดับสมองของเอ็งก็ใกล้เคียงกับสมองหมาไม่ต่างกับหมาหรือก”
“นางโคตรจะสวยที่สุดเลย ข้าได้ยินมาว่านาง มีวาทศิลป์คล่องแคล่วและเธอเก่งในการทําสงครามอีก แต่นางมีเจ้าของอีกแล้วนี่สิ? เจ้าคนที่ว่ามันคือ จอมมาร ต้นเดลิไลอ้อนใช่มะ ชื่อ จอมมาร ดันทาเลี่ยน” “เออเออ ใช่ ดันทาเลี่ยน เจ้านั้นเป็นคนที่เอาสาวสวยมาเป็น ลูกน้องเอง รู้สึกราวกับว่าชายคนนี้ได้รับพรมาจริงๆ” “ถึงได้พรแต่ก็เป็นพรที่มีกลาดเกลื่อนน่ะสิ เดี๋ยวพวกเราก็จะได้เห็นกัน”
“พวกเขาว่ากันว่าทักษะสะโพกของเขานั้นช่างประหนึ่งแรงม้า คิดว่าเป็นแบบนี้ก็ได้เหรอไอ้หยา? แบบนี้แล. แซ่บกันทุกๆคืน.
แต่ในความเป็นจริง มีแต่คนไม่ยอมรับนางเป็นแม่ทัพกันทั้งนั้นแหละ แต่กลับยอมรับว่าเป็นเมียน้อยของจอมมารแทนน่ะ”
“ช่างหยาบจริงๆ” “แย่มากๆเลยล่ะนะ”
“ข้าว่าข้าพูดได้ดีขึ้นมานิดหน่อยนึงแล้วนะ!”
“ข้ารู้สึกเหมือนเป็นคนโง่ไปเองเลยแฮะ” “แล้วนางคนนั้นชื่อว่าอะไรล่ะ”
“ฟาร์นาเซ่?”
“ลอร่า เดอ ฟาร์เนเซ่”
…ข้าไม่เข้าใจ ทําไมผู้หญิงๆเก่งถึงโดนผู้ชายไร้ความสามารถครอบครองได้กัน? อย่างกับมีกฎหมายมาบังคับยังไงยังงั้นแหละ
ข้าเกือบจะรู้สึกไปเองเลยว่าแค่มีคนมีความสามารถเก่งๆไว้ข้างกายก็พาให้คิดไปว่าไอ้คนไร้ความสามารถมันมีความสามารถจริงๆ” “ง่ายๆ เลยนะ ถ้าไปคบกับคนที่เก่งๆ แกจะกลายเป็นไอ้จืดเพราะโดนกลบรัศมีไปหมดน่ะสิ แต่แกสามารถลิ้มรสการเป็นคนพิเศษได้
เมื่อไปคบกับคนไร้ความสามารถไงล่ะ”
“แล้วมันจะไปมีค่าอะไรล่ะ”
“อย่างที่บอก มันคือ.. ช่างเถอะ ถ้าแกอยากรู้และอยากสัมผัสรสชาตินั้น แกก็ต้องลองเกิดเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถก่อนน่ะนะ แต่ถึงแม้แกจะตายและฟื้นกลับใหม่ แกก็ไม่มีวันกลายเป็นผู้หญิงที่มี ความสามารถหรอก ข้าคงไม่ต้องมานั่งสาธยายให้แกฟังเพิ่มแล้วมั้ง”
“ไม่ใช่แค่มานั่งสาธยาย แต่แสดงให้เห็นความจริงไปเลยว่าแก ขี้ขลาด กระจอก และอาจโง่ด้วย”
“แต่อีนางนั่น
“ใครๆต่างก็บอกว่านางขายตัวเองออกไป รู้ไหมล่ะ”
“นางทรยศต่อเผ่าพันธุ์ของตัวเองและไปเข้าร่วมกับปีศาจ” “หน้าตาสละสลวยสมกับเป็นโสเภณี”
“ใช่ ด้วยคําพูดอันแสนไพเราะอ่อนหวาน”
“เธอจึงสามารถสังหารผู้คนได้อย่างง่ายดาย
“ด้วยความปราดเปรียวอันเป็นเลิศ”
“เดอ ฟาร์เนเซ่”
“ลอร่า”
“ลอร่า เดอ ฟาร์เนเซ””โสเภณีที่ทรยศต่อมวลมนุษยชาติ”
“มนุษย์ที่สังหารหมู่มลมนุษย์” “นักต้มตุ้นที่ยุยงบ่าวไพร่
“นางหลอกทวยเทพด้วยใบหน้าสวย ๆ ของตัวเอง” “นางทําได้ยังไง นางขายวิญญาณให้กับปีศาจและเข่นฆ่าเผ่าพันธุ์ของตัวเอง” “ดยุคฟาร์นาเซเป็นคนฉลาด เหมาะสมแล้วที่จะถูกขายเป็นทาสและถูกเด็ดมาดอมดมตั้งแต่ยังเด็ก แม้ว่าเธอจะถูกขายเป็นทาส แต่ก็ยังโตมาเป็นคนที่โหดร้าย แต่ลองคิดดูสิถ้านางไม่ได้เกิดมาเป็นทาสละ ถ้านังนั้นไม่ได้เป็นทาสแล้วถ้าหล่อนโตไป 1 มันจะน่าพรั่นพรึงอีกสักเพียงไหน กลายเป็นตัวอะไรกันไปอีก
ใครๆก็บอกว่าเธอเธอมีงานอดิเรกสะสมหัวกะโหลกด้วยซ้ํา
“หัวกะโหลก?”
“โอ้ มาย”
“จริงด้วย เขาว่ากันว่าเธอไม่เพียงแต่สะสมหัวกระโหลกธรรมดาๆนะ แต่นางเก็บมันไว้และเล่นเปียโนข้างๆด้วยกันกับมันอีก เธอคงตื่นเต้นกับกระดูกของนางที่เธอเชือดเอง ในขณะที่ฮัมเพลงอยู่ ไม่แปลกใจเลยว่าถ้านางสะสมหัวกะโหลกได้เป็นหมื่นๆหัวได้ในตอนนี้
“โอ้พระเจ้า”
“อืม. ในด้านความชอบ ข้ารู้สึกเหมือนนางนั้นแหละ และข้ารู้สึกผูกพันสัมผัสมันได้ได้ด้วยเหตุผลบางอย่าง ”
“แกเงียบไปเลย” “ธรรมชาติของนางได้เน่าเปื่อยไปจนถึงรากเหง้า เธอเป็นคนขี้ขลาดที่เกิดมาเพื่อสาปแช่งโลกใบนี้ ?” “เจ้าหมาจรจัดตัวเมียที่แสนสกปรกและบูดบึง” “ผู้หญิงเลวที่น่ารําคาญและดื้อรั้น” “อ่าฮะ ข้าทนไม่ได้กับความจริงที่ว่าคนแบบนั้นกําลังหายใจและมีชีวิตอยู่ในตอนนี้ มันคงจะดีถ้านางจะตายไปซะ
ถ้าเป็นไปไม่ได้ นางก็ควรไปอยู่ที่อื่นที่ข้ามองไม่เห็นซะ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะไม่เห็นนางอยู่ก็ตาม ข้าหวังไว้ล่ะนะว่านางจะไปพักผ่อนในที่โคตรจะโคตรไกล ที่ที่แม้แต่ข่าวของนางก็ยังไม่ถึงหูข้า”
“แต่ข้าได้ยินมาว่ามีชาวไพร่สนับสนุนหญิงโสเภณีคนนั้นอยู่นา”
“แกคิดว่าคนที่มีสถานะเป็นไพร่รู้ไหมว่าเพราะอะไร? บัมพ์กินส์รู้หรือเปล่า? ในทุกๆ วันที่พวกมันใช้ชีวิตในละแวกบ้านตัวเอง และไม่รู้ว่าตนนั้นโลกแคบขนาดไหน น่าสงสารเกินกว่าจะออกไปใช้ชีวิตในสถานที่ห่างไกลออกไปสุดขอบโลก อุดอู้อยู่แต่กับที่ๆเคยเป็น
“ข้าไม่สนใจพวกมัน”
“ดูถูกพวกมัน” “แต่อย่าเพิกเฉยต่อพวกมันอย่างไร้เยื่อใย จงเยาะเย้ยพวกมันทุกครั้งที่มีโอกาส โดยการทําแบบนี้ เราสามารถแสดงให้พวกมัน เห็นว่าเราเพิกเฉยไม่ต้องมีพวกมันก็ได้อย่างเนียนกริ้บ” “ตอนนี้แกเองก็กําลังใช้หัวของตัวเองเป็นบ้างแล้วนี่” “นักสะสมหัวกะโหลก” “โสเภณีที่ทรยศต่อมนุษย์” “นักต้มตุ้นที่ยุยงบ่าวไพร่” “คนที่เล่นเปียโนข้างศพ
“ลอร่า
ติอร่า เดอ ฟาร์มานซ์