Earth’s Best Gamer - ตอนที่ 187
ตอนที่ 187 พี่ชายจี ฉันจะแลกเปลี่ยนศิลปะการต่อสู้
“รอเดี๋ยว คุณจี คุณ..”
อิดเต็งที่น่านับถือดูเหมือนจะตระหนักได้ถึงบางสิ่งและมองไปที่จีเยผู้ที่อยู่ข้างเขา
“ขออภัยผู้อาวุโสหยิงที่ต้องโกหกคุณ เชียนที่น่านับถือได้รับบาดเจ็บสาหัสจริงๆ แต่การรักษาของฉันก็เพียงพอที่จะช่วยชีวิตเขา”
“แต่เขาตั้งใจที่จะตายมากเกินไม่สังเกตเห็นมัน”
จีเยู่พยักหน้าให้อิดเต็งที่น่านับถือด้วยรอยยิ้ม
“เชียนที่น่านับถือ ฉันหวังว่าคุณจะไม่รังเกียจที่ฉันจะพูดบางสิ่ง”
“คุณได้ศึกษาหลักคําสอนของศาสนาพุทธมา และฉันเชื่อว่าคุณรู้ดีว่าการทําผิดพลาดแล้วนั้นวิธีหนึ่งต้องขอโทษแต่มีอีกวิธีหนึ่งก็คือการสะสมคุณธรรมและทําความดีเพื่อชดเชยความชั่วในอดีต”
“ตอนนี้อาณาจักรหยวนพร้อมที่จะล้อมเมืองซงหยง เมื่อเมืองถูกทําลาย ผู้อยู่อาศัยภายในเมืองหลายแสนคนจะถูกสังหาร ท่านมีความรู้ที่ล้ําลึกทั้งหลักคําสอนทางพุทธและทักษะศิลปะการต่อสู้หากคุณสามารถพยายามหยุดยั้งหายนะของเมืองซงหยงเพื่อชาวซ่งและชาวต้าหลี่แม้ว่าคุณจะสามารถช่วยผู้บริสุทธิ์เพียงไม่กี่คนมันจะเป็นการกระทําที่ดีงามมาก!”
จีเยบอกชิวเชียนหรันผู้ที่ดูเหมือนว่าจะกําลังพิจารณาว่าเขาควรจะฆ่าตัวตายดีหรือไม่
“อ่าา ปรมจารย์จีชี้ประเด็นได้ถูกต้อง”
“เชียนที่น่านับถือ เนื่องจากผู้อาวุโสหยิงและผู้อาวุโสเฒ่าทารกให้อภัยคุณแล้ว ทําไมคุณถึงยังยึดติดกับความคิดที่จะตายล่ะ? ดั่งเสียงสวรรค์ตะวันตกอันรื่นรมณ์ คุณจะได้รับผลตอบแทนที่ยิ่งใหญ่ขึ้นหลังจากที่คุณสะสมบุญในโลกนี้”
หยางกัวเห็นด้วยกับคําพูดของจีเย่
เขาเชื่อว่าเขาได้ทําผิดในวัยหนุ่มของเขา
นั่นคีเหตุผลที่เขาไม่เคยไปเมืองซงหยงเลยสักครั้งในทศวรรษที่ผ่านมา เขาหลีกเลี่ยงก๊วยเจ๋งและหวงหรงโดยไม่รู้ตั
ท้ายที่สุด คิวเชียนหรันเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้รองจากห้าผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้น หากเขาสามารถช่วย“ลุงก๊วย”ของเขาในเมืองซงหยงได้จริง มันจะบรรเทาความกดดันในเมืองได้อย่างมาก
แม้แต่อิดเต็งที่น่านับถือก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
เขาเป็นพระและไม่สนใจทางโลกอีกต่อไป
แต่ท้ายที่สุด เขาก็เคยเป็นฮ่องเต้แห่งต้าหลี่ และอาณาจักรก็ถูกทําลายโดยกองทัพหยวนซึ่งสังหารและเผาไปตลอดทาง
แม้แต่คิวเชียนหนก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากขุนนางหยวนในตอนที่เขาพยายนามรวบรวมข้อมูลให้อิดเต็งดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เขารู้สึกมีอารมณ์ร่วมเล็กน้อย
นอกจากนี้ ผู้คนในอาณาจักรหยวนยังเป็นที่รู้จักกันในด้านความแข็งแกร่ง ในตอนที่พวกมันพบกับการต่อตานในระหว่างการโจมตีเมือง พวกมันมักจะเข่นฆ่าทุกคนในเมืองหลังจากที่ค่พวกมันบุกทะลวงแนวป้องกัน
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ทหารหยวนจํานวนนับไม่ถ้วนเสียชีวิตนอกเมืองซงหยง ดังนั้นหากกองทัพบุกทะลวงเข้าไปในเมืองครั้งนี้ ก็เหมือนกับที่เย่กล่าวไว้ พวกมันจะสังหารทหารและประชาชนทุกคน
“เชียน ฉันจะปล่อยให้นายเลือกเอง”
อิดเต็งที่น่านับถือกล่าวกับลูกศิษย์ของเขาในตอนที่เขียนลืมตาขึ้นมา
“ฉันจะไปเมืองซงหยง!”
หลังจากลังเลเล็กน้อย คิวเชียนหนก็ตกลง
แน่นอนว่าเขายังไม่ไปที่นั่นในตอนนี้ แม้ว่าจีเย่จะรักษาอาการบาดเจ็บของเขา แต่ก็ต้องใช้เวลาอีกพอสมรวรกว่าที่เขาจะฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่
“ฉันไม่สามารถตอบแทนนายได้อย่างเพียงพอสําหรับสิ่งที่นายทํา โปรดรับจิ้งจองเหล่านี้”
นั่นเป็นตอบจบที่มีความสุข
ป้าหยิงหยิบจิ้งจอกทั้งสองตัวขึ้นมาและมอบให้จีเยู่กับหยางกัวด้วยความสุข เหมือนกับที่เธอสัญญาไว้
“ฉันไม่คิดที่จะพรากพวกมันไปจากคุณ”
“แต่จิ้งจองทั้งสองตัวมีประโยชน์กับภูเขามังกรคู่อย่างแท้จริง”
“นี่คือ “ขวดนมวิญญาณ” ซึ่งสามารถยืดอายุขัยและฟื้นฟูผู้คนได้ สามารถเปลี่ยนผมขาวให้กลายเป็นผมดําและคืนความอ่อนเยาว์ได้ ผู้อาวุโสหยิง หากคุณต้องการ ฉันจะมอบมันยให้กับคุณเพื่อแลกกับจิ้งจอก”
จีเย่หยิบขวดแก้วออกมาจากแหวนว่างเปล่าของเขา ในขวดบรรจุนมศิลาผสมกับน้ําค้างหวาน
“อาววว อาววว…”
จิ้งจอกไม่เต็มใจอย่างมากที่จะทิ้งนายเก่าของพวกมันและไปกับจีเยีในตอนแรก โดยเฉพาะอยางยิ่งตัวที่ถูก
จับโดยจีเย่ มันกัดฟันใส่เขา
อย่างไรก็ตาม ในตอนที่พวกมันได้กลิ่นของส่วนผสมในขวด แววตาของพวกมันก็เปล่งประกายและถูกล่อลวง
“เอาล่ะ…”
เมื่อพิจารณาจากการตอบสนองของสัตว์เลี้ยง ป้าหยิงรู้ว่าจิเย่กําลังเสนอบางสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ
ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่เห็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อทั้งหมดที่จีเย่ได้ทํา เธอจึงไม่สงสัยในสิ่งที่เขากล่าว
มันเป็นยาวิเศษที่สามารถฟื้นฟูและรักษารูปลักษณ์ได้!
เนื่องจากการสูญเสียลูกและเหตุการณ์ต่างๆ ในภายหลัง ผมของเธอจึงถูกเปลี่ยนเป็นสีขาวก่อนวัยอันควรและเธอก็ใช้ชีวิตคมาเกือบทั้งชีวิตที่ดูเหมือนกับหญิงชรา ในทางกลับกันเฒ่าทารกอายุเกือบร้อยปีแต่ดูอยู่ในวัย 60 หรือ 70 ปีเท่านั้น เพราะอารมณ์และความสําเร็จในศิลปะการต่อสู้ของเขา
ตอนนี้พวกเขาสามารถทิ้งทุกเรื่องแล้ว เธอจึงเริ่มกังวลเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของเธอหลังจากความสุขครั้งแรกในรอบหลายปี
ผู้หญิงทุกคนต้องการโอกาสที่จะได้รับความอ่อนเยาว์กลับคืนมา แม้ว่าจะเป็นเพียงส่วนหนึ่งก็ตาม
อย่างไรก็ตาม เธอได้ให้สัญญาว่าเธอจะมอบจิ้งจอกให้จีเย่ หากเขาและหยางกัวสามารถนําจิวแป๊ะทงมาที่นี่ได้
เธอพบว่าไม่เหมาะสมที่จะยอมรับสิ่งของจากจีเยู่ในตอนนี้
“เดี๋ยวก่อน ฉันไม่รู้ว่านายมีสิ่งที่น่าทึ่งเช่นนี้ กลิ่นหอมยิ่งกว่าน้ําผึ้งหยกที่เซียวเหล่งนึ่งสอนฉันทํา!”
“น้องชายจี เอาแบบนี้มั้ย? นายมอบขวดให้ฉัน และฉันจะมอบบางสิ่งเป็นการแลกเปลี่ยน”
เมื่อเห็นว่าป่าหยิงลังเลแม้ว่าจะตื่นเต้น จิวแป๊ะทงก็มีความคิดขึ้นมา
ดังนั้นเขาจึงจ้องไปที่ขวดและกล่าวกับจีเย่
เฒ่าทารกอาจไร้เดียงสาเหมือนเด็ก แต่เขาไม่ได้โง่ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ประสบความสําเร็จอย่างมากในศิลปะการต่อสู้
“แต่ฉันไม่มีอะไรให้… งั้นฉันจะสอนทักษะศิลปะการต่อสู้ให้นายได้มั้ย?”
จิวแป๊ะทงบอกจีเย่หลังจากที่เขาตบรอบกระเป๋าของเขาและพบว่าไม่มีอะไรที่เขาสามารถแลกเปลี่ยนกับจีเย่สําหรับนมวิญญาณ
แววตาของเขาเปล่งประกายและเขาก็มีความคิด
“ฉันมอบมันให้กับผู้อาวุโสหยิงเป็นของขวัญ ผู้อาวุโสเฒ่าทารกไม่จําเป็นต้องสอนอะไรกับฉันเพื่อแลกเปลียน”
จีเยส่ายหัวและยิ้มออกมา
เขาคาดหวังว่าเขาจะใช้เวลาพอสมควรในการทําภารกิจบางอย่างก่อนที่เขาจะสามารถเรียนรู้ทักษะจากพวกเขาได้แต่เฒ่าทารกเพิ่งจะเสนอเป็นการแลกเปลี่ยน
แน่นอนว่ามันเกี่ยวข้องกับนิสัยของเฒ่าทารกด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม จีเย่คงไม่ต้อบว่าได้ เพราะนั่นจะชัดเจนมากเกินไป
แต่เขากลับส่งขวดให้กับเฒ่าทารกด้วยรอยยิ้มเพื่อที่เขาจะได้อวดต่อหฟน้าป้าหยิงที่ร่าเริง
“ฉันชื่นชมในทักษะทางการแพทย์ของนายมาก ปรมจารย์จี!”
ในฐานะเพื่อนหมอผู้เชี่ยวชาญ อิดเต็งที่น่านับถือถอนหายใจด้วยความประหลาดใจ
คิวเชียนหรันได้รับบาดเจ็บสาหัสมากจนตามหลักแล้ว เขาไม่สามารถรอดชีวิตได้ แต่จีเย่สามารถพาเขากลับมาได้และนั่นก็น่าพึ่งเพียงพอแล้ว
ตามที่หยางกัวกล่าว จีเย่ได้ช่วยผู้ป่วยที่รักษาไม่หายจากคฤหาสน์แห่งอสูรด้วยเช่นกัน และด้วยยาที่น่าทึ่งที่เขาเพิ่งแสดงออกมา คิวเชียนหรันนั้นประทับใจมาก
“ฉันเป็นเพียงหมอมือใหม่ และฉันสามารถรักษาคนเหล่านั้นได้เพราะฉันมีทักษะพิเศษ!”จีเย่กล่าวอย่างถ่อมตน
เขาพึ่งพาพรสวรรค์การรักษา แต่เขารู้ทฤษฎีทางการแพทย์บางอย่าง
หลังจากอัญเชิญเอี้ยนชิง เขาก็ได้เรียนรู้นักทํานายที่แท้จริง และเขาก็ได้เรียนรู้ทักษะทางการแพทย์จากอันเต้าฉวนในภายหลัง
นอกจากนี้ จีเยี่ยังได้เรียนรู้จากเพิ่งดังในเทคนิคการต่อเรือ จากหลิงเจิ้นในทักษะปืนใหญ่รวมถึงทักษกระบี่ของหยางจื้อทักษะไม้ของหล่จัน และทักษะการตีขึ้นรูปของถังหลง
แต่เขากังวลว่าเขาจะไม่ได้เชี่ยวชาญทุกทักษะหากเขาเรียนรู้มากเกินไปในแต่ละครั้ง ดังนั้นเขาจึงเพียงแต่เข้าใจทักษะโดยไม่ได้ศึกษาพวกมันอย่างลึกซึ้ง
แน่นอนว่าด้วยพรสวรรค์การผสานของเขา หากเขาต้องการเรียนรู้พวกมัน มันจะมีประสิทธิภาพมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งทักษะทางการแพทย์ ไม่เพียงแค่เขาจะสามารถผสานพวกมันได้โดยตรงแต่เพราะพรสวรรค์การรักษาของเขา เขายังสามารถตรวจจับข้อมูลทางกายภาพทั้งหมดในบลุคคลที่เขารักษาได้
พูดตามตรง หากเขาต้องการที่จะประกอบอาชีพด้านทางการแพทย์ เขาจะก้าวหน้าได้เร็วกว่าซางเยี่ยนที่ต้อ งการเป็นลูกศิษย์ของอันเต้าฉวน
อันที่จริง เขาใช้พรสวรรค์การรักษาในตอนที่เขารักษาชื่อคนที่สามและคิวเชียนหรัน ในรขณะที่เขาทําการรักษาอยู่นั่นเขาได้ศึกษาหลักการโคจรพลังภายในของพวกเขา
เนื่องจากข้อมูลที่เขาได้รับด้วยวิธีนี้ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นสกิลได้ เขาจึงไม่สามารถผสานพวกมันได้และเขาสามารถใช้พวกมันเป็นข้อมูลอ้างอิงถึงการบมเพาะของเขาเองได้
“อันที่จริง หุบเขาร้อยเกสรที่ผู้อาวุโสจิวอาศัยอยู่ก็มียาวิญญาณมากมายเช่นกัน เนื่องจากตําแหน่งทางธรณีวิทยาแก่นแท้วิญญาณจึงรวมตัวกันที่นั่น ทําให้กลายเป็นดินแดนแห่งพรและทําให้น่าอยู่มากนั่นเป็นเหตุผลที่ผู้อาวุโสจิวดูเหมือนจะอายุน้อยมาก”
จีเย่ชี้ไปที่จิวแป๊ะทงผู้ซึ่งเคราเคยเป็นสีขาวทั้งหมด แต่ตอนนี้ดําขึ้นเล็กน้อย
จีเย่เคยสังเกตมราก่อนว่าไม่เพียงแค่วิ่งมังกรดําของป่าหยิ่งมีคุณสมบัติพิเศษบางอย่างแต่หุบเขาร้อยเกสรที่จิวแป๊ะทงอาศัยอยู่นั้นก็เหลือเชื่อเช่นกันในนั้นมีพืชระดับวิสามัญมากมายเช่นรากดอกขนแกะเห็ดหลินจือและโสมอายุร้อยปี
นอกจากนี้ ยิ่งมังกรดํา คฤหาสน์แห่งอสูร และหุบเขาร้อยเกสรทั้งหมดล้วนเป็นสถานที่อันเงียบสงบ
แม้แต่คนอย่างผู้อาวุโสเพิ่งที่รู้จักหนังสือเป็นอย่างดีก็ไม่สามารถหาสถานที่เหล่านี้ได้โดยง่ายนั่นคือเหตุผลที่พวกเขาต้องทําตามแผน
นั่นอาจเป็นอุปสรรคที่กําหนดโดยพลังแห่งโชคชะตาของฝั่งหยวน
แน่นอนว่าจิวแป๊ะทงไม่สามารถคงความอ่อนเยาว์ได้เพียงเพราะวัตถุพิเศษในหุบเขาร้อยเกสร แต่ก็เป็น เพราะเขาเป็นหนึ่งในห้าผู้ยิ่งใหญ่เช่นกัน
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังคงจริงใจเสมอ ตลอดชีวิตของเขา เขาไม่รู้ความกังวลหรือความทุกข์คืออะไรซึ่งสอดคล้องกับหลักการรักษาความสุขภาพของลัทธิเต๋ ดังนั้นยิ่งเขามีอายุมากขึ้นเขาก็ยิ่งดูกระตือรือร้นมากขึ้น
“อย่างนั้นเหรอ? ฉันไม่รู้เกี่ยวกับยาเลย…”
“เอาล่ะ น้องชายจี ทําไมนายไม่ไปกับเราที่หุบเขาร้อยเกสรล่ะ? ฉันจะแสดงให้นายดูว่าฉันควบคุมผึ้งได้ยังไง…”
เฒ่าทารนกดูเหมือนจะดีใจที่ได้ยินแบบนั้น
หลังจากสํารวจรอบๆ เขาก็เกิดความคิด
“เยี่ยมมากเลยหุบเขาร้อยเกสรจะเป็นสถานที่ที่ดีสําหรับเชียนที่น่านับถือในการฟื้นตัว ในขณะที่ฉันสามารถทํายาให้พี่ชายหยางได้”
จีเย่สามารถคาดเดาได้ว่าจิวแป๊ะทงกําลังคิดอะไรอยู่
เขาต้องการเชิญอิดเต็งที่น่านับถือกับจีเย่ หมอทั้งสองคนไปที่สถานที่ของเขา
อย่างแรกเลย พวกเขาจะกลายเป็นเพื่อนของเขา อย่างที่สอง ทั้งสองคนสามารถช่วยป้าหยิงฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ได้
จีเยู่แทบจะรอไม่ไหวที่จะไปที่นั่น
เนื่องจากการประชุมวีรบุรุษของเมืองซงหยงจะไม่เริ่มขึ้นจนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม
เป้าหมายหลักของภูเขามังกรคู่ในตอนนี้ก็คือการทําความรู้จักกับผู้เชี่ยวชาญในสนามรบแห่งโชคชะตาเพื่อพัฒนาความสามารถของพวกเขา
ยิ่งไปกว่านั้น หุบเขาร้อยเกสรยังมียาหายากมากมาย เช่น โสมอายุร้อยปีซึ่งเขาสามารถหาวิธีผสานและนํามันออกมาได้
ท้ายที่สุดแล้ว ภูเขามังกรคู่ก็ฌอยู่บนเกาะ แม้แต่อันเต้าฉวน หมอที่เชี่ยวชาญก็ยังไม่สามารถทําอะไรได้มากนักเพราะขาดวัสดุ
“วันนี้เริ่มดึกแล้ว งั้นค้างคืนที่คฤหาสน์แห่งอสูรและไปที่หุบเขาร้อยเกสรในวันพรุ่งนี้ดีมั้ย?”
ข้างนอกเริ่มมืดแล้ว และสายเกินไปที่จะมุ่งหน้าไปที่หุบเขาร้อยเกสร
นอกจากนี้ จีเย่ก็มีบางสิ่งที่ต้องทําเช่นกัน
หลังจากเข้าสู่สนามรบแห่งโชคชะตาเป็นเวลาหนึ่งวันครึ่ง ในที่สุดคูลดาวน์ของพรสวรรค์การผสานก็สิ้นสุดลง