Elixir Supplier - ตอนที่ 557
557 เข้าพบราชายา
“นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย?”
ทันทีที่เห็นว่า หานจื้อเกาเดินเข้าไปในตัวตึก คนที่ยืนรอคิวอยู่ก็เริ่มบ่นออกมาด้วยความไม่พอใจ พวกเขามารอก่อนตั้งหลายวันแล้ว พวกเขาคิดว่ามันไม่ยุติธรรม ที่คนไม่มีแผ่นไม้ไผ่อยู่ในมือกลับได้เข้าไปพบราชายาก่อนพวกเขา ซึ่งก็หมายความว่า มีคนหนึ่งคนที่ต้องรอนานขึ้น
“รออยู่ตรงนี้ก่อน” ชายวัย 30พูดก่อนที่เขาจะปิดประตูตามหลัง
“อะไรกัน?” คนที่กำลังรออยู่ด้านนอกรู้สึกไม่พอใจ
“ฉันรู้แล้ว! เขาจะต้องเข้าไปข้างในพร้อมกับสมุนไพรแน่ๆ” อีกคนที่รอคิวอยู่ด้านนอกพูด
“เขาเอาสมุนไพรมาด้วยเหรอ?” คนที่อยู่ในคิวถาม
“ไม่เคยได้ยินเรื่องกฎพิเศษของราชายาเหรอไง?” คนที่พูดก่อนหน้านี้ถาม
“กฎอะไรเหรอ?” อีกคนถาม
“ตราบใดที่สามารถหาสมุนไพรที่มีความพิเศษมาให้ราชายาได้ เขาก็จะทำตามคำขอให้อย่างหนึ่งยังไงล่ะ” คนที่พูดก่อนคนแรกตอบแทน
“ฉันก็เคยได้ยินเรื่องนั้นมาเหมือนกัน แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาสมุนไพรแบบนั้นมาได้ ราชายาเรียนรู้เรื่องยามานานหลายสิบปีและได้เห็นสมุนไพรมานับไม่ถ้วน ถ้าหากมีคนอยากจะเสี่ยงโชค แต่กลับไปทำให้ราชายาไม่พอใจขึ้นมาแทน เขาก็อาจจะไม่สามารถกลับมาที่นี่ได้อีกเลย” อีกคนพูดขึ้นมา
“ถูกแล้วล่ะ” คนแรกพูด
ภายในตึกไม้ไผ่ หานจื้อเกาได้พบกับราชายาแห่งเขตเมี่ยวผู้มีชื่อเสียง เขาเป็นชายร่างผอม ผมสีดำ, คิ้วหน้า, แววตากระจ่างใส, และผิวสีเหลืองทองอ่อนๆ
ราชายาควรจะมีอายุ 70 กว่าสิ แต่ทำไมเขาถึงได้ดูมีอายุแค่ 50 ล่ะ?
ถึงแม้ว่าราชายาจะมีชื่อเสียงมานานหลายสิบปีแล้ว แต่ก็มีคนไม่มากที่ได้เจอตัวเขาเป็นๆ หานจื้อเกาและน้องชายของเขาเคยมาที่นี่ครั้งหนึ่ง พวกเขาต้องรอนานถึง 10 วัน เมื่อถึงคิวที่พวกเขาจะได้เขาไปพบ กลับเป็นช่วงที่ราชายาอารมณ์เสียขึ้นมาพอดี ดังนั้น พวกเขาจึงไม่ได้เข้าพบราชายา พวกเขาไม่ต้องการทิ้งเวลาการรักษาน้องชายคนเล็กเอาไว้นานเกินไป ดังนั้น พวกเขาจึงได้เชิญหวังเย้ามาที่บ้านของพวกเขาแทน
“เธอมียาวิเศษเหรอ?” ราชายาถาม
“ครับ” หานจื้อเกาพูด
“แน่ใจนะ ว่าอยากจะเอาให้ฉันดูน่ะ?” ราชายาถาม
“คนล่าสุดที่บอกว่ายาของเขาเป็นยาวิเศษ มันกลับกลายเป็นแค่สมุนไพรธรรมดาๆทั่วไปเท่านั้น” ชายวัยกลางคนพูด “แล้วหลังจากที่เขากลับไปที่บ้าน เขาก็อาเจียนไปเป็นเดือนเลยล่ะ”
“อะไรนะ? เขาถูกลงโทษเหรอ?” หานจื้อเกาถามด้วยความประหลาดใจ
แล้วเขาก็เริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา ยาที่ได้มาจากหวังเย้าคือยาที่น่าอัศจรรย์ในสายตาของเขาและพี่น้องคนอื่นๆ แต่มันอาจจะเป็นแค่ยาธรรมดา เมื่อมาอยู่ต่อหน้าราชายาก็ได้ เพราะราชายาอยู่มานานหลายสิบปี ซึ่งก็แสดงว่า เขาจะต้องเคยพบเห็นยาสมุนไพรมาแล้วมากมาย
ถ้าหากเขาไม่ยอมรับยา มันก็จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ บางที ฉันไม่น่ามาที่นี่ตั้งแต่แรกเลย
แต่มันก็สายเกินไปแล้ว หานจื้อเกาจำเป็นต้องทำตามแผนของเขาต่อไป
“ผมมั่นใจว่ามันเป็นยาวิเศษ” หานจื้อเกาพูด
“ก็ได้ เอาพวกมันมาให้ฉันดูสิ” ราชายาพูด
ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างราชายา เดินไปรับกล่องจากมือหานจื้อเกาและเปิดมันออก หลังจากที่มั่นใจแล้วว่าทุกอย่างปลอดภัย เขาก็นำยาไปวางไว้ตรงหน้าราชายา
ราชายาเหลือมองภายในกล่อง เขาหยิบยาออกมาถุงหนึ่งและยกมันขึ้นมาใกล้กับจมูกของเขา
“ฉันบอกได้ว่ามันคือหลินจือ 20 ปี นี่อะไรน่ะ? มู่เฟยเฉาเหรอ? ไม่สิ! นี่คืออะไร?” ราชายาเทตัวยาออกมาเล็กน้อยและดมกลิ่นของมัน จากนั้น เขาก็ใส่มันเข้าไปในปาก
“อืมมม” เขาพยักหน้า
เขาหยิบยาถุงที่สองออกมา แบ่งยาออกมาส่วนหนึ่งและยกขึ้นมาดม และก็เป็นอีกครั้ง ที่เขาเอายาใส่เข้าไปในปาก
“ชื่อฉือจือ, ผงหวงตาน, กานเฉา, เป้ยหมู, หลงกู่…” ราชายาพึมพำกับตัวเอง
ถ้าหากหวังเย้าอยู่ตรงนี้ เขาก็คงจะรู้สึกประหลาดใจมาก ชายชราสามารถแยกแยะสมุนไพรทั้งหมดออกมาได้ ยกเว้นก็เพียงสมุนไพรรากเท่านั้น เพียงแค่ความสามารถนี้อย่างเดียว ก็น่าประทับใจมากแล้ว
“และ…นี่อะไรน่ะ?”
ชายชรามีท่าทีสงสัยและสับสน เขาหยิบยาถุงที่สามขึ้นมา
“กานเฉา, ตังกุย, โสม,…มีอย่างอื่นอีก สมุนไพรตัวนี้มีสรรพคุณในการลดความร้อนในสมุนไพรตัวที่เหลือ” ราชายาพูด
หานจื้อเกากลั้นลมหายใจเอาไว้ด้วยความกังวล
ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่อีกด้านรู้สึกประหลาดใจขึ้นมา
ฉันไม่เห็นเขาเป็นแบบนี้มาหลายปีแล้ว
เขาติดตามราชายามาได้เจ็ดปี ดังนั้น เขาจึงรู้จักลักษณะนิสัยอาจารย์ของเขาดี ราชายาเป็นพวกจดจ่อกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งมาก และยาที่หานเกาจื้อนำมา ก็ดึงดูดความสนใจของราชายาเข้าแล้ว บนโลกใบนี้ มียาเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้นที่สามารถดึงดูดความสนใจจากราชายาได้
หลังจากที่ชิมยาทั้งสามดูแล้ว ชายชราก็จ้องมองตัวยาเหล่านี้อยู่นาน
“ดี! ดีมาก!” ชายชราพูด เขาหันไปมองหน้าหานจื้อเกา ที่ตอนนี้กำลังรู้สึกกังวล ราวกับสายตาของเสือที่จ้องเหยื่อของมัน “เธอไปเอายาพวกนี้มาจากที่ไหน?”
“ผม…ผมได้มาด้วยความบังเอิญครับ” หานจื้อเกาที่มักจะพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำเสมอ กลับพูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก
“ฉันจะนับว่ายาที่เธอเอามาเป็นยาวิเศษ” ราชายาพูด “บอกมา ต้องการให้ฉันทำอะไรให้?”
หานจื้อเการู้สึกตกตะลึงจนพูดไม่ออกไปครู่หนึ่ง
“นี่ อาจารย์ของฉันกำลังถามนายอยู่นะ” ชายวัยกลางคนพูด
“น้องชายของผมป่วยหนัก ผมหวังว่าคุณจะสามารถไปรักษาเขาได้” หลังจากที่หายจากอาการตกตะลึง หานจื้อเกาก็พูดออกมา
“ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน?” ราชายาถาม “พาเขามาที่นี่ได้เลย”
“น้องชายของผมป่วยหนักมากจนลุกออกจากเตียงไม่ไหวครับ” หานจื้อเกาพูด
“เธอกำลังหลอกฉันอยู่ใช่ไหม?” อยู่ๆราชายาก็ถามขึ้นมา
“อะไรนะ? ไม่! ผมไม่ได้หลอก” หานจื้อเกาตอบ เขาคิดไม่ออกว่าเขาไปหลอกราชายาตอนไหน เขาไม่มีทางมีความกล้าขนาดนั้น
“เธอไม่ได้ได้ยามาด้วยความบังเอิญสินะ” ราชายาพูด “ยาพวกนี้ เป็นยาที่ได้มาจากหมอที่เธอขอให้มารักษาน้องชายของเธอ ใช่ไหม? น้องชายของเธอป่วยด้วยพิษร้อนและอ่อนแอมาก เพราะร่างกายได้รับความเสียหายอย่างหนัก ฉันพูดถูกไหม?”
“ครับ! ครับ! ครับ!” หานจื้อเกาพยักหน้าหงึกหงัก เขารู้สึกตกใจอย่างมาก
ราชายาอธิบายอาการป่วยน้องชายของเขาออกมาได้อย่างถูกต้อง คำอธิบายของเขาตรงกับของซางกู้จื้อและหวังเย้า หลังจากที่พวกเขาได้ตรวจน้องชายของเขาแล้ว หานจื้อเหารู้สึกประทับใจในความสามารถของราชายา ที่เขาสามารถแจกแจงอาการน้องชายของเขาได้จากการดูตัวยาแค่อย่างเดียวเท่านั้น
“น้องชายของเธออยู่ที่ไหน?” ราชายาถาม
“เขาอยู่ที่ต้าหลี่ครับ” หานจื้อเกาพูด
“เธอนอนค้างที่นี่คืนหนึ่งก่อน แล้วพรุ่งนี้ฉันจะไปกับเธอ” ราชายาพูด
“เยี่ยม! ขอบคุณครับ” หานจื้อเกาพูด เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก
ราชายาโบกมือ
หานจื้อเกาจึงรีบออกไปจากห้องทันที
“อาจารย์?” ชายวัยกลางคนพูด
“ยาสามตัวนี้วิเศษมาก” ราชายาพูด “ฉันไม่สามารถบอกสมุนไพรที่ใส่อยู่ในนี้ทั้งหมดได้ ฉันไม่ได้เจอเรื่องแบบนี้มานานหลายปีแล้ว แล้ววันนี้ ฉันต้องรักษาคนไข้กี่คนเหรอ?”
“ผมบอกพวกเขาไปว่า วันนี้อาจารย์จะรักษาคนไข้ทั้งหมด 6 คนครับ” ชายวัยกลางคนพูด
“อ่อ วันนี้ฉันอารมณดี ฉันจะตรวจเพิ่มอีกหกคนแล้วกัน” ราชายาพูด
“ผมจะไปแจ้งให้พวกเขาทราบนะครับ อาจารย์” ชายวัยกลางคนพูด
เขาเดินออกไปจากห้อง
“ราชายาตัดสินใจว่า วันนี้เขาจะตรวจคนไข้ทั้งหมด 12 คน ถือหมายเลขของตัวเองไว้ ใครเป็นคนต่อไป?” ชายวัยกลางคนประกาศ
“วันนี้ เขาจะตรวจคนไข้อีก 6 คนเหรอ?” คนไข้คนหนึ่งที่อยู่ในคิวถาม
“ดูเหมือนว่า วันนี้เขาจะอารมณ์ดีนะ” อีกคนพูดขึ้นมา
“นั่นมันยอดไปเลย” คนที่สามที่อยู่ในคิ
หลังออกมาจากตึกไผ่แล้ว หานจื้อเกายังคงมีเหงื่อไหลไม่หยุด
ราชายาทำฉันกลัวไปหมด โชคดีที่ยานั่นเป็นของดีจริงๆ ดูเหมือนว่าหวังเย้าจะไม่ใช่หมอธรรมดา แต่เขาก็ไม่มีทางเทียบกับราชายาไม่ได้หรอก
เขารีบโทรหาหานจื้อหยูทันที หานจื้อหยูมีความสุขอย่างมากที่ได้รับข่าวดี
“นายคิดว่า เราจะพูดกับพี่ใหญ่ยังไงดี?” หานจื้อเกาถาม
“ปล่อยเรื่องนี้ให้ฉันเป็นคนจัดการเอง” หลังจากที่เงียบไปสักพัก หานจื้อหยูที่อยู่ปลายสายก็พูดขึ้นมา
“นายรออยู่ที่นั่นนะ ฉันจะส่งคนไปหา เราจำเป็นต้องดูแลการเดินทางของราชายาให้ดีที่สุด” หานจื้อหยูพูด
“ได้ ไม่ต้องห่วง” หานจื้อเกาพูด
ที่ต้าหลี่ หานจื้อหยูจัดการให้คนขับรถสองคันไปที่หมู่บ้านที่ราชายาอาศัยอยู่ จากนั้น เขาก็ไปคุยกับพี่ชายคนโตของพวกเขา
สี่พี่น้องหานมักจะมีความเห็นเดียวกันในหลายๆเรื่อง พวกเขาไม่เคยทรยศกัน น้องทั้งสามให้ความเคารพพี่ชายคนโตอยู่เสมอ เมื่อพวกเขามีความเห็นไปไม่ตรงกัน พวกเขาก็มักจะให้พี่ชายคนโตเป็นคนตัดสินใจในตอนท้าย เพราะหานชิ่งเป็นคนยุติธรรม แต่อยู่ๆน้องคนเล็กก็เกิดป่วยขึ้นมา แล้วเขาก็ยังไม่ได้แต่งงานเลยด้วย หานชิ่งจึงพาเขามาดูแลที่บ้านของตัวเอง
ในตอนที่หานจื้อหยูเข้าไปคุยกับเขา ก็เป็นตอนที่หานชิ่งอยู่ที่บ้านพอดี
“พี่ พอจะมีเวลาคุยไหม?” หานจื้อหยูถาม
“มีสิ” หานชิ่งพูด
“เอ่อ…ฉัน…” หานจื้อหยูไม่รู้ว่าควรจะเริ่มยังไง เพราะเรื่องที่เขาและหานจื้อเกาทำลงไปก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก
“พูดออกมาเดี๋ยวนี้! ฉันเป็นพี่นายนะ มีอะไรก็บอกมา” หานชิ่งพูดด้วยรอยยิ้ม
“โอ้ค ฉันจะบอกพี่ว่าเกิดอะไรขึ้น” หานจื้อหยูพูด “ฉันแอบขโมยยาไปจากพี่ เพราะฉันต้องการให้ราชายามารักษาน้องของเรา”
“ฉันรู้เรื่องนั้นแล้ว” หานชิ่งพูด
“พี่รู้ได้ยังไง?” หานจื้อหยูตกใจ
“ฉันเป็นคนดูแลยาด้วยตัวเอง แน่นอนว่าฉันก็ต้องรู้สิ” หานชิ่งพูด
เขารู้จักน้องๆของเขาเป็นอย่างดี แล้วเข้าใจด้วยว่า ทำไมหานจื้อเกาและหานจื้อหยูต้องขโมยยาไป พวกเขาเพียงแค่ต้องการให้น้องเล็กหายดีก็เท่านั้น
“จื้อเกาเพิ่งจะบอกกับฉันเมื่อกี้นี้ว่า ราชายาตกลงจะมารักษาน้องเล็กแล้ว แล้ววันพรุ่งนี้ เขาก็จะมาที่ต้าหลี่” หานจื้อหยูพูด
“จริงเหรอ?” หานชิงถามด้วยความกังวล
“จริงสิ” หานจื้อหยูพูด
“ดี! ดีมาก” หานชิ่งพูด
ไม่ว่าจะเป็นหวังเย้าหรือราชายาที่มารักษาน้องชายของเขา เขาก็รู้สึกกังวลอยู่ดี ในเมื่อราชายาตกลงจะมารักษาน้องชายของเขาแล้ว มันก็ถือว่าเขาได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแล้ว ส่วนเรื่องที่ว่าจะอธิบายให้ซางกู้จื้อและหวังเย้าฟังยังไงนั้น ตอนนี้ เขาไม่มีเวลาไปสนใจ