Elixir Supplier - ตอนที่ 575
575 เนินเขามีวิญญาณ
“เฮ้อ!” เวินหว่านถอนหายใจออกมา ฉันหวังว่าฉันจะตายๆไปสักที! เธออยากจะยอมแพ้แล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องดีเลยสักนิด
ปักกิ่งที่ไกลออกไปหลายพันไมล์ หมอเฉินได้แวะไปเยี่ยมเฉินหยิงและน้องชายของเธอ
“อาการของเสี่ยวเฉินเป็นยังไงบ้างคะ?” เฉินหยิงถาม
“เขาสบายดีและอาการปกติดี” เฉินโจวฉวนพูดด้วยรอยยิ้ม “เธอจะไปพรุ่งนี้เหรอ?”
“ค่ะ ฉันบอกกับคุณซงไว้แล้ว” เฉินหยิงพูด
พรุ่งนี้ เธอจะพาเฉินโจวไปที่หมู่บ้านของหวังเย้า เธอต้องการให้หวังเย้ารักษาน้องชายของเธอ และได้ลางานกับซงรุ่ยปิงในระยะยาว
“ช่วงนี้ ฉันก็ไม่ค่อยมีอะไรทำ แล้วก็อยากจะออกไปเที่ยวด้วย” หมอเฉินพูด “ให้ฉันไปกับพวกเธอสองคนดีไหม?”
เฉินหยิงคิด ฉันว่าแล้ว ว่าเขาจะต้องมาที่นี่เพราะเรื่องนี้!
ปกติแล้ว เฉินโจวฉวนจะไม่มาเยี่ยมเธอโดยไม่มีสาเหตุ แถมเขายังเสนอตัวตรวจเฉินโจวให้อีกด้วย
“ได้สิคะ” เฉินหยิงพูด
“เยี่ยม งั้นพรุ่งนี้ฉันจะไปพร้อมกับพวกเธอนะ” หมอเฉินพูด “เราเป็นเพื่อนเก่ากัน! วันนี้เรามีความสุข!” เฉินโจวฉวนเดินฮัมเพลงจากไป
“พี่ หมอเฉินเป็นใครเหรอ?” เฉินโจวถาม
“จิ้งจอกเฒ่าน่ะ” เฉินหยิงพูดด้วยรอยยิ้ม “เก็บของกันเถอะ เราจะไปกันพรุ่งนี้แล้วนะ”
“โอเค” เฉินโจวพูด
เฉินโจวฉวนฮัมเพลงเป็นทำนองสนุกสนาน ในขณะที่กำลังเดินกลับไปที่บ้านของเขา
“ทำไมถึงได้ดูมีความสุขขนาดนั้นกันล่ะ?” หลี่เชิงหรงเดินมาพร้อมกับถือกรงนกเอาไว้ในมือ
“มันไม่เกี่ยวกับแก คุยกับนกของแกไปเถอะ” เฉินโจวฉวนพูด
“แกเป็นอะไรไป?” หลี่เชิงหรงถาม “ทำไมถึงได้อารมณ์ร้ายแบบนี้กัน”
“แกไปเลยนะ!” เฉินโจวฉวนเดินหนี เขาดูไม่สนใจที่จะคุยกับหลี่เชิงหรงเลยสักนิด
“ไอ้เฒ่าดื้อด้าน!” หลี่เชิงหรงถอนหายใจและส่ายหน้า เขารู้ว่า เฉินโจวฉวนยังคงไม่พอใจเรื่องที่ทะเลาะที่บ้านของเขาเมื่อวันนั้น
ไม่เป็นไร!
วันต่อมา มันเป็นวันที่อากาศดีและแดดจ้า
เฉินหยิงและเฉินโจวเดินทางไปถึงห่ายชิวในตอนกลางวัน พวกเขาไม่ได้พักที่ห่ายชิว แต่เลือกที่จะต่อรถบัสไปที่หมู่บ้านของหวังเย้าในทันที
เฉินโจวฉวนไม่ได้มากับพวกเขา เพราะติดปัญหาที่บ้าน เขารู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่พลาดโอกาสนี้ไป
เฉินหยิงกลับดีใจที่เฉินโจวฉวนพลาดทริปนี้ เมื่อเฉินหยิงและเฉินโจวเดินทางไปถึงที่หมู่บ้าน ท้องฟ้าก็เริ่มมืดลงแล้ว
“มีโรงแรมอยู่ในหมู่บ้านรึเปล่าฮะ?” เฉินโจวถาม
“เราไปหาหมอหวังกันก่อนเถอะ” เฉินหยิงพูด
“สวัสดีค่ะ หมอหวัง” เมื่อเฉินหยิงและน้องชายของเธอไปถึงที่คลินิก เธอก็เข้าไปทักทายหวังเย้า
“สวัสดีครับ เข้ามานั่งข้างในกันก่อนสิครับ” หวังเย้าพูดด้วยรอยยิ้ม เขาชงชาให้กับคนทั้งสอง
“ช่วงนี้เป็นยังไงบ้างครับ? งานยุ่งไหม?” หวังเย้าถาม
“ก็ไม่ยุ่งเท่าไหร่หรอกค่ะ” เฉินหยิงพูด
“แล้วเสี่ยวโจวอาการกำเริบบ้างไหมครับ?” หวังเย้าถาม
“ไม่มีค่ะ เขาปกติดี” เฉินหยิงพูด
“แล้วตอนกลางคืนยังฝันอยู่ไหม?” หวังเย้าถาม
“เขาไม่ค่อยฝันบ่อยเท่ากับเมื่อก่อนแล้วค่ะ” เฉินหยิงพูด
ตั้งแต่ที่เฉินโจวเริ่มกินยาของหวังเย้าอย่างต่อเนื่อง เขาก็ฝันน้อยลงไปมาก
“ดีครับ” หวังเย้าพูด เขาตรวจดูอาการของเฉินโจวอย่างละเอียด “เขาปกติดี”
“หมอหวังคะ เรามีแผนที่จะพักอยู่ที่นี่จนกว่าเสี่ยวโจวจะหายดีน่ะค่ะ” เฉินหยิงพูด
“นั่นเป็นความคิดที่ดีนะครับ” หวังเย้าพูด
“แล้วที่นี่ พอจะมีบ้านว่างให้เช่าบ้างไหมคะ?” เฉินหยิงถาม
มีคนต้องการเช่าบ้านเพิ่มมาอีกคนแล้ว! “ผมจะลองถามดูให้นะครับ” หวังเย้าพูด
“ได้ค่ะ” เฉินหยิงพูด
หวังเย้ากดโทรหาพ่อของเขาในทันที เพื่อถามเรื่องบ้านเช่าภายในหมู่บ้าน
“มีบ้านอยู่หลังหนึ่งที่ว่างให้เช่าน่ะ” หวังเฟิงฮวาพูด
“ดีเลยครับ” หวังเย้าพูด
ไม่นาน เจ้าของบ้านหลังนั้นก็มาที่คลินิกของหวังเย้า เขามีบ้านปล่อยให้เช่าอยู่สองหลัง แต่หลังหนึ่ง เขาได้เอาไปแลกแปลี่ยนกับอพาร์ทเมนต์ในตัวเมืองไปแล้ว เมื่อการก่อสร้างเสร็จสิ้น บ้านในหมู่บ้านแห่งนี้ก็จะไม่ใช่พวกเขาเป็นเจ้าของอีกต่อไป ในตอนนี้ พวกเขายังพอจะสามารถปล่อยเช่าบ้านได้ เพื่อจะได้มีเงินสดเล็กๆน้อยๆเอาไว้ใช้
ตัวบ้านเป็นระเบียบดี เฉินหยิงและเฉินโจวได้เตรียมตัวก่อนจะมาที่หมู่บ้านเอาไว้เป็นอย่างดี พวกเขาซื้อทั้งผ้าปูและผ้าห่มมาพร้อม กระเป๋าเดินทางของพวกเขาจึงมีถึงสามใบใหญ่ พวกเขาเตรียมที่จะพักอยู่ที่หมู่บ้านระยะหนึ่ง พวกเขาได้จัดการจ่ายค่าเช่าสำหรับสองเดือน
“นานแล้วนะ ที่พวกเราไม่ได้มาเที่ยวไกลๆแบบนี้น่ะ” เฉินโจวพูด เขาดูมีความสุขที่ได้เดินทางออกมาจากปักกิ่ง มันเป็นการเดินทางที่ดีสำหรับเขา
“แค่เธอมีความสุขก็พอแล้ว” เฉินหยิงพูด
“พวกเขามาอยู่ที่นี่เพื่อรับการรักษาเหรอ?” หวังเฟิงฮวาถาม ในตอนที่พวกเขากำลังทานอาหารเย็นกัน
“ใช่ครับ” หวังเย้าพูด
“เขาป่วยเป็นอะไรเหรอ?” หวังเฟิงฮวาถาม
“เด็กนั้นมีปัญหาที่ตรงนี้ครับ” หวังเย้าชี้ไปที่ศีรษะของเขา
“เนื้องอกเหรอ?” หวังเฟิงฮวาถาม
“ไม่ใช่ครับ เขาป่วยทางจิต” หวังเย้าพูด
“อ่อ แต่เขาก็ดูปกติดีนะ” หวังเฟิงฮวาพูดด้วยความประหลาดใจ
“ตอนนี้เขาปกติดีครับ อาการของเขาไม่ได้กำเริบมาได้เดือนหนึ่งแล้ว ไม่สิ เดือนกว่าแล้วล่ะ” หวังเย้าพูด
“อาการของเขาจะกำเริบเป็นช่วงๆเหรอจ๊ะ?” จางซิวหยิงถาม
“ก็ประมาณนั้นครับ” หวังเย้าพูด
เวลากลางคืนในหมู่บ้านค่อนข้างเงียบ เฉินโจวนั่งมองท้องฟ้าอยู่ที่ลานบ้าน ท้องฟ้าในหมู่บ้านดูสูงกว่าที่ปักกิ่งมาก
“พี่ พี่เคยพูดเอาไว้ว่า หมอหวังเลือกจะอยู่ที่นี่สินะฮะ” เฉินโจวพูด “เป็นเพราะที่นี่เงียบสงบใช่ไหม?”
“นั่นก็ส่วนหนึ่งจ๊ะ” เฉินหยิงพูด
“ยังมีอย่างอื่นอีกเหรอฮะ?” เฉินโจวถาม
“เขามีเนินเขาที่ต้องดูแลอยู่ที่นี่ด้วย” เฉินหยิงพูด
เธอเคยขึ้นไปบนเนินเขาหนานชานมาแล้ว เธอไม่เคยเห็นเนินเขาแบบนั้นมาก่อนเลยในชีวิต เมื่อลองคิดดูแล้ว เนินเขาหนานชานดูเหมือนจะมีจิตวิญญาณเป็นของมันเองด้วย
“พรุ่งนี้ พี่พาผมไปดูเนินเขาลูกนั้นหน่อยได้ไหม?” เฉินโจวถาม
“เธอมองดูมันได้แค่ไกลๆเท่านั้นนะ” เฉินหยิงพูด
“ได้ครับ” เฉินโจวพูด
เฉินหยิงและน้องชายของเธอต่างก็นอนหลับสนิทในคืนนั้น มันอาจจะเป็นเพราะพวกเขาเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง หรืออาจจะเป็นเพราะบรรยากาศที่ผ่อนคลายก็เป็นได้ มันอาจจะเป็นเพราะความเงียบสงบภายในหมู่บ้านด้วยเช่นกัน
ในบ้านอีกหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน มีใครบางคนที่นอนไม่หลับอยู่ด้วย พวกเขาก็คือศาสตราจารย์ลู่และลูกชายของเวินหว่าน
เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทำให้พวกเขารู้สึกกลัวอย่างมาก เวินหว่านเกือบจะไม่รอดแล้ว ถึงหวังเย้าจะใช้ยาวิเศษสองตัวนั้นช่วยเธอเอาไว้ได้ แต่เธอก็สามารถจากไปได้ตลอดเวลา เธออาจจะนอนหลับไปและไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลยก็ได้ ดังนั้น ศาสตราจารย์ลู่และลูกชายของเวินหว่าน จึงไม่มีใครในพวกเขาหลับตาลงนอนได้เลย
“ทั้งสองคนไปนอนกันได้แล้ว” เวินหว่านมองชายทั้งสองอย่างไร้เรี่ยวแรง และพูดออกมา “คืนนี้ ฉันไม่เป็นไรแล้วล่ะ”
“ไม่ต้องห่วงพวกเราหรอกครับแม่ เดี๋ยวเราก็จะนอนแล้ว” ลูกชายของเวินหว่านพูด
“ใช่” ศาสตราจารย์ลู่พยักหน้า
“ฉันไม่เป็นอะไร พอได้กินยา ฉันก็รู้สึกดีขึ้นมากแล้วล่ะ” เวินหว่านพูด
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว แต่เธอก็ต้องพักผ่อนให้มากๆนะ” ศาสตราจารย์ลู่พูด
เวินหว่านหลับตาลง ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สามารถไล่ให้คนทั้งสองไปนอนได้ เธอรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน วันนี้เธอเกือบจะไม่รอดแล้ว มันคล้ายกับเธอกำลังฝันแปลกประหลาด และตื่นขึ้นมาด้วยความเหนื่อยล้า ยาสองตัวที่เธอกินเข้าไปมีฤทธิ์ที่น่าอัศจรรย์มาก นอกจากความเหน็ดเหนื่อยแล้ว อาการอื่นๆก็ดูเหมือนจะลดลงไป เธอรู้สึกอบอุ่นและสบายตัวมากขึ้น ความอบอุ่นถูกส่งมาจากศูนย์กลางร่างกายของเธอ และกระจายไปยังทุกส่วนในร่างกาย
แล้วเวินหว่านก็ค่อยๆหลับลึกลงไป เธอหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ
“ลุงลู่ ผมจะอยู่ที่นี่เอง ลุงไปนอนก่อนเถอะครับ” ลูกชายของเวินหว่านพูด
“เธอแน่ใจนะ?” ศาสตราจารย์ลู่ยังคงเป็นห่วงอยู่
“แน่ใจครับ ถ้ามีอะไร ผมจะบอกลุงทันทีเลย” ลูกชายของเวินหว่านพูด
“โอเค ลุงจะไปหลับสักหน่อย แล้วเราค่อยมาเปลี่ยนกัน” ศาสตราจารย์ลู่พูด
“ผมสบายมาก ไม่ต้องห่วงนะครับ” ลูกชายของเวินหว่านพูด
ศาสตราจารย์ลู่เดินไปนอนในอีกห้องหนึ่ง ลูกชายของเวินหว่านยังคงนั่งอยู่ข้างๆแม่ของเขา สองชั่วโมงหลังจากนั้น ศาสตราจารย์ลู่ก็กลับเข้ามาอีกครั้ง
“ไปเถอะ เธอไปพักได้แล้ว ลุงจะเฝ้าแม่ของเธอให้เอง” ศาสตราจารย์ลู่พูด
“ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องห่วงผมหรอก” ลูกชายของเวินหว่านพูด “ลุงเพิ่งจะหลับไปแค่สองชั่วโมงเอง”
“เอาเถอะน่า” ศาสตราจารย์ลู่พูด
“ก็ได้ครับ” ลูกชายของเวินหว่านเลิกดึงดันและกลับไปพักผ่อน
พวกเขาเปลี่ยนกันเฝ้าดูเวินหว่านตลอดทั้งคืน เวินหว่านนอนหลับสนิทไปทั้งคืน เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้า อาการของเธอก็ดีขึ้นมาก
“โอ้ ไม่นะ ทั้งสองคนไม่ได้หลับกันทั้งคืนเลยเหรอเนี่ย!” เวินหว่านรู้สึกเป็นห่วงพวกเขาทั้งสองคน
“เราไม่เป็นไรหรอกครับ” ลูกชายของเธอพูด
“ทั้งสองควรไปพักได้แล้วนะ” เวินหว่านพูด
“ได้ครับ” ลูกชายของเธอพูด
ในเมื่อเธอดูปลอดภัยดีแล้ว ชายทั้งสองจึงไปพักผ่อน
ศาสตราจารย์ลู่หลับทันทีที่หัวถึงหมอน เขารู้สึกเหนื่อยล้า ทั้งยังอายุมากแล้วด้วย พลังงานของเขามีอย่างจำกัด ซึ่งต่างจากผู้เป็นลูกชายของเวินหว่าน
ในบ้านอีกหลังหนึ่ง เฉินหยิงและเฉินโจวหาอะไรทานด้วยกันง่ายๆ ก่อนที่พวกเขาจะออกไปข้างนอก พวกเขาวางแผนจะเดินไปรอบๆหมู่บ้าน อากาศภายในหมู่บ้านในตอนเช้านั้นสดชื่น ทั้งเฉินหยิงและเฉินโจวต่างก็รู้สึกพอใจกับบรรยากาศโดยรอบ
“อากาศดีมากเลย” เฉินโจวพูด
พวกเขาเดินไปตามเส้นทางที่มุ่งหน้าสู่เนินเขาหนานชาน
“พี่จะพาไปดูเนินเขาของหมอหวังนะ” เฉินหยิงพูด
“ครับ” เฉินโจวพูด
ถึงจะเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ เนินเขาโดยรอบก็ยังคงแห้งแล้งราวกับทะเลทรายอยู่ หลังเดินผ่านเนินเขาเหล่านั้นไปแล้ว เนินเขาหนานชานก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าของพวกเขา มันถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้มากมายและเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา