Elixir Supplier - ตอนที่ 594
594 ผมมียาตัวหนึ่ง สามารถจัดการเชื้อร้ายได้
ในที่สุด พวกเขาก็ตัดสินใจขอความช่วยเหลือ แพทย์จำนวนมากอยู่ไม่ไกลจากพวกเขา ดังนั้น พวกเขาจึงสามารถมาหาได้อย่างรวดเร็ว
ในเมื่อพวกเขาต่างก็กลัวการติดเชื้อ พวกเขาจึงทำทุกอย่างอย่างระมัดระวังที่สุด ยิ่งพวกเขาระวังตัวกันมากเท่าไหร่ การจับตัวเขาก็ยิ่งเป็นไปได้ยากขึ้น ชายคนนั้นกระโดดไปมาและโยนของทุกอย่างที่เขาคว้ามาได้ ทั้งถ้วย, เก้าอี้, และหม้อ
พวกเขาอยู่ในสภาพที่ลำบากอย่างที่สุด มีบางคนได้รับบาดเจ็บจากน้ำร้อนในกาที่ถูกโยนใส่
เจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายเข้ามาพร้อมกับที่ช๊อตไฟฟ้า พวกเขาปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมา จนเกิดเสียงดัง เปรี๊ยะๆ
“ทุกคนหลีกไป!” เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งตะโกน
เปรี๊ยะ!
ชายที่ดูคล้ายกับคนบ้าได้ร่วงลงไปที่พื้น ร่างทั้งร่างเกิดการชักกระตุก
“ในที่สุด ก็จัดการเขาได้!” ทุกคนต่างก็โล่งใจ
“เกิดอะไรขึ้น?” เจ้าหน้าที่นายหนึ่งถาม “เขาดูอย่างกับหมาบ้า!”
“ใช่ เขาเป็นบ้าไปแล้ว” แพทย์คนหนึ่งพูด
“ขอบคุณทุกคนมาก” เจ้าหน้าที่ตำรวจพูด “รีบพาตัวเขาไปได้แล้ว!”
ไม่มีใครอยากอยู่ที่นี่ต่อ เห็นได้ชัดว่าเขาติดเชื้อ เรื่องนี้ทำให้พวกเขารู้สึกสงสัยเกี่ยวกับคนในบ้านของชายคนนี้ด้วย
“พวกคุณทุกคนต้องเข้ารับการตรวจ” แพทย์พูด
ทีมแพทย์ต่างก็รู้สึกเป็นกังวล มีคนติดเชื้อแล้วสามคนภายในเวลาเพียงแค่สองวัน มันเป็นจำนวนที่น่าตกใจมาก การแพร่เชื้อนั้นเกิดขึ้นได้จากการถูกกัดโดยสัตว์หลายชนิด เช่น หนู, แกะ, แมว, สุนัข, กระต่าย… สัตว์ทุกชนิดสามารถเป็นพาหะของโรคนี้ได้
ผู้คนสามารถจดบันทึกรายชื่อและรายละเอียดของพวกเขาเอาไว้ได้ ส่วนแมว, สุนัข, วัว, และแกะก็สามารถทำการบันทึกและทำกับดักเพื่อฆ่าพวกมันได้ ส่วนการจัดการกับหนูหรือกระรอกเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่พวกเขาก็จำเป็นต้องทำ ไม่ว่ามันจะยากเย็นแค่ไหนก็ตาม
ครอบครัวของคนไข้รายล่าสุด ถูกนำตัวไปเข้ารับการสังเกตการณ์ ด้านนอกหมู่บ้าน มีห้องถูกสร้างขึ้นมาเป็นการชั่วคราว เพื่อกักตัวพวกเขาเอาไว้เป็นการเฉพาะ บ้านที่ถูกทิ้งร้างทางทิศเหนือของหมู่บ้านถูกนำมาใช้งาน ส่วนที่ทำการหมู่บ้านก็ได้กลายเป็นออฟฟิสชั่วคราวของทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว
“ฉันละกลัวเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ” แพทย์คนหนึ่งพูด
“ใช่ ถ้าถูกกัดขึ้นมา นายจะต้องซวยมากแน่ๆ” แพทย์อีกคนพูด
“ฉันได้ยินมาว่า คนไข้ที่ถูกพาตัวไปที่โรงพยาบาลกลายเป็นบ้าและไม่ได้สติกันหมด” แพทย์คนแรกพูด “เขาพยายามกัดทุกอย่างที่เห็น ขนาดผู้เชี่ยวชาญจากจังหวัดก็ยังทำอะไรไม่ได้ มันแย่ยิ่งกว่าตายซะอีก”
“ฉันได้ยินพวกเขาคุยกับหมอที่มาจากเขตและอยู่ที่นี่มาด้วย” แพทย์อีกคนพูด “การกำเริบของโรคมันเร็วมาก เขามีโอกาสตายสูงมากด้วย!”
ในสถานการณ์แบบนี้ ทุกคนต่างก็กลัว แต่คนในหมู่บ้านนั้นกลัวยิ่งกว่า
แล้วหนึ่งวันก็ผ่านไปเช่นนี้ วันต่อมา มีคนป่วยเพิ่มขึ้นอีกรายหนึ่ง ครั้งนี้ พวกเขาไม่สามารถหาสาเหตุได้ ซึ่งเป็นอะไรที่เลวร้ายกว่าเดิม
“สาเหตุเพราะอะไร?” แพทย์ถาม
“เรายังหาไม่เจอเลย” แพทย์อีกคนพูด “เขาไม่มีร่องรอยของการถูกกัด แล้วเขาก็ตอบไม่ได้ด้วย”
ในตอนเช้า หวังเย้าลงมาจากเขาและเปิดประตูคลินิก ถึงแม้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ จะทำให้ไม่มีใครมารักษาที่คลินิกของเขาก็ตาม
หลังจากที่เขาเปิดคลินิกได้ไม่นาน เขาก็ได้ยินเสียงตะโกนเรียกจากใครบางคน “หมอหวัง อยู่รึเปล่าคะ?”
“ครับ เข้ามาได้เลย” หวังเย้าพูด
เฉินหยิงและเฉินโจวเดินเข้าไปในคลินิก
“หลายวันนี้ หมอยุ่งเหรอคะ?” เฉินหยิงถาม
“ผมมัวแต่ยุ่งอยู่บนเนินเขาน่ะครับ” หวังเย้าพูด “เชิญนั่งก่อนสิครับ”
เขาชงชามาให้คนทั้งสอง
“ขอบคุณครับ เชียนเชิงหลายวันมานี้ สถานการณ์ในหมู่บ้านยิ่งเลวร้ายลงไปทุกวันๆเลยล่ะครับ” เฉินโจวพูด
“ฉันรู้” หวังเย้าพูด “อ่อ จริงด้วย” เขาหยิบยาที่เขาทำออกมา และเทใส่ลงไปในถ้วยให้แต่ละคน
“นี่อะไรเหรอคะ?” เฉินหยิงถาม
“ดื่มซะสิ มันสามารถต้านทานโรคนี้ได้น่ะครับ” หวังเย้าพูด
“อะไรนะคะ?” เฉินหยิงถาม “เชียนเชิงหาวิธีรักษาโรคได้แล้วเหรอคะ?”
พี่น้องแซ่เฉินต่างก็มีอาการตกตะลึง สองวันที่ผ่านมานี้ พวกเขาไม่มีอะไรให้ทำ ดังนั้น พวกเขาจึงศึกษาโรคที่อยู่ๆก็โผล่มาอยู่ที่บ้าน ถึงแม้ว่าทางเข้าออกของหมู่บ้านจะถูกควบคุมอย่างหนาแน่น แต่เส้นสายไม่ได้ถูกควบคุมไปด้วย แล้วเส้นสายของเฉินหยิงก็ยังคงมีอยู่ เธอจึงรู้ในเรื่องที่คนอื่นไม่รู้ ยกตัวอย่างเช่น โรคร้ายนี้ทำให้ทีมแพทย์จากจังหวัดต้องหมดหนทาง แต่ชายที่อยู่ตรงหน้าพวกเขากลับสามารถพัฒนาตัวยาที่สามารถรักษาโรคนี้ขึ้นมาอย่างเงียบเชียบ
พวกเขาพอจะเดาเรื่องนี้ได้บ้างแล้ว เพราะพวกเขาได้เห็นกับตาว่า ชายคนแรกที่ถูกกัดจากคนที่ติดเชื้อ และพวกเขายังได้เห็นภาพนั้นกับตาตัวเองด้วย ซึ่งชายที่ถูกกัดคนนั้นก็ยังเป็นปกติดีจนถึงตอนนี้ นี่ต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน
“คุณเก่งมากเลยค่ะ” เฉินหยิงพูด
“ไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้นหรอกครับ!” หวังเย้าโบกมือ เขายังต้องบอกเรื่องนี้กับทีมแพทย์ถึงสิ่งที่เขาได้ค้นพบ และเรื่องนี้ก็จำเป็นต้องใช้อิทธิพลจากภายนอก แล้วเขาก็มองไปที่เฉินหยิง
“เชียนเชิงต้องการให้ฉันทำอะไรคะ?” เฉินหยิงอ่านสายตาของหวังเย้า
“ผมต้องการคนที่จะส่งสูตรยาตัวนี้ออกไปครับ” หวังเย้าพูด “คนที่น่าเชื่อถือและสามารถเก้บความลับได้ดี”
“ได้ค่ะ ปล่อยให้ฉันจัดการเรื่องนี้เอง” เฉินหยิงเข้าใจความต้องการของเขาในทันที
เธอกดโทรออกไปยังเบอร์หนึ่ง ในสถานการณ์แบบนี้ เธอจำเป็นต้องใช้อิทธิพลของตระกูลซู
“หมอหวังปลอดภัยดีไหม?” ซงรุ่ยปิงถาม
“หมอหวังปลอดภัยดีค่ะ” เฉินหยิงพูด
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี” ซงรุ่ยปิงพูด
ใกล้ค่ำ มีรถคันหนึ่งขับตรงมาที่หมู่บ้านกลางเขา ทีมที่มีกันอยู่สามคนลงมาจากรถคันนั้น ทีมแพทย์ที่ประจำอยู่ในหมู่บ้านต่างก็รีบออกมาต้อนรับพวกเขา ตามคาด คนเหล่านี้คือผู้เชี่ยวชาญจางปักกิ่ง
ทีมแพทย์ของจังหวัดไม่สามารถพัฒนาการรักษาในระยะเวลาอันสั้นได้ ดังนั้น คนจากปักกิ่งจึงถูกเรียกตัวมา เพราะโรคนี้เป็นโรคที่ร้ายแรงเกินควบคุมจริงๆ
“สวัสดีครับ ศาสตราจารย์หวู” ตัวแทนเขตเหลียนชานพูด
“ผมได้ศึกษาสถานการณ์ในระหว่างที่เดินทางมาที่นี่แล้ว” ถึงแม้ว่าเส้นผมและหนวดของชายวัยประมาณ 60 จะขาวโพลน แต่เขาก็ยังเต็มไปด้วยพลังที่ล้นเหลือ ดวงตาของเขาเป็นประกายและคมกริบ “เข้าไปดูในหมู่บ้านกันเถอะ”
“ศาสตราจารย์หวู มันอันตรายมากนะครับ” ตัวแทนเขตพูด “วันนี้ มีคนป่วยเพิ่มอีกรายแล้ว”
“คุณคิดว่า เราไม่ควรเข้าไปข้างในเพราะมันอันตรายอย่างนั้นเหรอ?” ศาสตราจารย์หวูถาม
“นี่…” ตัวแทนเขตถึงกับพูดไม่ออก
“ผมรู้ว่าคุณหวังดี แต่เรามาที่นี่ก็เพื่อจะแก้ปัญหา” ศาสตราจารย์หวูพูด
“โอ้ ครับๆ” ตัวแทนเขตพูด
พวกเขาเดินเข้าไปในหมู่บ้าน ภายใต้การนำทางของหวังเจียนหลี่
เฉินหยิงที่รู้ข่าวอยู่ก่อนแล้ว ก็ได้ออกมารอเช่นกัน “ศาสตราจารย์หวู?”
“เฉินหยิง” ศาสตราจารย์หวูพูด
“เชิญตามฉันมาเลยค่ะ” เฉินหยิงพูด
หวังเจียนหลี่ที่อยู่ด้านข้างมีอาการตกตะลึง เขาไม่คิดว่า ผู้เชี่ยวชาญจากปักกิ่งจะรู้จักกับผู้หญิงที่มาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านด้วย
“ผู้ใหญ่หวัง พอดีเรามีเรื่องต้องปรึกษากันนิดหน่อยค่ะ” เฉินหยิงพูด
“โอ้ ได้ๆ” หวังเจียนหลี่หลบไปอยู่อีกด้านหนึ่ง
“เขาอยู่ที่ไหนเหรอ?” ศาสตราจารย์หวูถาม
“เชิญมากับฉันได้เลยค่ะ” เฉินหยิงเดินนำศาสตราจารย์หวูไป ทิ้งอีกสองคนไว้ข้างหลัง
“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?” หวังเจียนหลี่จุดบุหรี่
เฉินหยิงพาศาสตราจารย์หวูไปที่คลินิกของหวังเย้า “หมอหวัง นี่คือศาสตราจารย์หวูค่ะ”
“สวัสดีครับ ศาสตราจารย์หวู” หวังเย้าพูด
“สวัสดี” ตอนที่พูดอยู่นั้น ศาสตราจารย์หวูก็มองหน้าหวังเย้าด้วย
ตามแผนเดิมของพวกเขาก็เพื่อมาที่คลินิกแห่งนี้ แต่พวกเขาไม่ได้รีบร้อนมาก เพราะเขาได้นำทีมมาพร้อมกับอุปกรณ์การแพทย์จำนวนมากมาด้วย เขาได้รับตัวอย่างเชื้อจากทางจังกวัดมาก่อนล่วงหน้าแล้ว ดังนั้น เขาจึงรู้ถึงความน่ากลัวของเชื้อตัวนี้ดี ก่อนจะมาที่หมู่บ้าน เขาก็ได้เตรียมตัวมาเป็นอย่างดี เพราะถ้าหากเกิดปัญหาขึ้นมา ทุกอย่างที่เตรียมมาก็จะไร้ประโยชน์
แล้วโทรศัพท์สายหนึ่งก็ได้เปลี่ยนแผนการทั้งหมดของเขา เขาจำเป็นต้องเดินทางมาพร้อมกับผู้ช่วยสองคนด้วยความรีบร้อน เพื่อมาพบกับชายหนุ่มคนหนึ่ง เขาเป็นใคร และทำไมเขาถึงได้เด็กขนาดนี้?
“คนคนนี้เชื่อถือได้แน่นะครับ?” ริมฝีปากของหวังเย้าขยับ เฉินหยิงได้ยินคำพูดของเขาอย่างชัดเจน แต่ศาสตราจารย์หวูกลับไม่ได้ยินอะไรเลย
“ค่ะ” เฉินหยิงตกตะลึง เขาแอบส่งเสียงให้เธอได้ยินแค่คนเดียว คนที่ทำเรื่องแบบนี้ได้ มีแค่ในตำนานเท่านั้น
“ผมมียาตัวหนึ่งที่สามารถฆ่าเชื้อชนิดนี้ได้” หวังเย้าพูด
“อะไรนะ?” ศาสตราจารย์หวูตกใจ “จะเป็นไปได้ยังไงกัน?”
“แล้วทำไมถึงเป็นไปไม่ได้ล่ะครับ?” หวังเย้าถามด้วยรอยยิ้ม
“เธอเป็นหมอเหรอ?” ศาสตราจารย์หวูมองดูรอบๆห้องและมองเห็นตู้เก็บยาอยู่ด้านใน
“ผมเป็นแพทย์ปรุงยาครับ” หวังเย้าพูด
“แพทย์ปรุงยาเหรอ? แพทย์ปรุงยาโบราณใช่ไหม?” ศาสตราจารย์หวูรู้จักชื่อนี้
“ครับ” หวังเย้าพูด