Elixir Supplier - ตอนที่ 595
595 ให้ผมทำ
“เธอคือคนที่รักษาเสี่ยวซวีใช่ไหม?” ศาสตราจารย์หวูถามขึ้นมา หลังจากที่เขาเงียบไปพักหนึ่ง
“ใช่ครับ” หวังเย้าพูด
“โอเค” ศาสตราจารย์หวูพูด “เธออยากจะให้ฉันทำอะไร?”
“ผมได้ทดสอบยากับกระต่ายดูแล้ว และมันก็ได้ผล ผมขาดแค่การทดสอบคนคนจริงๆเท่านั้น” หวังเย้าหยิบขวดกระเบื้องสีขาวสองขวดที่ใส่ยาเอาไว้ออกมา
“ปล่อยให้ฉันจัดการเรื่องนี้เอง” ศาสตราจารย์หวูรับขวดยาไป ที่เขาต้องมาที่นี่ก็เพราะโรคนี้
หวังเย้าบอกปริมาณและวิธีการใช้ยากับเขา
ศาสตราจารย์หวูไม่ได้พูดอะไรมาก เขาอยู่ที่นี่กับผู้ช่วยของเขาแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น
เขามาเร็วและไปเร็ว
“เขาไปแล้วเหรอ?” หวังเจียนหลี่ถามด้วยความแปลกใจ ทุกคนในที่ทำการหมู่บ้านต่างก็แปลกใจเช่นกัน
“คนจากปักกิ่งนี่หยิ่งยโสจริงๆ” สมาชิกกรรมการหมู่บ้านคนหนึ่งพูด
“ฉันว่า เขาคงจะกลัวซะมากกว่า เสแสร้งจริงๆ” สมาชิกอีกคนพูด
หวังเจียนหลี่มองไปที่ด้านหลังของศาสตราจารย์หวู “เขาไปที่คลินิกของหวังเย้ามา สองพี่น้องที่มาจากปักกิ่งก็มาเพราะหวังเย้า”
หวังเจียนหลี่รู้สึกว่า ตัวเขารู้จักหวังเย้าน้อยลงทุกที”
“คนคนนั้นเชื่อใจได้จริงเหรอครับ?” หวังเย้าที่อยู่ในคลินิกถาม
“แน่นอนค่ะ” เฉินหยิงพูด
เธอรู้จักศาสตราจารย์หวูดี เขามีชื่อเสียงที่ดีในปักกิ่ง และมันไม่ใช่เพราะความสามารถของเขาเท่านั้น แต่เป็นเพราะจรรยาบรรการเป็นแพทย์ของเขาด้วย
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีครับ” หวังเย้าพูด
รถคันหนึ่งได้แล่นไปบนถนนด้วยความเร็วสูง ศาสตราจารย์หวูและผู้ช่วยทั้งสองของเขานั่งอยู่ภายในรถคันนั้น
“เรากำลังจะไปที่ไหนเหรอครับ ศาสตราจารย์?” หนึ่งในผู้ช่วยของเขาถาม ทั้งสองต่างก็รู้สึกสับสน พวกเขามุ่งหน้ามาที่เหลียนชานตามแผนการที่วางไว้ แต่แล้วแผนการทั้งหมดก็เปลี่ยนไป เพียงเพราะโทรศัพท์สายหนึ่ง ทั้งที่พวกเขาต้องมาที่นี่หลังจากนี้อีกหลายวัน
“โรงพยาบาลเหลียนชาน” ศาสตราจารย์หวูพูด
ผู้ช่วยทั้งสองเงียบไป
ศาสตราจารย์หวูไม่ได้พูดอะไรออกมาเช่นเดียวกัน เขาเอาแต่จ้องมองขวดที่อยู่ในมือ ยาที่อยู่ด้านในยังคงอุ่นอยู่
ยาที่อยู่ในขวดสองใบนี้จะสามารถรักษาโรคร้ายนั้นได้จริงๆน่ะเหรอ?
เขารู้สึกสงสัย แต่หวังเย้าคือคนที่สามารถรักษาซูเสี่ยวซวีที่ป่วยหนักให้หายได้ ทั้งๆที่ไม่มีใครในปักกิ่งสามารถทำให้อาการของเธอดีขึ้นได้เลย แม้แต่หมอที่เก่งที่สุดแล้วก็ตามที มันจึงเป็นเรื่องที่แน่นอนว่า หวังเย้าก็คือหมอที่สุดยอดอย่างมาก แต่โรคระบาดเพิ่งจะเกิดขึ้นได้ไม่นาน และยังเป็นเชื้อที่ได้รับการค้นพบเป็นครั้งแรกอีกด้วย ไม่มีใครที่จะสามารถคิดค้นวัคซีนที่สามารถรักษาโรคนี้ได้ในเวลาอันสั้น แม้แต่ตัวเขาก็เชื่อแบบนั้น
นอกจากว่า! อยู่ๆดวงตาของศาสตราจารย์หวูก็เบิกกว้างขึ้นมา
“ไม่หรอก!” เขาส่ายหน้า “ที่นี่เป็นบ้านเกิดของเขา”
ในไม่ช้ารถก็เดินทางเข้ามาถึงในตัวเมือง คนสำคัญของเขต, เมือง,และจังหวัดต่างก็เดินทางมาถึงกันครบแล้ว เพราะถึงยังไง ศาสตราจารย์หวูก็คือคนจากปักกิ่ง และถูกส่งตัวมาโดยรัฐบาลกลาง
“เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่านะครับ” ศาสตราจารย์หวูพูด คนที่รู้จักเขาดีจะคุ้นเคยกับนิสัยที่ตรงไปตรงมา, มีเหตุผล, และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพของเขาเป็นอย่างดี “ขอรายละเอียดของคนไข้ด้วย”
“ผมเตรียมไว้ให้ศาสตราจารย์แล้วครับ” เจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาลพูด
เมื่อเดินทางมาถึงโรงพยาบาล ศาสตราจารย์หวูและผู้ช่วยสองคนของเขาต่างก็เริ่มทำงานกันในทันที พวกเขาอ่านรายละเอียดอาการ, เข้าพบคนไข้แต่ละคน, และตรวจดูสภาพร่างกายของเฉินเจียกุ้ย
“นี่มันแย่มาก” ศาสตราจารย์หวูพูด
ถึงแม้ว่าเขาจะอ่านข้อมูลมาในระหว่างที่เดินทางมาเหลียนชานไปแล้ว แต่เขาก็ยังรู้สึกตกตะลึงเมื่อได้มาเห็นกับตาตัวเอง โดยเฉพาะตอนที่ได้เห็นร่างกายของเฉินเจียกุ้ย เชื้อตัวนี้ร้ายกาจอย่างที่สุด มันทำลายเนื้อเยื่อทั้งหมดของร่างกาย และปลดปล่อยพิษร้ายไปพร้อมกับการแพร่พันธุ์ด้วยความเร็วสูงจนน่าตกใจ
มีคนไข้ติดเชื้ออยู่ทั้งหมด 5 คน สองคนได้เสียชีวิตลงแล้ว และอีกหนึ่งอยู่ในสภาพโคม่า ส่วนอีกคนก็อยู่ในช่วงระยะของการบ้าคลั่ง
“ที่นี่มีคนไข้ที่ติดเชื้ออีกไหม?” ศาสตราจารย์หวูถาม
“ครับ ตอนเช้า พวกเขาพามาที่นี่อีกคนหนึ่ง” แพทย์คนหนึ่งพูด
“พาผมไปพบเขาที” ศาสตราจารย์หวูพูด
“ได้ครับ” แพทย์พูด
เขาพาศาสตราจารย์หวูและผู้ช่วยสองคนไปที่ห้องผู้ป่วย ชายวัยประมาณ 30 ได้เริ่มแสดงอาการออกมาแล้ว
เขาเป็นคนหมู่บ้านเดียวกับหวังเย้า ลูกชายคนที่สองของเขาเพิ่งจะคลอด เขาควรจะมีความสุขกับชีวิต ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เขาอยากจะรอดชีวิตและเอาชนะเชื้อนี้ให้ได้ แต่ในบางครั้ง ชีวิตคนเราก็โหดร้ายเกินกว่าจะรับได้ ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ในสิ่งที่หวัง
“เริ่มที่เขาเลยแล้วกัน” ศาสตราจารย์หวูพูด
“อะไรเหรอครับ?” แพทย์ถาม
“ผมต้องการเข้าไปข้างในนั้น” ศาสตราจารย์หวูพูด
“ได้ครับ ระวังตัวด้วย เขาเริ่มแสดงอาการแล้ว” แพทย์พูด
“ผมรู้” ศาสตราจารย์หวูพูด
ประตูห้องผู้ป่วยถูกเปิดออก
คนไข้ที่อยู่ภายในห้องเงยหน้าขึ้นมองแพทย์ที่เข้ามาพร้อมกับชุดป้องกัน เขาอยากจะวิ่งหนีไป แต่ก็เลือกที่จะไม่เสี่ยง เขายังพอจะสามารถควบคุมสติสัมปชัญญะของตัวเองได้อยู่บ้าง ดวงตาของเขาแดงก่ำ อัตราการเต้นของหัวใจและอุณหภูมิในร่างกายของเขาผิดไปจากคนปกติ
“สวัสดี” ศาสตราจารย์หวูพูด
“สวัสดี” คนไข้พูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความแปลกใจ เขาไม่คิดว่า หนึ่งในแพทย์ที่เข้ามาจะทักทายเขา
“คุณรู้สึกเป็นยังไงบ้าง?” ศาสตราจารย์หวูถาม
“ไม่ค่อยดีเลยครับ” คนไข้พูด
เขารู้สึกสับสนและกระวนกระวาย เขาอยากจะกรีดร้อง, วิ่ง, และทำร้ายคน แต่เขารู้ดีว่า เมื่อไหร่ที่เขาเริ่มแสดงอาการคลั่งออกมา เขาก็จะถูกมัดและเข้าใกล้ความตายมากขึ้นไปอีก
“คุณเชื่อผมไหม?” ศาสตราจารย์หวูถาม
“ผมยังอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไป” คนไข้พูดออกมาโดยไม่ลังเล
“ดี นี่คือยา ดื่มมันซะ” ศาสตราจารย์หวูเทยาใส่ลงไปในถ้วยใบเล็ก ตัวยามีกลิ่นฉุนและมีสีออกน้ำตาล
คนไข้รับยามา และดื่มเข้าไปโดยไม่ลังเล
“ตราบใดที่เขายังมีสติอยู่ อย่าถอดเครื่องพวกนี้ออกเด็ดขาด” ศาสตราจารย์หวูชี้ไปที่เครื่องวัดอุณหภูมิและอัตราการเต้นหัวใจของคนไข้
“ครับ” แพทย์ของทางโรงพยาบาลพูด
ศาสตราจารย์หวูเดินออกไปจากห้องผู้ป่วย
“แค่นี้เหรอ?” แพทย์อีกคนถาม
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ? แล้วเขาเอาอะไรให้คนไข้ดื่มเหรอ?” แพทย์อีกคนถามเสียงเบา
“มันดูเหมือนยาสมุนไพรนะ” แพทย์คนแรกพูด
“นายพูดจริงเหรอ?” แพทย์ที่สวมแว่นตาถาม
แพทย์ที่ได้เห็นขั้นตอนทั้งหมดต่างก็กำลังซุบซิบกันอยู่ พวกเขาเงียบลงทันที เมื่อศาสตราจารย์หวูเดินออกมาจากห้องผู้ป่วย ศาสตราจารย์หวูยังไม่ได้จากไปไหน เขาเฝ้าสังเกตอาการของผู้ป่วยอยู่ภายในห้องสังเกตการณ์
“มันจะได้ผลรึเปล่า?” แพทย์คนหนึ่งถาม
“ฉันก็สงสัยเหมือนกัน” แพทย์อีกคนพูด
แพทย์หลายคนยังคงพูดถึงเรื่องนี้ไม่หยุด ศาสตราจารย์หวูไม่ได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดกัน แต่หนึ่งในผู้ช่วยของเขาบังเอิญไปได้ยินเข้า คิ้วของเขาขมวดมุ่น พูดตามตรง เขาไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมอาจารย์ของเขาจะต้องเอายาสมุนไพรไปให้คนไข้ดื่มด้วย
พวกเขาเดินทางออกมาจากปักกิ่งด้วยความเร่งรีบ แต่เขาก็จำของทุกอย่างที่พวกเขานำติดตัวมาด้วยทั้งหมด ศาสตราจารย์หวูมีแค่หนังสือปึกหนึ่งและเอกสารบางส่วนเท่านั้น เขาไม่ได้เอายาสมุนไพรอะไรติดตัวมาด้วยเลย ดังนั้น ยาสมุนไพรนั่นจะต้องมาจากหมู่บ้านกลางเขาที่พวกเขาเพิ่งไปมา เขาเชื่อว่า อาจารย์ของเขาจะต้องไปพบใครบางคนในหมู่บ้านนั้น และคนคนนั้นก็จะต้องเป็นคนที่มอบยาสมุนไพรสองขวดให้กับอาจารย์ของเขาอย่างแน่นอน
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป
“อัตราการเต้นของหัวใจและอุณหภูมิร่างกายของคนไข้เริ่มคงที่” แพทย์คนหนึ่งรายงาน
“อะไรนะ?” ศาสตราจารย์หวูถาม “มันได้ผลเหรอ?”
ถึงแม้ว่าอุณหภูมิและอัตราการเต้นของหัวใจของคนไข้จะยังคงไม่ปกติ แต่มันก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะเลวร้ายลงไปกว่านี้
“เปิดประตู” ศาสตราจารย์หวูเดินกลับไปที่ห้องผู้ป่วย
“คุณรู้สึกเป็นยังไงบ้าง?” ศาสตราจารย์หวูถามคนไข้
“ผมรู้สึกไม่สบายเลย” คนไข้ตอบ
เขารู้สึกไม่สบายจริงๆ มีบางอย่างขย้อนขึ้นมาที่ลำคอของเขา และเขาก็กำลังพยายามหยุดมันเอาไว้อย่างสุดความสามารถ
“ดื่มนี้ซะ” ศาสตราจารย์หวูพูด
เขาเอายาสมุนไพรให้คนไข้ดื่มเข้าไปอีกถ้วยหนึ่ง จากนั้น เขาก็เดินออกมาจากห้องผู้ป่วย เพื่อกลับไปสังเกตอาการในอีกห้องหนึ่ง
อึก!
ในเวลานั้นเอง คนไข้ก็รู้สึกไม่สบายอย่างหนัก มันคล้ายกับว่า มีกองทัพสองกองกำลังต่อสู้อยู่ภายในร่างกายของเขา มันไม่ได้อยู่แค่ที่ท้องของเขาเท่านั้น แต่เขารู้สึกไม่สบายไปทั้งร่าง เขารู้สึกป่วย
แหวะ! อยู่เขาก็อ้าปากออก ของเหลวสีดำถูกพ่นออกมาจากปากของเขา พร้อมกับกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์
“ทำความสะอาดห้อง เก็บอ้วกของเขาไปทำการทดสอบ ตรวจสอบการเต้นของหัวใจและอุณหภูมิร่างกายของเขาด้วย” ศาสตราจารย์หวูสั่งการในทันที
“อะไรนะ? ตอนนี้เลยเหรอครับ?” แพทย์คนหนึ่งถาม
ศาสตราจารย์หวูหันไปมองหน้าแพทย์คนนั้นด้วยสายตาเคร่งขรึม
หนึ่งในผู้ช่วยของเขาเดินเข้าไปในห้องผู้ป่วยเป็นคนแรก และตามมาด้วยศาสตราจารย์หวู
“คุณรู้สึกเป็นยังไงบ้าง?” ศาสตราจารย์หวูถาม โดยไม่หันไปมองของเหลวสีดำที่อยู่บนพื้นเลย
“พอได้อ้วกแล้ว ผมก็รู้สึกดีขึ้นมากเลยล่ะ” คนไข้พูด เขายังรู้สึกกระวนกระวายน้อยลงด้วย
ศาสตราจารย์หวูพยักหน้า เขาย่อตัวลงเพื่อตรวจสอบของเหลวสีดำบนพื้น
พยาบาลเข้ามาทำความสะอาดอาเจียนของผู้ป่วยและเก็บตัวอย่างเพื่อนำไปทำการทดสอบ
“นี่มันอะไรน่ะ?” พยาบาลคนหนึ่งพูด “มันเหม็นมากเลย”
หลังจากผ่านไป 2 ชั่วโมง คนไข้ยังคงปกติดี
ศาสตราจารย์หวูเดินเข้าไปในห้องผู้ป่วย และให้ยากับผู้ป่วยเป็นครั้งที่สาม ผู้ป่วยได้ดื่มยาหมดไปแล้วหนึ่งขวด
ศาสตราจารย์หวูกลับมาที่ห้องสังเกตการณ์
ท้องฟ้าเริ่มมืดลง
“ศาสตราจารย์หวูครับ เราเตรียมอาหารเย็นเอาไว้ให้คุณแล้ว” แพทย์คนหนึ่งพูด “คุณจะกินตอนนี้เลยไหมครับ?”
“ไว้ผมจะไปกินทีหลัง” ศาสตราจารย์หวูส่ายหน้า
“ได้ครับ” แพทย์พูด
เวลาผ่านไปอีก 2 ชั่วโมง อัตราการเต้นของหัวใจและอุณหภูมิร่างกายของคนไข้ลดลงอย่างเหลือเชื่อ
“โอ้ พระเจ้า! ยามันได้ผลจริงๆด้วย!” ทุกคนที่อยู่ภายในห้องสังเกตการณ์ต่างก็รู้สึกตื่นเต้น
“บางที มันอาจจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญก็ได้” ศาสตราจารย์หวูพูดอย่างสงบ “เอายาให้เขากินต่ออีก”
เขาทานอาหารเย็นในห้องสังเกตการณ์ในเวลาสั้นๆ ภาพนี้ได้สร้างความประทับใจให้กับเจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาลอย่างมาก