Elixir Supplier - ตอนที่ 611
611 ใบชาใหม่และเพื่อนเก่า
“หมอหวังเป็นหมอที่สุดยอดมาก ขนาดเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากปักกิ่ง ก็ยังต้องเดินทางมาหาคุณถึงที่นี่” ซางจี้หมินพูด
“ผมแค่บังเอิญได้รู้จักพวกเขาก็เท่านั้น” หวังเย้าพูด
เขาขับรถพาซางกู้จื้อและซางจี้หมินไปทานอาหารที่ร้านที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้าน
“สวัสดีครับ หมอหวัง เชิญเข้ามาข้างในเลยครับ” เจ้าของร้านยินดีที่ได้เห็นหน้าเขา ช่วงนี้ ที่ร้านของเขาแทบจะไม่มีลูกคาเข้ามาเลย
“กิจการยังไม่ดีขึ้นเลยเหรอครับ?” หวังเย้าถาม
“ไม่เลยครับ มันแย่มาก ทุกวัน จะมีลูกค้ามาแค่สองสามกลุ่มเท่านั้น กิจการคงจะยังไม่ดีขึ้นเร็วๆนี้หรอกครับ” เจ้าของร้านพูด
“อย่าคิดมากเลยไปนะครับ เดี๋ยวมันก็จะดีขึ้นเอง” หวังเย้าพยายามพูดปลอบใจเจ้าของร้าน
“ผมก็หวังไว้อย่างนั้นเหมือนกัน” เจ้าของร้านพูด
“เอาอาหารเหมือนที่สั่งทุกทีนะครับ” หวังเย้าพูด
“ได้เลยครับ เดี๋ยวผมจะไปชงชามาให้ ลองใบชาฤดูใบไม้ผลิของทางร้านดูหน่อยนะครับ” เจ้าของร้านปฏิบัติกับหวังเย้าที่เป็นเหมือนเพื่อนเก่าและลูกค้าเป็นอย่างดี ก่อนหน้านี้ หวังเย้ายังได้ช่วยร้านของเขาเอาไว้อีกด้วย
ในร้านอาหารมีคนอยู่ไม่มากนัก ดังนั้น อาหารจึงถูกนำออกมาเสริฟค่อนข้างเร็ว
“มาครับ กินกันเถอะ” หวังเย้าพูด
“ครับ” ซางจี้หมินพูด
หวังเย้าสั่งอาหารที่ทำจากปลาที่จับจากในแม่น้ำกับเห็ดที่เก็บจากในป่า อาหารจึงดูสดใหม่อย่างมาก
“อื้ม อร่อย” ซางจี้หมินพูด
“ผมดีใจที่คุณชอบอาหารที่นี่นะครับ คุณกลับมาที่นี่ได้เสนอเลยนะ” หวังเย้าพูด “เหล่าซางครับ ผมขออนุญาตชนแก้วกับคุณนะครับ”
“ฮาฮา ขอบคุณๆ” ซางกู้จื้อพูดด้วยรอยยิ้ม เขารู้สึกประทับใจในตัวหวังเย้าอย่างมาก เขายังหนุ่มและเป็นชายหนุ่มที่มีความสามารถ หวังเย้ายังเป็นหมอที่เก่งกว่าเขาเสียอีก แล้วทัศนคติของเขาก็ยังดีมากด้วย เขาไม่ได้แสดงท่าทางเย่อหยิ่ง เหมือนอย่างชายหนุ่มที่มีความสามารถหลายๆคน
ซางกู้จื้อไม่ได้เจอกับคนที่มีความสามารถสูงและยังอารมณ์ดีแบบเขามากนัก “แล้วฉันก็ต้องขอโทษเธอด้วยนะ”
“ขอโทษผมทำไมเหรอครับ?” หวังเย้าด้วยความแปลกใจ
“เธอยังจำคนไข้ที่ต้าหลี่ คนที่ฉันขอให้เธอไปรักษาได้ไหม?” ซางกู้จื้อถาม
“จำได้สิครับ” หวังเย้าพูด เขาจำน้องชายของหานชิ่งได้ดี เขาป่วยด้วยพิษร้อน ซึ่งเป็นอาการป่วยที่คล้ายกับของซูเสี่ยวซวี หวังเย้าได้ทำยาออกมาสามชนิดและทิ้งไว้ให้พวกเขา หานชิ่งบอกว่า เขาจะติดต่อหวังเย้าไป แต่หวังเย้าก็ไม่เคยได้ยินข่าวจากเขาอีกเลย
“คนไข้เป็นยังไงบ้างครับ?” หวังเย้าถาม
“เขาสบายดี ถ้าไม่อย่างนั้น พวกเขาก็คงจะติดต่อฉันแล้วล่ะ” ซางกู้จื้อพูดด้วยน้อเสียงเศร้าใจเล็กน้อย
“มีเรื่องอะไรอีกเหรอครับ?” หวังเย้าถาม
“อืม” ซางกู้จื้อพูด “พวกเขาไปหาราชายาที่เขตเมี่ยวน่ะสิ”
“จริงเหรอครับ?” หวังเย้าถาม
เขาได้ยินเรื่องของราชายามาบ้าง คนที่ถูกเรียกว่า “ราชา” คงจะต้องเป็นผู้ที่มีฝีมือสูงส่งอย่างแน่นอน แล้วราชายาก็ยังมีชื่อเสียงอยู่ในยูนนานมาหลายปีแล้ว
“ฉันเคยเจอกับราชายามาก่อน และพอจะรู้กฎเกณฑ์บางอย่างของเขาอยู่บ้าง ถ้าเขาอารมณ์ไม่ดี เขาก็จะไม่รักษาใครทั้งนั้น แม้ประธานาธิบดีของจีนจะมาด้วยตัวเองก็ตามที” ซางกู้จื้อพูด
“ครับ ผมเคยได้ยินมาเหมือนกัน” หวังเย้าพูด ตอนที่อยู่ต้าหลี่ พี่น้องหานได้เล่าเรื่องของราชายาให้เขาฟังด้วย
“เขาอาศัยอยู่ทางใต้ของยูนนาน มีคนจำนวนมากไปที่หมู่บ้านนั้นเพื่อให้ได้รักษากับเขา แต่เพราะนิสัยที่แปลกประหลาดของเขา คนที่มาเลยต้องรอกันนานเป็นเดือนๆ” ซางกู้จื้อพูด
“เป็นเดือนเลยเหรอ! ถ้าแบบนั้นการรักษาก็จะล่าช้าออกไปน่ะสิ” หวังเย้าพูดด้วยความแปลกใจ
“ใช่ แต่ทุกคนก็ยินดีที่จะรอ พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น คนไข้ทุกคนที่ไปล้วนแล้วแต่เป็นโรคที่รักษาได้ยาก พวกเขาไปหาราชายา ก็เพราะไม่มีโรงพยาบาลไหนรักษาพวกเขาได้แล้ว ก่อนจะไปหาเขา พวกเขาก็คงจะไปมาแล้วหลายโรงพยาบาล แถมเขายังมีกฎเกณฑ์ที่แปลกอีกด้วย” ซางกู้จื้อพูดเสร็จแล้วจึงยกขึ้นมาจิบ
หวังเย้าฟังซางกู้จื้อพูดอย่างเงียบๆ
“ถ้าหากมีคนเอาสมุนไพรที่มีความพิเศษหรือแตกต่างจากทั่วไปไปพบเขา เขาก็จะทำตามคำขอของคนคนนั้นหนึ่งอย่าง” ซางก็จื้อพูด
“นี่เป็นกฎที่แปลกมาก” หวังเย้าพูด
“แปลกมากเลยล่ะ” ซางกู้จื้อพูด “ปกติแล้ว ทุกคนต้องรอคิวเพื่อให้ได้พบกับเขา ผู้ช่วยของเขาจะให้แผ่นไม้ที่เขียนหมายเลขเอาไว้ให้แต่ละคนถือ แล้วราชายาก็แทบจะไม่ออกไปจากหมู่บ้านเลยด้วย แต่ถ้าหากมีคนเอาสมุนไพรหรือยาที่ทำให้เขาพอใจได้ไปให้ คนคนนั้นก็จะได้รับการรักษาจากเขาในทันที แล้วเขาก็ยินดีที่จะออกไปรักษาให้ถึงที่บ้านเลยด้วย”
หวังเย้าพอจะเดาได้บ้างแล้วว่า ซางกู้จื้อจะพูดเรื่องต่อ
“ราชายาสั่งสมชื่อเสียงของเขามาเป็นเวลาหลายปี เขาเป็นหมอที่สุดยอดอย่างแท้จริง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาได้เห็นสมุนไพรและสูตรยามาแล้วนับไม่ถ้วน ดังนั้น จึงมีสมุนไพรไม่มากที่จะดึงดูดความสนใจของเขาได้” ซางกู้จื้อพูด “เท่าที่ฉันรู้มา เขาเกิดความประทับใจสูตรยาตัวหนึ่งก็ตอนห้าปีที่แล้ว ครั้งนี้ เขาถึงกับมาที่บ้านของพี่น้องหานเพื่อรักษาน้องชายคนเล็กของพวกเขา แล้วฉันก็ดันไปเห็นเขาเข้าพอดี ฉันเลยคิดว่า พี่น้องหานน่าจะเอายาของเธอไปให้ราชายาน่ะสิ”
ซางกู้จื้อได้เห็นความวิเศษในตัวยาของหวังเย้ามากับตาตัวเอง โจวหวูยี่และโจวหวูคังต่างก็หายได้ด้วยยาของหวังเย้า โจวหวูยี่ที่เกือบจะไม่รอด และโจวหวูคังที่ป่วยด้วยโรคประหลาดมานานหลายปี สำหรับซางกู้จื้อ คนทั้งสองนั้นเกินกว่าที่จะรักษาได้แล้ว แต่หวังเย้ากลับรักษาพวกเขาจนหายได้ด้วยยาวิเศษของเขา
“ผมเข้าใจแล้วครับ” หวังเย้าพูด
ยาของเขาจะต้องถูกใจราชายาอย่างแน่นอน ยาทั้งสามตัวที่หวังเย้าทิ้งไว้กับพี่น้องหาน ล้วนแล้วแต่เป็นยาที่ทำขึ้นมาจากสมุนไพรราก ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากบนโลกใบนี้ ทั้งหม้อและน้ำที่ใช้ในการต้มยาก็ยังเป็นของพิเศษอีกด้วย มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย ที่ราชายาจะสนใจในตัวยาของหวังเย้า
“ฉันไม่คิดเลย ว่าพวกเขาจะทำแบบนี้ มันเป็นความผิดของฉันเอง” ซางกู้จื้อพูด
“มันไม่เป็นไรเลยครับ คุณอย่าโทษตัวเองเลย” หวังเย้าพูด ซางกู้จื้อเป็นคนดีและเป็นหมอที่ดี ซึ่งมันทำให้หวังเย้าเคารพเขาอย่างมาก “คุณก็บอกแล้วนี่ครับ ว่าคุณก็ไม่คิดเหมือนกันว่าพวกเขาจะทำแบบนี้น่ะ”
“ฉันแค่เป็นห่วงน้องชายคนเล็กของพวกเขาก็เท่านั้น พ่อของพวกเขาเคยช่วยฉันมามากและยังเคยช่วยชีวิตของฉันเอาไว้ด้วย ก่อนที่เขาจะตาย เขาก็ได้ขอให้ฉันช่วยดูแลลูกๆของเขาให้ด้วย ฉันไม่คิดเลย ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้” ซางกู้จื้อถอนหายใจ
คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ
“ช่างมันเถอะครับ เลิกพูดเรื่องนี้กันดีกว่า ชนแก้วครับ” หวังเย้าพูด
“ใช่ๆ ขนแก้ว” ซางจี้หมินพูด
“แล้วคุณมาทำอะไรที่จังหวัดฉีเหรอครับ?” หวังเย้าถาม
“ฉันมาทำธุระส่วนตัวน่ะ” ซางกู้จื้อพูด
“ถ้าต้องการความช่วยเหลืออะไร ก็บอกผมได้นะครับ” หวังเย้าพูด
“ได้เลย” ซางกู้จื้อพูด
เขามาที่จังหวัดฉีเพื่อพบกับเพื่อนเก่าของเขา เขาจึงอยู่ที่ตัวจังหวัดหลายวัน พวกเขาทั้งสองต่างก็อยู่ในวัย 70 กันแล้ว ดังนั้น พวกเขาจึงเหลือโอกาสที่จะได้พบกันไม่มากแล้ว
…
ขณะเดียวกัน พันจวินกำลังรักษาคนไข้อยู่ในคลินิกของพันเหมย
“เยี่ยมมากเลย หมอพัน หมอไปเรียนนวดมาจากที่ไหนเหรอ?” คนไข้วัยชราถาม
“จากอาจารย์ท่านหนึ่งครับ” พันจวินพูดด้วยรอยยิ้ม
ช่วงนี้ เขามักจะฝึกฝนเทคนิคการนวดกับคนไข้ที่มารักษาที่คลินิกพี่สาวของเขา และผลลัพธ์ที่ได้ก็ค่อนข้างหน้าประทับใจ ไม่นาน ผู้คนที่มารักษาที่คลินิกก็เริ่มขอมารักษากับเขามากขึ้น
“ฉันรู้ ว่าหมอไปเรียนกับอาจารย์มา แต่อาจารย์คนไหนล่ะ?” คนไข้ถาม
“หมอหวังที่เคยมาทำงานที่นี่ยังไงล่ะครับ” พันจวินพูด
“หมอหนุ่มคนนั้นน่ะเหรอ? ไม่ใช่ว่าเขาเด็กกว่าหมอหรอกเหรอ” คนไข้ถาม เขาเป็นคนไข้ประจำของคลินิกแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นอาการป่วยเล็กน้อยแค่ไหน อย่าง เป็นหวัดหรือปวดศีรษะ เขาก็มักจะมารักษากับที่นี่ตลอด เขาพอจะจำหวังเย้าได้อยู่ลางๆ เขาเป็นอายุน้อยที่ท่าทางดีและยังรักษาเก่งมากด้วย
“เขาเด็กกว่าผมก็จริง แต่เขาก็รักษาเก่งกว่าผมด้วย” พันจวินพูด
“หมอพูดถูก อายุไม่ใช่เรื่องสำคัญ เราควรจะดูที่ฝีมือของเขามากกว่า” คนไข้พูด
“จริงครับ” พันจวินพูด
“พอได้นวดกับหมอแล้ว ฉันก็รู้สึกดีขึ้นมากเลยล่ะ ขอบคุณหมอมากนะ” คนไข้พูด
“ยินดีครับ” พันจวินพูด
คนไข้จ่ายค่ารักษาและออกไปจากคลินิกด้วยความพอใจ
“ช่วงนี้ นายได้ไปหาอาจารย์ของนายบ้างรึเปล่า?” พันเหมยถาม
“อืม เพิ่งไปมาเมื่อไม่กี่วันก่อนเอง ผมว่าจะไปหาเขาอีกทีพรุ่งนี้น่ะ” พันจวินพูด
“แล้วฉันยังได้ยินมาด้วยนะว่า โรงพยาบาลในเมืองจ้างแพทย์แผนจีนไปทำงานอาทิตย์ละหนึ่งวัน แล้วค่าตัวของเขาก็ยังแพงมากอีกด้วย” พันเหมยพูด
พันจวินไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงแค่ยิ้มเท่านั้น
…
หลังจากที่ทานอาการเสร็จแล้ว ซางกู้จื้อและลูกชายก็ไปนั่งคุยกันที่คลินิกของหวังเย้าต่อ
“พ่อ หมอหวังเก่งกว่าตาแก่หวูซานรึเปล่า?” ซางจี้หมินถามตอนที่พวกเขาอยู่กันแค่สองคน
“เลิกเรียกเขาว่า หวูซาน ได้แล้ว” ซางกู้จื้อพูดด้วยท่าทีจริงจัง “ยังไงเขาก็แก่กว่าลูก ลูกไม่ควรเสียมารยาท”
“เขาเป็นพวกอารมณ์แปรปรวน ไม่ใช่คนที่สมควรได้รับความเคารพจากผมเลยสักนิด” ซางจี้หมินพูด
“นิสัยของเขาไม่ใช่ข้ออ้างที่ลูกจะทำตัวเสียมารยาทกับเขาได้นะ ลูกพูดถูก ที่เขาเป็นพวกอารมณ์แปรปรวน แต่เขาก็ไม่ใช่คนไม่ดี” ถึงแม้ว่าซางกู้จื้อจะไม่ได้เห็นนิสัยของราชายากับตาตัวเอง แต่ตัวเขาก็เป็นคนที่มีคุณธรรมมากพอ