Elixir Supplier - ตอนที่ 629
629 สงบแต่แฝงไว้ด้วยอำนาจ
หลังจากที่หวังเย้าได้ยินชื่อส่วนผสม หวังเย้าก็ไม่เห็นด้วยกับส่วนผสมเหล่านี้ ทั้งหมดล้วนมีสารอาหารที่อุดมสมบูรณ์ แต่การมีมากเกินไปก็ไม่ได้ดีเสมอไป
แม้แต่คนสุขภาพแข็งแรงก็อาจจะไม่สามารถกินของบำรุงดีขนาดนี้ได้ ดังนั้น ไม่ต้องไปพูดถึงคนที่ป่วยหนักเลย มันก็เหมือนกับคนที่ไม่ได้ดื่มน้ำเปล่ามาเป็นเวลาสิงถึงสามวัน และรู้สึกกระหายน้ำอย่างมาก แต่กลับกินน้ำเข้าไปได้แค่จิบเล็กเท่านั้น เพราะการดื่มมากเกินไป อาจจะกลายเป็นส่งผลร้ายต่อร่างกายได้
ส่วนคนไข้ที่มีสุขภาพแย่นั้น ก็จะเกิดปัญหาจากระบบการย่อยและดูดซึมของกระเพาะกับลำไส้ที่อ่อนแอ สารอาหารที่เหลือก็จะคั่งค้างอยู่ภายในร่างกายและกลายเป็นพิษในไม่ช้า
“เวลาที่เขาตื่นขึ้นมา เขาจะกินยาบำรุงแบบนี้ทุกครั้งเลยเหรอครับ?” หวังเย้าถาม
“ใช่ เขาจะกินยาบำรุงไปถ้วยเล็กๆทุกครั้งที่เขาตื่นขึ้นมา” คุณหวูพูด
“แล้วใครเป็นคนให้สูตรยานี้มาเหรอครับ?” หวังเย้าถาม
“จี๋หลายเทียนจากปักกิ่ง” คุณหวูพูด
หืม? เป็นชื่อแปลกๆที่หวังเย้าไม่เคยได้ยินมาก่อน “แล้วเขากินยาบำรุงมานานรึยังครับ?”
“ประมาณเดือนกว่าได้” คุณหวูพูด “ตัวซุปมีปัญหาอย่างนั้นเหรอ?”
“มันแค่ช่วยชะลออาการได้ชั่วคราวเท่านั้นครับ” หวังเย้าคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“จี๋หลายเทียนก็พูดแบบนั้นเหมือนกัน แต่มันก็ไม่มีทางที่ดีกว่านี้แล้ว” คุณหวูพูด
เมื่อคนเราเข้าใกล้ความตาย พวกเขาก็ไม่ลังเลที่จะกินยาที่สามารถทำให้พวกเขามีชีวิตต่อไปได้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่ามันเป็นพิษร้ายที่นำพาพวกเขาไปสู่ความตายก็ตามที
“หยุดกินยาบำรุงตัวนี้ได้แล้วนะครับ” หวังเย้าพูดนิ่งๆ
“หยุดกิน แต่คุณชาย…” คุณหวูรู้สึกสับสน
“มีผมดูแลอยู่ เขาจะไม่มีทางตายจากโรคนี้เด็ดขาดครับ” หวังเย้าพูด
เขาสงบนิ่งและชัดเจน ซึ่งแฝงไปด้วยอำนาจที่มองไม่เห็น คุณหวูและเจิ้งชื่อฉงต่างก็อึ้งกันไปพักหนึ่ง
“โอเค เราจะไม่เอายาตัวนี้ให้เขากินอีกแล้ว” คุณหวูยิ้มเป็นการตกลงกับความเห็นของหวังเย้า “แล้วยาอีกตัวหนึ่งล่ะ?”
“คุณหมายถึงยาที่ทำให้เขาหลับใช่ไหมครับ?” หวังเย้าถาม
“ใช่ เรายังจำเป็นต้องเอายาตัวนั้นให้เขากินอีกไหม?” คุณหวูถาม
“ครับ” หวังเย้าพูด
เขาอยากจะรู้ว่ายาตัวนี้เป็นแบบนั้นและทำงานยังไง มันไม่ใช่ทั้งซุปและขี้ผึ้ง มันเป็นยาเม็ดสีดำที่มีขนาดพอๆกับผลเชอร์รี่ พร้อมทั้งมีกลิ่นพิเศษลอยออกมา
เมื่อดมจากกลิ่นของเม็ดยาแล้ว หวังเย้าก็พอจะบอกชื่อสมุนไพรบางตัวได้ ซึ่งมีโชวู, หลินจือ, และเจียวกู่หลาน แต่ยังมีบางส่วนที่เขาไม่สามารถระบุได้ มันไม่ใช่มีแค่พืช แต่ยังมีอย่างอื่นอยู่ด้วย
เมื่อเจิ้งเหว่ยจวินผล่อยหลับไป เขาก็จะอยู่ในสภาวะหลับลึก ในสภาวะนี้ การเผาผลาญภายในร่างกายก็จะช้าลงมาก จนเหลือเพียงแค่หนึ่งในห้าของคนทั่วไปเท่านั้น และอาจจะน้อยกว่านั้นด้วยซ้ำ สภาวะแบบนี้คล้ายกับงูหรือหมีที่กำลังจำศีลอยู่
ร่างกายของเขาชะลอการเสื่อมสภาพ แต่มันไม่ได้ส่งผลกับพิษที่อยู่ในร่างกายของเขามากนัก พวกมันยังคงทำลายร่างกายของเขาอยู่ ฤทธิ์ของตัวยาทำให้เพียงทำให้มันช้าลงก็เท่านั้น
ตัวยานั้นมีประโยชน์ของมันอยู่ ซึ่งได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับหวังเย้าด้วยเช่นกัน “มันเป็นการชะลออายุไขของร่างกาย ซึ่งเป็นความคิดที่ดี”
“หมอหวัง คุณคิดยังไง?” คุณหวูถาม
“อืม ให้เขากินยาก่อน แล้วครั้งหน้าที่เขาตื่นก็มาบอกผมด้วยนะครับ” หวังเย้าพูด
“ตกลง” คุณหวูพูด
เมื่อหวังเย้าเดินออกมาจากบ้าน มันก็เป็นเวลาเกือบห้าโมงเย็นแล้ว ตัวเขายังคงคิดถึงเรื่องอาการป่วยของเจิ้งเหว่นจวินไม่หยุด เขาไม่เคยเจอคนไข้ที่ป่วยด้วยโรคที่รักษาได้ยาก ซึ่งเกิดจากการกินยามากเกินไปมาก่อน หลังกลับมาถึงที่คลินิกแล้ว เขาก็บันทึกรายละเอียดการรักษาทุกอย่างลงไป โดยเฉพาะตัวยาที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
พอใกล้เวลาเย็น เฉินหยิงก็มาเชิญหวังเย้าไปทานอาหารเย็นด้วยกันที่บ้านเช่าของเธอ มันยากที่เขาจะปฏิเสธคำเชิญที่อบอุ่นจากเธอ ชูเหลียนและเฉินหยิงรับหน้าที่เป็นคนทำอาหาร มันเป็นอาหารของทางใต้ ซึ่งมีรสชาติค่อนข้างอ่อน
“หมอหวังคะ คุณชอบรสชาติแบบนี้ไหมคะ?” เฉินหยิงถาม
“มันอร่อยดีครับ” หวังเย้าตอบ
ในระหว่างที่ทานอาหารกันอยู่นั้น ทั้งเจ้าบ้านและแขกต่างก็พอใจกับอาหารมื้อนี้
หลังจบมื้ออาหาร ซูเสี่ยวซวีก็พูดขึ้นมาว่า “เรามาเล่นไพ่กันดีไหมคะ?”
“อืม เอาสิ”
หวังเย้าอยู่เล่นไพ่กับทุกคนพักหนึ่ง ก่อนที่เขาจะขอตัวกลับบ้าน
ที่บ้าน จางซิวหยิงได้เอ่ยถึงเรื่องของซูเสี่ยวซวีขึ้นมา “แม่ได้ยินมาว่า ที่สาวสวยมาหาลูกด้วย เธอมาจากปักกิ่งเหรอจ๊ะ?”
เรื่องที่มีมีสาวสวยราวกับนางฟ้ามาหาหวังเย้า ได้กลายเป็นกระจายไปทั่วหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว
“ลูกชายของเฟิงฮวาโชคดีเรื่องผู้หญิงจังเลยนะ” ชาวบ้านคนหนึ่งพูด
“ใช่ๆๆ แฟนคนก่อนหน้านั้นก็สวยมาก แล้วไม่กี่วันก่อน ก็ยังมีสาวสวยอีกคนมาหาเขาอีก ตอนนี้เธอก็ยังอยู่ที่หมู่บ้าน และยังสวยสุดๆเลยล่ะ” ชาวบ้านอีกคนพูด
“คนหนุ่มนี่ดูจะเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆมากเลยนะ”
คนที่ทุกคนพูดถึงก็คือ ซูเสี่ยวซวี ในระหว่างที่เธออยู่ในหมู่บ้าน มีชาวบ้านเกือบครึ่งที่ได้เห็นความงดงามโดดเด่นของเธอเข้า
“เธอเป็นคนเดียวกับคนที่ผมเคยเล่าให้ฟังยังไงละครับ คนที่ผมต้องเดินทางไปรักษาให้ถึงที่ปักกิ่งน่ะ” หวังเย้าพูด
“อ่อ” จางซิวหยิงยิ้ม “เธอเคยมาก่อนหน้านั้นแล้วครั้งหนึ่งใช่ไหมจ๊ะ?”
“เอ่อ ใช่ครับ” หวังเย้าพูด
“แม่เห็นเธอแล้ว เธอสวยมากเลยล่ะ” จางซิวหยิงพูด
หวังเย้ารู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของแม่เขา
“พี่สาวของลูกกำลังจะแต่งงานตอนเดือนตุลานี้แล้ว ลูกก็ต้องรีบๆเข้าล่ะ” จางซิวหยิงพูด
อย่างที่เขาคิดไว้ไม่มีผิด “โอ ผมรู้แล้วครับแม่”
…
ในโรงพยาบาลเหลียนชาน
“หมอคะ เขาจำเป็นต้องนอนที่โรงพยาบาลต่ออีกสองวันไหมคะ?” หญิงคนหนึ่งถาม
“ไม่จำเป็นหรอกครับ เขาอยู่โรงพยาบาลมาครึ่งเดือนแล้ว” แพทย์พูด “อาการของเขาไม่มีปัญหาอะไรแล้ว แล้วการรักษาก็ไม่ได้เห็นผลอะไรชัดเจนนัก ตอนนี้ เขาสามารถออกจากโรงพยาบาลได้เลยครับ”
อาการของคนไข้ไม่มีปัญหานั้นแปลได้สองความหมาย หนึ่งคือ เขาอาการของเขาไม่แย่ลง และสองคือ เขาไม่มีทางดีขึ้นกว่านี้อีกแล้ว การที่เขานอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ทำให้เสียเตียงไปแล้วหนึ่งเตียง แล้วเมื่อคืน เพ่งจะมีคนไข้เข้ามาเพิ่มอีกสองราย ดังนั้น ทางโรงพยาบาลจึงต้องการเตียงเพิ่ม
“โอเคค่ะ ขอบคุณสำหรับการรักษานะคะ” เธอพูด
“ยินดีครับ” แพทย์ตอบ
“อีกรายแล้วสินะ” หลังจากที่หญิงคนนั้นเดินจากไปแล้ว แพทย์ก็ถอนหายใจออกมา
“ผู้ชายคนนั้นมาที่นี่สองครั้งแล้วใช่ไหม?” แพทย์อีกคนถาม
“ใช่ ฉันจ่ายยานำเข้าให้เขาไปแล้วล่ะ” เขาตอบ
เพื่อนร่วมงานของเขาหยุดชะงักมือที่กำลังเขียนอยู่และพูดกลับไปว่า “ค่ายาคงจะแพงมากเลยสินะ”
“แต่มันก็ได้ผลดีนี่” เขาพูด “ถ้าเกิดเป็นเส้นเลือดอุดตันขึ้นมาอีก คงจะกลายเป็นปัญหามากเลยล่ะ”
หญิงคนนั้นและลูกชายจัดการเรื่องออกจากโรงพยาบาลเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเขาพากันเดินไปที่ลิฟต์ พร้อมทั้งช่วยกันพยุงผู้เป็นสามีของเธอไปด้วย
“ขอโทษนะคะ” เธอพูด
ที่บริเวณหน้าลิฟต์มีผู้คนรออยู่กันจนเต็ม ทุกคนจึงพากันหลีกทางให้พวกเขา
ติ้ง! ต่อง! เสียงลิฟต์แสดงว่าได้ไปถึงชั้นล่างสุดแล้ว ประตูลิฟต์เปิดออก ทั้งครอบครัวพากันเดินออกไปอย่างช้าๆ
“เฮ้อ เดี๋ยวนี้ มีคนเป็นโรคนี้กันเยอะเลยนะ” ผู้โดยสารลิฟต์คนหนึ่งพูดขึ้นมา
“ใช่ มีเด็กหนุ่มที่ทำงานที่เดียวกับผมก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน เขาเพิ่งจะอายุ 20 ต้นๆเท่านั้นเอง” ผู้โดยสารอีกคนพูด “ตอนนี้ เขาก็เดินแบบนั้นเหมือนกัน เดินไปแต่ละก้าวเป็นวงกลมตลอดเลยล่ะ”
การเดินเป็นวงกลมคือ สภาพของขาที่อ่อนแรง เมื่อก้าวไปหนึ่งก้าว ขาอีกข้างที่ไม่มีแรงก็จะขยับไปแบบไร้ทิศทาง และกลายเป็นการเดินเป็นวงกลม เพราะไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของขาได้
หลังจากขึ้นนั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว ผู้เป็นภรรยาก็พูดขึ้นมาว่า “ไปที่หมู่บ้านหวังกันเถอะ”
“แม่ยังโอเคอยู่ไหมเนี่ย?” ลูกชายของเธอถาม “แม่ต้องล้อเล่นอยู่แน่ๆ ผมบอกแม่แล้วนี่ ว่ามันเป็นเรื่องหลอกลวงน่ะ”
“ก็แล้วถ้ามันได้ผลขึ้นมาจริงๆล่ะ?” เธอถาม “แม่ลองถามคนในหมู่บ้านนั้นดูแล้ว ผู้ชายที่ชื่อ หลี่ชื่อเหอ คนนั้นป่วยเป็นโรคอุดตันตอนหน้าหนาวปีที่แล้ว แต่ตอนนี้เขากลับหายเป็นปกติดี ราวกลับเขาไม่เคยป่วยมาก่อน แม่ฟังมาว่า เขาไม่ได้กินยาอะไรเป็นพิเศษเลยสักอย่าง เขาแค่ไปรักษากับหมอหวัง แล้วจากนั้นเขาก็หายดี”
เธอกันไปหาสามีและถามว่า “คุณโอเคกับเรื่องนี้ไหมคะ?”
“ไปปปป…” เขาพูดไม่ชัดถ้อยชัดคำ มุมปากข้างหนึ่งของเขาเอียงลง มีน้ำลายไหลยู่ตลอดเวลา และเขาก็ต้องใช้มือถือผ้าขึ้นมาเช็ดด้วยมือถือสั่นเทา นอกจากปากที่บิดเบี้ยวของเขาแล้ว แขนและขาของเขาก็ไม่สามารถควบคุมได้ดีเช่นกัน
“ไปกันได้แล้ว” เธอพูดกับลูกชาย “หรือลูกอยากให้พ่ออยู่ในสภาพแบบนี้ตลอดไป?”
“ก็ได้ ไปกัน หวังว่ามันจะได้ผลนะ” ชายหนุ่มขับรถไปยังหมู่บ้านหวัง ซึ่งเขาต้องแวะถามคนข้างทางเพื่อตามหาหมู่บ้านเล็กๆกลางเขาแห่งนี้ “อยู่ไกลจังเลย”
ทันทีที่เขาขับเข้าไปในหมู่บ้าน เขาก็พบว่ามีบางอย่างสะดุดตาเข้า ที่ข้างถนนมีรถหรูหลายคันจอดอยู่
“โว้ว! หมู่บ้านเล็กๆแบบนี้ กลับมีคนรวยเยอะจริงๆ” ชายหนุ่มพูด “นี่มันรถนำเข้าทั้งนั้น แต่ละคันก็แพงมากด้วย!”
ชายหนุ่มถอนหายใจและขับรถมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ของหมู่บ้าน จากนั้น เขาก็เลี้ยวรถเข้าจอดข้างทาง เขามองเห็นบ้านขนาดเล็กที่ดูเหมือนจะเป็นสไตล์ฮุยโจว
“โอ้โห บ้านหลังนี้สวยจังแฮะ” ชายหนุ่มพูด
“แม่จะลงไปถามดู” แม่ของเขาพูด
เธอเดินไปเคาะประตูและผลักเปิดเข้าไปด้านใน เมื่อเห็นว่า มีชายหนุ่มที่ดูจะอายุพอๆกับลูกชายของเธอ เธอก็ถามออกไปด้วยความลังเลว่า “หมอหวังอยู่ที่นี่ไหมคะ?”
“ครับ ผมเอง” หวังเย้าพูด “มีอะไรให้ช่วยเหรอครับ?”
“เอ่อ สามีของฉันป่วยเป็นโรคเส้นเลือดอุดตันน่ะค่ะ เขาเพิ่งออกจากโรงพยาบาลวันนี้เอง” เธอพูด “ฉันได้ยินมาว่า คุณสามารถรักษาโรคนี้ได้ เราเลยมาที่นี่ด้วยหวังว่า คุณจะช่วยดูอาการของเขาสักหน่อยน่ะค่ะ”