Elixir Supplier - ตอนที่ 676
676 หนานชานการแพทย์
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการทำงานของคนส่วนใหญ่ วันต่อมา จึงมีคนเดินทางไปหาหมอมากขึ้น หวังเย้าทำงานตลอดทั้งวันไปจนกระทั่งฟ้ามืด
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ เขาก็ไปที่บ้านของตระกูลซุน เจิ้งเหว่ยจวินและซุนหยุนเชิงต่างก็อยู่กันพร้อมหน้า ทั้งสามพูดคุยกันเรื่องการก่อตั้งบริษัทยาขึ้นมา
หวังเย้า, เจิ้งเหว่ยจวิน, และซุนหยุนเชิงจะแบ่งหุ้นเป็น 51%, 27%, และ 21% อีก 2% ที่เหลือจะถูกแบ่งให้กับ เว่ยห่าย, เทียนหยวนถูและอีกคนที่ชื่อ เหอเจียลั้ว มันเป็นเรื่องปกติของบริษัทที่จะมีหุ้นส่วนอยู่หลายคน สินทรัพย์ที่ใช้ขึ้นทะเบียนอยู่ที่ 100 ล้านหยวน หวังเย้าลงไป 15 ล้าน และที่เหลือก็จะเฉลี่ยกันไปตามหุ้นที่แต่ละคนถือ
ที่เหลือก็คือการปรึกษากันเรื่องขั้นตอนและสถานที่ตั้งบริษัท หวังเย้าเสนอให้เป็นที่เขตเหลียนชาน ซึ่งใกล้บ้านเขา และยังเป็นการช่วยสนับสนุนบ้านเกิดของเขาไปในตัวด้วย ทั้งเจิ้งเหว่ยจวินและซุนหยุนเชิงต่างก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้
เจ้าหน้าที่ของเขตเหลียนชานต่างก็ตื่นเต้น เมื่อได้ยินว่าจะมีเงินทุนจำนวนมหาศาลมาลงทุนที่เขต พวกเขาได้แต่หวังว่า พวกเขาจะสามารถดึงดูดนักลงทุนกลุ่มนี้ให้มาลงทุนจริงๆได้ ไม่เหมือนกับโครงการก่อนหน้านี้ ที่ผู้บริหารบริษัทได้กลับคำและมีแค่คำว่ากำลังดำเนินการมอบให้พวกเขามาโดยตลอด
ครั้งนี้ มันเป็นการลงทุนของคนกลุ่มใหญ่ที่มีทั้งกำลังและอิทธิพล หากโครงการเป็นไปได้ด้วยดี มันก็จะเป็นผลดีต่อการพัฒนาของเขตเหลียนชาน ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงกระตือรือร้นกันเป็นพิเศษ ผู้ปกครองเขตได้ลงมาดูแลด้วยตัวเอง และยังสั่งการให้ทุกฝ่ายให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
ตระกูลเจิ้งรับหน้าที่ดำเนินการขั้นตอนต่างๆทั้งหมด ส่วนซุนหยุนเชิงรับหน้าที่แก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างโรงงาน เพราะตัวเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าหน้าที่ของที่นี่ และมีความคุ้นเคยกับเจ้าหน้าที่ค่อนข้างมาก
ปัญหาที่ใช้เวลาจัดการนานที่สุดก็เห็นจะเป็นชื่อบริษัท เจิ้งเหว่ยจวินและซุนหยุนเชิงต่างก็ยกเรื่องนี้ให้หวังเย้าเป็นคนตัดสิน แต่เขาก็ยังไม่สามารถหาชื่อที่เหมาะสมได้สักที
“เอาชื่อ หนานชานการแพทย์ ดีไหมครับ?” ซุนหยุนเชิงเสนอ
“อืม ผมว่าชื่อนี้ก็ดีนะ” เจิ้งเหว่ยจวินพูด หลังจากที่คิดอยู่ครู่หนึ่ง
หนานชานเหรอ?
“เชียนเชิงคิดว่ายังไงครับ?” ซุนหยุนเชิงถาม
“ก็ดีนะ” หวังเย้าพูด
“สรุปเอาชื่อนี้นะครับ?” ซุนหยุนเชิงถาม
“โอเค” หวังเย้าตอบ
ปัญหาจบลงในเวลาหนึ่งชั่วโมงกว่า
“ผมว่า เราน่าจะมาฉลองกันนะครับ” เจิ้งเหว่ยจวินพูดด้วยรอยยิ้ม ตอนนี้ เขาสามารถลุกขึ้นเดินได้แล้ว และไม่จำเป็นต้องนั่งรถเข็นอีกต่อไป ดังนั้น เขาจึงมีความสุขอย่างมาก
“ดีเลย” ซุนหยุนเชิงพูด
“เราต้องเลือกวันดีสักวันนะ” หวังเย้ายิ้ม
เมื่อเรื่องทุกอย่างจบลงด้วยดี เขาก็ออกมาจากบ้านของซุนหยุนเชิงแบะขึ้นไปบนเนินเขาหนาชาน ในเย็นวันนั้น เขาก็นสูตรยาที่เขามีออกมาเลือกดู
ยาถอนพิษ, อันเฉินซาน, เป่ยหยวนทัง, เจินถงซาน, ผงซานหยาง, เม็ดยาจิ่วเฉา, ถงหลัวซาน, เชิงจีซาน, ขี้ผึ้ง…
ปัญหาก็คือ ยาส่วนใหญ่มีสมุนไพรรากเป็นส่วนผสม ยาเหล่านี้จึงไม่เหมาะที่จะผลิตในปริมาณมาก ซึ่งก็หมายความว่า สูตรยาเหล่านี้ไม่สามารถนำไปให้โรงงานผลิตได้ สูตรยาที่เขาสามารถนำออกไปผลิตในปริมาณมากได้ก็คือ ซุปเป่ยหยวนและผงซานหยาง
เขารู้เรื่องเกี่ยวกับบริษัทยาไม่มาก และได้ปรึกษาเรื่องนี้กับเพื่อนๆของเขามาก่อนหน้าแล้ว บริษัทยาที่ตั้งขึ้นมานี้ จะผลิตยาสมุนไพรจีนเป็นหลัก ขอแค่มียาตัวหรือสองตัวที่สามารถติดตลาดได้ บริษัทก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว
เจิ้งเหว่ยจวินและซุนหยุนเชิงต่างก็มั่นใจในคุณภาพของยาสมุนไพรที่ผลิตขึ้นมาโดยหวังเย้า พวกเขาคือคนไข้ที่มีประสบการณ์ใช้จริงกับยาของหวังเย้า พวกเขาจึงเชื่อโดยไม่มีข้อโต้แย้ง แต่ไม่มีใครรู้ถึงส่วนผสมที่แท้จริงของตัวยา
ในเรื่องความยากในของการผลิตยาออกมาให้ได้ในปริมาณมากนั้น ในเวลานี้ พวกเขายังไม่ได้นำมาพิจารณาอย่างละเอียด เพราะสมุนไพรที่ใช้ก็คือสมุนไพรที่หาได้ทั่วไป และขั้นตอนการทำก็ไม่ได้ถือว่ายุ่งยากมาก
หวังเย้าที่อยู่บนเนินเขาหนานชานใช้เวลาคิดอยู่นาน เขาเขียนบันทึกลงไปในสมุด ก่อนที่จะปิดไฟและเข้านอน
เช้าตรู่ของวันถัดมา เพราะเข้าสู่เดือนมิถุนายนแล้ว อากาศตอนเช้าจึงร้อนเล็กน้อย หวังเย้าลงจากเขาในตอนเช้า
มีคนมาถึงคลินิกตั้งแต่เช้า พวกเขายืนพิงกำแพงทางทิศตะวันตก เพราะมีต้นจินเหอสองต้นที่กำลังเบ่งบานอยู่ภายในสวนด้านนั้น มันจึงเผื่อแผ่ร่มเงาออกมาถึงด้านนอกด้วย
ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของหวังเย้า ฉันน่าจะเอาเก้าอี้กับม้านั่งมาวางแถวนี้ดู
เขาไม่ใช่แค่ต้องรักษาคนไข้เท่านั้น แต่ยังต้องให้ความสะดวกสบายแก่คนไข้ที่มาด้วย
หลังจากคลินิกเปิดได้ไม่นาน พันจวินก็มาถึง วันนี้เขาไม่ต้องเข้าเวรที่โรงพยาบาล เขาจึงมาช่วยที่คลินิกและลดภาระของหวังเย้าไปบางส่วน
ช่วงเที่ยง คนไข้ก็ตรวจเสร็จหมดทุกคน ทั้งสองจึงหยุดพักและไปหาอะไรทานด้วยกัน
“อาจารย์คิดจะเอายาแผนตะวันตกมาใช้ที่นี่ด้วยไหม?” พันจวินถาม
จากการสังเกตของเขาแล้ว คนไข้บางคนสามารถรักษาได้ด้วยยาแผนตะวันตก เพราะที่โรงพยาบาลและคลินิกนอกเวลาต่างก็รับมือด้วยวิธีนี้กันทั้งนั้น ซึ่งมันอาจจะเร็วกว่าการกินยาสมุนไพรของจีนด้วยซ้ำ
“ไม่คิด” หวังเย้าพูดอย่างชัดเจน
เขาได้รับสืบทอดความรู้ของแพทย์ปรุงยาโบราณมา ถึงเขาจะไม่ได้เกลียดแพทย์แผนตะวันตก แต่เขาจะใช้มันได้ยังไงล่ะ?
“อ่อ เข้าใจแล้ว” พันจวินพูดออกไปเพราะความหวังดีเท่านั้น ถ้าอาจารย์ของเขาต้องการซื้อยาแผนตะวันตกมาขายที่คลินิก เขาก็สามารถช่วยหาสินค้าที่ราคาถูกให้ได้ แต่ถ้าเขาไม่ต้องการ ถ้าอย่างนั้นก็ลืมมันไปซะ
หลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จ พวกเขาก็กลับไปที่คลินิก ซึ่งไม่นานก็มีคนไข้เดินทางมาถึง
ด้วยชื่อเสียงที่เพิ่มขึ้น จึงทำให้บันชีเวยป๋อของหวังเย้าได้รับความสนใจมากขึ้นตามไปด้วย หลายคนที่อาศัยอยู่ในเขตเหลียนชานต่างรู้ว่า ในหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง มีหมอจีนอายุน้อยที่มีฝีมือเปิดคลินิกอยู่ที่นั่น หลายๆคนจึงเดินทางมาเพื่อรักษากับเขา และหลังจากได้กินยา พวกเขาก็หายดี ซึ่งก็ทำให้ชื่อเสียงของเขาขยายวงกว้างออกไป
คนมารักษามากขึ้น และมีคนที่แปลกและน่าสนใจมาให้เห็นมากขึ้นด้วย
เวลาประมาณบ่ายสี่โมง ผู้ชายและผู้หญิงในวัยประมาณ 30 เดินทางมาที่คลินิก
“คุณรู้สึกไม่สบายตรงไหนเหรอครับ?” หวังเย้าถาม
“คุณคือหมอหวังเหรอ?” ผู้หญิงถาม
“ครับ คุณจะมาตรวจกับหมอรึเปล่า?” หวังเย้าถาม
“ค่ะ ตรวจค่ะ” เธอตอบ
“คุณรู้สึกไม่สบายตรงไหนครับ?” หวังเย้าสอบถามคนไข้ พร้อมกับเริ่มสังเกตตัวเธอไปด้วย
ชายหญิงทั้งสองคนต่างดูปกติดี ร่างกายของพวกเขาไม่ได้มีความผิดปกติอะไรเลย
“เราอยากมีลูกค่ะ” เธอพูด
หวังเย้าและพันจวินต่างประหลาดใจเมื่อได้ยิน
“หมายความว่ายังไงครับ? คุณมาที่นี่เพื่อขอให้ช่วยเรื่องการมีลูกอย่างนั้นเหรอครับ?” หวังเย้าถาม
“ถ้าจะให้ดี เราอยากได้ฝาแฝดชายหญิงไปเลยครับ” ผู้ชายพูด
หวังเย้าอึ้งไป เขาเปิดคลินิกมานานพอสมควรแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจอคนไข้แบบนี้
“หมายความว่ายังไงครับ?” หวังเย้าถาม
“ฉันได้ยินมาว่า มันมียาแบบที่ว่า ถ้ากินเข้าไปแล้วจะช่วยให้สามารถมีลูกได้น่ะค่ะ” ผู้หญิงพูด
“เอ่อ ผมไม่รู้ว่ามียาแบบนั้นด้วย แต่ที่นี่ไม่มีหรอก ขอโทษด้วยนะครับ” หลังจากที่ได้รู้เป้าหมายของคนทั้งสองแล้ว หวังเย้าก็ได้แต่ยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้
“หมอ หมอไม่มีมันจริงๆเหรอ?” ผู้ชายถาม “เราจ่ายได้นะ แล้วเราก็จะไม่บอกใครด้วย”
“ที่นี่ไม่มียาแบบนั้นหรอกครับ” หวังเย้าพูด
“แล้วหมอรู้ไหม ว่าเราจะไปหายาแบบนั้นได้ที่ไหน?” ผู้ชายถาม
“ขอโทษด้วย แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน” หวังเย้าส่ายหน้า
“ขอบคุณครับ” ผู้ชายพูด “ลาก่อนครับ”
หลังจากสองสามีภรรยากลับไปแล้ว พันจวินก็พูดขึ้นมาว่า “อาจารย์ มีคนแบบพวกเขาอยู่เยอะมาก! ตอนฉันอยู่ที่โรงพยาบาล ก็มีคนมาถามฉันเรื่องนี้เหมือนกัน ตอนนี้กฎการมีบุตรถูกเปลี่ยนแล้ว หลายๆคนก็เลยคิดจะมีลูกคนที่สองกัน บางคนก็อยากจะมีฝาแฝดชายหญิงทีเดียวไปเลยก็มี”
“มันมียาแบบนั้นอยู่ด้วยเหรอ?” หวังเย้าถาม
“อืม ก็ประมานั้น” พันจวินพูด “มันเป็นเรื่องทางการแพทย์ แต่ฉันก็ไม่รู้หรอกว่ามันใช้ยังไง”
หวังเย้าพยักหน้า ถึงจะบอกว่า แพทย์ปรุงยาโบราณสามารถรักษาได้ทุกโรค แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่า มันจะสามารถเอามาใช้กับเรื่องแบบนี้ได้ด้วยรึเปล่า