Elixir Supplier - ตอนที่ 680
680 ตัดสายสัมพันธ์
เช้าวันนั้น พวกเขาไปที่ร้านขายเนื้อแกะและสั่งเนื้อแกะมาหนึ่งกิโล, เครื่องเคียงสี่อย่าง, และเหล้าอีกสองขวด
“เฮ้อ คราวนี้ดูเหมือนเราจะก้าวพลาดแล้วล่ะ” เฉาจื่อเจินพูด
“ไร้สาระ เราไม่ได้ก้าวพลาดสักหน่อย” เฉาเหมิงพูด “เราเข้ามาในอีกจังหวัดหนึ่ง มันก็ไม่แปลกที่เราจะไม่คุ้นเคยกับสถานการณ์ของที่นี่ มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเจอกับปัญหายากๆบ้าง แต่เราจะกลัวไม่ได้เด็ดขาด แล้วเราก็จะไม่ถอยด้วย ก็เหมือนกับตอนที่เราเจอปัญหาตอนอยู่ที่เสฉวนกับตงเป่ยนั่นแหละ เราก็จัดการกับปัญหาพวกนั้นได้ไม่ใช่เหรอไง?”
ในฐานะที่เป็นหัวหน้าทีม เฉาเหมิงมักจะคอยปลุกกำลังใจของลูกทีมในเวลาที่พวกเขาต้องเจอกับปัญหาอยู่เสมอ คำพูดของเขานั้นก็ง่ายๆคือ ความยากลำบากอยู่แค่ชั่วคราว และก็จะสามารถก้าวผ่านมันไปได้ จากนั้น พวกเขาก็จะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะและไม่ช้าก็เร็ว เงินก็จะมาอยู่ในมือของพวกเขา แต่ครั้งนี้ เขาก็รู้สึกเช่นเดียวกันว่า ระดับความยากนั้นเพิ่มสูงขึ้น
ทุกคนต่างก็อยากได้เงินมาโดยที่ไม่ต้องเสี่ยงหรือสูญเสียอะไรไป แต่มันเป็นไปไม่ได้ งานของพวกเขายิ่งความเสี่ยงสูง เงินที่ได้ก็จะสูงตามไปด้วย ก็เหมือนกับครั้งก่อน ที่พวกเขาอยู่ที่เมืองอีและพยายามจะเบลคเมลล์ใครคนหนึ่ง ทั้งเวลาและสถานที่ล้วนเป็นใจ แต่พวกเขากลับเลือกเหยื่อผิดคน คนที่ถูกพวกเขาเบลคเมลล์เป็นตัวเป้งของเมืองนั้นชื่อว่า หวงซื่อ และเป็นผลทำให้พวกเขาพลาดเงินไป แล้วหนึ่งในพวกเขาก็ยังขาหักและต้องรักษาตัวอยู่ที่บ้านในตอนนี้
ในตอนที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่นั้น ซุปเนื้อแกะก็ถูกนำออกมาเสริฟพร้อมกับเหล้าอีกสองชวด
“ดื่ม!” เฉาเหมิงชูแก้วขึ้น เขาดื่มเหล้าเข้าไปครึ่งแก้วในครั้งเดียว “มาสนุกกันให้เต็มที่ งานจะเดินได้ก็ตอนที่เราอิ่มเท่านั้น”
พวกเขาถูกกักตัวเอาไว้ตลอดทั้งคืน ดังนั้น แต่ละคนจึงหิวกันมาก และตักอาหารเข้าปากกันไม่หยุด
“อื้ม ซุปเนื้อแกะนี้รสชาติดีจริงๆ” เฉาเหมิงพูด
เอิ๊ก! ในตอนที่ดื่มเหล้าเข้าไป พวกเขาก็ยังคงสะอึกไม่หาย
“แม่ง ทำไมยังสะอีกอยู่ได้” หนึ่งในพวกเขาพูดขึ้นมา
“ดื่มเข้าเหล้าเข้าไป เดี๋ยวก็หายเอง!” เฉาเหมิงชูแก้วขึ้นและดื่มเหล้าเข้าไปหนึ่งอึก
ทุกคนบนโต๊ะต่างก็ดื่มเหล้า แต่ทุกคนก็ยงคงสะอึกไม่หาย
“พ่อฉันยังอยู่ที่คลินิกอยู่เลยนะ” เฉาจื่อเจินพูดด้วยเสียงเล็กๆ เขามองไปที่แก้วเหล้าของตัวเอง “ไม่รู้ว่านี่เหล้าอะไร แต่มันร้อนมากเลย!”
“พ่อของแกน่ะเหรอ?” เฉาเหมิงถาม “พ่อของแกเป็นโรคหัวใจอยู่ก่อนแล้ว มันรักษายังไงก็ไม่มีทางหายหรอก เขาอายุมากแล้วก็ไปรักษากับหมอ แต่ก็หมอก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก เขาก็เป็นได้แค่ตัวถ่วงเท่านั้น ไม่มีเขาสักคน แกก็จะไปได้ไกลกว่านี้อีกเยอะ พอเราได้เงินมา แกก็จะรวย ดูอย่างฉันสิ!”
เฉาจื่อเจินก้มหน้า ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
อยู่ๆเฉาเหมิงก็ตบโต๊ะดังปัง ทุกคนต่างมีสีหน้าหวาดกลัวและเงยหน้าขึ้นมองเขา
“มีอะไรงั้นเหรอ?” ชายคนหนึ่งถาม
“แก แกต้องเปลี่ยนความคิดของตัวเองใหม่” เขาพูดพร้อมกับหรี่ตา “คนในสายอาชีพแบบเราต้องขึ้นอยู่กับมันสมองและความหน้าด้าน! ถ้าแกอยากจะสร้างความแตกต่างและหาเงินให้ได้เยอะๆ แกก็ต้องพึ่งพาอาศัยทุกอย่างที่แกมี และตัดความสัมพันธ์เก่าๆไปให้หมดซะ!”
หลังจากที่พูดจบ ก็มีน้ำถูกพ่นออกมาจากปากของเขา ราวกับภาพของปืนฉีดน้ำที่ยิงออกมาด้วยความแรงสูง เหล้าและซุปแกะที่เพิ่งดื่มเข้าไปถูกพ่นออกมาทั้งหมด
“เชี่ย! นี่มันเรื่องอะไรกัน?” เฉาเหมิงตกใจ
ในตอนที่เขากำลังพูดปลุกใจอยู่นั้น เขารู้ได้ว่า คนของเขากำลังตื่นเต้นกันอยู่ แต่อยู่ๆเขากลับรู้สึกว่ามีบางอย่างมวนอยู่ภายในท้องของเขา มันคล้ายกับน้ำเดือดในหม้อ หรือน้ำที่เทลงไปบนกรดซัลฟูริคจนเกิดการระเบิดขึ้น เขาไม่สามารถยับยั้งมันได้ และพ่นมันออกมาทางปากโดยที่ไม่สามารถควบคุมอะไรได้เลย
ทุกคนต่างตกใจ และหันไปมองอาหารบนโต๊ะ รวมทั้งซุปเนื้อแกะที่วางอยู่ตรงหน้าของพวกเขา
“แล้วเราจะกินได้ยังไงกัน?” หนึ่งในพวกเขาถาม
เฉาเหมิงรู้สึกอับอายและพูดออกมาว่า “พระเจ้า ฉันแค่เติมผงปรุงรสเข้าไปในซุปเท่านั้นนะ ทำไมฉันถึงเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ?”
“หัวหน้า หรือว่าซุปของหัวหน้าจะมีปัญหากัน?” หนึ่งในคนของเขาถาม
“ใช่แล้ว มันจะต้องมีปัญหาแน่ๆ!” ชายอีกคนรีบพูดขึ้นมา และเข้าใจว่าหัวหน้าของเขาต้องการจะบอกอะไร สโลแกนของพวกเขาก็คือ คว้าทุกโอกาสที่เข้ามา หาเงินทุกเม็ดเท่าที่จะทำได้ เบลคเมลล์ทุกคนที่พวกเขาเจอ และลองใช้ทุกวิถีทางที่พวกเขามี
ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็อาเจียนเอาเหล้า, ซุปแกะ, และเลือดออกมา
“เชี่ย หัวหน้าใส่พิษลงไปในอาหารใช่ไหมเนี่ย!” คนของเขารู้สึกไม่ดีขึ้นมา
“ฉันเปล่านะ!” เฉาเหมิงเริ่มมีท่าทีตื่นตระหนก “ทำไมเราทุกคนถึงได้มีอาการแบบนี้กันหมดล่ะ? เป็นเพราะเนื้อแกะเหรอ?”
จากนั้นไม่นาน อีกสองคนที่เหลือก็เริ่มอาเจียนออกมาเหมือนกัน คล้ายกับว่า ในท้องของพวกเขามีแรงดันบางอย่างอยู่ภายใน พวกเขาไม่สามารถควบคุมไม่ให้มันไหลทะลักออกมาทางปากได้เลย
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?” ผ็จัดการร้านเดินออกมาจากครัว หลังจากที่ได้ยินสียงโวยวายจากพวกเขา และเมื่อได้เห็นสถานการณ์ตรงหน้า เขาก็ต้องตกใจอย่างมาก
“นี่แกเอาอะไรใส่ลงไปในอาหารน่ะ?” เฉาเหมิงถาม
“ไม่มีๆ” ผู้จัดการร้านพูด
“แล้วผักล่ะ?” เฉาเหมิงถาม
“เราเพิ่งซื้อเมื่อเช้านี้เอง” ผู้จัดการร้านพูด “มีผักเหลือจากเมื่อวานแค่นิดหน่อย แต่มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร!”
“เราจะทำยังไงกันดีล่ะ?” พนักงานถาม
“จะทำอะไรล่ะ? ก็เรียกรถพยาบาลสิ!” ผู้จัดการร้านพูด
ผู้จัดการทำงานที่ร้านอาหารมาได้สามปีแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจอเรื่องแบบนี้ คนเหล่านี้มีสภาพเหมือนคนใกล้ตายไม่ผิด
ในเวลานี้เอง ก็มีคนผลักประตูเข้ามาและเห็นคนสี่ที่อาเจียนออกมาจนเต็มโต๊ะ
“เชี่ย นี่มันอะไรกัน?” สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที และรีบหันหลังเดินกลับออกไป
รถพยาบาลมาถึงในเวลาอันสั้น ในตอนที่พวกเขามาถึง ชายทั้งสี่ก็แทบไม่เหลือแรงเดิน พวกเขาอาเจียนเอาทุกอย่างในกระเพาะออกมา และในตอนท้ายยังอาเจียนเป็นเลือดอีกด้วย
“เกิดอะไรขึ้นที่นี่กัน?” แพทย์ที่มากับรถถาม
หลังจากที่ได้เห็นสภาพของชายทั้งสี่แล้ว แพทย์ก็ต้องตกใจ
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน พวกเขาเข้ามากินอาหารในร้าน แล้วอยู่ๆก็กลายเป็นแบบนี้!” ผู้จัดการร้านตื่นตกใจจนใบหน้าซีดขาว “หวังว่าพวกเขาจะไม่เป็นอะไรนะ!”
เจ้าหน้าที่ช่วยกันพาร่างของพวกเขาขึ้นไปบนรถพยาบาลและพาไปรักษาต่อที่โรงพยาบาล
“เรื่องเป็นมายังไงเหรอ?” แพทย์คนหนึ่งถาม
“ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน” แพทย์ที่ไปกับรถพยาบาลพูด “พวกเขาไปกินข้าวที่ร้านเนื้อแกะ แล้วอยู่ๆก็กลายเป็นแบบนี้ไป หรือเป็นอาการของอาหารเป็นพิษ?”
“ถ้าอาหารเป็นพิษ แค่กินยาคงช่วยได้ไม่เยอะหรอก” แพทย์พูด เขาชี้ไปที่ชายคนหนึ่ง “ดูนั่น! เขาอ้วกออกมาเป็นเลือดแล้ว!”
“หมอ ช่วยผมด้วย ผมยังไม่อยากตาย” เขาพูด
พันจวินบังเอิญเดินผ่านเขาพอดี “มีเรื่องอะไรกันเหรอ?”
“หัวหน้า คนพวกนี้ถูกรถพยาบาลพาตัวมา อาการของพวกเขาหนักมาก” แพทย์พูด
“หื้ม!” เมื่อเขาเดินเข้าไปดูคนไข้ เขาก็ต้องตกใจ
พวกเขาคือพวกคนที่พยายามจะเบลคเมลล์อาจารย์ใช่ไหม? ทำไมพวกเขาถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ?
“พระเจ้า เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขากัน? หรือจะเป็นเพราะกรรมตามสนอง!” พันจวินพูดขึ้นมา
“หัวหน้าพูดเรื่องอะไรน่ะ?” แพทย์ที่ยืนอยู่ข้างเขามีท่าทีงุนงง
วันนี้ หัวหน้าของพวกเขาเป็นอะไรไป? ทำไมเขาถึงได้พูดแบบนั้นกัน?
“โอ้ โทษที ผมเผลอตัวไปหน่อยน่ะ” พันจวินพูด
หลังจากตรวจดูอาการของคนไข้ทั้งสี่แล้ว พวกเขาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่า ทำไมพวกเขาถึงได้มีอาการแบบนี้ได้
พันจวินแอบปลีกตัวออกไปเงียบๆและโทรไปหาหวังเย้า เขาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับชายทั้งสี่ให้หวังเย้าฟัง
“ได้ เข้าใจแล้ว อาจารย์” พันจวินพูดก่อนที่เขาจะเดินกลับไปด้านใน “ทำการล้างท้องและฉีดยาสลบให้พวกเขา”
“หา?” แพทย์พูดขึ้นมา
การล้างท้องเป็นขั้นตอนที่ค่อนข้างทรมาน แต่หลังจากนั้น ทุกอย่างก็จะกลับมาเป็นปกติ
“ยังมีอาการเหลืออยู่ในกระเพาะของพวกเขาอีกไหม?” พันจวินถาม
“ไม่เหลืออะไรแล้ว นอกจากกรดในกระเพาะกับเลือด” แพทย์พูด
“โอ้ ถ้าอย่างนั้นก็พาพวกเขาไปที่แผนกล้างท้องได้เลยนะ” พันจวินพูด
เขาเกลียดคนพวกนี้เข้ากระดูกดำและไม่ต้องการเห็นหน้าพวกเขาอีก นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาสมควรได้รับแล้ว
ชายทั้งสี่เข้ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล
หลังจากที่ได้รู้ว่า พวกเขาไม่ใช่คนในพื้นที่ แถมยังเป็นคนจากจังหวังอื่นด้วยแล้ว แพทย์ก็พูดขึ้นมาว่า “พวกคุณต้องติดต่อญาติของตัวเองเดี๋ยวนี้เลย!”
โรงพยาบาลไม่ใช่องค์กรการกุศล ถ้าหากคนที่มารักษาไม่มีเงิน พวกเขาก็จะไม่ได้รับการรักษา ถึงมันจะดูโหดร้ายไปบ้าง แต่มันก็คือชีวิตจริง
ภายในห้องคนไข้ ชายทั้งสี่ต่างตกอยู่ในความหวาดกลัว
“หัวหน้า นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับพวกเรากัน?” หนึ่งในพวกเขาถาม
หลังจากที่กินซุปเนื้อแกะไปแล้ว พวกเขาก็นึกถึงหมอหนุ่มคนนั้น รวมไปถึงคำพูดของเขาในตอนที่เจอกัน พวกเขาต่างก็คิดถึงการกระทำของหวังเย้าในตอนนั้นขึ้นมา
พวกเศษสวะ!
นั่นคือคำพูดที่หมอหนุ่มใช้เรียกพวกเขา ถูกแล้ว พวกเขามันเป็นสวะของแท้เลยล่ะ