Elixir Supplier - ตอนที่ 691
691 ชายแก่หัวรั้น
“เรามาถึงที่นี่กันแล้ว ทำไมจะต้องกลับมาอีกทีพรุ่งนี้ด้วยล่ะ?” หนึ่งในหญิงสาวสองคนพูดขึ้นมา
“ฉันขอถามหน่อยได้ไหม ว่าอาจารย์บอกได้รึเปล่าว่าผู้หญิงคนไหนที่ป่วยน่ะ?” พันจวินถาม
ยิ่งเขาใช้เวลากับหวังเย้านานมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้จักหวังเย้ามากขึ้นเท่านั้น พันจวินรู้ว่า หวังเย้ามีความสามารถทางการแพทย์สูงมาก ยกตัวอย่างเช่น หวังเย้าเชี่ยวชาญในการวินิจฉัยทั้งสี่วิธีของแพทย์แผนจีนอย่างมาก
ความสามารถบางอย่างที่หวังเย้ามี ก็อยู่เหนือความคาดหมายของพันจวินไปมาก หวังเย้าสามารถบอกได้จากการมองว่า คนไหนที่ป่วยหรือไม่ป่วย และส่วนไหนในร่างกายของคนไข้ที่มีปัญหา เขาไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ในการวินิจฉัยโรคเลยด้วยซ้ำ และสามารถเริ่มการรักษาได้ในทันที
“ป่วยทั้งสองคนครับ” หวังเย้าพูดในขณะที่เขายกน้ำชาขึ้นมาจิบ “ที่ต่างกันก็คือ คนหนึ่งสามารถรักษาให้หายได้ แต่อีกคนไม่ได้”
“ฉันขออ่านบันทึกเคสคนไข้ของนายอีกได้ไหม?” พันจวินถาม
“ได้สิครับ” หวังเย้าเอาสมุดบันทึกของเขาให้กับพันจวิน
ครู่ต่อมา ก็มีคนไข้อีกคนเดินเข้ามาในคลินิก เขาเป็นชายชราวัยหกสิบที่ดูแข็งแรงดี แต่ดวงตาของเขากลับดูเซื่องซึม เขามาพร้อมกับชายวัยประมาณสี่สิบ
“ขอโทษครับ เรา…” ในตอนที่พันจวินกำลังจะบอกกับคนทั้งสองว่าบ่ายนี้หวังเย้าไม่รับตรวจคนไข้ หวังเย้าก็หยุดเขาเอาไว้ก่อน
“อาจารย์?” พันจวินถาม
“ให้พวกเขาอยู่ได้” หวังเย้าพูด
“โอเค” พันจวินพูด
“สวัสดีครับ หมอหวัง หมอช่วยตรวจพ่อของผมหน่อยได้ไหม?” ชายวัยกลางคนถาม
“นั่งก่อนสิครับ” หวังเย้าพูด “มีอะไรให้ผมช่วยเหรอครับ?”
“ฉันรู้สึกมึนหัวและชาในหัว แล้วยังมองเห็นภาพซ้อนเป็นบางครั้งด้วย” ชายชราพูด
“คุณลุงมีอาการแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วเหรอครับ?” หวังเย้าถาม
“ได้ประมาณเดือนหนึ่งแล้วล่ะ” ชายชราพูด
“คุณลุงเป็นโรคหัวใจหรือเคยผ่าตัดหัวใจมาก่อนไหมครับ?” หวังเย้าถาม
“เคย ฉันเคยทำบอลลูนหัวใจมาก่อน” ชายชราพูด
“คุณลุงมีปัญหาอยู่สองอย่างครับ” หวังเย้าพูด “อย่างแรกคือ อาการชาและเห็นภาพซ้อนเกิดจากมีการอุดตันของเส้นเลือดในสมองอยู่เล็กน้อย ซึ่งสามารถจัดการได้ อย่างที่สอง อาการมึนหัวมีสาเหตุมาจากการที่เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ แล้วมันก็ยังเกี่ยวกับอาการโรคหัวใจของคุณลุงด้วย การจะแก้ไขไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”
“หมอรักษาอาการเส้นเลือดอุดตันได้ไหม?” ชายวัยกลางคนถาม “อย่างน้อยๆก็แก้ได้อย่างหนึ่ง”
“ได้ครับ” หวังเย้าพูด
เรื่องนี้ง่ายมาก หวังเย้าสามารถใช้การฝังเข็มและการนวดสลายการอุดตันได้ ปัญหานี้ไม่ได้หนักหนาอะไร
หวังเย้าเริ่มด้วยการฝังเข็มให้กับชายชราเป็นอันดับแรก แต่ทันทีที่หวังเย้าลงเข็ม ชายชราก็มีท่าทีหงุดหงิดขึ้นมาทันที
“ฉันต้องนั่งอยู่แบบนี้นานแค่ไหนเหรอ?” ชายชราถาม
“การฝังเข็มจำเป็นต้องใช้เวลาพอสมควรครับ” หวังเย้าพูด “มีปัญหาอะไรรึเปล่าครับ?”
ชายชราไม่ได้ตอบอะไร และทำเพียงนั่งน่ามุ่ยเท่านั้น
“ถ้ารู้สึกไม่สบายตรงไหนก็บอกผมได้นะครับ” หวังเย้าพูด
“พ่อไม่เป็นไรนะ?” ชายวัยกลางคนถาม
“ฉันไม่เป็นไร” ชายชราพูดด้วยสีหน้าหงุดหงิด
หวังเย้ายังคงไม่สบายใจ เขาจึงจับดูชีพจรของชายชราเพื่อตรวจดูว่าทุกอย่างปกติดี ก่อนที่เขาจำดำเนินขั้นตอนต่อไป หลังจากฝังเข็มเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็เริ่มนวดให้กับชายชรา
ชายชราถามขึ้นมาอีกครั้ง “มันจะใช้เวลานานแค่ไหนเหรอ?”
หวังเย้าหยุดมือและมองไปที่ชายชรา “คุณลุงรีบกลับเหรอครับ?”
ชายชราไม่ได้ตอบ เขาดูมีท่าทีหมกหมุ่น
“พ่อเอาอีกแล้วนะ” ลูกชายของชายชราพูดด้วยท่าทีไม่พอใจ “อย่าไปสนใจเขาเลยครับหมอ เขาเป็นแบบนี้อยู่ตลอดแหละครับ อารมณ์ร้อน ช่วยรักษาต่อเถอะครับ”
หวังเย้าเริ่มนวดศีรษะของชายชราต่อ หลังจากนวดเสร็จ เขาก็ถามออกไปว่า “รู้สึกดีขึ้นบ้างไหมครับ?”
“ดีขึ้นเหรอ?” ชายชราถามด้วยสีหน้าสับสน
“ผมนวดให้เสร็จแล้ว ก็เลยอยากถามคุณลุงว่า คุณลุงรู้สึกดีขึ้นบ้างไหมครับ?” หวังเย้าไม่เคยเจอคนแปลกแบบชายชรามาก่อน
“โอ้ เสร็จแล้วเหรอ งั้นก็กลับกันเถอะ” ชายชราพูดกับลูกชายของเขา
“แล้วพ่อรู้สึกดีหรือไม่ดีล่ะ?” ลูกชายของเขาถามด้วยความหงุดหงิด
ชายชราไม่ได้ตอบอะไร และเดินออกไปจากคลินิกโดยไม่มีท่าทีจะหันกลับมาตอบ หลังจากที่จ่ายเงินเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้เป็นลูกก็ไล่ตามหลังชายชราไป
“เป็นคุณลุงที่น่าสนใจดีนะ” พันจวินพูดด้วยรอยยิ้ม
“อืม” หวังเย้าพูด
ชายชราเป็นคนอารมณ์ร้อน แม้แต่ลูกๆของเขาก็ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ บางคนก็เรียกคนแก่แบบนี้ว่า เด็กแก่ เพราะพวกเขาเป็นเหมือนกับเด็กที่มักจะอารมณ์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และชอบทำอะไรแบบเด็กๆอยู่เสมอ
“เขาป่วยหนักมากไหม?” พันจวินถาม
“ก็ประมาณหนึ่ง เขามีปัญหาใหญ่อยู่ที่หัวใจ เพราะเส้นเลือดในบริเวณนั้นเกิดการหดตัวอย่างรุนแรง เลยทำให้เขาต้องเข้ารับการทำบอลลูน แล้วอารมณ์ของเขาก็ยังส่งผลก็สุขภาพด้วย” หวังเย้าพูด “คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจจะต้องคอยระวังเรื่องของอารมณ์และพยายามทำใจให้สงบ อารมณ์ที่ขึ้นๆลงๆมีแต่จะทำให้อาการของพวกเขาแย่ลง ดูอย่างคุณลุงคนเมื่อกี้ยังไงล่ะ”
“ฉันคิดว่า วันนี้นายจะไม่ตรวจคนไข้แล้วซะอีก” พันจวินพูด
“ผมไม่ชอบผู้หญิงสองคนก่อนหน้านี้ ผมก็เลยไม่รักษาพวกเขา” หวังเย้าพูด “แต่คนไข้คนอื่นผมไม่มีปัญหา”
“สองคนนั้นมีปัญหาอะไรเหรอ?” พันจวินถาม
“พวกเธอคงไปทำอะไรที่มันไม่ค่อยดีมาน่ะครับ” หวังเย้าพูด
“ทำอะไรมาเหรอ?” พันจวินถามด้วยความแปลกใจ
“ไว้ถ้าพรุ่งนี้พวกเธอมา ผมจะบอกแล้วกันนะครับ” หวังเย้าพูด “แล้วพรุ่งนี้ พี่ต้องทำงานรึเปล่าครับ?”
“พรุ่งนี้ ฉันจะให้คนมาเปลี่ยนเวรแทน” พันจวินพูด
ด้านนอกคลินิก หลังจากขึ้นนั่งบนรถแล้ว ชายวัยกลางคยก็ถามพ่อของเขาว่ารู้สึกดีชึ้นบ้างหรือไม่
“อืม” ชายชราตอบอย่างเย็นชา
ลูกชายของเขาถอนหายใจออกมาและขับรถพาพ่อของเขากลับบ้าน
“เป็นยังไงบ้างจ๊ะ?” หลังจากกลับมาถึงที่บ้านแล้ว แม่ของเขาก็เข้ามาถาม
“หมอฝังเข็มและก็นวดให้พ่อ แต่พ่อก็ไม่ยอมบอกว่ารู้สึกยังไงบ้าง?” ชายวัยกลางคนตอบ
“อ่อ ลูกกลับเถอะจ๊ะ” แม่ของเขาพูด
“ครับ ถ้ามีอะไรแม่โทรหาผมได้เลยนะครับ” ชายวัยกลางคนพูด
“จ๊ะ” แม่ของเขาพูด
หลังจากที่ชายวัยกลางคนกลับไปแล้ว แม่ของเขาก็เข้าไปในห้องนอนและพบว่า สามีของเธอกำลังนอนอยู่บนเตียง
“เป็นอะไรไปเหรอ?” เธอถามสามี “คุณบอกว่ารู้สึกไม่สบาย เขาก็พาคุณไปหาหมอแล้วนี่นา”
“หมองั้นเหรอ!?” อยู่ๆชายชราก็ผุดลุกขึ้นมาด้วยความโมโห “เขาพาฉันไปที่หมู่บ้านเล็กๆ เพื่อไปหาหมอที่อายุยังไม่ถึงสามสิบด้วยซ้ำ หมออายุน้อยขนาดนั้นจะไปทำอะไรได้? ถ้าอย่างนั้นฉันก็เป็นหมอได้เหมือนกัน จะเรียกว่าหมอได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ฉันรู้ว่าเขางานยุ่ง แต่อย่างน้อย ก็ช่วยพาฉันไปโรงพยาบาลหน่อยก็ยังดี!”
“เขาก็เคยพาไปที่โรงพยาบาลห่ายชิวแล้วนี่นา” ภรรยาของเขาพูด
“นั้นมันผ่านมาได้สักพักแล้ว” ชายชราพูด
“อย่าโมโหไปเลย ลูกก็พยายามทำดีกับคุณเท่าที่เขาจะทำได้แล้ว แล้วฉันก็ได้ยินมาว่า หมอที่หมู่บ้านนั้นเก่งมากด้วยนะ”
“จริงเหรอ? แล้วทำไมฉันถึงไม่รู้เรื่องล่ะ?” ชายชราถามด้วยสีหน้าหงุดหงิด
“คุณจะไปรู้เรื่องอะไรกับเขากันล่ะ อยู่แต่บ้านทั้งวัน ไม่ฟังวิทยุก็อ่านหนังสือพิมพ์ แล้วจะไปรู้เรื่องกับเขาได้ยังไงกัน?” ภรรยาของเขาเริ่มไม่พอใจขึ้นมา
ผู้หญิงมีวัยหมดประจำเดือน ในบางครั้งผู้ชายก็มักจะมีอาการคล้ายกับผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนเช่นเดียวกัน สองปีที่ผ่านมา อารมณ์ของชายชราขึ้นๆลงๆง่าย โดยเฉพาะหลังจากการผ่าตัดครั้งนั้น แพทย์ที่ทำการผ่าตัดให้เขายังได้เตือนเขาเอาไว้ด้วยว่า ให้เขาพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองและอย่าโมโห อย่างน้อยๆก็อย่าโมโหตลอดเวลา ภรรยาและลูกๆของเขาก็พยายามที่จะไม่ทำให้เขาโมโห แต่ถ้าเขาต้องการเอาคืบ พวกเขาก็จะให้เขาไปถึงศอก เขาจึงกลายเป็นคนที่ทุกคนในบ้านตามใจทุกอย่าง
ชายชราไม่พูดอะไร และล้มตัวนอนต่อ ภรรยาของเขาก็หยุดพูดและออกไปจากห้อง
ยิ่งชายชราคิดถึงเรื่องที่เขาไปที่คลินิกของหวังเย้ามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจมากเท่านั้น เขาต้องการให้ลูกชายของเขาพาไปตรวจที่โรงพยาบาลในเมือง มากกว่าจะเป็นคลินิกในหมู่บ้านเล็กๆแบบนั้น เขาไม่อยากจะเชื่อว่า หมอหนุ่มคนนั้นจะกล้าฝังเข็มให้กับเขา มันทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นหนูทดลองตัวหนึ่ง
หลังจากที่นอนอยู่สักพัก ชายชราก็ลุกขึ้นนั่งอีกครั้ง เขาเดินกลับไปกลับมาอยู่ภายในห้อง เมื่อดื่มน้ำไปได้สองแก้ว เขาก็กลับไปนอนที่เตียงอีกครั้ง
ในหมู่บ้าน พันจวินออกจากคลินิกของหวังเย้าไปในตอนห้าโมงเย็น ซุนหยุนเชิงได้แวะเข้ามาที่คลินิกเพื่อทักทายหวังเย้า เมื่อจัดการเรื่องทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เขาก็เตรียมที่จะกลับเมืองเต๋า เพราะเขายังมีบริษัทให้ต้องดูแลอยู่ และไม่สามารถอยู่ที่หมู่บ้านไปได้ตลอด
“หมอหวัง ผมได้เลือกทำเลสำหรับสร้างโรงงานเอาไว้สองสามที่” เขาพูด “ทางหน่วยงานของที่นี่ก็ให้ความช่วยเหลืออย่างมาก ลองดูสิครับ”
เขาหยิบแผนที่ที่มีการทำเครื่องหมายเอาไว้สองจุดออกมา ทั้งสองจุดนี้มีการเดินทางที่ค่อนข้างสะดวก และเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการสร้างโรงงานขึ้นมา