Elixir Supplier - ตอนที่ 775 เขาเป็นยังไงบ้าง
“เขาเป็นยังไงบ้าง?” หูเหมยที่อยู่ข้างเขาถาม
“เขาไม่เป็นอะไร” เลี้ยจื้อจายตอบ
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี” เธอพูด
พวกเขาไม่รู้ว่าในตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง จึงเป็นกังวลว่าหวังเย้าอาจได้รับบาดเจ็บ ถึงยังไง เขาก็ถือเป็นกุญแจสําคัญที่จะทําให้แผนการสําเร็จได้
“แล้วคนที่ตายเป็นใครเหรอ?” หูเหมยถาม
“ฉันไม่รู้ บางทีอาจจะเป็นตัวแทนของเขาก็ได้” เจี้ยจื้อจายตอบ
“เขายังมีตัวแทนอยู่อีกเหรอ?” เธอถาม
อยู่ๆเจี้ยจื้อจายก็เกิดความคิดบ้าๆขึ้นมา “เป็นไปได้มากเลยล่ะ บางทีคนที่พวกเราติดต่อด้วยที่บริษัทมาตลอดจนถึงตอนนี้ก็อาจจะไม่ใช่ตัวจริง”
“จะเป็นไปได้ยังไง?” หูเหมยถาม “เราเจอเขาออกจะบ่อย ถ้าไม่ใช่ตัวเขาจริงๆ พวกเราก็น่าจะรู้ไม่ใช่เหรอ?”
“ถึงยังไงก็เป็นตัวแทนของเขา ก็คงจะต้องทําให้เหมือนที่สุดจนแยกไม่ออกว่าคนไหนตัวจริง คนไหนตัวปลอม” เลี้ยจื้อจายพูด “อีกอย่าง ทําไมเขาถึงถูกเรียกว่าตัวแทนล่ะ? ก็เพราะเขาเป็นนักแสดงน่ะสิ”
“แล้วทักษะการต่อสู้ของเขาล่ะ?” เธอถาม
“เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเรียนมันได้ แต่เขาคงรู้มาบ้างเท่านั้น” เจี้ยจื้อจายพูด “อีกอย่างมันคงไม่ง่ายที่จะถูกจับได้ ตัวตนของเขาถือเป็นบอสและใช้อํานาจเบ็ดเสร็จมาตลอด แล้วใครจะไปกล้าตั้งคําถามกับเขาล่ะ? ทุกวันเขามาสายและกลับดึกตลอด ไม่ว่าจะอยู่ในออฟฟิสหรือออกไปข้าง นอกก็มีคนเห็นเขาตลอด ความจริงถ้าลองคิดดูดีดี พวกเราได้เจอหน้าเขาบ่อยจริงเหรอ? อย่างมากพวกเราก็เจอเขาแค่ครั้งสองครั้งในหนึ่งอาทิตย์เท่านั้น”
“จะบอกว่า บอสจางอาจไม่ได้อยู่ที่บริษัท” หูเหมยพูด “ที่พวกเราเจอเป็นตัวปลอมมาตลอดสินะ
“เป็นไปได้มากเลยล่ะ แต่ตอนนี้ตัวปลอมคงจะตายไปแล้ว” เลี้ยจื้อจายพูด “การที่หมอหวังมาที่นี่ถือเป็นเรื่องดี เพราะพวกเราไม่เคยคิดถึงปัญหานี้มาก่อนเลย”
“จิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ชัดๆ” หูเหมยพูด “แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน?”
ชายในหมวกเบสบอลยืนอยู่บนยอดเขาติดทะเลที่ไหนสักแห่งในเมืองเต๋า เขาถอนหายใจ “คนคนนี้โผล่มาจากไหนกัน?”
“นายอยู่ที่นี่นี่เอง” ชายอีกคนพูด
“ฉันไม่รอบคอบเอง นายเจอฉันจนได้” ชายสวมหมวกถอนหายใจ
“เมื่อคืน บ้านของนายระเบิด แต่นายกลับมายืนมองทะเลอยู่แบบนี้” ชายอีกคนพูด “นายช่างมีอารมณ์สุนทรีย์จริงๆ!”
“แล้วจะให้ฉันทํายังไงล่ะ? โทรเรียกตํารวจเพื่อให้ฝ่ายนั้นรู้ว่าฉันยังไม่ตายน่ะเหรอ?” ชายสวมหมวกถาม
“เขาเป็นใคร?” ชายอีกคนถาม
“เขาเป็นคนมีฝีมือสูง” ชายสวมหมวกพูด “นายก็รู้ ถึงตัวแทนของฉันจะไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับฉัน แต่เขาก็ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นสูง เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น เขาสามารถทําให้พวกเขาล้มได้ในพริบตา ฉันไม่คิดว่าฉันจะทําได้ แล้วเขายังพูดว่า…”
“เขาพูดว่าอะไร?” ชายอีกคนถาม
“เขาบอกให้ฉันจ่ายหนี้” ชายสวมหมวกพูด
“จ่ายหนี้? นายติดหนี้อะไร?” ชายอีกคนถาม
“ฉันมีหนี้มากจนล้น” ชายสวมหมวกพูด “ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าใครเป็นคนจ้างเขา? แล้วที่บริษัทมีเรื่องอะไรบ้างรึเปล่า?”
“ภายนอกทุกอย่างดูสงบและปกติดี แต่ข้างใต้ดูจะขุ่นมัวมากเลยล่ะ” ชายอีกคนพูด “ทุกคนพากันสืบว่านายตายจริงหรือปลอม แล้วถ้านายยังไม่ตาย ตอนนี้นายไปอยู่ที่ไหน”
“คนพวกนี้คนจะอยู่กันไม่สุขเลยสินะ” ชายสวมหมวกพูด
“นายไม่รู้เหรอว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่น่ะ?” ชายอีกคนถาม “พวกเขาคงจะยินดีมากถ้านายตาย”
“ถ้าฉันตาย พวกเขาก็คงไม่รอดเหมือนกัน” ชายสวมหมวกพูด “เก็บรักษาข้อมูลพวกนั้นให้ฉันด้วย”
“วางใจเถอะ ถ้าเกิดเรื่องขึ้น มันจะถูกเปิดเผยออกมาทันที” ชายอีกคนพูด
“ดี” ชายสวมหมวกพูด
คลื่นซัดเข้าใส่ก้อนหิน
แค่ก! แค่ก! ชายในหมวกเบสบอลไออย่างรุนแรง
“นายควรกลับไปรักษาตัวซะนะ” ชายอีกคนพูด
“กลับไปเหรอ? นายก็เสนอให้ฉันกลับไปเหมือนกันเหรอ? ถ้าฉันกลับไป ชีวิตฉันคงไม่เหลือ” ชายสวมหมวกหยิบขวดยาออกมาจากกระเป๋า เขาเทยาออกมาหลายเม็ดและกลืนยาทั้งหมดลงไป
“อาการของนายหนักขนาดนี้แล้ว ยิ่งนายปล่อยทิ้งไว้นานเท่าไหร่ มันก็ยิ่งแย่ลงไปเท่านั้น” ชายอีกคนพูด
“เรื่องนั้นฉันรู้” ชายสวมหมวกพูด
“ชาวโพ้นทะเลคนนั้นเชื่อถือไม่ได้หรอกนะ” ชายอีกคนพูด
“พวกเขาไม่ได้เป็นพวกเดียวกับฉัน ฉันก็แค่ใช้ประโยชน์พวกเขาเท่านั้น” ชายสวมหมวกเบสบอลสูดลมหายใจ “เรื่องการทดลองอยู่ในความรับผิดชอบของนาย รีบทําให้เสร็จเร็วที่สุดเถอะ”
“ได้ ฉันรู้” ชายอีกคนพูด
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว นายกลับไปเถอะ” ชายสวมหมวกพูด “คอยจับตาดูบริษัทอย่างใกล้ชิดแทนฉันด้วย
ชายอีกคนจากไป หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เดินลงเขามา ขึ้นนั่งบนรถส่วนตัว ขับเข้าไปในตัวเมืองและเดินไปรอบๆจนเดินเข้าไปด้านในร้านน้ําชาร้านหนึ่ง
“ผู้จัดการหลี่ ที่นี่ดูยุ่งมากเลยนะ!” ภายในร้านน้ําชามีคนกําลังรอเขาอยู่ก่อนแล้ว “อ่อ อื่นๆ คุณเก่งใช้ได้เลยนะ หึม คุณเป็นสายลับในหมู่พวกเราสินะ ใช่ไหม?”
“นายพูดอะไรกัน?” ผู้จัดการหลี่ถามหลังจากรินชาให้กับเขา “อย่าพูดให้ฟังดูแย่แบบนั้นสิ ฉันก็ต้องกินต้องใช้นะ”
“งั้นจะนับว่าคุณเป็นนกสองหัวที่ทํางานให้ทั้งสองฝ่ายได้ไหม?” เจี้ยจื้อจายพูด “ไม่ว่าดยังไง คุณมันก็ไม่ใช่มนุษย์
“เจี้ยจื้อจาย ฉันว่ามันน่าอัศจรรย์มากเลยนะที่นายยังมีชีวิตอยู่ได้น่ะ” ผู้จัดการหลี่พูด
“โว้ว โมโหใหญ่แล้ว ดื่มชาก่อนๆ” เจี้ยจื้อจายพูด “เรื่องที่พวกเราคุยกันครั้งก่อน คุณคิดว่าไง?”
“มันคงไม่ได้ดีขนาดนั้นหรอก” ผู้จัดการหลี่พูด “พูดจริงๆนะ สติปัญญาของบอสสูงกว่าฉันกับนายมาก สิ่งที่เขามอบให้ฉัน อาจเป็นสิ่งที่เขามอบให้กับคนที่สามที่สี่ด้วยเหมือนกัน แต่คนพวกนั้นอาจไม่ได้น่าเชื่อถือที่สุด สุดท้ายแล้ว เขาจะเลือกมอบมันให้กับคนที่น่าเชื่อถือที่สุด”
“แล้วใครล่ะ?” เจี้ยจื้อจายถาม
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง?” ผู้จัดการหลี่จิบชา
“ถ้าดูจากคําพูดของคุณแล้ว คิดว่าพวกเราพอจะทําอะไรได้บ้าง?” เจี้ยจื้อจายถาม
“ตอนนี้ฉันขอแนะนําให้อย่าทําอะไรดีกว่า” ผู้จัดการหลี่พูด
“แล้วตอนนี้บอสอยู่ที่ไหน?” เจียจื้อจายถาม
“ฉันไม่รู้” ผู้จัดการหลี่พูด
“จริงเหรอ?” เจี้ยจื้อจายถาม
“จริงสิ ถึงฉันจะรู้ ฉันก็ไม่บอกนายหรอก” ผู้จัดการหลี่พูด “ลองคิดดูสิ ฉันเพิ่งไปเจอเขามา ถ้าเป็นนายที่ไปเจอเขา มันจะไม่ตรงไปหน่อยเหรอถ้าไปบอกเขาว่าฉันเป็นคนทรยศน่ะ?”
“อืม แต่พวกเราจะยอมแพ้ไปแบบนี้ไม่ได้” เจี้ยจื้อจายพูด “พวกเราเตรียมตัวมาตั้งหลายปี แล้วในที่สุดพวกเราก็ได้โอกาส ถ้าพลาดไปมันคงน่าเสียดาย
“อะไรกัน? หรือนี่จะเป็นแผนการทั้งหมดมีเตรียมเอาไว้แล้ว?” ผู้จัดการหลี่ถาม
“ก็ไม่เชิงหรอก” เจี้ยจื้อจายพูด
ชายที่อยู่ตรงกันข้ามกําลังปิดบังบางอย่างจากเขา ดังนั้น เขาก็ไม่คิดจะเปิดเผยไผ่ตายของเขาออกไป
“มียอดฝีมือคนหนึ่งมาที่เมืองเต๋” ผู้จัดกรหลี่พูด
“ความสามารถของเขาเป็นยังไง?” เจี้ยจื้อจายรินชาให้เขา
“ฝีมือสูงกว่าบอส” ผู้จัดการหลี่ตอบ
“คุณรู้ได้ยังไง?” เจียจื้อจายถาม
“บอสยอมรับเองแบบนี้ คงไม่ใช่เรื่องโกหกหรอกจริงไหม?” ผู้จัดการหลี่ถาม
“นี่ ค่าพูดของเขามันบอกไม่ได้หรอกนะว่าจริงแค่ไหน” เจี้ยจื้อจายจุดบุหรี่ “บอกความจริงกับผมมา คุณไม่ได้คิดจะทรยศหรอกเหรอ?”
“ฉันจะบอกความจริงกับนาย” ผู้จัดการหลี่พูด “ถ้าไม่ใช่ว่าฉันคิดทรยศ ฉันจะมาหานายเพื่ออะไร?”
เจี้ยจื้อจายส่ายหน้าและพูดว่า “คุณกับหูเหมยมีสองเสียง ส่วนผมมีแค่หนึ่ง คุณคิดว่าผมไม่รู้เรื่องคุณกับตาแก่ตู้เหรอ?”
ภายในบริษัทของพวกเขา กรรมการหลายคนมีการแบ่งพักแบ่งพวกเป็นกลุ่มย่อยขึ้นมา
“เอาล่ะ พวกเราพอกันได้รึยัง?” ผู้จัดการหลีถาม
“อาการป่วยของลูกชายคุณยังไม่ดีขึ้นใช่ไหม?” เจี้ยจื้อจายถาม “ดูเหมือนจะแย่ลงด้วย!”
ชายที่เพิ่งลุกขึ้นกลับมานั่งลงอีกครั้ง “นายกําลังจะพูดอะไร?”
“ผมรู้จักคนที่สามารถรักษาอาการป่วยของลูกชายคุณได้” เจี้ยจื้อจายพูด
“นั่นเป็นไปไม่ได้หรอก” ผู้จัดการหลี่พูด “ฉันพาเขาไปมาถึงเจ็ดประเทศ หมอเก่งๆทุกคนต่างก็พูดว่า เขาจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน การรักษาทั้งหมดทําได้แค่ยื่อเวลาการตายของเขาเอาไว้เท่านั้น”
“เรื่องนั้น ทําไมคุณไม่ลองดูก่อนล่ะ?” เจียจื้อจายถาม
“หมออยู่ที่ไหน?” ผู้จัดการหลี่ถาม
“มันก็ขึ้นอยู่กับท่าทีของคุณล่ะนะ” หลังเจี่ยจื้อจายพูดจบ เขาก็ลุกขึ้นและเดินออกไป
“ถ้านายหลอกฉัน คงรู้ถึงผลที่จะตามมาแล้วสินะ” ผู้จัดการหลี่พูด
“แน่นอน ข้อมูลเบลกเมลล์ผมยังอยู่ในมือคุณไม่ใช่หรือไง?” เจี้ยจื้อจายตอบกลับด้วยรอยยิ้ม