Elixir Supplier - ตอนที่ 790 รู้เรื่องยา
“เกรงใจเกินไปแล้วครับ” หวังเย้าพูดพร้อมกับยกแก้วขึ้นมา และดื่มเหล้าจนหมด สําหรับคนเหล่านี้แล้ว เขายอมรับนับถือจากใจจริง
“หมอหวัง คุณสบายใจได้ เรายินดีจ่ายค่ารักษาเต็มจํานวน” เฉิงห่ายตงพูด
ครั้งหนึ่ง เขาเคยได้ยินซูจือจงพูดว่า สมุนไพรที่หวังเย้าใช้รักษาโรคร้ายนั้นมีราคาแพงมาก เขาที่เพิ่งได้มาเห็นด้วยตาตัวเองในวันนี้ ก็สมควรแล้วกับราคาของมัน
“สําหรับนักรบอย่างพวกคุณ ผมรักษาให้โดยไม่คิดเงินครับ” หวังเข้าตอบ
ตัวคนไข้แต่ละคนเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจเรื่องค่ารักษาเช่นเดียวกัน
“ขอบคุณครับ!” เฉิงห่ายตงตกตะลึง เขายกเหล้าดื่มจนหมดแก้ว
ทั้งแขกและเจ้าภาพต่างทานอาหารร่วมกันอย่างมีความสุข พวกดื่มเหล้าหมดไปถึงสี่ขวด หวังเย้าก็ดื่มไปเยอะเช่นกัน เฉิงห่ายตงยังคิดจะสั่งมาดื่มอีกขวด แต่หวังเข้าปฏิเสธไป เขาเห็นว่าหมอฟานเริ่มเมาและพูดติดๆขัดๆ
“ผมไม่คิดเลยว่า หมอหวังจะคอแข็งขนาดนี้” เฉิงห่ายตงพูด “คุณเป็นคอเหล่าเหมือนกันเหรอครับ?”
“ปกติ เชียนเชิงจะไม่ดื่มเหล้าเลยต่างหากล่ะครับ” จงหลิวชวนพูด
“โอ” เฉิงห่ายตงแปลกใจ
เขาคิดว่า หวังเย้าชอบดื่มเป็นงานอดิเรก ดเลยอยากมอบเหล้าชั้นดีให้เขาสักสองลังเพื่อเป็นการขอบคุณ คิดไม่ถึงว่าเขาจะไม่ชอบดื่ม เขาคงต้องคิดหาของอย่างอื่นมาให้แทนซะแล้ว
หลังมื้อเย็น ทั้งสี่ก็กลับบ้าน หวังเย้าและจงหลิวชวนมีร่างกายที่ค่อนข้างพิเศษ ปริมาณแอลกอฮอลที่พวกเขาดื่มเข้าไปไม่สามารถทําอะไรพวกเขาได้เลย ดังนั้น พวกเขาจึงเดินได้เร็ว ส่วนเฉิงห่ายตงกับหมอฟานเดินค่อนข้างช้า ไม่นานระยะห่างระหว่างคนทั้งสี่ก็เริ่มกว้างขึ้น
“หมอคิดว่า หมอหวังเป็นยังไง?” เฉิงห่ายตงถาม
“เขามีฝีมือการรักษาที่สุดยอดมาก” หมอฟานพูด
“แค่นั้นเหรอ?” เฉิงห่ายตงถาม
“ใช่ครับ” หมอฟานพูด
“ผมคิดว่า เขายังมีจรรยาบรรณของการเป็นหมอที่สูงมากด้วย” เฉิงห่ายตงพูด
“ใช่ พวก… พวกเขาไม่เลวเลย” หมอฟานพูดตะกุกตะกัก
หัวของเขารู้สึกมั่นและหนักอึ้ง เหล้าขวดนั้นมีปริมาณแอลกอฮอลมากกว่า 50% เขาดื่มไปคนเดียวเกือบทั้งขวด ซึ่งมากกว่าที่เขาดื่มตามปกติ เพราะได้กินอาหารที่ดีและไม่ได้ดื่มเหล้าดีดีมานาน เขาจึงเผลอดื่มมากกว่าที่ร่างกายจะรับไหว เขาฟังคําพูดของคนข้างๆเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง และเขาก็ไม่อยากตอบคําถามอะไรมากด้วย
“หมอฟาน?” เฉิงห่ายตงถาม
ตบ! หมอฟานทรดลงไปนั่งกับพื้น เขาพยายามใช้มือและเท้าพยุงตัวลุกขึ้นยืน แต่กลับล้มตัวลงไปนอนที่พื้นแทน สภาพของเขานั้นดูไม่ได้เลย เฉิงห่ายตงจึงรีบเข้าไปช่วยพยุงเขาขึ้นมา
“หมอไหวไหม?” เขาถาม
“เหล้าดี!” หมอฟานยกนิ้วโป้งขึ้น นิ้วก้อยของเขาก็โผล่ตาม
เขาเมาแล้ว
“ไปเถอะ ผมจะช่วยพยุงหมอเอง” เฉิงห่ายตงช่วยพยุงตัวเขาเอาไว้
“ไม่ต้องๆ ผมไม่เป็นอะไร” หมอฟานพูดพร้อมใช้มือผลักเขาออก
การขยับเพียงเล็กน้อยนั้น กลับทําให้เขาร่วงลงไปกองกับพื้นหญ้าที่ข้างทาง
เฉิงห่ายตงรีบวิ่งเข้าไปและยกตัวเขาขึ้นมา บนหัวของหมอฟานเต็มไปด้วยเศษดิน ฝนเพิ่งตกไปเมื่อตอนบ่าย พื้นดินบริเวณนี้จึงกลายเป็นดินโคลน ตามตัวหมอฟานจึงเปรอะเปื้อนไปหมด
“หมอไหวไหม?” เฉิงห่ายตงถาม
“ผม…ผมยังไหว แหวะ! อะไรน่ะ?” หมอฟานพูดพึมพํา
“เอาล่ะ รีบกลับกันดีกว่า” เฉิงห่ายตงพูด
ด้วยกลัวว่าจะเกิดเรื่งอะไรขึ้นอีก เขาจึงจับตัวพร้อมทั้งลากทั้งดึงหมอฟานไปด้วย
เมื่อกลับไปถึงและนางพยาบาลได้เห็นสภาพของหมอฟานเข้า เธอจึงถามว่า “เกิดอะไรขึ้นกับเขากันคะ?”
“เขาดื่มเยอะเกินไป เลยตกลงไปในบ่อโคลนน่ะสิ” เฉิงห่ายตงพูด “ช่วยดูแลเขาด้วยนะครับ แล้วก็ดูด้วยว่ามีแผลตรงไหนบ้างไหม”
“ได้ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว” นางพยาบาลแซ่หลี่พูด
หลังจากแยกกับจงหลิวชวนในหมู่บ้านแล้ว หวังเย้าก็เดินกลับขึ้นไปบนเนินเขาหนานชาน เขาคิด คนในกองทัพคอแข็งกันจริงๆ
หลังจากดื่มเหล้ารสแรงไปหนึ่งขวด หวังเย้ากลับไม่เป็นอะไรเลย ซึ่งมันดูผิดปกติจนเกินไป
เขาหยิบคัมภีร์เตขึ้นมาและเริ่มอ่านมัน หลังห้าทุ่มไปแล้วเขาจึงเข้านอน
เช้าวันต่อมา ท้องฟ้าค่อนข้างมืดครึม แต่กลับมีลมเย็นสบายพัดผ่าน ทําให้เขารู้สึกสดชื่นขึ้น
ทหารที่ได้รับบาดเจ็บตื่นขึ้นมาและรู้สึกดีขึ้นมาก หมอฟานและนางพยาบาลหลี่กําลังตรวจดูอาการของเขาอยู่ เฉิงห่ายตงก็อยู่ดูด้วย
“อม สภาพของเขาดีกว่าเมื่อวานมาก” หมอฟานพูด
“ผมรู้สึกดีขึ้นกว่าเมื่อวานมากเลย” ชวนพูด
ร่างกายของเขาไม่ได้หนักอึ้งเท่าก่อนหน้า การหายใจราบรื่นขึ้นและสติสัมปชัญญะก็ชัดเจน เขารู้สึกราวกับได้เกิดใหม่อย่างไรอย่างนั้น
“กินยาก่อนครับ” หมอฟานพูด “ตอนเช้าให้กินยาล้างพิษวันละครั้ง และกินซุปเปุ๋ยหยวนวันละสามเวลา”
เขาหันไปถามเฉิงห่ายตงว่า “หัวหน้าเฉิง เราเก็บยาบางส่วนเอาไว้ได้ไหมครับ?”
“ไม่ได้!” เฉิงห่ายตงตอบโดยไม่ต้องคิด
เขารู้ว่าหมอฟานคิดจะทําอะไร หมอฟ้านคงคิดจะนํามันกลับไปทดสอบหาส่วนผสมของตัวยา และทําหลอกเลียนแบบออกมา
“ผมก็แค่คิดเท่านั้นเอง” หมอฟานพูด “ถ้าเราหาส่วนผสมของตัวยานี้ได้ ทหารในกองทัพของเราก็คงจะอยู่รอดปลอดภัยจากพิษร้ายนี้ได้”
“แล้วทําไมคุณถึงไม่ไปถามหมอหวัง แทนที่จะใช้วิธีนี้ล่ะ?” เฉิงห่ายตงถาม
ในความคิดของเขา มันก็ไม่ต่างอะไรกับการขโมยมา ซึ่งผิดหลักศีลธรรมและถูกคนอื่นหยามเกียรติ
หมอฟานพูดไม่อออก บรรยากาศภายในห้องเริ่มอึดอัด
“เอาล่ะ ผมตรวจเขาเสร็จแล้ว” หมอฟานพูด “ไม่มีปัญหาอะไร”
หมอฟ้านและนางพยาบาลหลี่เดินออกไปจากห้อง
“หัวหน้า พวกเขาก็แค่หวังดีนะครับ” ชวนพูด
“พวกเขาเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากเกินไป” เฉิงห่ายตงพูด
“ผมคงต้องขอบคุณหมอหวังให้ดี” อชวนพูด
“ใช่แล้วล่ะ เราต้องขอบคุณเขาให้ดี” เฉิงห่ายตงพูด “ซูจือฉิงกับเพิ่งหวูชวงก็ได้รับกาวยเหลือจากเขา”
“เป็นพิษแบบเดียวกันเหรอครับ?” ชวนถาม
“ใช่ พิษแบบเดียวกัน” เฉิงห่ายตงตอบ
“หรือจะเป็นกองกําลังเดียวกันครับ?” ชวนถาม
“พวกเรามั่นใจได้ว่าพวกมันเป็นกองกําลังเดียวกัน แล้วพวกนายก็อาจจะได้รับบาดเจ็บจากฝีมือของคนคนเดียวกันด้วย” เฉิงห่ายตงพูด “ถ้าพวกนายไม่ต้องปกป้องฉันละก็ นายก็คงไม่ต้องบาดเจ็บแบบนี้”
“หัวหน้าอย่างพูดแบบนั้นเลยครับ” ชวนพูดด้วยรอยยิ้ม “ผมอยากหายเร็วๆ แล้วกลับไปจัดการกับคนที่มันทําให้พวกของเราต้องตาย!”
คลินิกเปิดให้บริการตามปกติ มีคนไข้มารักษาไม่มากนัก อย่างน้อยก็เทียบกับหลายวันก่อนไม่ได้
เวลาประมาณ 9 โมง พันจวินก็มาถึงที่คลินิก เขาไม่มีเวรและตั้งใจมาช่วยงานที่นี่
“อาจารย์ ไม่ใช่ว่าเมื่อวานฝนที่นี่เหรอ?” เขาถาม
“มีฝนตกปรอยๆตอนบ่าย แค่พอให้พื้นเปียกเท่านั้น” หวังเย้าพูด
“แต่ในเมืองฝนตกหนักมากเลยล่ะ” พันจวินพูด “หลายที่เกิดน้ําท่วม แถมยังมีคนโดนน้ําพัดหายไปในแม่น้ําด้วย”
“น่าสงสารนะครับ” หวังเย้าพูด
“เขาอยากไปตกปลา แต่ตอนนั้นน้ําไหลแรงจนพัดเอาเขาไปด้วยน่ะสิ” พันจวินพูด
เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นแทบทุกปี เมื่อไหร่ที่น้ําท่วม ปลาก็จะไหลออกมาจากอ่างเก็บน้ํา บางคนชอบที่จะใช้โอกาสนี้ไปจับปลา และเป็นผลทําให้เกิดอันตรายขึ้นกับพวกเขา น้ําและธาตทั้งห้า ล้วนไม่เคยปราณีผู้ใด
คนไข้บางคนมาที่คลินิกด้วยอาการปวดขาและเท้า พันจวินสามารถช่วยรักษาพวกเขาได้ หวังเย้าจึงทําตัวได้ตามสบายและมีงานน้อยลง
เมื่อไม่มีใครแล้ว หวังเย้าก็เริ่มสอนพันจวนเกี่ยวกับยาสมุนไพรจีน ซึ่งเป็นเรื่องพื้นฐานสําหรับแพทย์ปรุงยา ตอนนี้มีตัวยาจากสมุนไพรจีนมากกว่า 200 ชนิด และมีมากกว่า 100 ชนิดที่ถูกนํามาใช้งานบ่อยๆ หวังเย้าเริ่มสอนชนิดของยาสมุนไพรธรรมดาให้พันจวินก่อน
ตอนเที่ยง พันจวินยังไม่กลับบ้าน เขาอยู่ทานอาหารที่บ้านของหวังเย้า
ตอนเย็น หลังจากปิดคลินิกแล้ว หวังเย้าก็เดินไปตรวจดูอาการของทหารที่ได้รับบาดเจ็บ
“ชวน นี่คือหมอหวัง” เฉิงห่ายตงพูด
“สวัสดีครับ หมอหวัง ขอบคุณที่ช่วยผมไว้นะครับ” เขาพูด
“ยินดีครับ” หวังเย้าพูดด้วยรอยยิ้ม “นอนลงเถอะครับ พูดให้น้อยและฟื้นฟูกําลังของคุณก่อน”
เมื่อมองดูสีหน้าและฟังเสียงพูดของเขาแล้ว ก็บอกได้ว่าอาการของเขาดีขึ้นแล้ว หวังเข้าจับชีพจรของเขาที่เต้นเป็นปกติ เขาถือว่าพ้นขีดอันตรายแล้ว หลังจากตรวจดูบาดแผลที่หน้าอกของเขา ผ่านไปหนึ่งคืน บาดแผลก็เริ่มฟื้นตัวและตกสะเก็ดแล้ว สมแล้วที่ขี้ผึ้งตัวนชื่อทําขึ้นมาจากสมุนไพรราก
“คณไม่เป็นอะไรแล้วนะครับ” หวังเย้าพูด “อีกไม่กี่วัน คุณก็อาจลุกออกจากเตียงได้แล้ว”
“เยี่ยมเลยครับ” เฉิงห่ายตงพูด
“ผมคงต้องกลับแล้ว” หวังเย้าพูด “ถ้าต้องการอะไร ก็บอกให้หลิวชวนไปหาผมได้นะครับ”
“ครับ ขอบคุณมาก” เฉิงห่ายตงพูด
เขาเดินตามหวังเข้าออกไปและชวนเขากินข้าวเย็นด้วยกัน แต่หวังเย้าปฏิเสธ เขากลับเข้าไปในห้องและปรึกษาบางอย่างกับเจิ้งอี้ชวนที่ยังคงนอนอยู่บนเตียง
“ฉันอยากให้หมอฟานกับเสี่ยวหลี่กลับไปก่อน” เฉิงห่ายตงพูด “เราให้ทหารอยู่จัดการเรื่องต่างๆที่นี่แค่คนเดียวก็พอแล้ว”
“ครับ ผมเห็นด้วย” เจิ้งอี้ชวนพูด “ให้พวกเขาอยู่แต่ที่นี่คงไม่สะดวกเหมือนกัน”
“โอเค เป็นอันว่าตกลงตามนี้” เฉิงห่ายตงพูด “เราจะบอกให้พวกเขากลับกับพรุ่งนี้เลย”