Elixir Supplier - ตอนที่ 800 สมบัติ
ช่วงชีวิตในหนึ่งร้อยปีผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว เมื่อคิดพิจารณาให้ดีแล้วอะไรคือสิ่งสําคัญที่สุดในชีวิต?
สุขภาพและความสุข จะยากจนหรือร่ำรวยล้วนดีหากใจมีสุขคนจนอาจไม่ทุกข์ใจและคนรวยอาจไม่มีความสุขคนเราต้องคิดให้กว้างและมองทุกสิ่งด้วยใจที่เปิดกว้าง
ในตอนเย็น ลมฤดูใบไม้ร่วงเย็นเยียบ คนเฒ่าคนแก่นั่งสูบบุหรี่หลังมื้ออาหรอยู่ที่บ้านผู้นําหมู่บ้าน
เวลาประมาณสามทุ่มหวังเย้ากลับขึ้นไปบนเนินเขาหนานชานเพียงลําพังบนเขาเงียบสงบมีเพียงเสียงลมพัดใบไม้ปลิวเท่านั้น
ในแปลงสมุนไพรสุนัขของเขาไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหนอินทรีย์เกาะอยู่บนกิ่งไม้นิ่งเงียบดวงตาของมันจับจ้องมาที่หวังเย้าเป็นประกายเมื่อเขาเดินเข้าไปใกล้มันก็กระพือปีกเพื่อเป็นการทักทาย
“ต้าเซีย ซานเซียนอยู่ที่ไหนเหรอ?” หวังเย้าถาม
แกึก! ต้าเซียส่งเสียงร้อง หลังจากนั้นสักพัก ซานเซียนก็ลงมาจากยอดเขา
“ซานเซียน นายไปที่ไหนมาเหรอ?” หวังเย้ายิ้มและลูบหัวที่ใหญ่โตของมัน
โฮ่ง!
“ไปตรวจตรารอบเนินเขามาเหรอ?” หวังเย้าถาม
โฮ่ง! โฮ่ง!
“อืม ตอนนี้นายไปพักได้แล้ว” หวังเย้าพูด
ยามดึกคืนนั้น มีเสียงสวดดังอยู่บนเนินเขาหนานชาน
วันต่อมา ฝนตกลงมาอีกครั้งในบางครั้งก็บอกไม่ได้ว่าทําไมฝนในฤดูใบไม้ผลิถึงได้ไม่น่ารำคาญไม่ว่ามันจะตกหนักแค่ไหนก็ตาม ทางใต้ของยุนนานก็มีฝนตกลงมาเช่นกัน
ภายในโรงแรมเล็กๆแห่งหนึ่งในตัวเมือง เมี่ยวชิงเฟิงและจ้าวหยิงหาวยืนอยู่ที่หน้าต่างและมองดูสภาพแวดล้อมโดยรอบทางตอนใต้มักมีเมืองเล็กๆแบบนี้อยู่เต็มไปหมด
เม็ดฝนตกกระทบกับบานหน้าต่างจนเกิดเสียงดัง
“ผมไม่ชอบวันฝนตกแบบนี้เลย” จ้าวหยิ่งหาวพูด
ใบหน้าของเขามีรอยแผลอยู่ประปราย แต่มันดูขาวกว่าก่อนหน้านี้ อยู่ๆเขาก็ไอและรีบหยิบทิชชูจากในกระเป๋าขึ้นมาปิดปากเขาเห็นเลือดติดอยู่เล็กน้อย
“นายยังไม่หายดีอีกเหรอ?” เมี่ยวชิงเฟิงถาม
“เกือบแล้ว” จ้าวหยิงหาวพูด
“ฉันเคยพูดไปหลายครั้งแล้ว อย่ารีบร้อน” เมี่ยวชิงเฟิงพูด “การแก้แค้นไม่อาจทําได้ในทันทีถ้านายทําลายร่างกายตัวเองนายก็จะไม่ได้อะไรสักอย่าง”
“ผมเข้าใจแล้ว ศิษย์พี่” จ้าวหยิงหาวพูด
มีเสียงเคาะประตูดังมาจากด้านนอก เมี่ยวชิงเฟิงเปิดประตู ชายสวมฮัดเดินเข้ามาในห้อง
“ทําไมต้องทําตัวมีลับลมคมในแบบนี้ด้วย?” เมี่ยวชิงเฟิงถาม
“ศิษย์พี่ ผมไม่ทําแบบนี้ไม่ได้หรอก” ชายคนนั้นพูด “ผมคิดว่ามีคนกําลังจับตามองผมอยู่”
“อยู่ที่นี่นายยังจะกลัวอะไรอีก?” เมี่ยวชิงเฟิงถาม
“พวกเขามีปืน”ชายตัวผอมสูงพูด
“ปืน?” เมี่ยวชิงเฟิงตกใจ
“ใช่ ผมเห็นพวกเขาในป่า” เขาพูด “พวกเขาไม่ใช่คนที่นี่ หรืออาจไม่ใช่คนของประเทศนี้ด้วยซ้ำ”
“พวกเขามาทําอะไรที่นี่?” เมี่ยวชิงเฟิงถาม
“ผมไม่รู้” เขาตอบ
เมี่ยวชิงเฟิงคิดอยู่ครู่หนึ่งและถามว่า “อาจารย์รู้เรื่องนี้รึยัง?”
“ผมบอกเรื่องนี้กับอาจารย์ไปนานแล้ว แต่เขาแค่บอกให้พวกเราจับตาดูให้ดีและไม่ต้องทําอะไรมากกว่านั้น”เขาพูด “ก็อย่างที่พี่รู้หุบเขาของเราไม่ได้สนใจเรื่องภายนอกมากเท่าไหร่อยู่แล้ว”
“เอาล่ะ ฉันรู้แล้ว” เมี่ยวชิงเฟิงพูด “ไท่สู่ยอยู่ที่ไหน?”
“อยู่บนเขา” เขาพูด “ผมทําสัญลักษณ์เอาไว้และปล่อยแมลงพิษเอาไว้รอบๆด้วยถ้ามีอะไรไปใกล้พวกมันจะโจมตีทันที”
“งั้นไปดูกันเถอะ” เมี่ยวชิงเฟิงพูด
“ตอนนี้เลยเหรอ?” เขาถาม
“ใช่ ตอนนี้เลย” เมี่ยวชิงเฟิงพูด
ชายทั้งสามฝ่าสายฝนขึ้นไปบนเขาตันไม่โดยรอบดูเขียวชอุ่ม หลังจากเดินเป็นเวลานานในที่สุดพวกเขาก็มาถึงพื้นที่ลุ่มคล้ายหุบเขา
“ที่นี่แหละ” ชายร่างผอมสูงชี้ไปที่จุดหนึ่งบนพื้น
“นายเจอมันได้ยังไง?” เมี่ยวชิงเฟิงถาม
“ผมไม่ได้เป็นคนเจอ” เขาพูด “มีคนปลูกสมุนไพรมาเจอเข้าตอนกําลังเดินขึ้นเขาแต่เขาไม่แน่ใจเขาก็เลยขอให้คนอื่นมาช่วยดูพอได้เห็นพวกเขาก็รู้ว่ามันคืออะไรพวกเขาต้องการขายให้ใครสักคนในราคาสูงผมก็เพิ่งได้ข่าวมาพอมาเห็นก็เลยจัดการกับพวกเขาแล้วขโมยพวกมันมาและฝังเอาไว้ที่นี่
“ไม่มีใครตายใช่ไหม?” เมี่ยวชิงเฟิงถาม
“ไม่มี แค่ใช้ยาทําให้หมดสติ” เขาพูด “มันก็แค่ พวกเขาอาจมีอาการหลงลืมชั่วคราวแล้วก็ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย”
“ดี ฉันเข้าใจแล้ว” เมี่ยวชิงเฟิงพูด “รีบออกไป แล้วเอามันกลับไปที่หุบเขา”
“รอเดี๋ยว มีคนกําลังมา” อยู่ๆจ้าวหยิงหาวก็พูดขึ้นมา “หลบเร็ว”
ทั้งสามหลบซ่อนตัวภายในป่า มีคนสี่คนปรากฏตัวขึ้นอีกด้านหนึ่ง
“ที่นี่เหรอ?” ชายคนหนึ่งถาม
“ไม่ใช่ เราต้องไปไกลกว่านี้” ชายอีกคนพูด
“นําทางสิ” ชายคนแรกพูด
“ศิษย์พี่คิดว่า พวกเขาเป็นพวกนักสํารวจรึเปล่า?” จ้าวหยิงหาวถาม
“ไม่ใช่ พวกเขามีปืน” เมี่ยวซึ่งเพิ่งพูด
“แล้วเราจะทํายังไงกันต่อดี?” ชายร่างผอมสูงถาม
“กลับไปบอกอาจารย์” เมี่ยวชิงเฟิงพูด “ฉันจะไปกับหยิงหาวเอง”
“ศิษย์พี่ระวังตัวด้วย” เขาพูด
“ไม่ต้องห่วง ไปได้แล้ว” เมี่ยวชิงเฟิงพูด “หยิ่งหาว ไปกันเถอะ”
ทั้งสองแตะต้นไม้ภายในป่าและติดตามคนแปลกหน้าทั้งสี่อยู่ห่างๆ เมื่อมาได้ประมาณ 16 กิ โลเมตรเมี่ยวชิงเฟิงก็หยุดฝีเท้าเขาเปิดกระปุกไม้จากในกระเป๋าที่เขาพกมาด้วยแมลงหลายสิบตัวบินออกมาจากด้านใน
“ศิษย์พี่ ทําไมถึงปล่อยแมลงพิษออกมาตรงนี้ล่ะ?” จ้าวหยิ่งหาวถาม
“เผื่อเอาไว้” เมี่ยวชิงเฟิงพูด
ต้นไม้รอบตัวพวกเขาเริ่มหนาแน่น ใต้ฝ่าเท้าของพวกเขาไร้เส้นทางเดินคนทั้งสี่เดินไปอย่างเชื่องช้าดูเหมือนพวกเขากําลังเคลื่อนที่ตามแผนที่แผ่นหนึ่ง
“ยังไม่ถึงอีกเหรอ?” มีคนถาม
“ถ้าดูจากตามแผนที่ พวกเราใกลถึงแล้วล่ะ” ชายอีกคนตอบ
“ตรงนั้น!” ชายคนหนึ่งเดินไปตรงหน้าต้นไม้สูงใหญ่ต้นหนึ่ง
ล่าต้นของมันหนากว่าสองเมตร ด้านหลังต้นไม่ใหญ่มีหน้าผาที่ถูกปกคลุมไว้ด้วยตะไคร่น้ํา
“เราต้องหาทางเข้า” ชายคนหนึ่งพูด
ทั้งสองแยกย้ายกันค้นหา
“พวกเขากําลังหาอะไรอยู่?” จ้าวหยิ่งหาวกระซิบถาม
“อาจจะเป็นสมบัติก็ได้” เมี่ยวชิงเฟิงคาดเดา
มีบางคนตะโกนขึ้นมา “ตรงนี้!” หลังจากนั้น ทุกอย่างก็เงียบลง
เสี่ยวชิงเฟิงและจ้าวหยิ่งหาวกําลังรอคอย ไม่กี่นาทีต่อมา พวกเขาก็ค่อยๆเข้าไปใกล้ไม่มีใครอยู่แถวต้นไม้สักคน
“แปลก พวกเขาหายไปไหน?” เมี่ยวชิงเฟิงถาม
“ตรงนั้น!” จ้าวหยิงหาวชี้ไปที่หน้าผา มีหลุมตรงหน้าผาที่ตั้งอยู่ด้านหลังต้นไม้มันเป็นหลุมที่แคบมาก“ไปกันเถอะ”
“รอเดี๋ยว!” เมี่ยวชิงเฟิงคว้าตัวเขาและชี้ไปที่บางอย่างไม่ไกล
มีเส้นด้ายเล็กบางแขวนไว้บนหน้าผาจนแทบมองไม่เห็น ถ้าพวกเขาไม่ระวังพวกเขาคงหามันไม่พบที่ปลายสุดของเส้นด้ายมีระเบิดอยู่ลูกหนึ่ง
ถ้าพวกเขารีบร้อนพากันเข้าไป สลักระเบิดจะหลุดออกและระเบิด พวกเขาทั้งสองคงได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ก็อาจเสียชีวิต
“คนพวกนั้นเป็นใครกัน?” จ้าวหยิ่งหาวถาม
“พวกเขาไร้ความปราณี ถ้าอย่างนั้นก็อย่าโทษที่พวกเราต้องทําตัวเป็นคนเลวก็แล้วกัน”เมื่ยวชิงเฟิงยิ้มร้าย
สําหรับเรื่องแบบนี้ เขามักจัดการให้จบที่เดียวและไม่ปล่อยให้ข้ามคืน
หรือ….แมลงตัวหนึ่งบินออกมาจากกระเป๋าของเขาและมุ่งหน้าเข้าไปด้านในถ่า
“ศิษย์พี่ ปล่อยเจ้านั่นไปมันจะดีเหรอ?” จ้าวหยิงหาวถาม
“ไม่เป็นไรหรอกน่า” เมี่ยวชิงเฟิงพูด “มันมีอายุอยู่ได้แค่เจ็ดวันเท่านั้นไม่สร้างปัญหาให้ป่าเขาหรอก”
ภายในถ้ํา ทั้งสี่คนเดินหน้าเข้าไปอย่างเชื่องช้า ตัวถ้ําคับแคบและมืดสนิท พวกเขาจึงไม่สามารถรีบเดินได้
“อ้าก!”
มีเสียงกรีดร้องดังขึ้น ชายที่เดินตามอยู่ด้านหลังกุมคอเอาไว้และล้มลงไปกองกับพื้นร่างของเขาบิดไปมาไม่หยุด
“เกิดอะไรขึ้น?” ชายอีกคนถาม
อีกสามคนที่เหลือรีบเดินเข้าไปหา ภายใต้แสงไฟ พวกเขาเห็นเพื่อนร่วมทางใบหน้าดําคล้ำตาเบิกกว้างและมีน้ําลายฟูมปาก