Elixir Supplier - ตอนที่ 806 หนีไปไหน
“หรือนายก่าลังจะบอกว่าเขาหนีไปแล้ว?” เจี่ยจื้อจายถาม
“เป็นไปได้สูงมาก” จงหลิวชวนมองท้องทะเลที่กว้างใหญ่ตรงหน้า
“หนีไปแล้ว แบบนั้นก็แย่สิ”เจี้ยจื้อจายพูด
มือถือของเขาสั่น เจี้ยจื้อจายหยิบขึ้นมาดู สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันทีในตอนที่พูด “การคาดเดาของนายเป็นเรื่องจริง เขาหนีไปแล้วจริงๆด้วย”
“นายวางคนไปข้างเขา” จงหลิวชวนพูด
“เมื่อไม่ใหญ่ล้ม เหล่าผู้ใต้บังคับบัญหาล้วนหนีหาย” เจี้ยจื้อจายพูด“เขาไปไกลเกินกว่าคําว่าศีลธรรมและน่านับถือ ทําให้คนมากมายต้องการต่อต้านเขาเพราะเรื่องนี้เมืองเต่เป็นเมืองที่ไม่ เล็กไม่ใหญ่เขาคิดว่าทรัพย์สินที่เขามีในเมืองเต่เป็นความลับแล้ว แต่มันกลับถูกคนอื่นขุดออกมาจนได้ถึงจะยังไม่ถูกประกาศออกมาก็เถอะปัญหาตอนนี้คือจะจัดการกับเขายังไงดี”
“ปัญหาหลักก็คือ ต้องไม่ปล่อยให้ของที่อยู่ในมือเขาถูกใช้งานใช่ไหม?”จงหลิวชวนถาม
“อืม นั่นเรื่องใหญ่เลยล่ะ” เจี่ยจื้อจายพูด “ใครจะรู้ว่าเขามีไม้ตายซ่อนไว้มากแค่ไหน?”
“บอกมาตามตรง เขามีข้อมูลที่เอาไว้แบลกเมลพวกเรามากแค่ไหน?” จงหลิวชวนถาม
“ไม่มีใครรู้” เจี้ยจื้อจายตอบ “กลัวว่า คงจะมีแค่เขาคนเดียวที่รู้”
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา บริษัทของพวกเขาลักลอบทําธุรกิจเกี่ยวกับการลอบสังหารและโจรกรรมทุกครั้งจะมีการบันทึกทุกอย่างเอาไว้ตั้งแต่ใครเป็นคนรับงานจนถึงได้รับเงินค่าจ้างเท่าไหร่เพียงเลือกดูชุ่มๆก็มีคําตอบให้แล้วและบางงานก็ยังเลวร้ายมากอีกด้วยหากเปิดเผยข้อมูลส่วนหนึ่งออกไปก็ไม่ต่างกับการติดตั้งระเบิดเวลามันมากพอที่จะทําให้คนทั้งประเทศต้องตกตะลึง
“โลกใบนี้มืดมนเกินไป” อยู่ๆเจี้ยจื้อจายก็พูดขึ้นมา
“นายจะมาทําท่าทางโศกเศร้าเพื่ออะไร?” จงหลิวชวนพูด “ทําไมไม่มาคิดว่าจะทํายังไงต่อไปก่อน?”
“เราไม่มีทางเลือก นอกจากต้องจัดการเขา” เจียจื้อจายพูด
“แล้วยังไงต่อ?” จงหลิวชวนถาม
“เรามีเป้าหมายที่น่าสงสัยอยู่สองสามคน ดังนั้น จัดการพวกเขาก่อน” เจียจื้อจายพูด
ไม่มีใครในสายอาชีพเดียวกับพวกเขาที่เป็นพวกใจอ่อน ในช่วงเวลาวิกฤตก็จําเป็นต้องเลือดเย็นคนที่ลังเลล้วนต้องตาย
จงหลิวชวนพยักหน้าไม่มีวิธีไหนที่ดีกว่านี้แล้ว ความลังเลนําไปสู่หายนะ
“ถ้าแค่พวกเรารู้ว่าใครคือคนที่เขาเชื่อใจจริงๆละก็” เพื่อซื้อจายพูด
“นายตรวจสอบพวกเขาทุกคนรึยัง?” จงหลิวชวนถาม
“ฉันตรวจสอบทุกคนที่อาจมีความใกล้ชิดกับเขาหมดแล้ว” เจี้ยจื้อจายพูด
“งั้นก็ตรวจสอบคนที่ไม่ได้ใกล้ชิดกับเขา” จงหลิวชวนเสนอ “คนไม่ได้ติดต่อเขาบ่อยๆก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ใช่คนใกล้ชิดนายสามารถขอให้คนตระกูลซุนช่วยกักตัวเขาไว้ชั่วคราวได้ส่วน เหตุผลที่ใช้กักตัวก็หาได้ไม่ยาก”
“อีกอย่าง เขามีทักษะการเปลี่ยนใบหน้า นายต้องระวังตัวด้วยล่ะ” เจี่ยจื้อจายพูด
หลังจากคุยกันได้ไม่ถึง 15 นาที เจี้ยจื้อจายก็รีบจากไป จงหลิวชวนยืนอยู่ตรงนั้นเพียงลําพังและมองคลื่นในทะเลอยู่อย่างนั้น
น่าตื่นเต้น!
เขายืนมองภาพนั้นจนกระทั่งฟ้ามืดลงเงียบๆ ถึงตอนนั้นเขาจึงหมุนตัวจากไป
ค่ําวันนั้น ตระกูลฮุนได้รับข่าวว่า “ประธานจาง” อาจหนีไปแล้ว จงหลิวชวนเดินททางไปพบกับหลานชายของตระกูลซุนความสามารถของตระกูลซุนเริ่มแสดงให้ได้เห็นอย่างรวดเร็วประธานจางที่พยายามเดินทางโดยเครื่องบินถูกระงับการบินด้วยเหตุผลง่ายๆ มีสิ่งของต้องห้าม อยู่ในประเป๋าของเขา มันคือมีด มีดที่คมอย่างมาก
ชายที่หน้าตาดูซื่อตรงและมีความรู้ถูกพาตัวไปที่สถานีตํารวจ เขาถูกสอบสวนโดยเจ้าหน้าที่ตํารวจสองนาย
“บอกมาได้แล้ว มีดเล่มนี้พกมาทําไม?” ตํารวจนายหนึ่งถาม
“ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น” เขาพูด “แล้วผมก็ไม่ได้ใส่มีดไว้ในกระเป๋าด้วย”
“ถ้าคุณไม่ได้ทํา แล้วใครทํา?” ตํารวจถาม
“ผมไม่รู” เขาพูด “คุณเอาไปตรวจสอบดูก็ได้ มันจะต้องมีรอยนิ้วมืออยู่บนนั้นแน่”
“คุณทํางานที่ไหนจางเหว่ย?” ตํารวจถาม
“ผมมีบริษัทของตัวเอง” จางเหว่ยพูด
“บริษัทอะไร?” ตํารวจถาม
“บริษัทชื่อห่ายเทรดดิ้ง” จางเหว่ยตอบ
“หม ชื่อฟังดูคุ้นๆนะ” ตํารวจคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนถามว่า “นั่นไม่ใช่ประธานบริษัทที่วิลล่าระเบิดไปเมื่อเดือนก่อนเหรอ? ไม่ใช่ว่าคุณตายไปแล้วเหรอ?”
จางเหว่ยคิดค่าพูดอยู่ครู่หนึ่งและตอบว่า “ไม่ใช่”
“ทําไมคุณไม่ออกมายืนยันตัวตนล่ะ? แล้วคนที่ตายเป็นใคร?”
“ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร” จางเหว่ยพูด “ผมแค่รู้สึกว่า ชีวิตของผมตกอยู่ในอันตรายผมก็เลยซ่อนตัว”
“แล้วทําไมถึงไม่โทรหาตํารวจ?” ต่ารวจถาม
“ผมไม่กล้าโผล่หน้าออกไป แล้วซ่อนตัวมาตลอด” จางเหว่ยพูด
“แล้วใครที่ปองร้ายคุณอยู่?” ตํารวจถาม
“ผมไม่รู้” จางเหว่ยพูด
“คุณไม่รู้?” ตำรวจรู้สึกว่าเรื่องนี้น่าสงสัย
“ใช่ ที่ผมต้องซ่อนตัวก็เพราะผมไม่รู้” จางเหว่ยพูด “ผมรู้สึกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ไม่ปกติผมก็เลยอยากหลบไปซ่อนตัวก่อน แต่ผมก็ไม่เข้าใจว่าทําไมถึงเกิดเรื่องขึ้นได้อีก”
เจ้าหน้าที่ตํารวจประหลาดใจที่หลายอย่างถูกขุดขึ้นมาโดยโทรศัพท์สายหนึ่งเขาถาม“คุณมีศัตรูรึเปล่า?”
“เอ่อ ไม่มีครับ” จางเหว่ยส่ายหน้า
“คุณดูเหมือนจะไม่รู้คําตอบของคําถามที่ถามไป” ตํารวจพูด “ลองคิดดูดีดีและเมื่อคิดได้แล้วก็ให้บอกเรา”
“คงไม่เกิดปัญหากับผมใช่ไหมครับ?” จางเหว่ยถาม
“คุณยังต้องอธิบายเรื่องมีดเล่มนั้นอยู่” ตํารวจตอบ
หลังเจ้าหน้าที่ตํารวจพูดจบแล้วพวกเขาก็ออกไปจากห้องจางเหว่ยถูกทิ้งไว้ในห้องเพียงล่าพังเขาก้มหน้ามองพื้นและไม่ขยับตัวเป็นเวลานานไม่มีใครรู้ความคิดของเขา
“ได้อะไรบ้างไหม?”หัวหน้าสู่ถาม
“เราได้รู้เรื่องน่าสนใจหลายอย่างเลยครับ ลองดูสิครับ” ตํารวจยื่นข้อมูลจากการสอบสวนให้เขา
“เหยื่อจากระเบิดยังไม่ตาย!” หัวหน้าสู่ตกใจ
“เราได้รับการยืนยันหลังตรวจสอบตัวตนของเขาแล้วครับ ตํารวจพูด “เขาไม่ได้ตายเขาเพียง แค่ซ่อนตัวเท่านั้น บางที่อาจเพราะว่าเขากลัวก็ได้”
“แล้วทําไมอยู่ๆเขาถึงคิดจะบินไปต่างประเทศ?” หัวหน้าสู่ถาม
“เขาบอกว่า เขารู้สึกว่าทุกอย่างดูผิดปกติครับ” ตํารวจพูด
“รู้สึกเหรอ? เหตุผลอะไรกัน?” หัวหน้าสู่ถาม
“นั่นเป็นสิ่งที่เขาพูดครับ แต่ผมคิดว่าเขาคงไม่ได้พูดความจริง” ตํารวจพูด“มันต้องมีเรื่องบางอย่างที่ยังไม่ได้บอกแน่ครับ”
“ใช่ เป็นไปได้มากเลยล่ะ” หัวหน้าสู่พูด“จากการสืบสวนมีการพบตัวอาชญากรหลายคนอยู่ในบริษัทนั้น แล้วทั้งหมดยังก่ออาชญากรรมร้ายแรงหลายคดีด้วยเขาที่เป็นประธานของบริษัทจะต้องรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้แน่และเขาอาจจงใจปกปิดเรื่องนี้เอาไว้ด้วย!”
“ผมควรปฏิบัติกับเขายังไงดีครับ?” ตํารวจถาม
“จับเขาด้วยเรื่องมีดเล่มนั้น” หัวหน้าสู่พูด “เรื่องบริษัทของพวกเขาเรื่องวิลล่าระเบิดและเรื่องน่าสงสัยทุกอย่างต้องตรวจสอบให้ละเอียด
หัวหน้าสู่ออกจากสถานีตํารวจและมุ่งหน้าไปที่บ้านตระกูล
“หัวหน้าสู่” ซุนหยุนเชิงพูด
“คุณชายซุน ทําให้คุณรอแล้ว” หัวหน้าสู่พูด
“ไม่เลยครับ ผมก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน” ซุนหยุนเชิงพูด “จับเขาได้ไหมครับ?”
“ครับ มีเรื่องน่าสงสัยหลายจุดเลย” หัวหน้าสู่พูด “ขอบคุณสําหรับข้อมูลของคุณนะครับ!”
ตระกูลซุนยังไม่รู้ถึงความหมายทั้งหมด แต่พวกเขาก็ได้รู้ก่อน ถึงหัวหน้าสู่จะไม่รู้ว่าทําไมตระกลถึงได้เคลื่อนไหว แต่ก็ถือเป็นเรื่องดีกับทางตํารวจทําให้สามารถจัดการไปพร้อมกับคดีก่อนหน้านั้นได้ จุดรวมของเรื่องตอนนี้อยู่ที่ตัวจางเหว่ย
“ผมมีข้อมูลอยู่ด้วย ลองเอาไปอ่านดูสิครับ หัวหน้าสู่” ซุนหยุนเชิงส่งซองเอกสารให้กับเขา
หัวหน้าสู่รับมาเปิดดู สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที “นี่มัน?”
“นี่เป็นข้อมูลที่ผมได้มาโดยบังเอิญครับ” ซุนหยุนเชิงพูด “ผมคิดว่าไม่ควรเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในเมืองเต๋ ผมเลยอยากให้คุณช่วยครับ”
“มันเกี่ยวข้องกับบริษัทซื้อห่ายเทรดดิ่งด้วยเหรอครับ?” หัวหน้าสู่ถาม
“พวกเขาเป็นคู่ค้ากับบริษัทนี้ แล้วบริษัทของพวกเขาก็ยังเกิดเรื่องต่อเนื่องแบบนี้ด้วย”ซุนหยุนเชิงพูด“มีอาชญากรที่เป็นที่ต้องการตัวอยู่หลายคนไม่ใช่ว่าบริษัทนี้น่าสงสัยมากเหรอครับ?”
“เราคิดว่าพวกเขาน่าสงสัยอยู่เหมือนกัน แต่ผมไม่คิดว่า พวกเขาจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีใหญ่แบบนี้ด้วย”หัวหน้าสู่พูด“ผมคงต้องรายงานเรื่องนี้ให้ทางเบื้องบนรู้!”
“ช่วยจัดการให้เร็วที่สุดด้วยนะครับ” ซุนหยุนเชิงพูด
“ขอบคุณครับ” หัวหน้าสู่พูด
“ยินดีครับ” ซุนหยุนเชิงพูด “ผมแค่ทําหน้าที่ของประชาชนคนหนึ่งเท่านั้น”
หลังจากหัวหน้าสู่ออกไปแล้ว ซุนหยุนเชิงก็ยังไม่รีบกลับ เขายังคงนั่งดื่มชาอยู่ที่เดิม
“คุณชาย จงหลิวชวนมาครับ”
“เชิญเข้ามาได้เลยครับ” ซุนหยุนเชิงพูด
“คุณชาย” จงหลิวชวนทัก
“พี่ชายจง อย่าเรียกผมแบบนั้นเลยครับ มันฟังดูห่างเหินเกินไป”ซุนหยุนเชิงหัวเราะแล้วพูดว่า“ผมอยากเป็นลูกศิษย์ของหมอหวังเหมือนกันแต่น่าเสียดายที่ผมไม่มีโอกาสและโชคในเรื่องนี้แต่เอาเถอะอยู่ๆพี่ก็มาเยี่ยมแบบนี้นั่งก่อนสิครับ”