Elixir Supplier - ตอนที่ 872 กลิ่นเลือด
พวกเขาเคาะประตูบ้าน แต่ไม่มีเสียงตอบรับ
“เขาไม่อยู่เหรอ?”
“ไม่ใช่หรอกครับ เวลานี้เขาน่าจะอยู่ที่บ้าน” เมี่ยวชิงเฟิงตอบ
“ใครน่ะ?” มีเสียงหนึ่งดังออกมาจากด้านใน ที่ฟังดูเหมือนอยู่ในห้องอุดอู่
“ฉันเอง ชิงเฟิง”
“รอเดี๋ยว” เสียงนั้นดังออกมาอีกครั้ง
หลังจากที่พวกเขารออยู่สักพัก ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมา
เสียงเปิดประตูดังแกร็ก คนที่เปิดประตูมีร่างหนาและสูง เขามีคิ้วหนาและใบหน้าคล้ํา เขามองไปทางหยางกวนเพิ่งและคนอื่นๆด้วยสายตาเย็นเยียบ
“ชิงชาน นายกําลังทําอะไรอยู่เหรอ ถึงได้เพิ่งเดินมาเปิดประตู?”
“มาหาฉันมีอะไร?” เมี่ยวชิงชานถามโดยไม่คิดตอบค่าถามอีกฝ่าย
“เอ่อ…” หยางกวนเพิ่งที่คิดจะพูดออกไปหลับโดนเมียวชิงเฟิงที่อยู่ข้างๆสะกิด
“เรื่องมันเป็นแบบนี้ พี่ชิงชาน วันนี้เกิดเรื่องขึ้นที่หมู่บ้าน แล้วมีคนตายไปคนหนึ่ง”
“เรื่องนั้นไม่เห็นเกี่ยวกับฉันสักหน่อย!” ก่อนที่เยี่ยวชิงเฟิงจะพูดจนจบ เมี่ยวชิงชานก็พูดแทรกขึ้นมาโดยไม่สนใจเรื่องมารยาท
“ตรงจุดที่เกิดเหตุมีเบาะแสบางอย่างที่ชี้มาทางบ้านของคุณ เราขอเข้าไปดูข้างในบ้านได้ไหมครับ?”
“เบาะแส? เบาะแสอะไร?” น้ําเสียงของเมี่ยวชิงชานเย็นเยียบขึ้นเรื่อยๆ
มันแฝงด้วยความไม่เป็นมิตร
หยางกวนเพิ่งรู้สึกถึงความเป็นศัตรูและต่อต้านจากอีกฝ่ายอย่างรุนแรง
“เอ่อ ทั้งสองคนนี้เป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนจากจังหวัดน่ะ” เมี่ยวชิงเฟิงชี้ไปทางพวกเขาสองคน
“คนจากด้านนอก?”
หยางกวนเพิ่งรู้สึกว่า คนในหุบเขาแห่งนี้น่าสนใจมาก ดูเหมือนพวกเขาจะเรียกคนจากข้างนอกว่า “คนจากด้านนอก
“ใช่ เราหวังว่าคุณจะให้ความร่วมมือ
“เมื่อไหร่กันที่คนในหุบเขาทําตัวนอบน้อมกับคนจากด้านนอก?” เมี่ยวชิงชานถาม
“ในหมู่บ้านมีคนตาย พวกเขามาที่นี่เพื่อสืบคดีนี้ ให้พวกเราเข้าไปดูข้างในเถอะ มันเป็นความต้องการของผู้นเอง” น้ําเสียงของเมี่ยวซึ่งเพิ่งเปลี่ยนไปเช่นเดียวกัน
เมื่อได้ยินว่าเป็นความต้องการของผู้นําหมู่บ้าน สีหน้าของเมี่ยวชิงชานก็เปลี่ยนไปทันที เขาจึงจํายอมเปิดทางให้พวกเขา
หยางกวนเพิ่งคิด ดูเหมือนผู้นําเมียวจะมีอิทธิพลในหมู่บ้านไม่น้อยเลย!
ทั้งสามเดินเข้าไปในบ้าน
โฮ่งโฮ่ง!โฮ่ง! สุนัขขนาดกลางส่งเสียงเห่า ท่าทีของมันดูดุร้ายอย่างมาก
หยางกวนเฟิงมองสํารวจบ้านอย่างละเอียด หลักฐานเพียงอย่างเดียวที่มีก็คือรอยเลือดที่ชายคนนั้นทิ้งไว้ตอนที่วิ่งหนีมา และชิ้นเนื้อที่หล่นตามรายทาง นี่ถือเป็นบททดสอบประสบการณ์และระดับความละเอียดถี่ถ้วนของคนคนหนึ่ง ถ้าหากมีสุนัขตํารวจมาด้วย งานก็คงง่ายกว่านี้มาก แต่ถึงแม้จะไม่มีความสามารถในการดมกลิ่นของสุนัขตํารวจ หยางกวนเฟิงก็ยังสามารถค้นพบเบาะ แสบางอย่างได้ ตอนนี้ เขาสามารถยืนยันได้แล้วว่า การตายของ “คนจากด้านนอก” มาจากบ้านหลังนี้
“ช่วงนี้ มีคนแปลกหน้ามาที่หมู่บ้านบ้างไหมครับ?”
“มีครับ พวกคุณสองคนยังไงล่ะ”
“แล้วคนอื่นนอกจากพวกเราล่ะครับ?”
“ไม่มีครับ”
“คุณแน่ใจนะครับ?”
“ผมแน่ใจ”
“คุณอยู่บ้านตลอดทั้งวันรึเปล่าครับ?”
“ใช่”
หยางกวนเฟิงสังเกตเดี่ยวชิงชานที่ยังคงมีสายตาเย็นชาอย่างละเอียด
“ทําไมเหรอครับ ผู้กองหยาง?”
“ผู้ชายคนนั้นเคยอยู่ที่นี่มาก่อน” หยางกวนเพิ่งพูด
“อะไรนะ? คุณแน่ใจเหรอครับ?”
“ผมแน่ใจ คุณเก็บชิ้นเนื้อบนพื้นกลับไปตรวจสอบดีเอ็นเอดู ดีเอ็นเออาจจะไปตรงกับผู้ตายก็ได้”
เขามองดูชิ้นเนื้อที่แทบมองไม่เห็นบนพื้น แล้วแววตาของเขาก็เย็นเยียบ
“พี่ชิงชาน ที่เขาพูดเป็นเรื่องจริงรึเปล่า?” สีหน้าของเมี่ยวซึ่งเพิ่งเปลี่ยนไป “เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นหรอกนะ
เมี่ยวชิงชานไม่พูดอะไร
“ดูเหมือนเรื่องจะยิ่งยุ่งไปกันใหญ่แล้ว” เมี่ยวซึ่งเฟิงพูดเสียงเบา
“พวกเราไปกันครับ”
“หา?” หยางกวนเฟิงกิ้ง ผู้ต้องสงสัยยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว สิ่งที่พวกเขาจําเป็นต้อง ทําต่อจากนี้ก็คือเข้าไปในห้องของเขา และค้นหาเบาะแสที่น่าสงสัย ถ้าพวกเขากลับไป ก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายทําลายเบาะแสและหลักฐานจนหมด
“เราไปคุยกันทางกันก่อนเถอะครับ”
เมี่ยวชิงเฟิงกึ่งจุงกิ่งลากเขาออกไปด้านนอก
“ผู้ชายคนนี้เป็นผู้ต้องสงสัยคนสําคัญ ผมอยากเข้าไปตรวจดูในห้องของเขา ถ้าพวกเรากลับไปตอนนี้และปล่อยเขาไป เขาอาจะทําลายหลักฐานก็ได้นะครับ”
“เรื่องนี้คุณแน่ใจใช่ไหมครับ?”
“คุณกังวลเรื่องอะไรอยู่เหรอ?”
“สถานะของผู้ชายคนนี้ค่อนข้างพิเศษน่ะครับ”
“พิเศษ? มันพิเศษขนาดไหนกัน? หรือเขามีเหรียญทองที่ช่วยให้รอดพ้นจากความตายได้?” หยางกวนเพิ่งถามด้วยความไม่พอใจ
“เขาเป็นหลานชายของผู้นําหมู่บ้านคนก่อนครับ”
“แล้วมันเกี่ยวกันยังไง?”
“คุณคงไม่รู้ว่า อิทธิพลของผู้นําหมู่บ้านคนก่อนมีมากขนาดไหน”
“ทั้งหมดที่ผมรู้ในตอนนี้ก็คือ เขาเป็นผู้ต้องสงสัยคนสําคัญ” หยางกวนเฟิงพูด เขาไม่สนใจเรื่องอดีตผู้นําหมู่บ้านหรือเรื่องอื่นใด
“เขาเป็นเพียงคนเดียวในตระกูลที่ยังเหลืออยู่ครับ”
“แล้วทําไม?”
“ผมคงต้องเอาเรื่องนี้ไปถามผู้นําหมู่บ้านก่อน”
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็รีบไปหาเขาเลยสิ” หยางกวนเฟิงพูด “อย่าชักช้านะครับ ห้านาทีพอรึเปล่า?”
“คุณต้องรอจนกว่าผมจะกลับมา ผมจะไปหาผู้นําก่อน”
“ไม่ต้องเสียเวลาตามหาฉันหรอก” มีเสียงหนึ่งดังขึ้น เป็นเมี่ยวซีเหอที่ปรากฏอยู่ไม่ไกลจากพวกเขา
“สวัสดีครับ ผู้นําเมี่ยว”
“สวัสดีครับ ผู้กองหยาง”
“ไปกันเถอะ ผมจะไปคุยกับเขาเอง”
“ลง” เมื่อเห็นเมี่ยวซีเหอ เมี่ยวชิงชานก็มีท่าที่เปลี่ยนไป เขาดูเคารพอีกฝ่ายอย่างมาก
“ชิงชาน บอกความจริงกับลุงมา เธอได้เจอคนจากด้านนอกรึเปล่า?”
“ผมไม่เคยเจอเขา ไม่อย่างนั้นหมาก็ต้องเห่าใส่เขาแล้ว”
“ผู้กองหยาง?” เมี่ยวซีเหอหันไปมองหยางกวนเฟิง
“ผมอยากเข้าไปดูข้างในบ้านของเขาครับ”
“ชิงชาน ให้เขาเข้าไปดูข้างในบ้านเถอะ”
“ครับ ลุง”
อิทธิพลของเมียวซีเหอมีค่อนข้างมาก เขาเพียงพูดไม่กี่ประโยค ก็สามารถทําให้อีกฝ่ายเชื่อฟังได้แล้ว
คนทั้งกลุ่มเดินเข้าไปด้านในที่ดูรกและมีกลิ่นฉุนของตัวยา
“เธอทําอะไรในนี้กัน?” เมี่ยวซีเหอถามแล้วหันไปทางเสี่ยวชิงชาน
“เอ่อ…” เมี่ยวชิงชานไม่ได้ตอบคําถาม
ภายในห้องมีกลิ่นเลือดอยู่
มันไม่ใช่ครั้งแรกที่หยางกวนเพิ่งได้กลิ่นแบบนี้ และเขาก็ค่อนข้างอ่อนไหวกับมันมาก
มันเป็นกลิ่นเลือดของมนุษย์หรือสัตว์?
เขาเดินค้นหาและตามกลิ่นไป
เดียว!
อยู่ๆเมี่ยวชิงชานก็ขวางเขาเอาไว้
“ชิงชาน!” สีหน้าของเมี่ยวซีเหอเปลี่ยนไป “เธอไม่ฟังที่ลุงพูดแล้วเหรอ?”
“ผู้นํา ผมไม่ได้ฆ่าใครนะ” คําที่เชี่ยวชิงชานใช้เอ่ยเรียกเขาเปลี่ยนไป
“แล้วเธอกลัวอะไรล่ะ?”
“ผมกลัวว่าจะถูกใส่ร้าย” เมี่ยวชิงชานพูด
“ช่วยหลีกทางด้วย!”
สายตาของเมี่ยวชิงชานเปลี่ยนไปเย็นชาอีกครั้ง
แบบนี้ไม่ดีแน่
หยางกวนเพิ่งหยิบปืนออกมา อยู่ๆอีกฝ่ายก็โผล่มาตรงหน้าเขา แล้วเมียวชิงชานก็หมดสติล้มลงไปกองกับพื้น
เร็วมาก!
หยางกวนเพิ่งมองดูเมี่ยวซีเหอที่ยืนอยู่ด้านหน้าเขา ผู้นําหมู่บ้านคือยอดฝีมือ เขาคาดไม่ถึงเลยจริงๆ
“เอาล่ะครับ ผู้กองหยาง คุณสามารถตรวจสอบได้เท่าที่คุณต้องการเลย” น้ําเสียงของเมียวซีเหอเย็นชาเล็กน้อย
หยางกวนเฟิงไม่ได้สนใจเรื่องนั้น ตอนนี้เขาเดินตากลิ่นเลือดและรับค้นหาให้เร็วที่สุด แล้วเขาก็พบเส้นทางที่นําไปสู่ชั้นใต้ดิน เขาเปิดประตูทางเข้าที่อยู่บนพื้น กลิ่นเลือดเข้มข้นพุ่งออกมาจากข้างใต้ มันเป็นกลิ่นเหม็นน่าสะอิดสะเอียน
“นั่นเป็นกลิ่นเลือดมนุษย์” หยางกวนเพิ่งพูด