Elixir Supplier - ตอนที่ 880 เรียบง่าย ง่ายมาก
นิยาย Elixir Supplier 880 เรียบง่าย ง่ายมาก
ในตอนที่พูดอยู่นั้น เขาก็หยิบกุญแจรถออกมาวางไว้บนโต๊ะ
“นี่เป็นกุญแจรถบีเอ็มที่จอดอยู่ข้างนอก” คนขับรถพูด “มันยังขับได้ไม่ถึง 20,000 ไมล์และมีราคาสูงกว่าหนึ่งแสนหยวนแน่นอน”เขารีบพูดด้วยกลัวว่าหวังเย้าจะไม่เชื่อเขาและปฏิเสธที่จะรักษาเสวี่ยซินหยวนถ้าหากการรักษาล่าช้าออกไปแล้วเกิดปัญหาขึ้นกับเสวี่ยซินหยวนเขาต้องถูกไล่ออกแน่แล้วรถก็เป็นของบริษัทเขาจึงเอามาเป็นประกันโดยไม่ลังเล
“เพื่อนร่วมงานของผมกําลังเดินทางมา” คนขับรถพูด “เขาจะมาถึงที่นี่ตอนเที่ยงและจะจ่ายเงินค่ารักษาให้ในตอนที่เขามาถึง”
“ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นคุณรอก่อน” หวังเย้าพูด
“โอ้ ขอบคุณมากครับ!” เมื่อได้ยินค่าพูดนั้น คนขับรถก็โล่งอก
“พวกคุณรอก่อนนะครับ หวังเย้าพูดกับเจี่ยจื้อจายและหูเหมย “ผมจะไปต้มยาเพื่อล้างพิษให้เขาถ้าอยากดื่มยาก็ชงเองได้เลย”
“ได้ครับ เชียนเชิง”
หวังเย้าเดินไปอีกห้องหนึ่ง คนป่วยถูกพิษ มันเป็นพิษร้อน จึงเป็นเรื่องง่ายในการรักษาสําหรับเขา
เขาต้องการหญ้าพิษแค่ใบเดียวเท่านั้น
หากชายคนนั้นไปที่อื่น การรักษาของหมอคนอื่นอาจไม่สามารถช่วยเขาได้ไม่ว่าจะเค้นสมองและพยายามแค่ไหนก็ตาม
พิษชนิดนี้เป็นพิษที่แปลกมาก ฉันอยากรู้จริงๆว่าเขาไปถูกพิษจากที่ไหนมา
น้ำเริ่มเดือด เขาปล่อยให้มันเย็นลงเล็กน้อยก่อนจะใส่สมุนไพรลงไป แล้วมันก็ละลายไปกับน้ำอย่างรวดเร็ว
เรียบร้อย
หวังเย้าเดินกลับเข้าไปในห้องคนป่วยพร้อมกับถ้วยที่ใส่ยาเอาไว้
“ช่วยพยุงเขาให้ลุกขึ้นนั่งด้วยครับ”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น คนขับรถก็รีบเดินเข้าไปและช่วยพยุงตัวเสวี่ยซินหยวนให้ลุกขึ้นนั่ง
หวังเย้ายื่นมือไปบีบปากของเขาให้เปิดออกเพื่อให้เขาดื่มยาเข้าไปจากนั้นเขาก็นั่งรอต่อไปประมาณ 20 นาที
“ได้แล้ว”
เพียงเขาโบกมือ เสวี่ยซินหยวนที่นอนอยู่บนเตียงก็ค่อยๆตื่นขึ้นมา สิ่งแรกที่เขาเห็นก็คือชายหนุ่มคนหนึ่งเขาคิดเขาดูอายุยังไม่ถึง 30 เลยด้วยซ้ำ
“ผมอยู่ที่ไหน?”
“รู้สึกเป็นยังไงบ้างครับ?” หวังเย้าถาม
“รู้สึกยังไงเหรอ?” เสวี่ยซินหยวนนิ่งอึ้ง
เขาเพิ่งนึกขึ้นได้เดี๋ยวนี้เองว่า ความร้อนแผดเผาที่ทําให้เขาต้องทุกข์ทรมานและกลายเป็นบ้าแทบจะหายไปเกือบหมดแล้วเขาได้สติกลับมาแล้วถึงแม้ร่างกายของเขาจะเจ็บปวดเล็กน้อยโดยเฉพาะมือของเขาที่รู้สึกราวกับกระดูกนิ้วมือของเขาแตกจนไม่เหลือดี แต่ในที่สุดเขาก็กลับมาเป็นตัวเองได้อีกครั้งแล้ว
“คุณคือหวังเย้า หมอหวังใช่ไหม?” เสวี่ยซินหยวนเข้าใจได้ทันทีว่าเป็นไปได้ที่หมอหวังจะโผล่มาช่วยเขาในช่วงวิกฤตได้ทันเวลาพอดี
“ใช่ครับ ผมเอง พิษที่คุณโดนน่าสนใจมากเลยนะครับ” หวังเย้าพูดด้วยรอยยิ้ม
“ผมไม่ระวังเอง” เสวี่ยซินหยวนพูด
“มันเป็นพิษจากแมลงหรือพืชครับ?” “ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง ผมถูกพิษที่เคลือบอยู่บนลูกธนู”เสวี่ยซินหยวนตอบ
เขาจ่าทุกอย่างที่กั่วเจิ้งเหอบอกกับเขาก่อนจะมาที่นี่ เรื่องนี้เขาสามารถบอกหวังเย้าได้เขาจึงพูดออกไป
“โอ้?” หวังเย้าตกใจเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าจะยังมีคนใช้ธนูพิษอยู่ “คุณพอจะบอกผมได้ไหมครับว่ามันเกิดขึ้นที่ไหน?”
“ได้สิ ที่ยูนนานใต้ เป็นที่ที่ถูกเรียกว่า หุบเขาพันโอสถ”
“ยูนนานใต้? หุบเขาพันโอสถ?” “ทําไม? หมอก็รู้จักที่นั่นเหรอ?”
“อืม ผมเคยได้ยินมาบ้างครับ” หวังเย้ายิ้ม เขาเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้มาก่อนเป็นซางจื้อพูดขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ มันดูเป็นสถานที่ที่ลึกลับมาก
“พิษในร่างของคุณถูกกําจัดออกไปจนหมดแล้ว แต่ค่ารักษาแพงมากนะครับ”
“เท่าไหร่?”
หลังจากที่ได้ยินราคาจากหวังเย้า เสวี่ยซินหยวนก็ไม่แม้แต่กระพริบตา
“บอกเพื่อนร่วมงานของนายว่าไม่ต้องมาแล้ว” เสวี่ยซินหยวนจ่ายเงินผ่านทางโทรศัพท์ของเขาทันที
“ส่งมือมาให้ผมหน่อยครับผมจะรักษามือให้คุณด้วย”
ก่อนหน้านี้ เขาใช้นิ้วมือเจาะเข้าไปในต้นไม้และชกลงไปที่พื้นดิน มือของเขาจึงได้รับบาดเจ็บ
“ได้ ขอบคุณมาก”
หวังเข้าทําการรักษาบาดแผลอย่างเรียบง่าย เขาโรยผงยาลงไปบนแผลและใช้ผ้าพันแผลพันเอาไว้
“ถึงพิษจะถูกกําจัดออกไปแล้ว แต่ภายในร่างกายของคุณยังมีอาการบาดเจ็บซุกซ่อนอยู่ด้วยมันจําเป็นต้องได้รับการรักษาและฟื้นตัวกลับไปแล้วคุณต้องใช้เวลาพักฟื้นสักระยะนะครับ”
“คุณพอจะมียารักษาที่เหมาะสมไหม?” เสวี่ยซินหยวนถาม
ถึงแม้พิษจะหมดไปแล้ว แต่เขายังจําเป็นต้องดูแลร่างกายให้ดี เขาจึงถามยาจากหวังเย้า
“มีครับ ผมมีซุปเสี่ยวเผยหยวนอยู่ มันสามารถซ่อมแซมบํารุงร่างกายเหมาะกับสถานการณ์ตอนนี้ของคุณมาก”
“ถ้าอย่างนั้นผมคงต้องรบกวนหมอแล้ว”
เขารับยามาจากหวังเย้าและกลับไปหลังจากที่จ่ายเงินเสร็จ
หลังออกมาจากคลินิกแล้ว เสวี่ยซินหยวนก็ถามคนขับรถว่า “เกิดอะไรขึ้นบ้าง?” “เอ่อตั้งแต่ที่คุณหมดสติไปใช่ไหมครับ?”
“ตั้งแต่ที่เรามาถึงที่นี่ จนถึงตอนที่ฉันตื่น” เสวี่ยซินหยวนพูด
“คุณจําเรื่องก่อนที่คุณจะหมดสติไม่ได้เลยเหรอครับ? หรือคุณจะความจําเสื่อมไปแล้ว?”
“ไม่ใช่ ฉันแค่จําไม่ได้ทั้งหมดเท่านั้น” เสวี่ยซินหยวนตอบ มีเศษเสี้ยวความทรงจําบางอย่างที่เขาจําได้ไม่ชัดเจนนัก
คนขับรถบอกเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น รวมไปถึงตอนที่เขาฝังเล็บลงไปในต้นไม้และชกต่อยพื้นดินในตอนที่เขาบ้าคลั่ง รวมไปถึงตอนที่เขาวิ่งเข้าไปในทุ่งนาและถูกชายอีกคนควบคุมเอาไว้จนอยู่หมัด
“ฉันพอจะจําได้รางๆแล้ว” เสวี่ยซินหยวนพูด
“คุณเสวี่ย คุณไม่คิดว่าค่ายาแพงเกินไปเหรอครับ? ตั้ง 100,00 หยวนเลยนะครับ?!”คนขับรถ
ถาม
การหาเงินไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป ราคายาหนึ่งโดสเทียบได้กับเงินเดือนเกือบทั้งปีของเขาหมอคนนี้สามารถหาเงินได้เท่าไหร่ในแต่ละปี?
เสวี่ยซินหยวนตอบออกไปอย่างเรียบเฉย “มันไม่แพงเลย มันมีค่ามากกว่านั้นด้วยซ้ำ”
“อะไรนะ? ไม่แพงงั้นเหรอครับ?” คนขับรถเกือบเลี้ยวลงแม่น้ำที่อยู่ข้างทางเขาคิดหรือสมองของเขาจะโดนเผาจนเสียหายอย่างหนักไปแล้ว?
“ถ้าบอกว่ายาราคาแพง แล้วชีวิตของนายมีค่าเท่าไหร่ล่ะ?”
เอ่อ เรื่องนั้น จะเอาเงินมาวัดกันได้ยังไงล่ะครับ?” คนขับรถตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มกระอักกระอ่วน
“ถูกแล้วล่ะ ชีวิตประเมิณค่าไม่ได้” เสวี่ยซินหยวนพูด “ถ้าฉันไม่ได้รับการรักษาทันเวลาฉันอาจจะตายก็ได้ แล้วเงินที่ฉันมีอยู่จะมีประโยชน์อะไร?”
หลังจากได้ยินแบบนั้น คนขับรถก็หยุดพูด
เขารู้ว่าที่เสวี่ยซินหยวนพูดมามีเหตุผล แต่ถ้าให้คนธรรมดาอย่างเขาจ่ายเงินในราคานั้นเพื่อซื้อยาแค่หนึ่งโดส เขาคงทําไม่ได้
“ส่วนเรื่องของหมอหวัง คิดไม่ถึงเลยจริงๆ มันน่าอัศจรรย์มากที่เขามีความสามารถยอดเยี่ยมทั้งที่อายุยังน้อยขนาดนี้”
“อ่อ อื่ม ใช่ครับ”
“ผู้ชายคนนั้นเรียกเขาว่าเชียนเชิงใช่ไหม?”
“ครับ คนคนนั้นเรียกเขาว่าเชียนเชิง”
เสวี่ยซินหยวนรู้ถึงความสามารถของตัวเองดี เมื่อเขาอยู่ในสภาวะบ้าคลั่ง ไม่มีทางที่คนธรรมดาจะหยุดยั้งเขาเอาไว้ได้ เขามีทักษะการต่อสู้,รวมไปถึงทักษะการสังหารที่แทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายซึ่งเกิดจากการฝึกฝนมาตลอดหลายปียิ่งเขาเผชิญอันตรายมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งแสดงความสามารถออกมามากเท่านั้นชายคนนั้นสามารถควบคุมเขาที่อยู่ในอาการคุ้มคลั่งได้ เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายมีความสามารถสูงขนาดไหน
“มันน่าประหลาดใจจริงๆ ที่สองคนนั้นมาอยู่ในหมู่บ้านกลางเขาแบบนี้!” เขาหันกลับไปมองหมู่บ้านบนเขาที่อยู่ด้านหลัง
“หรือมันจะเป็นสถานที่พิเศษและไม่เคยได้ยินมาก่อนเหมือนอย่างหุบเขาพันโอสถ?”
เมื่อคิดขึ้นมาแบบนั้น เขาก็หยิบมือถือออกมาและค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหมู่บ้านแห่งนี้
“มีประวัติแค่ 70 ปีเองเหรอ?”
“คุณเสวี่ย เราจะไปไหนกันต่อครับ?”
“กลับไปเมืองเต๋ ฉันอยากรีบกลับไปให้เร็วที่สุด”
“ได้ครับ”
“รอเดี๋ยว!” อยู่ๆเสวี่ยซินหยวนก็ตะโกนออกมา
รถถูกเหยียบเบรกกะทันหัน “มีอะไรเหรอครับ?”
“กลับไปที่คลินิกก่อน”
“หา?”
“กลับไป”
“ได้ครับ” คนขับกลับรถและขับกลับไปที่คลินิก
“รออยู่ที่นี่ก่อน”
เสวี่ยซินหยวนเคาะประตูและเดินเข้าในคลินิก คนทั้งสามยังคงอยู่ภายในนั้น
เมื่อเห็นเขากลับเข้ามา หวังเย้าก็ถามด้วยรอยยิ้มว่า “มีอะไรอีกรึเปล่าครับ?”
“หมอหวัง หมอยังพอมียาแก้พิษเหลืออยู่ไหม?”
“ยังเหลืออยู่นิดหน่อยครับ” หวังเย้าตอบ “ทําไมเหรอครับ?”
“เฮ้อ เยี่ยมไปเลย” เสวี่ยซินหยวนพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล “ผมขอซื้อเพิ่มได้ไหมครับ?”
“ได้สิครับ ยาส่วนนี้ไม่ต้องจ่ายหรอก รอเดี๋ยวนะครับ”
หวังเย้าเทยาแก้พิษที่เหลืออยู่ในหม้อต้มยาลงไปในขวดและส่งให้กับเสวี่ยซินหยวน
“ขอบคุณครับ
“ยินดีครับ”
เสวี่ยซินหยวนจากไปพร้อมกับยาแก้พิษ
“คุณซื้อยามาเพิ่มอีกเหรอครับ?” คนขับรถประหลาดใจเมื่อเห็นเขากลับมาพร้อมกับขวดยา
“ฉันไม่ได้ซื้อ ขับออกไปได้แล้ว”
“อ้อ ครับ” รถถูกสตาร์ทและขับออกไปจากหมู่บ้าน
ภายในคลินิก
“ผู้ชายคนนั้นไม่ธรรมดา!” เจี้ยจื้อจายพูด
“ใช่ พลังงานชั่วร้ายรอบตัวเขาเข้มข้นเหมือนอย่างของคุณในเมื่อก่อน”หวังเย้าพูดเขาอ่อนไหวกับพลังงานเหล่านี้มากทําให้เขารับรู้ถึงพลังงานจากชายคนนั้นได้