Elixir Supplier - ตอนที่ 908 นอกเรื่อง
908 นอกเรื่อง
แม้คําพูดแต่ละค่าที่พูดออกมาจะเต็มไปด้วยความสุภาพ แต่ความคิดที่แท้จริงล้วนแจ่มชัดอยู่
ภายในใจของพวกเขา
หลังเดินออกมาจากอาคารไม้ไผ่แล้วหลู่ซิ่วเฟิงก็ลืมตัวหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดหลังจากจุดไปหนึ่งมวนเขาก็ส่งไปให้เคี่ยวชิงเฟิง“เอาสักมวนไหม?”“ขอบคุณครับแต่ผมไม่สูบ”เมี่ยวชิงเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม
“ผู้กองหยาง เราจะเริ่มจากตรงไหนดีครับ?”
“เริ่มที่บ้านของเมี่ยวชิงชานก่อนดีกว่าครับ”
“ได้ครับ” เดี่ยวชิงเฟิงพูด
เขาเดินน่าคนทั้งสองไปที่บ้านของเมี่ยวชิงชาน
มันอยู่ในสภาพเดียวกับก่อนหน้านี้หยางกวนเฟิงและหลู่ซิ่วเฟิงเดินไปรอบๆและสํารวจดูภายในบ้านอย่างละเอียดอยู่หลายครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ได้พลาดอะไรไป
ทุกสิ่งอย่างภายในห้องถูกตรวจค้นอย่างละเอียดช่องลับที่ถูกซ่อนเอาไว้ก็ถูกหยางกวนเฟิง
ตรวจค้นอย่างละเอียด
“ไม่มีเบาะแสของเขาเลยเหรอครับ?” หยางกวนเฟิงถาม
“ไม่มีครับ ตั้งแต่ที่เขาหนีไปทางหุบเขาก็ไม่เคยล้มเลิกการตามหาตัวเขา แต่เราก็ไม่พบอะไรเลย”เมี่ยวชิงเฟิงพูด“แล้วป่าที่นี่ก็กว้างใหญ่มากด้วย”
“นั่นสินะครับ”
หลู่ซิ่วเฟิงที่คาบบุหรี่เอาไว้ในปากได้จับจ้องไปที่ขวดและโถต่างๆ ในตอนที่เขากําลังจะเอื้อมมือออกไปจับเขาก็ถูกเบี้ยวชิงเฟิงหยุดเอาไว้ก่อน
“ผู้กองหลู่ ระวังครับ” เขาพูด “บางอย่างในนั้นมีพิษอยู่ด้วย ถ้าคุณอยากดูก็บอกผมได้ผมจะเปิดให้เองครับ”
“พิษ? มันฆ่าคนได้รึเปล่าครับ?” หลู่ซิ่วเฟิงรีบดึงมือของเขากลับมาทันที
“เอ่อ มันไม่ได้ร้ายแรงถึงขนาดนั้น แต่ก็สร้างความเจ็บปวดได้ไม่น้อยเลยล่ะครับ”เมี่ยวชิงเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม
“คุณอยากดูอันไหนเหรอครับ?”
“ขอผมดูไปทีละอันเริ่มจากด้านนี้ก่อนแล้วกันครับ” หลู่ซิ่วเฟิงพูดแล้วชี้
“เอาของพวกนี้มาวางไว้แบบนี้จะไม่เป็นอันตรายเหรอครับ? ถ้าเกิดมีคนเข้ามาแล้วเผลอไป
เปิดเข้าจะทํายังไง?”
“อย่างแรกเลยก็คือ คนในหุบเขาจะไม่เข้าบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของก่อนยังไม่พูดถึงตัวบ้านแม้แต่ประตูบ้านเปิดเอาไว้ก็เข้าไม่ได้ครับ”เมี่ยวชิงเฟิงพูด“ตลอด 100 ปีที่ผ่านมามีไม่กี่ครั้งที่เกิดเรื่องขึ้น อย่างที่สองพิษพวกนี้เป็นอันตรายสําหรับพวกคุณมากแต่มันส่งผลต่อคนในหุบเขาน้อยมากถึงพวกเขาจะเผลอถูกพิษเข้าพวกเขาก็มีวิธีการที่จะล้างพิษออกไปได้เลวร้ายที่สุด พวกเขาก็แค่เจ็บปวดเล็กน้อยเท่านั้น”
“โอ้โห ไม่ปิดประตูตอนกลางคืน ของตกหรือของหายตามถนนก็ไม่เก็บขึ้นมาความปลอดภัย
ในนี้ดีขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย?”
“มันไม่แย่เพราะเราเป็นกลุ่มก้อนเดียวกันครับ”
“แล้วเรื่องของเมี่ยวชิงชานล่ะครับ?”
เมี่ยวชิงเฟิงถูกคําถามทําให้นิ่งอึ้ง อยู่ๆเขาก็คิดไม่ออกว่าควรพูดอะไรออกไปดี
เมี่ยวชิงเฟิงคิด ผู้ชายคนนี้ไม่รู้วิธีพูดเลยสักนิด ฉันอยากจะฆ่าเขาให้ตายๆไปซะ! “เมื่อป่าใหญ่มักมีต้นไม้คดงออยู่เสมอ”
“เอ่อ เขาเป็นคนชอบพูดแบบนี้ล่ะครับ” หยางกวนเฟิงรีบอธิบาย “อย่าใส่ใจเลยนะครับ” “ไม่เป็นไรครับ”เมี่ยวชิงเฟิงยิ้มเพื่อแสดงให้รู้ว่าเขาไม่ได้เก็บมาใส่ใจ
“เอ่อ ปีนี้เดี๋ยวชิงชานอายุเท่าไหร่เหรอครับ?”
“34”
“เขาแต่งงานรึยังครับ?” หลู่ซิ่วเฟิงถาม
“ยังครับ”
“ทาไมครับ?”
“เอ่อ ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทําไมเขาถึงยังไม่แต่งงาน” เดี่ยวชิงเฟิงตอบด้วยรอยยิ้มทําไมเขาต้องสนใจเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของอีกฝ่ายด้วย?
“ในหมู่บ้าน มีคนอายุมากที่ยังไม่แต่งงานอยู่เยอะไหมครับ?” หลู่ซิ่วเฟิงถาม
เดี่ยวชิงเฟิงอดบ่นในใจไม่ได้ คําถามนอกเรื่องพวกนี้มันอะไรกัน? มันเกี่ยวข้องกับคดีที่ตรงไหน?
“เอ่อ น่าจะไม่เยอะเท่าไหร่ครับ ปกติผมไม่ค่อยได้สนใจเรื่องพวกนี้เท่าไหร่”
“คุณอายุเท่าไหร่ครับ?คุณอายุถึง 30 รึยัง?”
“29 ครับ”
“คุณแต่งงานรึยังครับ?”
“ยังครับ”
“แล้วพ่อแม่ของคุณไม่กังวลหรือร้อนใจบ้างเหรอ? ทําไมคุณถึงไม่รีบแต่งล่ะครับ?”หลู่ซิ่วเฟิงถามต่อ
หยางกวนเฟิงสังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเมี่ยวชิงเฟิง เมื่อเขาได้ยินคําถามเหล่านั้น
หยางกวนเฟิงจึงรีบตีหลู่ซิ่วเฟิง “เพี้ยะ คุณกําลังทําอะไรอยู่?”
“โอ้ ผมขอโทษ แค่ถามนั่นถามนี่ไปเรื่อยเท่านั้นเองครับ”
“คําถามพวกนี้ของผู้กองหลู่ดูเหมือนจะไม่ได้เกี่ยวกับคดีสักเท่าไหร่ ใช่ไหมครับ?”
“ถ้าอย่างนั้นผมจะถามคําถามที่เกี่ยวข้องกับคดีแล้วกันครับ” หลู่ซิ่วเฟิงพูด
“ปกติเมี่ยวชิงชานมีนิสัยยังไงเหรอครับ?”
“เขาเป็นคนที่ซื่อสัตย์และซื่อตรงมากครับ แต่เขาเป็นคนพูดน้อย และชอบอยู่แต่ในบ้าน”
“แล้วทําไมคนแบบเขาถึงฆ่าคนได้ล่ะครับ?”
“เรื่องนั้นผมไม่รู้ครับ”เมี่ยวชิงเฟิงตอบ
“ถ้าเขาอยู่แต่ในบ้านตลอดเวลานั่นก็แปลว่าเขาไม่ได้ออกไปข้างนอกบ่อยใช่ไหมครับ?”“เรื่องนั้นผมไม่รู้เหมือนกันครับ”เดี่ยวชิงเฟิงตอบ“ในหมู่บ้านมีคนอยู่มากใครจะไปใครจะมาหรือใครขโมยของอะไรผมคงรู้ทั้งหมดไม่ได้หรอกจริงไหมครับ?”
“ครับ มีเหตุผล”
หลู่ซิ่วเฟิงคอยสังเกตดูทุกอย่างเขาสํารวจดูทุกซอกทุกมุมและถามคําถามแปลกๆอีกมากมายมีทั้งเรื่องที่ว่าปกติเมี้ยวชองเฟิงกินอะไร,ชอบทําอะไร, ราศีของเขาคืออะไร,และอื่นๆอีกมากจนเมี่ยวชิงเฟิงมึนไปหมด
เขาเป็นตํารวจหรือเป็นนักข่าวกอสซิปรายสัปดาห์กันแน่?เขาถามคําถามแปลกๆพวกนี้ไปเพื่ออะไร?
โดยที่พวกเขาไม่ทันได้รู้ตัว ท้องฟ้าก็เริ่มมืดลงแล้ว
“พวกคุณสองคนเดินทางและยุ่งอยู่กับคดีมาทั้งวันแล้วตอนเย็นผู้นําของเราได้จัดงานเลี้ยงขึ้นเป็นพิเศษเพื่อเป็นการต้อนรับพวกคุณ หวังว่าพวกคุณจะมาเข้าร่วมงานเลี้ยงได้นะครับ”
พัก
“ได้ครับ” หลู่ซิ่วเฟิงตอบด้วยรอยยิ้ม
“ดีครับ ผมได้จัดเตรียมที่พักไว้ให้พวกคุณแล้ว จะไปดูสักหน่อยไหมครับ?”
“แน่นอนครับ ไปกันเถอะ” หยางกวนเฟิงพูด
เดี่ยวชิงเฟิงและอีกสองคนพากันเดินไปที่บ้านไม้ซึ่งเป็นบ้านหลังเดิมที่หยางกวนเฟิงเคยมา
“เชิญพักผ่อนกันไปก่อนนะครับแล้วผมจะมารับพวกคุณไปงานเลี้ยงเอง”
“ได้ครับ ขอบคุณสําหรับวันนี้นะครับ”
“ยินดีครับ” เมียวชิงเฟิงบอกลาและเดินออกไป
“คุณคิดว่ายังไง?” หยางกวนเฟิงถาม
“ผู้ชายคนนั้นเจ้าเล่ห์มาก” หลู่ซิ่วเฟิงพูด
“ลดเสียงลงหน่อยพวกเขาติดเครื่องดักฟังเอาไว้ก็ได้”หยางกวนเฟิงพูด
“พวกเขาคงไม่ทําถึงขนาดนั้นและเปลี่ยนหุบเขาให้เป็นศูนย์บัญชาการของพวกสปายหรอก
ใชไหม?”
“อืม ผมรู้สึกมาตลอดว่าหุบเขานี้ไม่ปกติมาก” หยางกวนเฟิงพูด
“มันไม่ปกติมากๆเลยล่ะผมได้ดูข้อมูลของเมี่ยวซีเหอมาก่อนแล้ว ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาเก็บ
ข้อมูลสํามะโนครัว ดูเหมือนตอนนั้นเขาจะอายุ 59ปีใช่รึเปล่า?”
“ใช่” หยางกวนเฟิงตอบ
“15 ปีก่อนเขาอายุ 59 ปี” หลู่ซิ่วเฟิงพูด “ตอนนี้เขาก็ควรจะมีอายุ 74 ปี เขาคือคนที่อยู่ในวัยเจ็ดสิบแล้วแต่หน้าตาเขากลับดูเหมือนคนในวัยสี่สิบอยู่เลยถ้าคุณบอกผมว่าเขาอายุ 37 หรือ 38 ผมก็อาจจะเชื่อพวกเขาทําได้ยังไงกัน?”
“บางที เขาอาจจะแค่ดูแลตัวเองดีมากก็ได้” หยางกวนเฟิงพูด
“แค่เขาคนเดียวเหรอ?”
“เลิกพูดเรื่องเขาได้แล้ว มาพูดเรื่องอื่นกันดีกว่า เรื่องของเมี่ยวชิงเฟิงว่ายังไง?”“ผู้ชายคนนั้นไม่ได้ทําให้ผมรู้สึกว่าเขาคือฆาตกรในคดีทั้งหมดนั้นเลย”
“เพราะอะไรเหรอ?”
“จากการตรวจสอบดูภายในบ้านของเขา เขาเป็นคนชอบเก็บตัวที่แทบไม่ออกไปไหนเลย”หลู่ซิ่วเฟิงพูด“คนแบบเขามีแนวโน้มที่จะเป็นออทิสติก มันเป็นความจริงที่เขาชอบสร้างเรื่องแต่
ภายในใจเขากลับเป็นคนขี้อาย เขาไม่ใช่คนพูดมากและออกจะเป็นคนใจดีด้วยซ้ํา”
หลู่ซิ่วเฟิงมีความสามารถพิเศษอยู่อย่างหนึ่ง เขาสามารถ “ร่างภาพ” ของคนที่เขาไม่เคยพบได้ผ่านทางสภาพแวดล้อมที่คนคนนั้นอยู่และทําการวิเคราะห์สภาพจิตใจกับพฤติกรรมออกมาที่
มากไปกว่านั้น ความแม่นยําของเขายังมากถึงเก้าในสิบส่วน ตอนที่เขาเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย
เขาได้ทุ่มเทศึกษาในด้านจิตวิทยาอาชญากรรม
“ถูกใส่ร้าย?”
“เป็นไปได้มาก”
หยางกวนเฟิงเงียบไปครู่หนึ่ง
“ครั้งแรกที่ผมมาที่นี่ ผมก็ไม่คิดว่า เดี๋ยวชิงชานดูเหมือนคนที่เป็นฆาตกรผมคิดว่าเขาเป็นแพะ
รับบาป ส่วนเหตุผลผมเดาว่าเพื่อให้พวกเขาจบคดีให้ได้เร็วที่สุด แล้วเราก็จะได้ออกไปจากที่นี่พวกเขาไม่ต้องการให้เราอยู่ที่นี่นานนัก”หยางกวนเฟิงเข้าไปกระซิบใกล้ๆหลู่ซิ่วเฟิง“นอกจากนี้ ครั้งก่อนยังมีคนแอบส่งข้อมูลให้เราด้วย!”
“ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า มีคนในหุบเขาที่รู้อะไรบางอย่างและต้องการบอกเรื่องนั้นกับเราอย่างนั้นเหรอ?”
“ใช่”
“จ๊ อืมมม”
“เวลาคุณพูดอะไร คุณต้องระวังไว้ด้วย ถึงเบื้องหน้าพวกเขาจะไม่ทําอะไรพวกเราแต่คําถามบางอย่างของคุณอาจทําให้พวกเขาไม่พอใจได้ พวกเขาเชี่ยวชาญในเรื่องพิษพวกเขาสามารถวางยาพิษพวกเราได้ทุกเมื่อเราอาจจะตกลงไปในหลุมพรางของพวกเขาโดยไม่รู้ตัวก็ได้”