Elixir Supplier - ตอนที่ 910 ไม่มีอะไร
910 ไม่มีอะไร
“ใช่เป็นเขา”หลู่ซิ่วเฟิงพูด“ในงานเลี้ยงเมื่อครู่ผมพบว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เมี่ยวซีเหอพูดมือขวาของเขาจะขยับสองสามครั้งตลอด”
“บางทีอาจจะมีสาเหตุอื่นก็ได้”หยางกวนเฟิงพูด
“อืม ผมวิเคราะห์ดูแล้ว”หลู่ซิ่วเฟิงพูด“มันมีความเป็นไปได้มากผมมั่นใจเกือบ 90% รายละเอียดเล็กๆน้อยๆในการกระทําของคนคนหนึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นความคิดของคนคนนั้นได้เชื่อผมผมเชี่ยวชาญเรื่องพวกนี้ดี”
“เลิกโม้ได้แล้ว”หยางกวนเฟิงพูด“มีคนมา
“ฮ่าอร่อยจริงๆ!”หลู่ซิ่วเฟิงอุทานเสียงดัง“ความสามารถในด้านการแสดงของผมยอดเยี่ยมรึเปล่า?”
“เยี่ยมได้ห้าดาวเลยล่ะ”หยางกวนเฟิงพูด
“บอกตามตรงอาหารของที่นี่อร่อยมากแล้วเหล้าหมักก็รสชาติดีเหมือนกัน”หลู่ซิ่วเฟิงพูด
“ผมไม่เคยได้ดื่มเหล้าดีดีแบบนี้มาก่อนเลยขนาดเหล้าเหมาไถกับเหล้าหวูเหลียงเย่ก็ยังเทียบไม่ติดนี่ครั้งก่อนที่คุณมาได้ดื่มรึเปล่า?”
“อืมผมดื่มไปนิดหน่อย”หยางกวนเฟิงพูด“มันรสชาติดีมากจริงๆ” “บอกความจริงกับผมมาเหล้านี่มันช่วยเสริมสมรรถภาพช่วงล่างได้จริงๆเหรอ?”
รอยย่นปรากฏอยู่บนหน้าผากของหยางกวนเฟิง
“ทําไมแต่ละคําที่คุณพูดออกมาต้องเกี่ยวกับเรื่องอย่างว่าตลอดด้วย?”
“เฮ้อคุณนี่ไม่มีอารมณ์ขันเอาซะเลยมันดึกแล้วเข้านอนกันเถอะ พรุ่งนี้เรายังต้องไปเที่ยวชมวิวกันอีก”
พูดจบ หลู่ซิ่วเฟิงก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงเสียงดังตุบไม่นานเขาก็ส่งเสียงกรนดังออกมา“ให้ตายสิ”หยางกวนเฟิงถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้เขาส่ายหน้าและล้มตัวลงนอนตามแต่เขากลับนอนไม่หลับ
ครั้งนี้พวกเขาจะสามารถหาอะไรเจอไหม?จะเกิดเรื่องขึ้นอีกรึเปล่า? มีหลายเรื่องให้ต้องคิดการมาอยู่ในต่างถิ่นท่าทีของอีกฝ่ายก็ไม่ได้เป็นมิตรและรักสงบอย่างที่เห็นภายนอกแล้วเขาจะหลับลงได้ยังไง?
ภายในอาคารไม่ไผ่ที่ตั้งอยู่กลางหุบเขาพันโอสถ
“อาจารย์”
“ที่มาที่ไปของหลู่ซิ่วเฟิงเป็นยังไง?”
“เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการสืบสวนสอบสวนของจังหวัดครับ เขายังถือได้ว่าเป็นคู่หูที่ดีที่สุดที่หยางกวนเฟิงเคยมีและยังมีเปอร์เซ็นต์ในการไขคดีสําเร็จสูงมากเขาเป็นผู้มีพรสวรรค์ที่ขึ้นตรงกับทางปักกิ่ง”
“ให้ความร่วมมือในการสืบสวนกับพวกเขาปล่อยให้พวกเขาสืบเท่าที่ต้องการ”เมี่ยวซีเหอพูด
“แล้วทางนั้นเป็นยังไงบ้าง?”
“ดีครับ ทุกอย่างราบรื่นดี”
“ดี”
ค่าคืนเงียบสงัด
บนเนินเขาหนานชาน ที่ห่างออกไปหลายพันไมล์ดอกไม้บางดอกเบ่งบานอย่างเงียบงันอยู่ภายในแปลงสมุนไพร
เสียงท่องคัมภีร์ดังออกมาจากกระท่อมหลังน้อย
สุนัขตัวโตอินทรีย์งูสีดําาต่างฟังเสียงท่องอยู่เงียบๆและพักผ่อนเมื่อเสียงท่องหยุดลงเช้าวันต่อมายาตัวแรกที่ถูกผลิตออกมาถูกขนขึ้นรถบรรทุกและออกเดินทางไปบนถนนมันจะถูกนําไปขายที่ทางใต้อก
ฟุ้ว! ในที่สุด ก็ขายสินค้าชุดแรกไปได้แล้ว!ผู้จัดการฝ่ายผลิตของบริษัทถอนหายใจอย่างโล่ง
เขาเป็นคนทางใต้และติดตามตระกูลเจิ้งมานานหลายปี เป็นธรรมดาที่เขาจะรู้ข่าววงในมาบ้างรวมไปถึงการไม่ลงรอยกันของพี่น้องตระกูลเจิ้งคุณชายเจิ้งเป็นฝ่ายพ่ายแพ้เขาทิ้งกิจการเกือบ ทั้งหมดของตระกูลและเก็บไว้แค่บริษัทผลิตยาเอาไว้เท่านั้นชายหนุ่มยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทถ้าคุณชายเจิ้งล้มก็หมายความว่าเขาก็จะล้มตามไปด้วยเช่นกันมันคงเป็นเรื่องยาก สําหรับเขาที่จะฟื้นตัวขึ้นมาได้อีกครั้งเพราะเขาติดตามอีกฝ่ายมาเป็นเวลานานและถูกตีตราเอาไว้แล้วถึงเขาจะอยู่ที่ทํางานเดิมเขาก็คงไม่ได้รับการยอมรับอยู่ดีดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะติดตามคุณชายเจิ้งออกมา
ในความเป็นจริงเขาไม่ได้ชอบตัวเมืองของเขตเหลียนชานเลยมันเป็นแค่เมืองเล็กๆที่อยู่ทางเหนือสภาพอากาศค่อนข้างแห้งและอาหารหลักของพวกเขาคือบะหมี่ทั้งสภาพอากาศสภาพแวดล้อมและวิถีชีวิตล้วนเป็นสิ่งที่เขาต้องปรับตัวใหม่อีกครั้งนี่ถือเป็นเรื่องรองปัญหาหลักก็คือโรงงานผลิตยาที่เพิ่งถูกก่อตั้งขึ้นมาพวกเขาแยกตัวออกมาจากเครือข่ายขนาดใหญ่ของตระกูลเจิ้งและเริ่มต้นกิจกาจใหม่ขึ้นมาพวกเขาจําเป็นต้องผลิตยาและขายพวกมันตั้งแต่ต้นการค้นคว้าและพัฒนาตัวยาก็เป็นเรื่องยากแล้วแต่คุณชายเจิ้งก็สมกับที่ไม่ใช่คนธรรมดาเขาได้ร่วมมือกับหมอหนุ่มฝีมือดีจึงทําให้การพัฒนายาตัวแรกเป็นไปอย่างรวดเร็วมันง่ายดายจนเกินไปขั้นแรกคือการขายมันออกไปขั้นต่อไปคือขั้นตอนที่สําคัญกว่าพวกเขาจําเป็นต้องขายยาที่ผลิตออกมาแล้วให้หมดถ้าไม่อย่างนั้นถึงพวกเขาจะสามารถผลิตยาที่มีประสิทธิภาพสูงจนเทียบได้กับยาวิเศษแต่ถ้าขายไม่ออกมันก็จะกลายเป็นความล้มเหลวทันทีสําหรับคนเหล่านี้พูดตามตรงมันมี
ไว้เพื่อสร้างเม็ดเงินเท่านั้น
ตัวยาชุดแรกถูกผลิตออกมาเมื่อไม่กี่วันก่อนแต่มันถูกกองเอาไว้ภายในโกดังเก็บสินค้าเขารู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเพื่อให้บริษัทดําเนินต่อไปได้พวกเขาต้องจ่ายเงินพนักงานและซื้อ วัตถุดิบนอกจากนี้สมุนไพรที่พวกเขาซื้อมายังเป็นสมุนไพรที่เติบโตในป่าและถูกคัดที่ดีที่สุดมา
ต้นทุนของพวกเขาจึงสูงกว่าการซื้อสมุนไพรที่เพาะปลูกในโรงเรือนเครื่องจักรก็มีราคาแพงและพวกเบายังต้องจ่ายค่างจ้างพนักงานโรงงานมีแต่เผาเงินไปเรื่อยๆมันจะไม่เป็นอะไรถ้าหาก สินค้าสามารถคืนกําไรได้ทันเวลาถ้าหากไม่เป็นตามนั้นพวกเขาก็มีแต่รอเวลาประตูบานนี้ปิดลงเท่านั้น
ฉันสงสัยว่ามันจะใช้เวลานานแค่ไหนกว่าที่ยาตัวนี้จะติดตลาดแล้วประสิทธิภาพของมันจะดีขนาดไหน
นี่คือยาตัวใหม่ และถูกผลิตโดยบริษัทยาโนเนมพวกเขาต้องอยู่ในขั้นตอนของการรอผลตอบรับจากผู้ใช้ถ้าหากมันได้ผลดีและได้รับการโฆษณาที่เหมาะสมก็จะทําให้ระยะเวลาสั้นลงไปด้วยแต่ถ้าประสิทธิภาพของมันไม่ดีพอและไม่มีการโฆษณาที่ดีพอตัวยาก็คงขายไม่ออก
ประสิทธิภาพเป็นเรื่องหลักแต่มันก็ต้องขึ้นอยู่กับการโฆษณาด้วยเช่นกัน
โชคดีที่ถึงแม้คุณชายเจิ้งจะพ่ายแพ้ให้กับพี่ชายของเขาเขาก็ยังมีเพื่อนฝูงและช่องทางอยู่
บ้าง ทําให้สินค้าชุดแรกถูกส่งออกไปได้
ฉันหวังว่ามันจะสําเร็จตั้งแต่ครั้งแรก!
ตอนเช้าหวังเข้าหาเวลาแวะไปที่โรงงานในเมืองงานผลิตไม่ได้หนักมากเครื่องจักรบางตัวหยุดทํางานเพื่อทําความสะอาดและซ่อมบํารุงเพราะในโกดังมียาที่ถูกผลิตออกมาเก็บไว้เป็นจํานวนมาก
“สวัสดีครับ คุณหวัง”เมื่อได้ยินว่าหวังเข้ามาผู้ดูแลรับผิดชอบในเวลานั้นรีบเข้าไปหาด้วยกลัวว่าที่จะเป็นละเลยไม่สนใจอีกฝ่าย
“คราวหลังไม่ต้องเรียกผมแบบนั้นนะครับผมไม่ชิน”หวังเย้าพูด
เขาไม่ต้องการให้คนรู้มากเกินไปว่าเขามีสถานะเช่นไร
“ถ้าอย่างนั้น…”
“เรียกผมว่าเสี่ยวเย้าหรือเรียกชื่อผมตรงๆก็ได้ครับ” หวังเย้าพูด
“ผมจะทําแบบนั้นได้ยังไงกันครับ?”ผู้ดูแลรีบพูด“คุณคงล้อเล่นแล้วถ้าผมเรียกคุณแบบนั้นถึงคุณจะไม่ว่าอะไรและไม่เก็บมาใส่ใจ แต่ถ้าคุณเจิ้งรู้เข้าผมอาจจะต้องเก็บของและจากไปก็ได้นะครับ”
บ้าง
“ถ้าอย่างนั้นผมเรียกคุณว่าเชียนเชิงดีไหมครับ?”
“เชียนเชิง?”
“เอ่อ หรือจะให้เรียกว่าหมอหวังดีครับ?”
“ดีครับตามใจคุณ”หวังเย้าพูด
“เราได้ขนส่งสินค้าชุดแรกไปทางใต้แล้วครับ”ผู้จัดการฝ่ายผลิตพูด
“การโฆษณายาตัวใหม่ไม่ใช่เรื่องง่ายใช่ไหมครับ?”หวังเย้าถาม เขาพอจะรู้เรื่องการตลาดอยู่
“ถูกแล้วครับ มันไม่ใช่เรื่องง่ายตระกูลของคุณเจิ้งมีความเชี่ยวชาญในด้านนี้แต่ความสัมพันธ์
ของพวกเขาในตอนนี้…”
“เรื่องนั้น…” หวังเย้าใช้ความคิดอยู่นานเขาสามารถช่วยเรื่องนั้นได้เล็กน้อย
“ผมกลับก่อนนะครับ”เขาพูด“คุณไปทํางานต่อเถอะ”
“ได้ครับ ผมจะออกไปส่งนะครับ”
“ไม่ต้องหรอกครับ”หวังเย้าโบกมือปฏิเสธด้วยรอยยิ้มเขาเดินออกประตูขึ้นนั่งบนรถและขับกลับไปที่หมู่บ้าน