Elixir Supplier - ตอนที่ 923 คาดเดาชนิดของพิษ
923 คาดเดาชนิดของพิษ
หลังจากวางสาย ถั่วเจิ้งเหอก็จิบชาเขาหันหน้าไปทางเสวี่ยซินหยวนและถามขึ้นมาว่า“ลุงได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นในเขตบ้างไหมครับ?”
“ได้ยินครับ”เสวี่ยซินหยวนพูดผมเสียใจด้วยนะครับคุณชาย”
“ไม่ว่าลุงจะเสียใจด้วยเรื่องอะไรแต่ทั้งหมดนั้นไม่ใช่ความผิดของลุง”กั่วเจิ้งเหอยิ้ม
“เป็นเพราะผมทํางานไม่สําเร็จและไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย”
สามารถช่วยแบ่งเบาภาระของคุณชายได้เลย”
เสวี่ยซินหยวนพูด“ผมไม่เหตุผลที่เขามาที่นี่ก็เพื่อช่วยกั๋วเจิ้งเหอแก้ปัญหาแต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาบทบาทของเขามีอยู่อย่างจํากัด เขาทําได้เพียงตั้งขอสงสัยถึงการเสียชีวิตจากพิษนี่คือสิ่งที่เขาพอจะทําได้แต่
เขากลับไม่สามารถช่วยหาวิธีรับมือกันมันได้เลย
“ลุงเสวี่ย อย่าโทษตัวเองด้วยเรื่องนี้เลยนะครับ”กั๋วเจิ้งเหอพูด “เจ้าหน้าที่สืบสวนของทางจังหวัดมาที่นี่กันได้สักพักแล้วพวกเขาก็กังวลและมีความคืบหน้าแค่เล็กน้อยเท่านั้น”
“แต่ลุงเสวี่ยผมโมโหมากคนพวกนี้สร้างเรื่องไปทั่วพวกเขาไม่เห็นกฎหมายอยู่ในสายตาเลยสักนิดทั้งยังไม่มีชีวิตคนมีความหมายอะไรเลยด้วย”กั๋วเจิ้งเหอจุดบุหรี่เขาแทบจะไม่สูบบุหรี่เลยและมักจะสูบเฉพาะเวลาที่เขามีความสุขหรือจิตใจว้าวุ่นเท่านั้นเห็นชัดว่าตอนนี้เขาเป็นอย่างหลัง
เขาต้องยั้งตัวเองไว้เพื่อไม่ให้พูดประโยคที่ว่า“แล้วพวกมันยังมาทําให้อาณาเขตของผมด้วย!”ออกไป
“ใช่ครับ” เสวี่ยซินหยวนพยักหน้า
ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใครหรือมีจุดประสงค์อะไร พวกเขาก็ได้ก่ออาชญากรรมพวกนั้นขึ้นพวกเขาต่อต้านกฎหมายอย่างแจ่มแจ้งและรนหาที่ตาย
แต่ตอนนี้ พวกเขากลับจัดการกับคนพวกนั้นไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
“ไม่กี่วันก่อน ผมรับปากว่าจะให้ลุงได้พักผ่อนสักช่วงหนึ่ง”กั๋วเจิ้งเหอพูด “แผมคงต้องผิดค่าสัญญานั้นแล้วล่ะครับ”
“แค่บอกแผนการของคุณชายมาได้เลยครับ” เสวี่ยซินหยวนพูด
“ผมต้องการให้ลุงสืบเรื่องนี้มาให้หมด”กั๋วเจิ้งเหอพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด“ใช้ทุกอย่างที่ลุงมีแค่บอกผมมาว่าลุงต้องการอะไรถ้าลุงไม่มีอํานาจพอที่จะทํามันผมจะหาทางออกให้เองผมต้องการรู้ให้ได้ว่าใครเป็นตัวการถ้าหาไม่ได้ภายในหนึ่งวันก็ใช้เวลาต่อไปอีกอาทิตย์หรือจะเป็น
เดือนก็ได้ ถึงมันจะต้องใช้เวลาเป็นปีหรือสองปี ผมก็ต้องรู้ให้ได้ว่าเป็นฝีมือของใครผมต้องทวงความยุติธรรมให้พวกเขาให้ได้!”
“ครับ คุณชาย” เสวี่ยซินหยวนตอบรับ
“มีอีกเรื่องหนึ่ง” กั๋วเจิ้งเหอพูด“ผมได้รับข่าวมาว่าหยางกวนเฟิงที่ไปสืบคดีที่หุบเขาพันโอสถได้ขอความช่วยเหลือจากคนของที่นั่นด้วย ทางหุบเขาตอบตกลงตามคําขอของเขาและเลือกคนสองคนกลับมาช่วยพวกเขาสืบคดีที่นี่”สายที่โทรมาเมื่อครู่ก็คือข่าวนี้
“พวกเขาเป็นคนจากหุบเขาพันโอสถเหรอครับ?”เสวี่ยซินหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย“ใช่”
“ถ้าพูดถึงคดีนี้พวกเขาก็คือผู้ต้องสงสัยที่สําคัญที่สุดไม่ใช่เหรอครับ? ให้พวกเขาเข้ามายุ่งกับคดีจะเหมาะเหรอครับ?”
“ผมคิดว่า ผู้กองหยางอาจจะคิดว่ามันอาจจะนําพวกเขาไปสู่เบาะแสอื่นก็ได้”กั๋วเจิ้งเหอพูด“สองคนที่ไปหุบเขาพันโอสถในครั้งนี้คือเจ้าหน้าที่สืบสวนที่ฝีมือยอดเยี่ยมที่สุดในยูนนานใต้แล้วดูเหมือนพวกเขาจะได้เรื่องจากหุบเขาพันโอสถมาบ้างแต่พวกเขาก็ไม่มีหลักฐานมากพอพวกเขายังจับผู้ต้องสงสัยในคราวก่อนไม่ได้ด้วยการที่ทั้งสองคนร่วมมือกันจะต้องได้อะไรมาบ้างแน่ๆ”
“พวกเขารู้อะไรมาเหรอครับ?”เสวี่ยซินหยวนถาม“คุณชายรู้ไหมครับว่าเป็นเรื่องอะไร?”“ผมไม่แน่ใจเรื่องนี้เหมือนกัน”ถั่วเจิ้งเหอส่ายหน้า
“พวกมาถึงที่นี่กันแล้วล่ะ”
ในเขตเหอ คนทั้งสี่อยู่ภายในห้องส่วนตัว
ในกลุ่มคนเหล่านี้มี หลู่ซิ่วเฟิงและหยางกวนเฟิง รวมทั้งคนจากหุบเขาพันโอสถอีกสองคนก็คือเดี่ยวชิงเฟิงและเมี่ยวฉางหง
แล้ว
พวกเขาขับรถมาเขตเหอโดยไม่พักในที่สุดตอนนี้พวกเขาก็ได้พักหายใจและผ่อนคลายบ้าง
หลู่ซิ่วเฟิงหยิบซองใส่บุหรี่ออกมาและดึงบุหรี่ออกมามวนหนึ่งเขาส่งไปทางเมี่ยวฉางหงและถามว่า“สักมวนไหม?”
“ขอบคุณ แต่ผมไม่สูบ”เมี่ยวฉางหงพูดและโบกมือปฏิเสธ
“จี้ คุณก็ไม่สูบเหมือนกันเหรอเนี่ยเฮ้อ”
“คนในหุบเขาของเรามีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สูบ”เมี่ยวฉางหงพูด“คนที่สูบส่วนใหญ่ก็จะสูบจากไปป์”
“เหล่าหยางของคุณ”หลู่ซิ่วเหิงส่งบุหรี่ไปให้หยางกวนเฟิงที่นั่งอยู่ข้างเขา
คนในสายงานของพวกเขาต่างอยู่ภายใต้ความกดดันและจําเป็นต้องหาทางปลดปล่อยไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
“ขอบคุณสําหรับความล่ามากนะครับ”หยางกวนเฟิงพูด
“เรายินดีครับผู้กองหยาง”เมี่ยวชิงเฟิงตอบ“การช่วยพวกคุณก็เหมือนเป็นการช่วยพวกเราด้วยเราก็ต้องการหาตัวคนร้ายให้พบโดยเร็วที่สุดเพื่อเป็นการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของหมู่บ้านเหมือนกัน”เขาบอกออกไปตามตรง
“มาครับ ดื่มสักหน่อย”หลู่ซิ่วเฟิงชูแก้วขึ้น
“ชน!” หลังจากนั้นเขาก็ยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มจนหมด
เมี่ยวชิงเฟิงและเมี่ยวฉางหงก็ดื่มเหล้าในแก้วของตนเองจนหมดเช่นกัน
“ตอนที่อยู่ในหุบเขาพันโอสถพวกคุณก็ให้การต้อนรับพวกเราเป็นอย่างดีคราวนี้เราขอเป็นฝ่ายดูแลพวกคุณบ้าง แต่เพราะรีบทําให้พวกเราไม่ได้เตรียมอะไรมากตอนนี้คงต้องเป็นแบบนี้ไปก่อนแล้วกัน!”หลู่ซิ่วเฟิงพูดได้คล่องปากซึ่งต่างจากหยางกวนเฟิงที่พูดน้อย
ผู้กองหลู่เกรงใจไปแล้วล่ะครับ แค่นี้ก็มากพอแล้ว”เดี่ยวชิงเฟิงพูด
ทั้งสี่ดื่มเหล้าไปสองสามแก้วและกินอาหารไปด้วยพวกเขาส่งเมี่ยวชิงเฟิงและเมี่ยวฉางหงเข้าพักที่โรงแรม
“พักผ่อนให้มากนะ” หลู่ซิ่วเฟิงพูด“พรุ่งนี้พวกคุณอาจจะต้องลําบากกันหน่อย”
“ได้ครับ” เมี่ยวชิงเฟิงตอบ
“ถ้าต้องการอะไรก็โทรหาเราได้ตลอดนะ”
หลังจากนั้น หลู่ซิ่วเฟิงกับหยางกวนเฟิงก็ออกไปจากโรงแรมเมื่อพวกเขาไปถึงบ้านทั้งสองก็เริ่มพูดคุยถึงเรื่องคดีกัน
“เมี่ยวชิงเฟิงเป็นคนนําในครั้งนี้” หลู่ซิ่วเฟิงจุดบุหรี่
“ใช่ เขาถือเป็นปากเสียงของคนในหุบเขาเมื่ออยู่ข้างนอกมันเป็นธรรมดาที่จะเลือกให้เขาออกมาในครั้งนี้”หยางกวนเฟิงพูด“คําถามสําคัญก็คือเราจะใช้ประโยชน์จากพวกเขายังไงเพื่อใหไขคดีในครั้งนี้ได้?”
“มันก็ต้องขึ้นอยู่กับท่าทีและความสามารถของพวกเขาด้วย”หลู่ซิ่วเฟิงพูด
“พรุ่งนี้ ผมวางแผนที่จะบอกรายละเอียดของคดีกับพวกเขา”หยางกวนเฟิงพูด “เราจะพาพวกเขาไปดูศพจากสองคดีที่เกิดขึ้นล่าสุด”
“ได้ ผมเห็นด้วยภายในโรงแรม เมี้ยวชิงเฟิงและเมี่ยวฉางหงก็กําลังปรึกษากันอยู่เช่นเดียวกัน
“เราจะทํายังไงกันต่อ?”เมี่ยวฉางหงถามถึงเขาจะแก่กว่าเมี่ยวชิงเฟิงถึงสิบปี แต่เมื่อไม่ว่าจะอยู่ในหรือนอกหุบเขาเขาก็ต้องฟังอีกฝ่าย
“จากที่ผู้นําสั่งก่อนที่พวกเราจะออกมาเราต้องให้ความร่วมมือกับพวกเขาในการไขคดีอย่างเต็มที่”เมี่ยวชิงเฟิงพูด“เราต้องหาตัวการให้ได้โดยเร็วและพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของหุบเขาในเวลาเดียวกัน เราก็ต้องรับมือกับเรื่องนี้อย่างระมัดระวังที่สุดเพราะตอนนี้พวกเราอยู่ข้างนอกและเราก็กําลังทํางานร่วมกับเจ้าหน้าที่สืบสวนอยู่เราจะพยายามรักษาความลับของหุบเขาไว้ให้ได้มากที่สุด”
“ได้ ฉันเข้าใจแล้ว”เมี่ยวฉางหงพูด
ค่าคืนที่เงียบสงบได้ผ่านพ้นไป
ตอนเช้า พระอาทิตย์ขึ้นเหมือนอย่างเช่นเคย
เวลา 8 โมงเช้าทั้งสี่คนได้มารวมตัวกันหยางกวนเฟิงและหลู่ซิ่วเฟิงพาคนจากหุบเขาพันโอสถไปที่สถานีตํารวจพวกเขาแนะนําเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆให้ได้รู้จักและบอกรายละเอียดของคดีให้พวกเขาได้รู้หลังจากนั้นพวกเขาก็พาคนทั้งสองไปดูสภาพศพที่ยังไม่ได้ถูกชันสูตรและถูกเก็บรักษาเอาไว้ดี”
หลังจากที่ได้เห็นศพทั้งสองก็มีท่าทีจริงจังขึ้นมาทันที
“เราเคลื่อนย้ายศพไดไหมครับ?”
“ได้สิ”หยางกวนเฟิงพยักหน้าและหยิบถุงมือที่เตรียมเอาไว้ให้พวกเขา“ใส่นี่ด้วย”
พวกเขาเริ่มทําการตรวจสอบศพและตรวจดูทั้งสามร่าง
หลังจากตรวจดูเสร็จเมี่ยวชิงเฟิงก็ถอนหายใจและพูดว่า“ถ้าเรามาถึงเร็วกว่านี้สักสองวันก็คง
“ทำไมเหรอครับ?”
“มันเกิดจากพิษจริงๆครับ”
“พิษอะไรเหรอครับ?”
“มันยากที่จะชี้ออกมาว่าคือพิษชนิดไหน”เมี่ยวชิงเฟิงส่ายหน้า “เพราะเราไม่ได้เห็นสภาพศพหลังจากเสียชีวิตใหม่ๆแล้วศพก็ยังถูกแช่เอาไว้ในห้องเย็นตลอดบางอย่างก็ไม่สามารถเห็นได้
หลังจากที่ผ่านกระบวนการพวกนี้ไปแล้ว”
หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น หยางกวนเฟิงก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย พวกเขาไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่หวังไว้เขาคิดว่าเมื่อคนทั้งสองมาถึง พวกเขาก็จะสามารถบอกได้ว่ามันคือพิษอะไรได้ในทันที
ในตอนที่พวกเขากําลังคุยกันอยู่นั้น เดี๋ยวฉางหงก็บีบกล้ามเนื้อของศพพร้อมทั้งเคาะหน้าอกและหน้าท้องของศพไปด้วย
“เจออะไรไหม?”เมี่ยวชิงเฟิงถาม
หลังจากที่ใคร่ครวญดูแล้ว เขาก็พูดออกมาว่า“มันมีส่วนคล้ายกับไม้ห้าพิษ
ในเรื่องของยาและพิษนั้นเมี่ยวฉางหงถือว่ามีความรู้มากกว่าเมี่ยวชิงเฟิงมันไม่ใช่แค่เพียง
เล็กน้อยเท่านั้น เพราะเขาถือว่ามีพรสวรรค์ในทั้งสองด้าน และเขายังอายุมากกว่าเมี่ยวชิงเฟิงถึงสิบปีด้วย
“ไม้หาพิษ? มันคืออะไรเหรอ?”
“มันคือพืชที่มีอยู่ทั่วไปในยูนนานครับ”เมี่ยวชิงเหิงพูด“มันสามารถใช้ทํายาที่ช่วยขับความ
เย็นและบรรเทาอาการเจ็บปวดแต่มันก็มีปริมาณของพิษอยู่จํานวนมากด้วยมันจึงต้องใช้อย่างระมัดระวังถ้าใช้ในปริมาณที่ไม่ถูกต้อง ก็อาจถึงตายได้เลย”
“คุณแน่ใจเรื่องนั้นจริงเหรอ?”
“ในเมื่อมันผ่านมาหลายวันแล้วผมก็ทําได้แค่คาดเดาเท่านั้น” เมี่ยวฉางหงพูด
“แล้วมีของแบบนั้นขายในตลาดรึเปล่า?”
“ไม่หรอกครับ ร้านขายยาทั่วไปไม่ขายสมุนไพรชนิดนี้กัน”เคี่ยวชิงเฟิงพูด“เพราะถ้าใช้ไม่ดีมันก็จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้มันมีเขียนอยู่ในตําราแพทย์แผนจีนด้วย”