Elixir Supplier - ตอนที่ 930 ก่อนฟ้าสาง
930 ก่อนฟ้าสาง
“ยังต้องกลัวอะไรอีก?พวกเขาก็แค่คนจากด้านนอกถ้าเกิดเรื่องขึ้นก็แค่ฆ่าพวกเขาเท่านั้น”
“เวลาจะพูดอะไรช่วยใช้สมองหน่อยได้ไหม?”เขาว่าอีกฝ่าย
“คิดว่าพวกเขาเป็นตัวอะไรไก่,เป็ด,หรือว่าหมาที่เราจะฆ่าเท่าไหร่ก็ได้เหรอ?พวกเขาเป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนจากจังหวัดเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ถ้าพวกเขามาตายในเขตของเราคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น?พวกเขาจะไม่ส่งเจ้าหน้าที่จากปักกิ่งมาที่นี่เหรอ?แล้วจ๋าที่ผู้นําบอกได้ไหม? จําได้รึเปล่าว่า เป้าหมายของเราคืออะไร?เราต้องไม่ทําตัวโดดเด่น ต้องทําเหมือนไม่มีตัวตนอยู่และพยายามอย่าให้คนภายนอกรู้ เพื่อที่เราจะทําภารกิจให้สําเร็จ!”
“เอาล่ะ ฉันเข้าใจแล้ว”
“ผู้นําสั่งมาว่าเราต้องจัดการเก็บกวาดที่นี่ให้เร็วที่สุด ต้องไม่เหลือร่องรอยอะไรทิ้งไว้เพื่อเลี่ยงการสืบสวนที่อาจจะตามมา”
“พวกเขาจะกลับมาอีกเหรอ?”
“เราจะตัดความเป็นไปได้นั้นไม่ได้ มาเถอะเลิกพูดและทํางานได้แล้ว”
“รู้แล้ว”
คนด้านในกําลังวุ่นวายกันอยู่ในขณะที่อีกคนแอบเข้ามาภายในถ้ำอย่างเงียบเชียบเมื่อเห็นสถานการณ์ภายในถ้ำชายที่แอบเข้าไปก็คิดโฮ้เมี้ยวซีเหอกล้าทําได้ทุกอย่างจริงๆ!
แชะ! แชะ!
เขาแอบถ่ายรูปเอาไว้หลายรูป
“ใครอยู่ตรงนั้นน่ะ?”
มีเสียงตะโกนดังขึ้น
“ถูกเจอตัวซะแล้ว”
วิ่ง!
เขารีบหมุนตัววิ่งออกไปโดยไม่ลังเล
“มีคนอยู่ตรงนั้น! รีบไล่ตามเขาไปเร็วเข้า!”
มีสามคนวิ่งไล่ตามออกไป คนหนึ่งอยู่ด้านหน้า อีกสองคนตามอยู่ด้านหลัง
“แย่แล้ว! เขาถูกเจอตัวเข้าแล้ว!”ชายอีกคนที่หลบซ่อนตัวอยู่ด้านนอกรีบวิ่งหนีไปอีกทางก่อนที่พวกเขาจะมาพวกเขาได้คิดถึงสถานการณ์แบบนี้เอาไว้ก่อนแล้วถือได้ว่าเขามีความเชี่ยวชาญในเรื่องแบบนี้ พวกเขาคิดแผนการเอาไว้รอบด้านพวกเขายังคิดไปถึงขั้นที่ว่าถ้าพวก
เขาสู่ไม่ไหวและเมี่ยวซีเหออาจโผล่มาตรงนั้นจะทําอย่างไรบ้าง
ภายในป่าเต็มไปด้วยวัชพืช,ต้นไม้,และโขดหิน แม้แต่ในช่วงเวลากลางวันก็ยังต้องระวังเป็น
อย่างมาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงในเวลากลางคืนเลย ก้อนเมฆบดบังแสงจันทร์ไปกว่าครึ่งและป่าไม้ที่หนาทึบที่ปิดกั้นแสงจันทร์ไม่ได้ส่งลอดลงมาได้อีกในเวลานี้หากวิ่งอยู่ภายในป่าอาจพลาดล้มหัวคะนําได้แต่คนที่วิ่งอยู่ด้านหน้ากลับพุ่งตัวเร็วราวกับเสือดาวคล้ายป่าแห่งนี้คือหลังบ้านของเขาความเร็วของเขาถือว่าไม่น้อยส่วนคนที่ตามหลังมาช้ากว่าเขาเล็กน้อยระยะห่างระหว่างพวกเขาจึงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“มันเป็นคนที่คุ้นเคยกับพื้นที่!”
วูช! มีเสียงบางอย่างตัดผ่านอากาศ
ฟุบ ฟุบ ฟุบ บางอย่างบินไปทางต้นไม้ที่อยู่ใกล้ๆ
วูช! วูช! เกิดประกายไฟขึ้น
ตุบ!ตุบ! สองคนที่ไล่ตามหลังสะดุดล้มแทบจะในเวลาเดียวกัน พวกเขาดิ้นรนอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะนิ่งไป
“กล้าไล่ตามฉัน ทั้งที่ไม่มีความสามารถพออย่างนั้นเหรอ?”
“นายฆ่าคน!”
ชายร่างสูงใหญ่ปรากฏตัวข้างเขา
“นายบ้าไปแล้ว!”
“นายหมายความว่ายังไงที่ว่าฆ่าคน?ฉันก็แค่ป้องกันตัวเองเท่านั้น ถ้าฉันไม่ฆ่าพวกเขาพวกเขาก็ต้องฆ่าฉันของที่อยู่ในมือพวกเขาร้ายกาจขนาดไหน? ฉันว่านายรู้ดีกว่าฉันนะจริงไหม?” “เอาล่ะเลิกเถียงแล้วรีบออกไปจากที่นี่กันดีกว่าถ้าเมี่ยวซีเหอมาเราอยากจะไปก็คงไปไม่ได้แล้ว”ทั้งสองถอนตัวออกไปหลังจากนั้นไม่นานมีสามคนมาถึงจุดที่พวกเขาเคยอยู่และเห็นร่างของชายสองคนนอนอยู่ที่พื้น
“นี่มันอะไรกัน?”
“พวกเขาตายแล้ว”
“พวกเขาตายแล้วงั้นเหรอ?”
“ใช่ มันเป็นกระสุนปืน ถูกยิงเข้าที่จุดตายบนหัวของพวกเขาพอดี”
“กระสุน? ถ้าอย่างนั้นอีกฝ่ายก็มีปืนน่ะสิ!”
“ใช่ ยังมีกระบอกเก็บเสียงด้วยเพราะพวกเราไม่ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นเลย”
“รีบรวบรวมคนให้เร็วที่สุดและจัดกลุ่มออกค้นหารอบๆเราต้องเพิ่มการป้องกันและท่าลายทุกอย่างภายในถ้ำให้หมดเราจะทิ้งร่องรอยเอาไว้ไม่ได้เด็ดขาดฉันจะกลับไปรายงานผู้นําตอนนี้เลย”
“ได้”
ร่างหนึ่งจากไปอย่างรวดเร็วและไม่นานก็ไปโผล่ที่ด้านในหุบเขา
ภายใต้ความมืดบ้านไม้หลังใหญ่ที่สุดมีไฟส่องสว่างอยู่
“มีผู้บุกรุก?”
“ใช่ครับ คนของเราที่ตามไปสองคนถูกฆ่าตาย พวกเขาถูกยิงเข้าไปหัวครับ”
“หรือจะเป็นคนที่ถูกฝึกมา?”
“ตอนที่พวกเขาไปถึงมันมืดมากแล้วอีกฝ่ายก็หนีไปแล้วรอบๆก็ไม่มีร่องรอยอะไรอยู่เลยมีก็แค่รอยเท้าเท่านั้น พวกเขาต้องถูกฝึกมาแน่ๆ แล้วก็อาจจะเตรียมตัวเพื่อเข้าไปในถ้ำด้วย
“พวกเขาได้เข้าไปในถ้ำรึเปล่า?”
“ครับ พวกเขาเข้าไป
เมี่ยวซีเหอที่นั่งขัดสมาธิอยู่หลับตาลง ไม่มีใครรู้ความคิดของเขา
“เร่งจัดการเรื่องการเก็บกวาดให้เร็วขึ้น ต้องกําจัดทุกอย่างให้หมด และต้องเสร็จภายในคืนนี้”
“ได้ครับ”
“พอเช้าแล้ว ฉันจะเข้าไปดู”
“ครับ”
เช้าตรู่ก่อนเวลาฟ้าสางคนจํานวนหนึ่งยืนอยู่ภายในป่าไม่ไกลจากหุบเขาพันโอสถ
“ผู้นํา”
“ยังมีกลิ่นอยู่ เอาน้ำยาเคมีล้างอีกรอบ”
“ได้ครับ”
“มีเลือดอยู่บนดินตรงนี้จัดการซะ”เมี่ยวซีเหอชี้ไปเห็นจุดที่พวกเขาพลาด
“ได้ครับ”
แล้วเขาก็เดินเข้าไปภายในถ้ำ
“กลิ่น มันยังมีกลิ่นอยู่ ขนาดฉันยังได้กลิ่น ถ้าสุนัขตํารวจหรืออะไรที่คล้ายกันเข้ามาที่นี่พวกเขาจะต้องได้กลิ่นเหมือนกันเอาน้ำยาเคมีมาล้างอีก”
“ได้ครับ”
“เอาศพของคนพวกนั้นไปฝังไว้ที่ไหน?”
“ที่ทะเลสาบฝังเทพเจ้าครับ”
“ดี”
หลังออกมาจากถ้ำแล้วเขาก็ไปยังจุดที่คนทั้งสองจบชีวิตลงในคืนก่อน ร่างของทั้งสองยังคงนอนนิ่งอยู่ที่เดิมพวกเขายังไม่ถูกเคลื่อนย้ายไปที่อื่นเลือดของพวกเขาซึมลงไปในดินและแห้ง
“มีสัญลักษณ์บนหัวกระสุนรึเปล่า?”
“ไม่มีครับ มีแค่ปลอกกระสุนหล่นอยู่สองอันเท่านั้น”
“พวกเขาถูกฝึกมา”เมี่ยวซีเหอพูดหลังจากตรวจสอบดูรอยเท้าในจุดเกิดเหตุ
“ความเร็วในการวิ่งอยู่ภายในป่าของคนคนนั้นเร็วมาก เขายังดูเหมือนคุ้นเคยกับพื้นที่บริเวณที่ด้วยครับ”
“หรือจะเป็นคนในหุบเขา?” อีกคนพูดขึ้นมา
“เรื่องนั้นก็อาจจะเป็นไปได้
เมี่ยวซีเหอมองไปรอบๆอีกครั้ง
“ถูกแล้ว มีคนสองคนมาที่นี่”
“สองคน?”
“ใช่”
“กลิ่นนี้…” อยู่ๆเขาก็หยุดเดินและดมกลิ่น
“เป็นเขา” “ใครเหรอครับ?”
“เดี่ยวชิงชาน”
“ชิงชาน? เขากลับมาอีกงั้นเหรอ?”คนที่อยู่รอบๆต่างประหลาดใจ
“เขามากับใครอีกคน?”
“เขาไม่รู้วิธีการใช้ปืน”เมี่ยวซีเหอพูด“ถึงเขาจะเรียนตอนที่ออกไปจากหุบเขาแล้วก็คงจะยิงแม่นขนาดนี้ไม่ได้ ต้องเป็นอีกคนที่ฆ่าพวกเขา” เขารู้ตัวตนของคนได้จากการดมกลิ่นนั่นเป็นความสามารถที่เทียบได้กับสุนัขดมกลิ่นของตํารวจ
“ผู้น่าเก่งจริงๆ!”
“เรื่องนั้นยังต้องพูดอีกเหรอ?”
“ที่ฉันเป็นกังวลก็คือเรื่องที่พวกเขารู้มากแค่ไหนมากกว่า”
เมี่ยวซีเหอไล่ตามกลิ่นที่อีกฝ่ายทิ้งไว้
“ไม่จําเป็นต้องไล่ตามแล้ว”เขาหยุดตามกลิ่น
“หา?”
“พวกเขาไปไกลแล้วล่ะ”เมี่ยวซีเหอจับจ้องเข้าไปในป่าลึก เขาคิดว่าเขาน่าจะมาที่นี่เมื่อคืน
เพราะตอนนี้พวกเขาไม่สามารถไล่ตามอีกฝ่ายได้แล้ว