Elixir Supplier - ตอนที่ 943 กําจัดคู่
943 กําจัดคู่
เขาคิดที่จะไปที่นั่นเหมือนกัน แต่เขาก็อดคิดเรื่องที่อีกฝ่ายมีความสัมพันธ์กับเมี่ยวซีเหอขึ้นมาไม่ได้ราชายาแห่งเขตเมี่ยวเคยศึกษาเล่าเรียนอยู่ในหุบเขาพันโอสถกับอดีตผู้นําอยู่ช่วงหนึ่ง
แล้วอดีตผู้นําก็คือปู่ของเมี่ยวชิงชานอดีตผู้นํายกย่องความสามารถของหวูซานเอาไว้สูงมากบอกว่าเขาเป็นผู้มีพรสวรรค์ที่หาได้ยากแต่เพราะกฎของหมู่บ้านอดีตผู้นําจึงไม่สามารถสอนความรู้ที่เกี่ยวข้องกับความลับของหมู่บ้านให้กับเขาได้แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น ความสามารถของหวูซานก็ยังทําให้คนในหุบเขาต้องทึ่งอยู่ดี นอกจากนี้ความรู้ในการรักษาที่เขาสั่งสมมาตลอดหลาย
ปีที่ผ่านมา อาจทําให้เขาเทียบกับเมี่ยวซีเหอได้เลย
“เอาล่ะ เป็นอันตกลงตามนี้”เมี่ยวเทียนชวนพูด“ตอนนี้ก็ดึกแล้ว ตอนเช้าฉันจะจัดการทําเรื่องออกโรงพยาบาลให้นายตอนนี้นายก็สบายใจได้แล้วนะ”
นั้นเป็นสิ่งที่เขาพอจะปลอบใจเมี่ยวเฉิงถางในเวลานี้ได้บ้าง
วันต่อมาแพทย์ที่รับผิดชอบเคสของเมี่ยวเฉิงถางกําลังดูข้อมูลของเขาอยู่ในห้องทํางานเมื่อได้ยินว่าเมี่ยวเฉิงถางจะออกจากโรงพยาบาลเขาก็ตกใจ
“ทําไมถึงรีบออกล่ะครับ?” เขาถาม “เรายังตรวจอาการของคุณได้ไม่ชัดเจนเลยนะครับไม่มีเหตุผลที่จะออกจากโรงพยาบาลในตอนนี้เลย”
“เรารู้ครับ หมอ” เมี่ยวเทียนชวนพูด “ถ้าเป็นไปได้ เราก็ไม่อยากให้เขาออกจากโรงพยาบาลเหมือนกันแต่โชคร้ายที่ที่บ้านเกิดเรื่องขึ้น เขาเลยจ่าเป็นต้องกลับไปมันเป็นเรื่องเร่งด่วนจริงๆครับ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจครับ แต่คุณคงต้องเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรว่าคุณออกจากโรงพยาบาลด้วยความสมัครใจ”แพทย์พูด
“ไม่มีปัญหาครับ”
พวกเขาจัดการท่าเรื่องออกจากโรงพยาบาลเรียบร้อย เมี่ยวเฉิงถางสามารถออกจากโรงพยาบาลในวันนั้นได้เลย
กั๋วเจิ้งเหอที่อยู่ในเขตเหอที่ห่างไปไกลหลายพันไมล์ ได้รับข่าวว่าเมี่ยวเฉิงถางกําลังจะออกจากโรงพยาบาล เขายังได้รับรายละเอียดผลตรวจร่างกายของอีกฝ่ายด้วย
“ออกจากโรงพยาบาล? ทําไมถึงได้รีบแบบนั้นล่ะ?”
“เรื่องนี้ ผมพอจะเดาได้ครับ” เสวี่ยซินหยวนพูด
“มีพยาบาลที่ได้ยินพวกเขาคุยกันถึงเรื่องพิษกัดกินหัวใจ เมี่ยวเฉิงถางคนนั้นน่าจะถูกกู่เล่นงานครับ” ตอนนี้เสวี่ยซินหยวนอยู่ที่ปักกิ่ง
“กู่?”
“ใช่ครับ หลังจากที่เขาเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ก็มีคนสองคนไปเยี่ยมเขาด้วยจากที่เห็นพวกเขาดูเหมือนจะสนิทกันผมลองตรวจสอบภูมิหลังของเขาดูแล้วเขาไม่มีญาติสายตรงอยู่ใน หุบเขา แล้วเขาก็ไม่ใช่คนที่ชอบออกมาด้านนอกหุบเขาด้วย ดังนั้น มีความเป็นไปได้ว่าสองคนนั้นจะเป็นคนในหุบเขาเหมือนกัน”
“แล้วพวกเขาจะไปที่ไหนกัน?” กั๋วเจิ้งเหอถาม
“ผมไม่แน่ใจครับ”เสวี่ยซินหยวนพูด “ผมพยายามติดตามพวกเขาไปแต่ก็พลาดหนึ่งในสามคนนั้นดูเหมือนจะเป็นพวกมืออาชีพ บรรยากาศรอบตัวเขากดดันมากมันเหมือนกับว่าแค่ผมเข้าใกล้เขาก็รู้ตัวแล้ว”
“ดีครับ ขอบคุณสําหรับข้อมูลนะครับลุงเสวี่ย อยู่ทางนั้นก็ดูแลตัวเองด้วยนะครับ” “ครับ”เสวี่ยซินหยวนพูดบนถนนสายหนึ่งในปักกิ่ง
“ก่อนหน้านั้น มีคนแอบตามพวกเรามา” เมี่ยวเทียนชวนพูด
“ใคร?” เมี่ยวเฉิงถางถามด้วยความกังวล
“เป็นคนที่ฉันไม่รู้จัก” เมี่ยวเทียนชวนพูด เขาสามารถบอกได้ว่า อีกฝ่ายเชี่ยวชาญในเรื่องการติดตามอาจจะเป็นคนที่ทํางานในสายงานเดียวกับที่เขาเคยทําประสาทสัมผัสของเขาแม่นยําจนรู้ตัวได้ทันทีที่เมี่ยวเทียนชวนจับได้ว่าเขาแอบติดตามพวกเขาอยู่อีกฝ่ายจึงรีบถอนตัวไปในทันที “ไม่รู้จักหรือว่าจะเป็นคนที่เมี่ยวซีเหอส่งมา?” เมี่ยวเฉิงถางมีอาการวิตกจริตเขากลัวเมี่ยวซีเหออย่างมาก แค่พูดชื่ออีกฝ่ายขึ้นมาก็ทําให้เขาสั่นกลัวได้แล้วราวกับได้ยินเสียงภูตผีร้องเรียกเขาอยู่
“ถ้าเป็นที่นี่คงจะไม่ใช่หรอก”เมี่ยวเทียนชวนพูด
“บางที อาจจะเป็นคนที่ทํางานให้หยางกวนเฟิงก็ได้”เมี่ยวเทียนชวนพูด
ถึงจะได้ยินแบบนั้น แต่เมี่ยวเฉิงถางก็ยังไม่วางใจ เขากลัว เมี่ยวเทียนชวนทําได้แค่ตบไหล่เขาให้ใจเย็นภายในหนึ่งวันพวกเขาก็เดินทางมาถึงยูนนานใต้พวกเขาพากันไปหาหวูซานชายที่ถูกขนานนามว่าราชายาแห่งเขตเดี่ยว
“นายเองเหรอ ชิงชาน” แค่มองหวูซานก็สามารถบอกได้ทันทีว่าเขาเป็นใคร
“เป็นผมเองครับ อา”
มันไม่ใช่เรื่องแปลก ที่เมี่ยวชิงชานจะเรียกหวูซานว่าอา
“เธอมาหาอะไรที่นี่เหรอ?” หวูซานถามด้วยความสงสัย
เขาไม่ได้รู้เรื่องราวข่าวสารที่เกิดขึ้นภายนอกมากนัก ความจริง เขาไม่คิดสนใจเรื่องที่เกิดขึ้นภายนอกมากกว่าเขาเพียงแค่สนใจสิ่งที่เขากําลังทําอยู่เท่านั้น
“ผมมีเรื่องอยากจะขอร้องอาครับ”
“เรื่องอะไรเหรอ?” หวูซานตกใจเล็กน้อยที่ได้ยินแบบนั้น
“ผมอยากให้อาช่วยรักษาให้ครับ”
“รักษา? เธอป่วยเหรอ?” หวูซานถาม
“ไม่ใช่ผมครับ เป็นเพื่อนคนหนึ่งของผม
“คนจากหุบเขาเหรอ?”
“ใช่ครับ”
“แล้วทําไมไม่ไปหาเมี่ยวซีเหอล่ะ?” หวูซานรับรู้ได้ทันทีว่าเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น “หรือเธอก็หนีออกมา?”
“ใช่ครับ”
หวูซานครุ่นคิดเล็กน้อย
“บอกให้เขาเข้ามา”
“สวัสดีครับ” เมี่ยวเฉิงถางทักทายหวูซานทันทีที่เขาเข้ามาด้านใน
“นั่งสิ แล้วเธอเป็นอะไรมา?”
“หัวใจของผมครับ ผมคิดว่าผมถูกกู่ เป็นพิษกัดกินหัวใจ” เมี่ยวเฉิงถางรีบพูด
“พิษกัดกินหัวใจ?” หวูซานตกตะลึงเมื่อได้ยิน
เขาตรวจเมี่ยวเฉิงถางอย่างละเอียด
เขาขมวดคิ้วและพูดว่า “ใช่จริงๆด้วย!”
“ใครเป็นคนท่า?” หวูซานถาม
เมี่ยวเฉิงถางกัดฟันตอบ “เมี่ยวซีเหอ!”
“เขา?” หวูซานตกใจเล็กน้อย
“นานมาแล้วที่ฉันไม่ได้เห็นกู่” เขาตอบด้วยน้ําเสียงขุ่นเคือง
“คุณรักษาได้ไหมครับ?”
“ได้สิ”
“เอ่อ แล้วเรื่องค่ารักษา?”
“ค่ารักษา?” หวูซานมองไปทางเมี่ยวชิงชาน
“ฉันจะช่วยเธอครั้งนี้เพื่อเห็นแก่หน้าปู่ของเธอแล้วกัน” หวูซานพูด
“ขอบคุณ ขอบคุณมากครับ” เมี่ยวเฉิงถางรีบร้อนเอ่ยขอบคุณอีกฝ่าย เขาแทบจะลุกไปนั่งคำนับให้อีกฝ่ายอยู่แล้ว
“เอาล่ะ นอนลง”
“ครับ”
หวูซานเริ่มลงมือก่าจัดพิษให้กับเมี่ยวเฉิงถางอย่างรวดเร็ว
“ฉันไม่ได้ทําแบบนี้มาหลายปีแล้ว” เขาพูดพึมพํากับตัวเอง
เขาเคยพบคนที่ถูกคู่ด้วยพิษกัดกินหัวใจเมื่อสิบกว่าปีก่อน แต่ความทรงจําเหล่านั้นก็ยังคงสดใหม่อยู่ ในครั้งนั้นเขาพยายามรักษา แต่เขาก็ล้มเหลวโชคดีที่มีปู่ของเมี่ยวชิงชานอยู่ช่วยด้วย ทําให้คนที่ถูกพิษยังรอดชีวิตมาได้เขายังได้เรียนวิธีการจัดการกับกู่จากปู่ของเมี่ยวชิงชานด้วย
“ดื่มนี่ก่อนสิ” หวูซานส่งถ้วยใส่ยาให้กับเมี่ยวเฉิงถาง
“มันคืออะไรเหรอครับ?”
“ดื่มซะ” หวูซานพูดเสียงเย็น
“ครับ” เมี่ยวเฉิงถางดื่มยาจนหมดในครั้งเดียว หลังจากนั้น เขาก็ไม่ได้สติอีกเลย
เมื่อเขาได้สติขึ้นมาอีกครั้ง มันก็เป็นเวลากลางคืนแล้ว ร่างกายท่อนบนของเขาเปลือยเปล่าและมีผ้าพันแผลพันอยู่รอบอกของเขา
“นายตื่นแล้ว!”หลังจากที่เขาได้สติเมี่ยวชิงชานที่นั่งอยู่ข้างๆก็ถาม“รู้สึกเป็นยังไงบ้าง?”
“ฉันเจ็บที่หน้าอกนิดหน่อย”เมี่ยวเฉิงถางพูด“ร่างกายก็ไม่ค่อยมีแรงเท่าไหร่”
“กู่หายไปแล้วเหรอ?”
“ใช่” เดี่ยวชิงชานตอบ
“อาหวูบอกว่า นายต้องพักห้าถึงหกวันตอนนี้เราคงต้องอยู่ที่นี่ไปก่อน
“ห้าถึงหกวัน นานขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“นายเสียเลือดไปเยอะมากนายจําเป็นต้องพักถ้าไม่อย่างนั้นมันจะส่งผลเสียกับร่างกายของนายได้
“แต่ถ้าอยู่ที่นี่นานเกินไปจะไม่เป็นอะไรเหรอ?”เมี่ยวเฉิงถางถาม “เรายังอยู่ในยูนนานใต้ถ้าเกิดเมี่ยวซีเหอตามมาเจอล่ะ?”
“นายกลัวเขาขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“กลัวสิ นายไม่รู้หรอกว่าเขาน่ากลัวแค่ไหน”
“วางใจเถอะ ตอนนี้เราอยู่ในที่ที่ไม่มีคนไม่แน่ว่าเขาจะรู้ว่าพวกเราจะมาอยู่ที่นี่กัน”
หลังจากที่ได้ยินอย่างนั้นเมี่ยวเฉิงถางก็ยังคงกังวลอยู่แต่พวกเขาก็ทําอะไรไม่ได้มากนักถึงเขาอยากจะไปแต่เขาก็ไปไม่ได้อยู่ดีเขาคงต้องอยู่ที่นี่ไปก่อนทางเหนือที่ห่างไกลออกไปหลายพันไมล์มีหิมะโปรยลงมาจากท้องฟ้าแต่ไม่ได้ตกลงมามากนัก
หวังเย้ากําลังรักษาคนไข้คนหนึ่งอยู่ในคลินิกคนไข้เป็นชายชราวัยหกสิบที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันเขาไม่ได้สูงมากและแทบไม่เหลือเส้นผมอยู่บนหัวแล้วตาของเขาออกเหลืองและเขายังไอตลอดตั้งแต่มาถึงที่คลินิก
“ลุงสูบบุหรี่ไหมครับ?”
ชายชราตอบ “สูบ”
“สูบอย่างน้อยก็วันละซอง” “เฮ้อฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้สูบบุหรี่” “เหล่าล่ะครับ?”
“วันละสองครั้ง” ชายชราพูด
“ถ้าลุงอยากหาย ลุงก็ต้องเลิกสูบและเลิกดื่มเหล้าถ้าไม่อย่างนั้นก็ไม่มีทางหายหรอกครับ”
หวังเย้าพูด “หา?!”ชายชราอึ้งไป
“ฉันทําแบบนี้มาเป็นสิบๆปีแล้ว!”ชายชราพูด“แบบนั้นมันยากเกินไป!”
ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยลองหยุดแต่เขาไม่เคยทําสําเร็จเพราะเขาทนกับอาการลงแดงไม่ได้
“ถ้าลุงยังไม่เลิก ลุงจะไม่ใช่แค่เจ็บป่วยตามเนื้อตามตัวแบบนี้นะครับ” หวังเย้าพูดทั้งปอดและไตของชายชราต่างมีปัญหาและยังเป็นปัญหาที่หนักมาด้วยอาการเหล่านี้ส่วนใหญ่เกิดจากการใช้ชีวิตประจําวันของเขาเอง ทั้งสูบบุหรี่และดื่มเหล้าล้วนแล้วแต่ค่อยๆทําลาย
ร่างกายของเขามานานหลายปี ทําให้การไหลเวียนของฉีและโลหิตอ่อนแอลงถ้าชายชรายังคงไม่เลิกสิ่งเหล่านั้นเขาก็มีแต่จะป่วยหนักขึ้นไปอีก
“แค่ให้ยาแก้ปวดมาก็พอแล้ว” ชายชราพูด
“เรื่องแบบนั้นผมทําให้ไม่ได้หรอกครับ”หวังเย้าตอบ“ถึงยังไงมันก็ช่วยอะไรไม่ได้กลับบ้านไปคิดดูให้ดีดีก่อนดีกว่านะครับ”
“เสี่ยวเย้า ฉันขอล่ะ เอายาแก้ปวดให้ฉันได้ไหม?”ชายชราขอร้อง