Elixir Supplier - ตอนที่ 957 หิมะ
957 หิมะ
เมี่ยวเทียนชวนไม่ได้พูดอะไรต่อเขายกแก้วเหล้าขึ้นมาและดื่มจนหมดในครั้งเดียวเหล้าค่อน
ข้างแรงความร้อนแผดเผาไหลลงไปตามล่าคอของเขาแล้ว”
หลังจากเงียบอยู่นานเมี่ยวเทียนชวนก็พูดขึ้นมาว่า“ฉันกลัวว่าเราคงจะกลับไปที่นั่นไม่ได้
“ใช่ เรื่องนั้นฉันรู้”เมี่ยวชิงชานพยักหน้า
มีบางเรื่องที่คุณรู้ว่าทําไม่ได้มีบางที่ที่คุณไม่สามารถกลับไปได้อีก แต่นั่นก็ห้ามไม่ให้คุณ
คิดถึงมันไม่ได้ทั้งที่คิดไปก็เปล่าประโยชน์
“มา ดื่มเหล้า”
ทั้งสองดื่มเหล้าไปไม่น้อยแต่ละคนต่างจมอยู่ในความคิดของตัวเอง
เมื่อพวกเขาออกมาจากร้าน หิมะก็โปรยลงมาจากท้องฟ้า มันหาได้ยากที่จะมีหิมะตกในพื้นที่แถบนี้
“หิมะตก” เดี่ยวเทียนชวนเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าเกล็ดหิมะลอบเลื่อยลงมาจากฟ้าเขายืนมองหิมะนิ่งราวกับหิมะมีเวทมนต์วิเศษ
ในจังหวัดฉีที่ห่างออกไปหลายพันไมล์ที่นั่นหิมะก็กําลังตกอยู่เช่นกันหิมะตกหนักแลปกคลุมไปทั่วทุกหนแห่งไม่นานทั่วทั้งพื้นดินก็ขาวโพลน
ภูเขาเรียงรายราวกับงูสีเงิน เนินเขาดูราวกับช้างสีขี้ผึ้ง
“หิมะตกลงมาอีกแล้วหลายปีมานี้หิมะตกหนักขึ้นเรื่อยๆ!”เจี๋ยจื้อจายยืนมองท้องฟ้าอยู่ที่ลาน
บ้าน หิมะที่ตกลงมาทําให้ท้องฟ้าดูมืดมนไม่มีลมพัดมาเลยแม้แต่น้อย
“เฮ้อ นี่มันวันอะไรกันเนี่ยคงอีกนานกว่าหิมะจะหยุดตก
ท้องฟ้ามืดมัวและไม่มีลม หลังจากหิมะเริ่มตกลงมามันก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกเลย
“อากาศแบบนี้ เหมาะจะดื่มเหล้าซักกริ๊บจริงๆภรรยาเที่ยงนี้ช่วยท่าของทอดสักสองสามจานได้ไหม?”
“ได้สิ” หูเหมยยิ้มรับ
ในคลินิก หวังเย้ากําลังรักษาแม่ของพันเจียโหย่วเป็นครั้งที่สอง ผลที่ได้ในครั้งนี้ชัดเจนมากขึ้นขาของหญิงชรามีปฏิกิริยาเมื่อหวังเย้ากดลงไป
“โอ้ การรักษาของหมอหวังน่าอัศจรรย์จริงๆ!”หญิงชราอุทาน
เธอที่เป็นคนป่วยนั้นมีสิทธิพูดเรื่องนี้เธอรู้ถึงสภาพร่างกายของตัวเองดีนอกจากรู้สึกเย็นและปวดแล้วขาทั้งสองข้างของเธอก็ไม่มีความรู้สึกอย่างอื่นอีกร่างกายของเธอย่ำแย่และเย็นทั่วทั้งตัวเธอไม่สามารถนั่งหรือนอนได้อย่างสบายใจเธอไม่มีความอยากอาหารและนอนหลับไม่สนิทวันเวลาที่แสนทรมานผ่านไปวันแล้ววันเล่า สภาพจิตใจของเธอย่ำแย่ลงเรื่อยๆแต่ตอนนี้หลังจากรักษาไปได้แค่สองวันเธอก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าร่างกายของเธอเริ่มดีขึ้น อย่างน้อยขาของเธอก็ไม่เย็นและปวดอีกต่อไปแล้วร่างกายของเธอรู้สึกอุ่นขึ้นทําให้สภาพจิตใจของเธอดีขึ้นตามไปด้วย
“ชมเกินไปแล้วครับ” หวังเย้าพูดด้วยรอยยิ้ม
อาการของหญิงชราไม่นับว่าร้ายแรง มันจึงรักษาได้ไม่ยาก
“เรียบร้อยครับพรุ่งนี้กลับมาอีกครั้งนะครับ”
“ขอบคุณครับ ขอบคุณมาก!” เมื่อเห็นใบหน้าที่มีเลือดฝาดและรอยยิ้มมีความสุขของหญิงชราแล้วพันเจียโหย่วก็รู้สึกมีความสุขจากส่วนลึกของจิตใจเขามีความสุขยิ่งกว่าตอนที่เขาทําเงินได้
เป็นจํานวนมากเสียด้วยซ้ำ
“หิมะกําาลังตก ค่อยขับรถนะครับ”
“โอ้ ครับ ขอบคุณมาก”
หลังจากเอ่ยปากขอบคุณนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว สองแม่ลูกก็พากันออกไปจากคลินิกพวกเขาขึ้นนั่งบนรถและขับเข้าไปในตัวเมือง
หลังจากขึ้นนั่งบนรถแล้วหญิงชราก็พูดความรู้สึกในใจออกมาว่า “เราตัดสินใจถูกจริงๆที่เดินทางมาไกลนับพันไมล์แบบนี้!”
“ใช่ครับ” พันเจียโหย่วพูด
“บอกตามตรง ครั้งแรกที่แม่ได้เจอกับหมอหวังแม่ก็ยังสงสัยในตัวเขาอยู่” หญิงชราพูด “บอกแม่ทีทําไมคนอายุน้อยแบบเขาถึงได้มีความสามารถมากขนาดนี้?คนเราไม่สามารถตัดสินกันที่หน้าตาจริงๆด้วย!”
“ตอนที่เจอเขาครั้งแรก ผมก็คิดเหมือนกันครับ” พันเจียโหย่วพูด “ถ้าไม่ใช่เพราะเจิ้งเหว่ยจวินเป็นคนแนะนําผมก็คงไม่มาที่นี่ใครจะไปคิดว่าจะมีคนที่มีฝีมือการรักษาที่สูงขนาดนี้แล้วยังเป็นคนหนุ่มที่มาอยู่ในหมู่บ้านกลางเขาแบบนี้ด้วย!”
“เมื่อไหร่ที่แม่หายดีแล้ว เราต้องขอบคุณเขาให้ดีนะ!”
“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นเลยครับ ผมจะต้องขอบคุณเขาเป็นอย่างดีเลย” พันเจียโหย่วพูดถึงค่ารักษาที่หวังเย้าคิดนั้นจะมีราคาแพงแต่มันกลับเล็กน้อยสําหรับเขาตราบใดที่แม่ของเขามีสุขภาพที่ดีและสามารถลุกขึ้นเดินได้เขาก็ยินดีจ่ายไม่ว่าจะแพงแค่ไหนก็ตาม
หิมะไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกเลยมันตกตลอดทั้งวันจนกระทั่งเย็น
คืนนั้น พระอาทิตย์หายลับไปที่ด้านหลังเนินเขาหนานชาน
หวังเย้ายืนมองท้องฟ้าอยู่บนเขา
“ดูเหมือนว่าหิมะจะตกไปจนถึงพรุ่งนี้เช้าเลย”
ซานเซียนที่ยืนมองท้องฟ้าอยู่ข้างๆเขาส่ายหางไปมาเป็นครั้งคราว
“เอาล่ะ” เข้านอนได้แล้ว”เขาลูบหัวของซานเซียนจากนั้นก็เปิดประตูและเดินเข้าไปด้านในกระท่อม
ครู่ต่อมา ก็มีเสียงท่องคัมภีร์ดังออกมาจากด้านในกระท่อม
ผู้พิทักษ์เนินเขาหนานชานทั้งสามต่างฟังเสียงท่องคัมภีร์อยู่ด้านนอกกระท่อม จนกระทั่งเสียงนั้นเงียบไป หลังจากนั้น พวกมันก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน
เช้าวันต่อมา หิมะหยุดตกตอนฟ้าสาง
เมื่อเปิดประตูออกมาก็มีภาพหิมะปกคลุมทั่วทั้งภูเขารอต้อนรับหวังเย้าอยู่
ตอนเช้า จงหลิวชวนเจี๋ยจื้อจายและหูเหมยพากันเดินหิมะขึ้นไปบนเนินเขาหนานชาน
บนเขามีลมเย็นและหิมะขาวโพลน มีพวกเขาสามคนและรอยเท้าบนหิมะ
ทั้งสามนั่งอยู่บนเขาไม่นานพวกเขาก็เข้าสู่สมาธินานเกือบสองชั่วโมง
ฮู้…คนแรกที่ลืมตาขึ้นมาก็คือเจี๋ยจื้อจาย
“การฝึกฝนในสภาพอากาศแบบนี้มันดีจริงๆ”
จากนั้นก็ตามมาด้วยหูเหมยที่ลืมตาขึ้นมาและคนสุดท้ายก็คือจงหลิวชวนลําดับการลืมตาของพวกเขาแสดงให้เห็นถึงระดับการฝึกฝนของแต่ละคนด้วย
“ศิษย์พี่ ถ้าเที่ยงนี้ไม่มีอะไรทํา เรามาดื่มกันสักหน่อยดีไหม?”
“ไม่ล่ะ”
ในตอนที่กําลังเดินลงจากเขาพวกเขาก็เจอเข้ากับพันเจียโหย่ว ที่ขับรถเข้ามาในหมู่บ้าน
“เขามารักษากับเชียนเชิงใช่รึเปล่า?”
“ใช่ เขามาติดต่อกันสามวันแล้ว” เจี๋ยจื้อจายพูด “คนไข้เป็นผู้หญิงอายุมากที่มีปัญหาเรื่องการเดินลูกชายของเธอเป็นคนกตัญญูมาก” เขารู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านเป็นอย่างดี
“เขามาจากเมืองอื่นเหรอ?”
“พวกเขามาจากเจียงซู”
ทั้งสามเดินคุยกันไปเรื่อยๆก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้าน
ภายในคลินิก หวังเย้าเริ่มต้นการรักษาหญิงชรา นอกจากการนวดแบบทุยหนาแล้วเขายังฝังเข็มด้วยการรักษาสองครั้งที่ผ่านมาได้ผลดีกว่าที่เขาคิดเอาไว้มากดังนั้นเขาจึงเพิ่มการรักษาเข้าไป
จุดที่เน้นในการฝังเข็มรักษาให้กับหญิงชราก็คือแผ่นหลังและขาทั้งสองข้างแทง, หมุน, บิด, ดึงออก…
สําหรับการฝังเข็ม นอกจากจะต้องมีความแม่นยําแล้ว ยังจําเป็นต้องเชี่ยวชาญทักษะอื่นๆด้วยแค่ในส่วนที่หวังเย้าเชี่ยวชาญก็ล้วนแล้วแต่เป็นความรู้ที่หายสาบสูญไปนานหลายปีแล้ว
ครั้งนี้ การรักษาใช้เวลานานขึ้นกว่าเดิมมันนานกว่าสองชั่วโมง หลังจากรักษาเสร็จมันก็เกือบ
จะได้เวลาทานอาหารกลางวันแล้ว
“หมอหวัง เที่ยงนี้ว่างไหมครับ?”พันเจียโหย่วถาม
“ทาไมเหรอครับ?”
“เอ่อ ผมอยากเชิญหมอหวังไปกินข้าวเพื่อเป็นการขอบคุณน่ะครับ”
“เรื่องนั้นไม่จําเป็นหรอกครับพรุ่งนี้ผมก็ต้องไปปักกิ่งแล้วผมคงต้องกลับบ้านไปเตรียมตัว”หวังเย้าปฏิเสธค่าเชิญของอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม
“ไว้คราวหน้าก็ได้ครับ”
“ไว้ค่อยว่ากันครับ”
หลังจากจ่ายเงินค่ารักษาแล้วพวกเขาก็รับยาจากหวังเย้าและออกไปจากคลินิกพวกขึ้นนั่ง
บนรถและเดินทางกลับเจียงซูในทันที
หวังเย้าปิดคลินิกและกลับบ้านอย่างที่เขาบอกอีกฝ่ายไปเขาต้องกลับมาเก็บของและเตรียม
ของที่เขาเอาติดไปด้วยนั้นค่อนข้างพิเศษพวกมันเป็นผลไม้ตามฤดูกาลและของดีประจําตัวสําหรับการเดินทางไปปักกิ่ง
เมือง ยิ่งไปกว่านั้นวิธีที่เขาใช้ในการนําของเหล่านี้ไปปักกิ่งด้วยก็ค่อนข้างพิเศษพวกมันทั้งหมด
ถูกเก็บเอาไว้ในช่องเก็บของของระบบ
“จะไปพรุ่งนี้แล้วใช่ไหมจ๊ะ?”
“ครับ ผมจะขึ้นเครื่องพรุ่งนี้”หวังเย้าพูด“ผมจะบินจากเมืองเต๋าไป และไปถึงที่ปักกิ่งในวันเดียวกัน ผมบอกเสี่ยวซวีไปแล้ว”
“ลูกก็ไม่ต้องรีบกลับมาหรอกนะจ๊ะ”
“ได้ครับ”
เขายังน่าของฝากไปให้กับน้ารองของเขาด้วยแม่ของเขาคิดเผื่อคนอื่นเสมอ
วันต่อมา เขาเดินทางออกจากหมู่บ้านพร้อมกับกระเป๋าใบเล็กแค่ใบเดียวและมุ่งหน้าสู่เมืองเต๋า จากนั้น เขาก็ขึ้นเครื่องเพื่อเดินทางไปปักกิ่ง