Elixir Supplier - ตอนที่ 962 ช่วยผมด้วย
962 ช่วยผมด้วย
“หมอ หมอ หมอรู้ได้ยังไง?” เมี่ยวเฉิงถางตกตะลึง “หรือมีคนบอกหมอ?”
แต่เมี่ยวเฉิงถางก็รู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง เรื่องที่เขามาที่นี่มีแค่เสวี่ยซินหยวนเท่านั้นที่รู้แล้วยังบอกเดี่ยวเฉิงถางให้เลี่ยงเอ่ยถึงชื่อของเขาด้วยนั่นก็หมายความว่าหมอหนุ่มคนนี้ไม่รู้ว่าเมี่ยวเฉิงถางจะมาที่นี่ มันคงเป็นเรื่องไร้สาระมากถ้าหากหมอหนุ่มสามารถพยากรณ์การมาถึงของเขาได้เขาจึงรู้ได้ทันทีว่าที่หมอสามารถบอกอาการของเขาได้เป็นเพราะอีกฝ่ายมีฝีมือจริงๆแต่การที่สามารถบอกได้จากการมองเพียงอย่างเดียวเป็นสิ่งที่น้อยคนสามารถทําได้แม้แต่คนในหุบเขาก็
มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้น
ดูเหมือนว่าหมอคนนี้จะสามารถรักษาเขาได้จริงๆ “จําเป็นต้องมีคนบอกเรื่องนี้กับผมด้วยเหรอ?” หวังเข้าถาม
“ได้โปรด ช่วยผมด้วย!” เมี่ยวเฉิงถางพูดด้วยน้ำเสียงเจือสะอื้น
เขามองเห็นความหวังเขารู้สึกเหมือนคนที่จมน้ำแล้วอยู่ๆก็คว้าเชือกเอาไว้ได้เขาจึงรีบคุกเข่าต่อหน้าชายหนุ่มทันทีในเวลานี้เขาไม่ต้องการอะไรนอกจากการมีชีวิตรอดแม้ว่าเขาจะต้องขอร้องอ้อนวอนอีกฝ่ายก็ตาม
“ผมช่วยคุณได้ แต่คุณต้องบอกความจริงกับผมมาก่อน”
“ผมเพิ่งย้ายมาอยู่ที่เทียนจินได้ไม่นาน”เมี่ยวเฉิงถางพูด สถานการณ์ในตอนนี้ มีแต่ต้องพูดความจริงออกไปเท่านั้น
“ความจริงแล้ว ผมมาจากยูนนานใต้”
“ยูนนานใต้? หุบเขาพันโอสถสินะ?” หวังเย้าพูดถึงบ้านเกิดของเมี่ยวเฉิงถาง “หมอ หมอรู้ได้ยังไง?” เมี่ยวเฉิงถางประหลาดใจที่ได้ยินแบบนั้น
“คุณมาจากที่นั่นสินะ” หวังเย้าพูด “คุณเป็นคนจากหุบเขาพันโอสถ กั๋วเจิ้งเหอส่งคุณมาเหรอ?” เมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายมาจากยูนนานใต้ เขาก็นึกถึงหุบเขาพันโอสถขึ้นมาทันทีรวมไปถึงลูกชายของตระกูลถั่วที่ทํางานอยู่ในเขตเหอด้วย
“เป็นความจริงที่ผมมาจากที่นั่นแต่ผมไม่รู้จักคนที่ชื่อว่ากั๋วเจิ้งเหอ” เมี่ยวเฉิงถางพูด“คนที่บอกให้ผมมาที่นี่ชื่อว่าเสวี่ยซินหยวน”
“เสวี่ยซินหยวน หรือจะเป็นผู้ชายที่เคยมาที่นี่คราวก่อน?”
“เขาบอกว่า เขาเคยมาที่นี่และคุณก็รักษาเขาจนหาย”
“พูดต่อสิ” หวังเย้าพูด
แค่ก!แค่ก! ในตอนนี้เอง เมี่ยวเฉิงถางก็ไอไม่หยุด
หวังเย้าโบกมือขึ้นในอากาศร่างกายของเมี่ยวเฉิงถางสั่นเล็กน้อย แล้วเขาก็รู้สึกราวกับมีพลังงานลึกลับที่หยุดการไอของเขาเสมหะปนเลือดในปากของเขาก็ถูกหยุดเอาไว้เช่นเดียวกัน
“นี่มัน…” เมี่ยวเฉิงถางตกใจจนพูดไม่เป็นค่า
“เอาล่ะ พูดต่อได้แล้ว”
“ครับ ครับ…”
มันไม่มีการฉีดยาหรือเอายาให้กินเขาสงสัยว่าการโบกมือเมื่อกี้คืออะไรเขาสงสัยว่าหวังเย้าอาจจะเป็นปรมาจารย์กังฟูเหมือนอย่างเมี่ยวซีเหอ
เมี่ยวเฉิงถางนึกถึงข้อมูลต่างๆ แล้วเขาก็รีบบอกเล่าเรื่องราวที่เขารู้ แต่เขาก็ได้ปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องบางส่วนและเก็บซ่อนข้อมูลบางอย่างเอาไว้เขาไม่ได้โง่จนบอกทุกอย่างที่เขารู้กับคนแปลกหน้าอย่างหวังเย้า
อืม
หวังเย้าพยักหน้าหลังจากที่ได้ฟังจนจบ ถึงเมี่ยวเฉิงถางอาจจะไม่ได้บอกทุกอย่างกับเขาแต่หวังเย้าก็ได้รู้ในสิ่งที่เขาจําเป็นต้องรู้มาพอสมควรด้วย”
หลังจากที่เห็นหวังเย้าเงียบไปเมี่ยวเฉิงถางก็พูดขึ้นมาด้วยความกังวลว่า “ได้โปรดช่วยผม
“ช่วยคุณ?” หวังเย้ามองหน้าเมี่ยวเฉิงถาง“คุณเคยฆ่าคนมาก่อนรึเปล่า?”
เมี่ยวเฉิงถางชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า“ไม่เคยเลยผมขอสาบานกับสวรรค์ ผมไม่เคยฆ่าแม้แต่ชีวิตเดียวคนที่ตายทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นฝีมือของเมี่ยวเทียนชวนผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เลย ผมอยากฆ่าเมียวซีเหอก็จริง แต่ผมก็ไม่มีความสามารถมากพอ!”เขาพูดความจริงเขาไม่เคยฆ่าใครเลยแม้แต่คนเดียวอย่างมากก็เป็นแค่ผู้สมรู้ร่วมคิดเท่านั้น
“ผมช่วยคุณได้ แต่คุณต้องบอกเรื่องกล้วยไม้สีเลือดมาก่อน” หวังเย้าพูด
“หมอรู้เรื่องกล้วยไม้สีเลือดได้ยังไง?” เมี่ยวเฉิงถางตกตะลึงเขาไม่คิดเลยว่าหวังเย้าจะรู้เรื่องความลับที่ถูกปกปิดเอาไว้ลับที่สุดของหุบเขาด้วย
“นอกจากเรื่องกล้วยไม้สีเลือดแล้ว ผมยังรู้อีกหลายเรื่องรวมไปถึงเรื่องที่คุณเล่าให้ผมฟังด้วย”หวังเย้าพูดด้วยท่าทีนิ่งเฉย“ผมรู้ว่าคุณปิดบังบางอย่างจากผมด้วยจริงไหม?” เมื่อได้ยินหวังเย้าพูดมาแบบนั้นเมี่ยวเฉิงถางก็หน้าซีดเผือดเหงื่อไหลซึมเต็มหน้าผากเขา ไม่คิดว่าจะมาเจอหมอหนุ่มในหมู่บ้านที่ห่างไกลของภาคเหนือที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นก็คืออีกฝ่ายรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในยูนนานใต้ที่ห่างจากที่นี่ไปไกลหลายพันไมล์ด้วย
เขาสงสัยว่า ทําไมหมอหนุ่มคนนี้ถึงได้รู้เรื่องราวมากมายขนาดนี้
สาเหตุที่หวังเย้ารู้เรื่องมากขนาดนี้ เป็นเพราะเพื่อนฝูงของเจี๋ยจื้อจายที่อยู่ในยูนนานใต้ พวกเขาให้ข้อมูลเหล่านี้กับเจี๋ยจื้อจายพวกเขาอยู่ในสายอาชีพที่ค่อนข้างพิเศษพวกเขาจึงมีวิธีการหาข้อมูลได้โดยที่ไม่ถูกจับได้ เจี๋ยจื้อจายรู้ว่าหวังเข้าให้ความสนใจข่าวที่เกี่ยวข้องกับหุบเขาพันโอสถเขาจึงบอกให้เพื่อนของเขาที่อยู่ที่นั่นให้คอยจับตามองเรื่องนี้ด้วยพวกเขาจึงรวบรวม
ข้อมูลเท่าที่จะทําได้และส่งมาให้เจี๋ยจื้อจายมืออาชีพมักมีวิธีเฉพาะตัวในการหาข้อมูลพวกเขาสามารถหาข้อมูลที่รู้กันเฉพาะคนวงในรวมไปถึงข้อมูลที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน
“ได้ ได้แต่ผมรู้แค่นิดหน่อยเท่านั้นนะกล้วยไม้สีเลือดเป็นสมุนไพรหายากของเขตเดี่ยวมันถูกค้นพบโดยเมี้ยวซีเหอและถูกนํามาทําการทดลองในหุบเขา
“ทดลอง?”
“นํานานกล่าวไว้ว่ากล้วยไม้สีเลือดสามารถยืดอายุขัยและป้องกันโรคร้ายได้ทุกชนิด”“โอ้มันน่าอัศจรรย์ขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“มันอัศจรรย์มากผมได้ยินมาจากเที่ยวเทียนชวนว่าตอนที่เขาหนีออกไปจากหุบเขาเมื่อหลายปีก่อนเขาได้รับพิษด้วย แล้วสุดท้ายเขาก็กลับมาที่หุบเขาอีกครั้งเพื่อที่จะได้ตายในบ้านเกิดของตัวเอง ในตอนนั้นเขามีโอกาสได้เจอกับกล้วยไม้สีเลือดตั้งแต่นั้นมาพิษในร่างกายของเขาก็ทําอะไรเขาไม่ได้อีกต่อไปไม่เพียงแต่เขาจะรอดชีวิตมาได้แต่เขายังแข็งแกร่งขึ้นด้วย”
“ดี เรามาเริ่มรักษากันเถอะค่ารักษาของผมไม่ใช่ถูกๆนะ”
“ผมรู้ ผมเอาเงินมาด้วย”มันเป็นเรื่องที่เสวี่ยซินหยวนบอกกับเมี่ยวเฉิงถางตั้งแต่ก่อนที่เขาจะเดินทางออกจากเทียนจินแล้ว
“ดีมาก”
หวังเย้าทํายาที่มีส่วนผสมของหญ้าพิษครึ่งใบออกมาหนึ่งถ้วย
หลังจากที่ดื่มไปแล้วเมี่ยวเฉิงถางก็รู้สึกว่าในท้องของเขามีเสียงครื้นครันและร้อนที่หน้าอก“เอาล่ะตอนนี้คุณก็กลับบ้านได้แล้ว” หวังเย้าพูดแล้วโบกมือ
“แค่นี้เหรอ?”
“แค่นี้”
“แต่ เอ่อ นี่…” เขาอึ้งไป
“นี่มันหมายความว่ายังไง?แค่ยาขมๆถ้วยเดียวก็เป็นอันเสร็จแล้วงั้นเหรอ? หมอจะบอกว่ากู่ถูกกําจัดไปง่ายๆแบบนี้เหรอ?”เมี่ยวเฉิงถางรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาเขาเริ่มสงสัยว่าหวังเข้าสร้าง
เรื่องให้เขาตื่นตะลึงก็เพื่อให้เขาพูดเรื่องทุกอย่างออกมาเท่านั้น
“เลิกพูด และจ่ายมาได้แล้ว”
“ยาถ้วยละ 50,000 หยวนเนี้ยนะ?” เมี่ยวเฉิงถางตกตะลึงกับราคาที่ได้ยิน
“นี่มันปล้นกันตอนกลางวันแสกๆเลยนี่นา!”เขารู้ว่ายามีราคาแพง แต่เขาก็ไม่เคยคิดว่ามันจะแพงได้ขนาดนี้หรือยาวิเศษในเขตเมี่ยวก็แพงแบบนี้เหมือนกัน?
พูด
“คุณผิดหวังอย่างนั้นเหรอ?”หวังเย้าพูดเสียงเย็น
“ผมผิดหวังจริงๆนั่นแหละ”
หวังเย้าเงียบไป
“ถ้าคุณอยากยกเลิกการรักษาผมก็ทําให้คุณสํารอกเอายาที่คุณกินเข้าไปออกมาได้”หวังเย้าแต่ตอนนี้เองที่ยาเริ่มออกฤทธิ์แล้ว
แฮ่ก…แฮ่ก…แฮ่ก…แฮ่ก…
เมี่ยวเฉิงถางสูดลมหายใจเข้าลึกและนึกถึงคําพูดของเสวี่ยซินหยวน ถึงยังไงเขาก็ต้องจ่าย
“ได้ผมจะจ่าย”ในที่สุดเขาก็ยอมจ่าย
เงิน 50,000 หยวนเป็นจํานวนเงินที่มากสําหรับเขา
เขากัดฟันและพูดว่า“ขอบคุณ!”
“พยายามอย่าโมโหล่ะ มันไม่ดีกับตับ” หวังเย้าแนะนํา
เมี่ยวเฉิงถางตัวสั่นเทาไปด้วยความโกรธเขาหมุนตัวและเดินออกไป