Elixir Supplier - ตอนที่ 971 เลือดไหลนองลงใต้
971 เลือดไหลนองลงใต้
ซูเสี่ยวซวีประหลาดใจมากมันเป็นเพียงต้นเดียวที่เหลืออยู่สิ่งที่เหลืออยู่แค่หนึ่งเดียวเป็นการ
แสดงให้เห็นถึงความล้ําค่าของมันได้อย่างชัดเจน
“แล้วสมุนไพรต้นนี้ทําอะไรได้บ้างเหรอคะ?”เธอถาม
“โอ้ ทําได้หลายอย่างเลยล่ะ”หวังเย้าพูด“มันสามารถปรับสมดุลของอวัยวะภายในและกําจัดสิ่งไม่ดีออกไปจากร่างกายหากกินต่อเนื่องเป็นเวลานานจะทําให้แข็งแรงและไม่แก่เฒ่ามัน
“มันดีถึงขนาดนั้นเลยเหรอคะ?”ซูเสี่ยวซวีประหลาดใจมากยิ่งขึ้นเมื่อได้ยินถึงสรรพคุณของ
“ร่างกายแข็งแรงและไม่แก่เฒ่านั่นไม่ใช่ว่ากลายเป็นอมตะไปเลยเหรอคะ?”
“เรื่องนั้นผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันจะวิเศษขนาดไหน”หวังเย้าพูด“ตอนนี้มันยังไม่โตเต็ม
ที่ มันยังเป็นแค่ยอดอ่อนเท่านั้นเอง”
“แล้วต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าที่มันจะโตคะ?”ซูเสี่ยวซวีถาม
“เท่าที่ผมรู้มา มันน่าจะใช้เวลา 30 ปีถึงจะสูงได้ถึง 98 ฟุตถึงตอนนั้นก็จะสามารถนํามันมาใช้งานได”
“30 ปี?” ซูเสี่ยวซวีตกใจ“กว่าจะเอามาใช้งานได้ มันต้องรอนานขนาดนั้นเลยเหรอคะ?”หลายคนไม่ได้มีเวลามากขนาดนั้นในขณะที่สมุนไพรชนิดนี้จําเป็นต้องกินในระยะยาวเพื่อให้
ร่างกายแข็งแรงและไม่แก่เฒ่ามันคงจะเป็นไปได้ยากสําหรับใครหลายคน
“นี่เป็นครั้งแรกที่ผมปลูกสมุนไพรต้นนี้”หวังเข้าพูด
“ฉันจะคอยดูค่ะ” ซูเสี่ยวซวีจ้องมองต้นคังที่สูงแค่หนึ่งฟุตตรงหน้า
ในเทียนจินที่ห่างออกไปหลายพันไมล์
เมี่ยวเฉิงถางมีสภาพที่ดูไม่ได้เลยครู่ต่อมาเขาก็สบถคําหยาบออกมาไม่หยุด“เวรเอ้ย!”
เขาสามารถยืนยันได้แล้วว่าคนจากหุบเขายังคงคอยจับตาดูเขาอยู่ เขารู้ว่าพวกเขาอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ยิ่งไปกว่านั้นคนคนนั้นยังเชี่ยวชาญในการใช้กู่เป็นอย่างมากพวกเขาสามารถใช้กู่ได้โดยที่เขาไม่รู้ตัวเลยสักนิด
“มันเป็นใครกัน? หรือจะเป็นผู้อาวุโสในหุบเขา?”เมี่ยวเฉิงถางสูดลมหายใจเข้าลึก
เขามีอาการปวดท้องเรื้อรังไม่ยอมหายพิษที่ใช้ในครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อน อาการตอนนี้ของเขาคือปวดท้องท้องเสียและถ่ายเป็นเลือดเขาสํารอกเอาทุกอย่างที่กินออกมาและยังไอออกมาเป็นเลือดด้วยไม่ว่าจะเป็นตอนที่ถ่ายของเสียหรืออาเจียนเขาก็จะเห็นหนอนสีดําขนาดเท่าเส้นด้ายติดออกมาด้วยพวกมันดูน่าขยะแขยงและสยดสยอง
“ดูเหมือนว่าฉันต้องไปที่นั่นอีกครั้งแล้ว”
คนเดียวที่เขาบอกเรื่องนี้ให้รับรู้ก็คือเสวี่ยซินหยวน
“อะไรนะ?” เสวี่ยซินหยวนตกใจ“นายถูกพิษอีกแล้วเหรอ?”
“ใช่ ครั้งนี้เป็นพิษอีกชนิดหนึ่งคนจากหุบเขาอาจจะยังอยู่ที่เทียนจิน ถ้าผมเดาไม่ผิดพวกเขาน่าจะอยู่ไม่ไกลจากที่พักของผมเท่าไหร่”เมี่ยวเฉิงถางไม่ได้มีท่าทีตื่นตระหนกเหมือนครั้งก่อน
ครั้งนี้เขาดูสงบมาก
“ถ้าได้เห็นพวกเขา นายสามารถแยกพวกเขาออกได้ไหม?”เสวี่ยซินหยวนถาม“ถ้าใกล้มากพอก็ไม่มีปัญหาครับ”เมี่ยวเฉิงถางตอบ
ตอนที่เขาอาศัยอยู่ในหุบเขาเขาไม่ได้สังเกตเห็นความแตกต่างระหว่างคนในหุบเขากับคนภายนอกแต่หลังจากที่ได้มาใช้ชีวิตอยู่ที่เทียนจินได้ไม่นานเขาก็พบว่ามันเป็นเรื่องง่ายมากที่จะแยกคนในหุบเขาออกจากคนในเมืองเพียงแค่มองเขาก็สามารถบอกความแตกต่างได้แล้วมันไม่ต่างไปจากการมองหยดเลือดที่หยดลงไปในถ้วยที่ใส่น้ำเปล่าเอาไว้
“เอาล่ะ เดี๋ยวฉันจะให้คนไปรับนาย”เสวี่ยซินหยวนพูด“นายรีบไปที่จังหวัดฉีและไปหาหวังเย้าให้เร็วที่สุด”
“เอ่อ คือ…ผมไม่มั่นใจว่าครั้งนี้เขาจะช่วยผมไหม”เมี่ยวเฉิงถางกังวลในเรื่องนี้ครั้งก่อนที่เขาไปหาอีกฝ่ายเขาก็ได้รับการต้อนรับที่เย็นชากลับมาดูเหมือนว่าหมอไม่ยินดีที่จะเกี่ยวข้องกับเขา“บางทีเขาอาจจะรู้ถึงความร้ายกาจของคนในหุบเขาพันโอสถและไม่อยากเอาตัวเข้าไปเสี่ยงเพราะผมก็ได้”เมี่ยวเฉิงถางพูด
“แต่ไม่ว่ายังไง เขาก็เป็นความหวังเดียวของนายในตอนนี้”เสวี่ยซินหยวนพูด“นายต้องไปที่นั่นยังไงนายก็ต้องไป”
“ก็ได้ครับ”เมี่ยวเฉิงถางตอบ“ผมจะไปขอบคุณนะครับ”“ไม่เป็นไร” เสวี่ยซินหยวนพูดเสวี่ยซินหยวนประหลาดใจที่มีคนแค้นเมี่ยวเฉิงถางมากขนาดนี้ เขาประเมินคนจากหุบเขาพัน
โอสถต่ําเกินไปมากเมื่อพวกเขาถูกทรยศพวกเขาก็สามารถทําอะไรได้มากกว่าที่เขาคิดหลังจากลงมือครั้งแรกไม่สําเร็จพวกเขาก็รีบลงมือครั้งต่อไปในทันที พวกเขาไม่มีความปราณีมอบให้กับคนทรยศแม้ว่าจะอยู่ห่างไกลกว่า 6,000 ไมล์แต่พวกเขาก็รีบส่งคนมาจัดการกับคนที่พวกเขาต้องการกําจัดได้ในทันทีเสวี่ยซินหยวนรู้สึกทึ่งกับความโหดร้ายของคนเหล่านั้น“นี่มันยากมาก”
เมี่ยวเฉิงถางไม่ได้มีความสําคัญในสายตาของเสวี่ยซินหยวนมากนักเขามีประโยชน์แค่เล็กน้อยเท่านั้นเขามีเพียงข้อมูลข่าวสารที่ยังจําเป็นต้องทําการยืนยันความจริงอีกครั้งแต่เมื่อคิดถึงจํานวนเงินที่เขาลงทุนไปกับเมี่ยวเฉิงถางแล้วหากเขาทอดทิ้งอีกฝ่ายไปในตอนนี้ ก็หมายความว่าที่เขาทํามาทั้งหมดก่อนหน้านี้นั้นสูญเปล่า มันเหมือนกับคนที่ซื้อรถหรูแต่กลังจากนั้นกลับพบว่ารถคันนั้นเต็มไปด้วยปัญหามากมายและไม่สร้างความเพลิดเพลินในระหว่างการใช้งานได้มากนักปัญหาก็คือต้องเลือกระหว่างซ่อมหรือจะยอมทิ้งมันไปหลายคนเลือกที่จะซ่อมและนํากลับมาใช้งานเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดแต่หากเป็นคนที่มีฐานะร่ำรวยมันก็อาจจะออกมาในอีกรูปแบบหนึ่งเสวี่ยซินหยวนไม่ได้ร่ำรวยเงินที่เขาใช้ก็ไม่ใช่เงินของเขาเขากําลังใช้เงินของกั๋วเจิ้งเหออยู่ทําให้เขาจําเป็นต้องใช้เงินให้เกิดประโยชน์สูงที่สุด
เขาลงทุนกับเมี่ยวเฉิงถางไปมากแล้วซึ่งก็หมายความว่าเขาต้องลงทุนต่อไปเพื่อให้อีกฝ่ายยังคงมีชีวิตอยู่เรื่องนี้จะไม่มีการ
เปลี่ยนแปลงจนกว่าราคาที่ต้องจ่ายนั้นเพิ่มสูงเกินกว่าสิ่งที่อีก
ฝ่ายสามารถตอบแทนกลับคืนมาได้หากเป็นแบบนั้นอีกฝ่ายก็จะกลายเป็นไร้ประโยชน์และไม่คุ้มค่าที่จะให้ความช่วยเหลือต่อไป ถ้าหากเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นเสวี่ยซินหยวนก็พร้อมที่จะสละเมี่ยว
เฉิงถางทิ้งไป แต่ตอนนี้เรื่องยังไปไม่ถึงขั้นนั้น
รถที่เสวี่ยซินหยวนส่งไปได้เดินทางมาถึงที่พักของเมี่ยวเฉิงถาง แล้วไม่นานเขาก็ออกเดินทาง“ตามรถคันนั้นไป”
รถอีกคันตามหลังรถของเมี่ยวเฉิงถางไป
รถขับออกจากเทียนจินและมุ่งหน้าสู่ทางหลวง
“มีคนกําลังตามพวกเรามาครับ”คนขับพูด
“ไม่ต้องสนใจ”เมี่ยวเฉิงถางพูด“ไม่จําเป็นต้องเร่งเครื่องปล่อยให้พวกเขาตามเรามา”หลังจากออกมาได้ไม่นานพวกเขาก็เลี้ยวเข้าจุดแวะพักข้างทางเขาทําอะไรไม่ได้กับเรื่องนี้อาการปวดท้องของเขานั้นไม่สามารถกั้นไว้ได้เขาจําเป็นต้องปลดปล่อยมันออกไป อาการท้อง
เสียนั้นรุนแรงมากหลายวันมานี้เขาแทบไม่ได้กินอะไรเลยแต่เขากลับยังอาเจียนและถ่ายท้องไม่หยุดมันแย่ถึงขนาดแม้แต่การดื่มน้ำเปล่าก็ยังทําให้เขามีอาการได้เมื่อเดินออกมาจากห้องน้ำเขาก็แทบจะยืนไม่ไหว เขาต้องเกาะประตูเพื่อพยุงตัวเองเอาไว้ ถ้าหากยังเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ เขาคงจะตายอยู่ในห้องน้ำที่ไหนสักแห่งแน่ๆ แล้วร่างของเขาก็
คงจะถูกพบเจอโดยคนทําความสะอาดห้องน้ำที่เข้าเวรในวันนั้น
ฉันต้องมีชีวิตรอดไปให้ได้!ฉันต้องรอด!
เขาให้กําลังใจตัวเอง
รถคันนั้นก็ยังคงตามหลังพวกเขามาเรื่อยๆ
“ระ-เร็วกว่านี้”
“แล้วรถที่ตามพวกเรามาล่ะครับ?” คนขับถาม
“ไม่ต้องไปสนใจ”เมี่ยวเฉิงถางพูดเขาสนใจชีวิตของตัวเองมากกว่าสิ่งอื่น ส่วนเรื่องรถที่ตามพวกเขามาเขายกให้เป็นเรื่องรอง
เขาต้องมีชีวิตเพื่อที่จะได้ทําในสิ่งที่เขาต้องทํารถเคลื่อนตัวไปบนถนนทางหลวงอย่างรวดเร็ว รถที่ตามหลังมาก็เร่งเครื่องตามเช่นเดียวกัน
“พวกเขากําลังจะไปที่ไหนกัน?”
“เท่าที่เห็น มันน่าจะเป็นจังหวัดฉี
“จังหวัดฉี?”
รถขับไปถึงเขตเหลียนชานในคืนนั้นเมี่ยวเฉิงถางกับคนขับเข้าพักในโรงแรมที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเขตตัวเมือง
ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว
อยู่ๆเมี่ยวเฉิงถางก็ลุกออกจากเตียงและวิ่งเข้าห้องน้ำ
เขาเริ่มอาเจียนและถ่ายไม่หยุดโถส้วมเต็มไปด้วยเลือดสีแดงเข้ม
แฮ่ก แฮ่ก
เขาตะเกียกตะกายพาตัวเองกลับไปที่เตียงและล้มตัวลงนอน เขาเป็นเหมือนกับปลาที่เกยตื้นบนชายหาดและกําลังจะตาย
แฮ่ก แฮ่ก
เขาพยายามหายใจ พละกําลังในร่างกายของเขาเหือดหายจนแม้แต่การหายใจก็ยังเป็นเรื่องยากสาหรับเขา
เขากําลังหายใจเอาลมหายใจเฮือกสุดท้ายของชีวิตเขามองดูเวลา
ยังเหลือเวลาอีกหกชั่วโมงกว่าที่ท้องฟ้าจะสว่างหกชั่วโมงนั้นเป็นเหมือนกับนรกสําหรับเขา
พระอาทิตย์ขึ้นเวลาเดิมในเช้าวันใหม่
เวลาเจ็ดโมงเช้ารถคันหนึ่งได้ขับเข้าไปในหมู่บ้านบนเขารถจอดอยู่ที่ด้านนอกคลินิกที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของหมู่บ้าน
“ช่วยไปดูให้ฉันหน่อยว่าคลินิกเปิดรึยัง”เมี่ยวเฉิงถางนอนไร้เรี่ยวแรงอยู่ภายในรถเขาใช้
พลังงานไปมากกว่าที่เขามีเขาจึงไม่กล้าเคลื่อนไหวสะเปะสะปะ แม้แต่การขยับตัวเล็กน้อยก็
ทําให้เขาปวดท้องได้เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถอั้นไว้ได้เลย
“ยังไม่เปิดครับ”หลังจากที่ลงไปดูแล้วคนขับรถก็กลับมาบอกเขา
“อืม เราคงต้องรออีกสักพักคอยดูเอาไว้ด้วยถ้าเปิดเมื่อไหร่ก็ให้บอกฉัน”
“ได้ครับ” คนขับพูด
เขามองชายที่อยู่เบาะหลังผ่านทางกระจกมองหลังใบหน้าของเขาซีดเผือดและดูเหมือนจะจากไปได้ทุกเมื่อ
ทําไมถึงได้มีสภาพย่ําแย่ยิ่งกว่าครั้งก่อนล่ะ?
ดูเหมือนว่าคนขับจะเป็นคนเดียวกันกับที่ขับรถมาส่งเมี่ยวเฉิงถางก่อนวันขึ้นปีใหม่ที่เขาทําแบบนี้ก็เพื่อเงินการเดินทางในครั้งนั้นทําให้เขาต้องมานึกเสียใจทีหลังด้วยเขากลัวว่าผู้โดยสารจะมาตายในรถของเขาแล้วคนขับก็เลือกรับงานนี้อีกครั้งด้วยเหตุผลเดิมเงิน ครั้งนี้เขาเป็นกังวล
ยิ่งกว่าเดิม เพราะอีกฝ่ายดูป่วยหนักใกล้ตายยิ่งกว่าครั้งก่อน
คุณต้องรอดไปให้ได!ได้โปรดอย่ามาตายในรถของผม!เขาสวดอ้อนวอนอยู่ภายในใจ