Elixir Supplier - ตอนที่ 975
975
เขาไม่รู้ว่ากําลังภายในจะสามารถจัดการกับกู่ได้หรือไม่
มันเป็นสิ่งที่เขายังไม่เคยทดลองมาก่อน
“ฉันต้องกินยานี่ไปอีกกี่วันเหรอคะ?”ซูเสี่ยวซวีถาม
“ประมาณเจ็ดวัน”หวังเย้าตอบ
“เจ็ดวัน?”
“ใช่”
“นานเกินไปเหรอ?” หวังเย้าถาม
“เปล่าหรอกค่ะ กว่ามหาลัยจะเปิดก็วันที่ 15” ซูเสี่ยวซวียิ้มและพูด “ช่วงนี้ฉันไม่มีอะไรทําอยู่แล้วเลยตั้งใจว่าจะอยู่ที่นี่ไปก่อน”
“เยี่ยมผมคงไม่ขออะไรไปมากกว่านี้แล้ว”หวังเย้าพูด
ทั้งสองมักอยู่ด้วยกันตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นบนเนินเขาหนานชานหรือที่คลินิกเวลาที่หวังเย้ารักษาคนไข้เธอก็มักจะอยู่ข้างๆคอยช่วยหยิบยาให้หลังจากที่คนไข้กลับไปแล้วเธอก็จะถามคําถามต่างๆกับเขาทั้งสองไม่ได้แสดงท่าทีรักกันแบบจี๋จ๋าและตัวติดกันตลอดเวลาเหมือนคู่รักหลายๆคู่บรรยากาศรอบตัวพวกเขาเต็มไปด้วยความอบอุ่น,ความสุข,และความสบายใจเมื่ออยู่ด้วยกัน
คนไข้อีกรายมาถึงในตอนเย็นเขาเป็นชาวบ้านในวัยสี่สิบสภาพของเขาดูไม่ดีนักและมีกลิ่นเหล้าเหม็นหึ่ง
“สวัสดีครับ”
“เสี่ยวเย้า ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายท้องน่ะ”
“สองวันมานี้ คงดื่มไปเยอะเลยสินะครับ”หวังเย้าพูด“ไฮ้ฉันแค่ดื่มไปนิดๆหน่อยๆเท่านั้นเอง”
“ดูเหมือนจะไม่นิดเลยนะครับ”หวังเย้าพูด“ลุกออกจากเตียงได้น้าก็ดื่มเลย แล้วยังดื่มอย่างน้อยๆก็วันละสามครั้งคงทําแบบนี้มาสามสี่วันแล้วใช่ไหมครับ?”
สองวันที่ผ่านมา มีหลายคนมาหาหวังเย้าที่คลินิกเพราะรู้สึกไม่สบายท้องจากการดื่มเหล้าหนักเกินไป
“ฮ่ะ ฮ่ะ” เขาหัวเราะแห้งๆและผงกหัว
“ต้องเลิกดื่มหนึ่งเดือนเป็นอย่างต่ำนะครับ” หวังเย้าพูด “กินอาหารอ่อนๆและพยายามเลี่ยงอาหารรสจัด”
“มานั่งก่อนสิครับ”
หวังเย้านวดอย่างง่ายๆให้กับเขาและเอายาน้ำให้เขาเพื่อล้างแอลกอฮอลที่คงค้างอยู่ภายในร่างกายของเขามันยังช่วยซ่อมแซมความเสียหายของกระเพาะได้บางส่วนด้วย
“กลับบ้านแล้วก็เอาไปอุ่นไว้ดื่มนะครับ ดื่มวันละสองครั้ง ตอนเช้าครั้งหนึ่งและตอนกลางคืนครั้งหนึ่ง”
“ได้ ฉันจะจำเอาไว้”เขาพูด
“จ๋าไว้นะครับว่าต้องหยุดเหล้า”หวังเยาพูด
เฮ้อ
ชายวัยกลางคนรับยาและจ่ายเงินก่อนจะกลับออกไป
“ดื่มเหล้ามากเกินไปร่างกายจะพังเอาได้
“เขาคงไม่ฟังที่ผมพูดไปหรอก”หวังเย้าพูด“ถ้าเขายังทําแบบนี้ต่อไป อาการของเขาคงไม่หายภายในหนึ่งเดือนแน่”
“จริงเหรอคะ?”
“ใช่ คนในหมู่บ้านรู้กันดีว่าเขาดื่มหนักขนาดไหน” หวังเย้าอธิบาย “เขาดื่มอยู่ที่บ้านวันละสองรอบถึงจะเป็นวันที่ต้องทํางานเขาก็ไม่หยุดดื่มไม่ว่าใครก็หยุดเขาไม่ได้”ชายคนนี้มีชื่อเสียงในหมู่ชาวบ้านจากการที่เขาติดเหล้า
“เธอรู้อะไรไหม มีปีใหม่ปีหนึ่งเขาดื่มหนักมากและถือประทัดเอาไว้ในมือแล้วเขาก็ปีนขึ้นไปบนหลังคาสุดท้ายประทัดก็ระเบิดใส่มือของเขา จากนั้นเขาก็ตกลงไปในคอกหมูซี่โครงหักไปสองซี่เรื่องที่เกิดขึ้นตอนนั้นไม่ได้ทําให้เขาเลิกนิสัยเดิมๆยังมีครั้งหนึ่งที่เขาออกไปดื่มข้างนอกตอนกลางคืนแล้วเขาก็เดินไปเรื่อยๆจนไปโผล่ที่ตัวเมืองเหลียนชานเขาเดินไปไกลหลายไมล์
พอตื่นขึ้นมาตอนเช้าเขากลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย”“ฮาฮา!”ซูเสี่ยวซวีหัวเราะ
คนเมามักหาอะไรที่ทําให้ตัวเองต้องขายหน้าเสมอ
“เชียนเชิงพอจะมีทางที่ช่วยเขาได้ไหมคะ?”เธอถาม
“มีสิ ผมใส่ตัวยาบางอย่างลงไปในยาที่ให้เขาไปแล้ว”หวังเย้าตอบ
“อะไรเหรอคะ?”
“เป็นสมุนไพรหลายชนิดที่เมื่อใช้รวมกันแล้วจะทําให้เกิดผลลัพธ์ที่น่ามหัศจรรย์ขึ้นเมื่อไหร่ที่ได้กลิ่นเหล้าเขาก็จะรู้สึกคลื่นไส้ถ้าเขาดื่มเขาก็จะอ้วกออกมา”
“จริงเหรอคะ?”
“จริงสิ” หวังเย้ายิ้มและพูดว่า“คอยดูสิเขาจะต้องกลับมาก่อนพระอาทิตย์ตกแน่”
“งั้นเรามารอดูกันดีกว่าค่ะ”
ภายในหุบเขาพันโอสถที่ห่างออกไปหลายพันไมล์
เมี่ยวเจิ้งหนานกับชายหนุ่มคนขับรถกลับมาถึงหมู่บ้านและได้รับการรักษาจากเมี่ยวซีเหอ
“น่าสนใจจริงๆ” หลังจากตรวจดูร่างกายของพวกเขาแล้วเมี่ยวซีเหอก็ยิ้ม
ผู้นํายิ้มอย่างนั้นเหรอ?
พวกเขาตกใจที่ได้เห็นสีหน้าแบบนั้นของเมี่ยวซีเหอ ปกติผู้นําของพวกเขามักมีสีหน้าเคร่งขรึมอยู่เสมอเขาแทบไม่แสดงสีหน้าอย่างอื่นให้ได้เห็นเลยไม่ว่าจะเป็นตอนโมโหหรือมีความสุขเขาก็มักแสดงมีท่าทีนิ่งขรึมใบหน้าไร้ความรู้สึกและดูไร้อารมณ์
“นายบอกว่า เขาแค่กดมือลงไปในอากาศก็สามารถกดนายลงไปที่พื้นได้แล้วใช่ไหม?”เมี่ยวซีเหอถาม
“ใช่ครับ ผมรู้สึกเหมือนมีภูเขากดทับลงมาบนบ่าและกําลังบดขยี้ผมอยู่ยังไงยังงั้น”เมี่ยวเจิ้งหนานพูด
“เขาสกัดจุดที่หน้าท้องของนายด้วยใช่ไหม?” เมี่ยวซีเหอะถาม
“หกครั้งครับ”
เมี่ยวซีเหอหันไปทางชายหนุ่มและถาม “แล้วนายล่ะ?”
“เอ่อ ขอโทษครับผู้นํา ผมไม่ได้นับ” ชายหนุ่มตอบ “ไม่เป็นไร แล้วนายรู้สึกยังไงบ้าง?”เมี่ยวซีเหอถาม
“ผมรู้สึกเหมือนติดอยู่ในกับดัก ขยับตัวไปไหนไม่ได้” ชายหนุ่มตอบ ตอนนั้นเขากลัวมากจนจำอะไรแทบไม่ได้เลย แม้แต่เมี่ยวเจิ้งหนานที่เก่งกว่าไม่รู้เท่าไหร่ยังพูดแบบนั้นคําพูดที่เขาบอกออกไปจึงไม่ต่างจากอีกฝ่ายมากนัก
“เขาใช้วิธีการพิเศษทําให้เส้นเลือดของนายบิดเบี้ยว จนส่งผลให้เกิดการอุดตันขึ้นในบริเวณช่วงท้องของนาย” เมี่ยวซีเหอพูด “ทําให้ความเจ็บปวดเกิดขึ้นเป็นพักๆแล้วยังทําให้พวกนายสองคนต้องเจ็บปวดทุรนทุรายด้วย”
เขาตกใจกับเรื่องนี้มาก เขาไม่ได้เห็นคนใช้วิธีการนี้มานานหลายปีแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นอีกฝ่ายยังใช้แค่วิธีการสกัดจุดเป้าหมายเพียงแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้นมันหมายความได้ว่าชายหนุ่มคนนั้นเป็นยอดฝีมือในด้านกังฟูจากการสกัดจุดที่แม่นยําของเขายังแสดงให้เห็นว่า เขามีความคุ้นเคยกับร่างกายของมนุษย์เป็นอย่างมาก
เขาอายุแค่ยี่สิบกว่าปีจริงหรือ?
เมี่ยวซีเหอรู้สึกว่าอายุของอีกฝ่ายดูไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด มันเป็นไปไม่ได้ที่คนหนุ่มอายุน้อยจะมีฝีมือสูงส่งได้ขนาดนี้ถึงแม้ว่าเขาจะฝึกตั้งแต่เกิดก็ตามที
“หยิงหาวกลับมารึยัง?”เขาถาม
“เขาจะกลับมาถึงพรุ่งนี้ครับ”
“ดี”
“เตรียมอ่างน้ายา
ถึงแม้จะต้องลงแรงมากสักหน่อย แต่การรักษาชายทั้งสองคนก็ไม่ใช่ปัญหาสําหรับเขาอาการที่เกิดจากการถูกชายหนุ่มคนนั้นสกัดจุด ทําให้เมี่ยวซีเหอต้องลําาบากไม่น้อย
“ฉันไม่ได้เจอเรื่องน่าสนใจแบบนี้มานานแล้ว”เขาพูด“เขาเป็นคนที่น่าสนใจจริงๆ”
เมี่ยวซีเหอเกิดความรู้สึกอยากเดินทางไปที่หมู่บ้านแห่งทางเหนือเพื่อพบหน้าชายหนุ่มคนนั้น
“บอกชิงเฟิงให้เข้ามา”เขาพูด
“ครับ ผู้นํา” หลังจากนั้นไม่นาน เมี่ยวชิงเฟิงก็มาถึง
“ผู้นํา”
“ให้คนไปสืบเรื่องของผู้ชายที่ชื่อหวังเย้า” เมี่ยวซีเหอพูด “ฉันต้องการรู้เรื่องของเขามากที่สุดเท่าที่จะหาได้”
“เข้าใจแล้วครับ”
เมี่ยวซีเหอใช้วิธีการพิเศษในการรักษาคนทั้งสองที่เพิ่งกลับมาถึงหุบเขา เพื่อจัดการกับอาการป่วยที่พวกเขาได้รับมา
เฮ้อ
วิธีการของชายหนุ่มคนนี้เหนือความคาดหมายของฉันมาก
ขณะเดียวกัน ชายวัยกลางคนก็กลับมาหาหวังเย้าในเย็นวันนั้นจริงๆ
“มีเรื่องอะไรรึเปล่าครับ น้า?”
“เสี่ยวเย้า ยาของเธอมีปัญหา!”
“ปัญหาอะไรเหรอครับ?”หวังเย้าถาม
“หลังจากที่ฉันกินมันเข้าไปฉันก็รู้สึกอยากอ้วกขึ้นมาน่ะสิ”ชายวัยหลางคนพูด
“อยากอ้วก? เป็นไปไม่ได้หรอกหรือน้าจะดื่มเหล้าอีกแล้ว?”หวังเย้าถามหน้าเคร่ง
“เอ่อ เปล่า”
“อย่าโกหกผมเลย” หวังเย้าพูด“น้าต้องดื่มอีกแล้วแน่ๆ ผมบอกน้าไปแล้วว่าอย่าดื่มเหล้าตอนที่กินยาตัวนี้อยู่ ถ้าน้าดื่มเหล้ามันจะทําให้กระเพาะหดตัวได้”
“ก็ได้ๆ ฉันเข้าใจแล้ว” ชายวัยกลางคนถอนหายใจจากนั้นเขาก็โบกมือและเดินออกไปจากคลินิก
“เห็นไหม?” หวังเย้าหันไปยิ้มให้ซูเสี่ยวซวี
“เชียนเชิงทายแม่นจริงๆค่ะ”เธอพูด
“ผมรู้จักคนแบบเขาดี”หวังเย้าพูด“การดื่มมากเกินไปจะทําให้ติดได้ไม่ต่างจากการสูบบุหรี่ถ้ามีคนคิดจะเลิกอาการลงแดงจะทําให้พวกเขารู้สึกเหมือนขาดอะไรไปพวกเขาจะรู้สึกขวางหูขวางตาไปเสียทุกอย่างมันจะทําให้พวกเขารู้สึกไม่มีแรงมันอาจทรมานในช่วงแรก แต่หลังจากผ่านไปได้สักพักพวกเขาก็จะดีขึ้นแต่ถ้าพวกเขาผ่านไปไม่ได้ร่างกายของพวกเขาก็จะแย่ลงไปเรื่อยๆ”
นั่นเป็นคนไข้เพียงรายเดียวที่มาคลินิกในช่วงบ่ายและไม่มีใครโผล่มาอีก
“เฮ้อ สองวันมานี้น่าเบื่อจริงๆ”
หวังเย้ากับซูเสี่ยวซวีนั่งดื่มชาและพูดคุยกันอยู่ภายในคลินิกจนกระทั่งถึงตอนเย็น
“เชียนเชิงเคยคิดเรื่องการรับลูกศิษย์บ้างไหมคะ?”เธอถาม
“ผมก็รับมาหลายคนแล้วนะ”หวังเย้าตอบ
“ฉันหมายถึงคนที่สามารถอยู่ช่วยงานที่นี่ได้ต่างหากล่ะคะ”ซูเสี่ยวซวีพูด
“เรื่องนั้นออกจะยุ่งยากสักหน่อย”หวังเย้าพูด“คนคนนั้นต้องเรียนรู้อะไรหลายอย่างและยังต้องมีพรสวรรค์ด้วยที่สําคัญพวกเขาต้องมีทัศนคติอย่างที่หมอคนหนึ่งควรจะมีคนหนุ่มสาวสมัย
นี้ ทนอยู่นิ่งจดจ่อกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งนานๆไม่ค่อยได้พวกเขาส่วนใหญ่คิดแต่จะหาทางให้ได้เงิน
มากๆในเวลาสั้นๆมากกว่าคนแบบนั้นไม่เหมาะจะมาเรียนอยู่ข้างกายผมหรอก”ตัวหวังเย้านั้นอยากสอนเรื่องการรักษาแต่กฎเกณฑ์ในการรับลูกศิษย์โดยเฉพาะเรื่อง ทัศนคตินั้นหวังเข้าให้ความสําคัญเป็นอย่างมาก
คืนนั้นซูเสี่ยวซวีโทรไปหาชูเหลียน“น้าเหลียนคะช่วยเช็คเรื่องหนึ่งให้ทีสิคะ”เธอพูด
“ได้ค่ะ”
“มันเป็นที่ที่ถูกเรียกว่าหุบเขาพันโอสถ”ซูเสี่ยวซวีพูด“อยู่ทางยูนนานใต้ค่ะ”
ซูเหลียนตกลงโดยไม่ถามอะไรให้มากความ
เธอรู้สึกว่ามันมากเกินไปกับการที่มีคนคิดร้ายกับหวังเย้าถึงเธอจะรู้ว่าหวังเย้านั้นเชี่ยวชาญในหลายด้านรวมไปถึงความสามารถในด้านกังฟูที่ไม่สามารถคาดเดาได้แต่การที่ศัตรูอยู่ในที่มืดก็เป็นเรื่องยากต่อการรับมือทั้งยังมีเพื่อนและครอบครัวของเขาที่ต้องคอยระวังด้วยจากที่เธอรู้มาคนจากหุบเขานั้นโหดเหี้ยมมากทั้งยังใช้แมลงพิษและพิษในการต่อสู้ด้วยการถูกคนจากสถานที่แห่งนั้นหมายหัวคือโชคร้ายอย่างแท้จริงที่บ้านตระกูลซูในปักกิ่ง
“เสี่ยวซวีให้เธอสืบเรื่องของที่นั่นเหรอ?”ซงรุ่ยปิงถาม
“ใช่ค่ะ เธอบอกว่าคนจากที่นั่นมาหาเรื่องหวังเย้าถึงที่คลินิก”“คนจากหุบเขาในยูนนานใต้มาหาเรื่องคนที่อยู่ถึงทางเหนือเลยอย่างนั้นเหรอ?น่าสนใจจริงๆ
อืม ดูเหมือนว่า กั๋วเจิ้งเหอจะทํางานอยู่แถบที่นั่นด้วยนี่เขากําลังเจอปัญหาอยู่ไม่ใช่เหรอ?”“เป็นที่ยูนนานใต้ค่ะจากที่เห็นปัญหาของเขาดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับคนในหุบเขานั้นด้วยค่ะ”หลังจากที่ได้ยินแบบนั้นสีหน้าของซงรุ่ยปิงก็เปลี่ยนไป
“คอยจับตาดูที่นั่นเอาไว้ให้ดี” เธอพูด
“ค่ะ”
“ตอนอยู่ที่นั่น สืบเรื่องของกั๋วเจิ้งเหอด้วยก็ดี”
“ได้ค่ะ” กลับมาที่เทียนจิน
ชายสองคนนั่งอยู่ที่โต๊ะในร้านอาหารแห่งหนึ่ง บนโต๊ะมีอาหารอยู่หกจานซุปหนึ่งถ้วยและเหล้าอีกสองแก้ว
“ขอบคุณมากครับ”
“ฉันบอกนายแล้ว ว่าไม่ต้องเกรงใจ”เสวี่ยซินหยวนพูดยิ้มๆ“ผมเอาชีวิตรอดมาได้ครั้งนี้แต่ครั้งหน้าผมคงไม่รอด”เมี่ยวเฉิงถางยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มหลัง
จากที่พูดจบ
“คนจากหุบเขาทําให้ฉันประหลาดใจจริงๆ” เสวี่ยซินหยวนพูด
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ ทําให้เขาได้รู้ว่า หุบเขาพันโอสถที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าลึกนั้นมีอะไรมากกว่าที่คิด มันเป็นเรื่องน่าประหลาดใจมากที่สถานที่ที่ปิดกั้นตัวเองจากโลกภายนอกกลับมีเครือข่ายกว้างขวางอยู่ด้านนอกนั้นยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังวิธีการติดตามเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งเป็นทักษะของมือสังหารและนักฆ่าทั้งที่มันไม่ควรมีอยู่ในกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในป่าลึกห่างไกลจากผู้คนเลยและมันเป็นเรื่องยากที่จะบอกได้ว่าคนจากที่นั่นต้องการอะไรกันแน่
“นายบอกว่า หมอหวังคนนั้นไม่ใช่แค่เก่งเรื่องการรักษาเท่านั้น แต่เขายังเป็นยอดฝีมือในด้านกังฟูอีกด้วยใช่ไหม?”เสวี่ยซินหยวนถาม
“ใช่ครับ ผมไม่แน่ใจว่ามันเป็นวิชากังฟูหรือความสามารถเหนือธรรมชาติ แต่ผมรู้ว่าเดี๋ยวเจิ้งหนานกับอีกคนเป็นที่รู้กันดีในหุบเขา ว่าเขาเป็นคนที่ร้ายกาจขนาดไหนเขาไม่ค่อยออกไปไหนบ่อยแต่ทุกงานที่เขาทําล้วนแล้วแต่โหดเหี้ยมอย่างที่สุดเขาเป็นคนที่มีความสามารถคนหนึ่งและเชี่ยวชาญในเรื่องพิษไม่อย่างนั้นเมี่ยวซีเหอก็คงไม่ใช้งานเขา”