Elixir Supplier - ตอนที่ 981 ยาตัวใหม่
981 ยาตัวใหม่
“ถ้าอย่างนั้นผมก็จะไปที่นั่นดู”กั๋วเจิ้งเหอพูด“ยังไงมันก็อยู่ใกล้กับเขตเหออยู่แล้ว”
“ก็ดี” เฉินโจวชวนพยักหน้าและพูดว่า“เพียงแต่กฎและนิสัยของเขาออกจะแปลกสักหน่อยเธอคงต้องเตรียมใจสําหรับเรื่องนั้นด้วย”
มันขึ้นอยู่กับกฎและอารมณ์ของเขารวมไปถึงคนที่เขาคิดจะรักษาด้วย
สําหรับหวังเย้า นอกจากว่าเขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริงๆ เขาก็ไม่คิดที่จะไปเคาะประตูบ้านของอีกฝ่ายแน่นอน
วันนั้น เขาได้ใช้เส้นสายของตระกูลและเดินทางไปที่ยูนนานใต้เพื่อไปหาราชายาหวูซานพูดกันว่าเขาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่ห่างไกลและมีกฎกับนิสัยที่แปลกประหลาดแต่สําหรับถั่วเจิ้งเหอแล้ว ในเมื่ออีกฝ่ายมีความเกี่ยวข้องกับโลกภายนอกมันจึงมีเรื่องของความสัมพันธ์เข้ามา
เกี่ยวข้องด้วยอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้อีกฝ่ายยังมีครอบครัวและญาติพี่น้องอยู่ในบางครั้งกฎเกณฑ์บางอย่างก็สามารถผ่อนคลายลงได้ โดยเฉพาะเมื่อมีคนจากจังหวัดมาเยือนด้วยตัวเอง“แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น”
บุญคุณต้องตอบแทนแต่กฎก็ต้องปฏิบัติตาม
“ครับ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น”
“ได้ พาเขาเข้ามาสิ”
ถั่วเจิ้งเหอเดินเข้าไปในอาคารไม้และได้พบกับราชายาแห่งเขตเดี่ยวหวูซาน
เขาดูมีอายุไม่ถึง 40 ปีด้วยซ้ำเขารักษาความเยาว์วัยของตัวเองได้เป็นอย่างดีเขาคิดว่าอีกฝ่ายให้ความรู้สึกที่คล้ายกันกับเมี่ยวซีเหอ
“นี่มัน?” หลังจากตรวจร่างกายของกั๋วเจิ้งเหอแล้วหวูซานก็หน้านิ่วคิ้วขมวด“มันคือกู่ใช่ไหมครับ?”กั่วเจิ้งเหอถาม
“ใช่ เธอมาจากเขตเหอเหรอ?”
“ผมเป็นผู้ว่าเขตเหอครับ”กั่วเจิ้งเหอพูดโดยไม่คิดปิดบัง“ก่อนหน้านี้ ผมถูกพิษ ในตอนนั้นคนจากหุบเขาพันโอสถได้มาช่วยรักษาให้ผม
“อืม” หลังจากที่ได้ยินแบบนั้นหวูซานก็ไม่ได้พูดอะไรอีกในใจของเขารู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น
เมี่ยวซีเหอ นายกําลังคิดจะทําอะไรกันแน่?
เขารู้จักกู่ชนิดนี้ดีอยู่แล้ว พวกมันมาจากหุบเขาพันโอสถสําหรับเขาแล้วเขาสามารถจัดการกับมันได้
ไม่นาน หวูซานก็สามารถจัดการกับแมลงพิษทั้งหมดที่อยู่ภายในร่างกายของเขาได้จนหมด“เรียบร้อย”
“ขอบคุณครับ”
“ไม่เป็นไร” หวูซานตอบพร้อมกับโบกมือ
เขารู้สึกว่า ตัวเองอาจจะกําลังถูกดึงเข้าไปอยู่ในปัญหาของคนอื่น
“กลับไปก็ระวังให้ดีด้วย”หวูซานพูด“ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธออีก”
ถั่วเจิ้งเหออึ้งไปกับคําพูดของอีกฝ่ายแล้วสีหน้าของก็เปลี่ยนเป็นดูไม่ได้เขาพยายามบังคับตัวเองไม่ให้พูดอะไรออกไปจากนั้น เขาก็หมุนตัวและเดินออกไป
“เป็นยังไงบ้าง?”
“ผมไม่เป็นไรแล้ว”
“ดีดี”
ถึงเขาจะอยู่ในยูนนานใต้แต่เขาก็ไม่ได้รีบกลับไปที่เขตเหอเขาเลือกที่จะกลับไปปักกิ่งระหว่างการเดินทางเขาก็คิดหาทางจัดการกับปัญหานี้ไปด้วย
เมื่อเขาไปถึงปักกิ่ง เขาก็ต้องประหลาดใจกับการกลับมาของพ่อเขา
“พ่อ ทําไมถึงกลับมาได้ล่ะครับ?”
“พ่อมาทําธุระที่ปักกิ่ง สุขภาพของลูกเป็นยังไงบ้าง?”
“ไม่เป็นไรแล้วครับ” ถั่วเจิ้งเหอพูด“ผมตั้งใจว่าจะไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกรอบ” ถึงแม้หวู ซานจะบอกว่าเขาไม่เป็นอะไรแล้ว และเขาไม่รู้สึกเจ็บอีกต่อไปแต่เขาก็ยังไม่วางใจการไปตรวจ
ที่โรงพยาบาลอีกครั้งจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสําหรับเขา
“ใช่ ลูกต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลดูอีกสักรอบ” แม่ของเขาพูด “แม่คุยเรื่องนี้กับพ่อของลูกแล้วลูกไม่ควรอยู่ที่เขตเหออีกต่อไป มันอันตรายเกินไป” สําหรับคนเป็นแม่แล้วสิ่งที่เธอกังวลมากที่สุดก็คือสุขภาพและชีวิตของลูกชายเรื่องอื่นล้วนเป็นเรื่องรองสําหรับเธอ
“ถ้าเป็นเรื่องนั้น ผมอยากอยู่ที่นั่นต่ออีกสักพักครับ” ถั่วเจิ้งเหอตอบ“แล้วถ้าผมออกมาตอนนี้
มันก็ดูจะไร้ความรับผิดชอบมากเกินไปด้วย”
มีเรื่องใหญ่หลายเรื่องเกิดขึ้นที่เขตเหอการแยกตัวออกมาในเวลาแบบนี้ถือเป็นการกระทําที่ดูไร้ความรับผิดชอบ
“พ่อก็ไม่อยากให้ลูกอยู่ที่นั่นต่อเหมือนกัน”พ่อของกั๋วเจิ้งเหอพูด “ช่วงนี้กําลังมีการฝึกกลุ่มแกนน่าขึ้นที่ปักกิ่งลูกก็เตรียมตัวเอาไว้ให้ดีล่ะ”กั๋วเจิ้งเหอคิดอยู่ครู่หนึ่งและพยักหน้ารับ“ได้ครับ”
สําหรับคนฉลาดที่มองการไกลและหลีกเลี่ยงความเสี่ยง เขารู้ดีว่าเมื่อไหร่ควรโจมตีและเมื่อไหร่ที่ควรถอย
“พี่สาวของลูกก็ได้รับอันตรายตอนอยู่ที่นั่นเหมือนกัน”
“ใช่ครับ” กั๋วเจิ้งเหอพูด“เรื่องมันเกิดขึ้นตอนก่อนที่จะถึงปีใหม่แค่ไม่กี่วันเท่านั้น”
“ฮ่มหุบเขาพันโอสถเป็นสถานที่แบบไหนกันแน่?มันจะมากเกินไปแล้ว!”พ่อของกั๋วเจิ้งเหอพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมในเวลาเดียวกันเขาก็ยังแสดงออกถึงความไม่พอใจสถานที่แห่งนั้นออก มาด้วย พวกเขาคือลูกชายและลูกสาวของเขาพวกเขาคือคนจากตระกูลถั่ว เมื่อไหร่กันที่พวกเขาถูกรังแกนับประสาอะไรกับการถูกปองร้ายพูด
“นั่นน่ะสิครับ ผมคิดเรื่องนี้มาได้หลายวันแล้วเหมือนกัน” กั่วเจิ้งเหอพูด
“ผู้นําของที่นั่นชื่อเดี่ยวซีเหอสินะ?” พ่อของเขาถาม
“ใช่ครับ เป็นเขา”
“เขาเป็นคนยังไง?”
“เขาเป็นคนทะเยอทะยาน แต่ก็ไม่ต้องการให้เป็นที่จับตามองของคนอื่นมากนัก” ถั่วเจิ้งเหอ
“ทะเยอทะยาน? เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะเขาใช่ไหม?”
“ใช่ครับ ต้นเหตุก็คือเขา”
“ในเมื่อเกิดเรื่องขึ้นมากมายแบบนี้แล้ว เขาก็ควรจะรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น”พ่อของเขาพูด
“ผมพอจะมีความคิดดีดีบ้างแล้วครับ”กั่วเจิ้งเหอพูด
“โอ้ ไหนลองบอกพ่อมาสิ”
“เขาไม่อยากยุ่งกับโลกภายนอกและไม่อยากให้คนสนใจมากไม่ใช่เหรอครับ?” กั๋วเจิ้งเหอพูด
“ถ้าอย่างนั้น เราก็จะทําให้หุบเขาของพวกเขาเปิดเผยออกสู่สายตาของสาธารณะซะก็สิ้นเรื่อง”
“อืม เป็นความคิดที่ดี”
หมู่บ้านกลางเขาที่อยู่ห่างออกไปหลายพันไมล์
ภายในคลินิก เด็กหนุ่มมนุษย์แก้วได้เข้ารับการรักษาเป็นครั้งที่สอง
หลังจากที่แช่น้ำยาและฟื้นตัวหลังการรักษาไปได้สามวัน ร่างกายของเด็กหนุ่มก็เปลี่ยนแปลงไปมากเขารับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น พละกําลังได้กลับคืนสู่ร่างกายของเขา เขาเริ่มมีชีวิตชีวาและเริ่มรักการกินอาหารและเป็นธรรมดาที่แม่ของเขาที่คอยดูแลเขาอยู่ตลอดจะสามารถรับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของลูกชาย
เธออุทานไปไม่รู้กี่ครั้ง “หมอหวังยอดเยี่ยมจริงๆ!”
การรักษาครั้งที่สองเป็นไปอย่างราบรื่น เด็กหนุ่มให้ความร่วมมือในการรักษาเป็นอย่างดี
“หมอหวัง เสี่ยวรุ่ยของเราจะหายไหมคะ?” เธอถาม
“ถ้าดูจากตอนนี้แล้ว ก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไรครับ” หวังเย้าพูด
เขาต้องการเปลี่ยนรากฐานในร่างกายของเด็กหนุ่มโรคที่เขาเป็นอยู่ไม่ได้เกิดจากปัจจัยภายนอกแต่เกิดจากภายในเขาได้รับมันมาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่และมันก็ฝังลึกอยู่ในกระดูกของเขาดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากต่อการรักษาหวังเย้าจึงพยายามรักษาโดยการปรับเปลี่ยนตั้งแต่รากฐานร่างกายเป็นอันดับแรก
“เยี่ยมไปเลยค่ะ” เธอพูด เธอถามคําถามนี้ไปไม่รู้กี่ครั้งแล้ว
“เอาล่ะครับ อีกสามวันให้กลับมาอีกครั้งนะครับ”
“ขอบคุณค่ะขอบคุณ”เธอพูดอย่างมีความสุข
“หมอหวังเสี่ยวซวีเย็นนี้ว่างรึเปล่า?”
“คุณป้ามีเรื่องอะไรเหรอคะ?”
“เอ่อ ป้าอยากเชิญทั้งสองไปกินข้าวเพื่อเป็นการเลี้ยงขอบคุณน่ะจ๊ะ”
“เรื่องนั้นไม่จําเป็นหรอกครับ”หวังเย้ายิ้มพูด
สุดท้ายเขาก็ปฏิเสธคําเชิญของอีกฝ่าย
“หลังจากรักษาครั้งที่สามเสร็จแล้วผมจะไปส่งเธอกลับปักกิ่งนะ”
พวกเขาได้คุยเรื่องนี้กันแล้วหวังเย้าจะกลับไปที่บ้านของซูเสี่ยวซวีเพื่อฉลองวันตรุษจีนกันที่นั่น
“ค่ะ”
ในตัวเมือง สมุนไพรจํานวนมากได้มาถึงโรงงานผลิตย พวกมันคือสมุนไพรที่จะถูกใช้เพื่อผลิตยาตัวที่สองของบริษัท
ยาขับพิษร้อน
หลังจากที่สมุนไพรมาถึง เจิ้งเหว่ยจวินก็แจ้งเรื่องนี้กับหวังเย้าเขาขับรถมาที่โรงงานเพื่อตรวจดูสมุนไพรด้วยตัวเองหลังจากที่ยืนยันได้ว่าไม่มีปัญหาอะไรเขาก็เริ่มการผลิตทันที
สมุนไพรสําหรับยาล็อตแรกนั้นมีจํานวนไม่มากในครั้งนี้พวกเขาวางแผนที่จะทําเป็นยาน้ำ
การผลิตยาล็อตแรกดูเหมือนจะเป็นไปอย่างราบรื่นหลังจากที่ยาถูกผลิตออกมาแล้วหวังเย้าและไม่มีการทําออกมาในรูปแบบของยาเม็ด
ที่ดมกลิ่นดูก็รู้ได้ถึงความผิดปกติทันที
“ยาต่ํากว่ามาตรฐาน มันต้มนานเกินไป”
“นานเกินไป?” คนที่รับผิดชอบเรื่องนี้รีบจดบันทึกลงไปในทันที
“แล้วต้องลดเวลาลงเท่าไหร่ครับ?”
“การใส่สมุนไพรลงไปเป็นไปตามที่ผมบอกไว้ไหมครับ?”
“ครับ”
“หลังจากที่ใส่สมุนไพรลงไปจนครบแล้ว ควรลดระยะเวลาการต้มลงไปอีกหนึ่งนาทีครึ่งตอนนั้น เราจะมาดูกันอีกที”
“ได้ครับ”
วันนั้น หวังเย้ากับซูเสี่ยวซวีอยู่ด้วยกันที่โรงงานผลลัพธ์ที่ได้คือยาที่ผลิตออกมาทั้งเจ็ดครั้งนั้นใช้ไม่ได้เลยพวกเขาไม่สามารถผลิตยาออกมาได้ตรงตามมาตรฐานที่หวังเย้าต้องการปัญหาหลักคือระยะเวลาและการควบคุมไฟที่ใช้ในการต้มยา
“เราใกล้จะทําได้แล้ววันนี้เราพอแค่นี้ก่อนไว้พรุ่งนี้ผมจะกลับมาที่นี่อีกแล้วเรามาทดลองกันอีกครั้ง”
“ได้ครับ” คนรับผิดชอบการผลิตพูด
การผลิตยาตัวใหม่นั้นไม่ใช่กระบวนการที่ง่าย น้อยคนที่สามารถทําสําเร็จหลังการทดลองในครั้งแรกแม้จะมีหวังเย้าคอยให้คําแนะนํายู่แต่การทําซุปเสี่ยวเผยหยวนก็ยังต้องใช้เวลาหลายวัน
และเสียสมุนไพรไปจํานวนไม่น้อยกว่าจะสําเร็จ
“แล้วเราจะทํายังไงกับยาพวกนี้ดีครับ?”
“เอาเข้าสู่กระบวนการบําบัดน้ำเสีย!”
ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานคือของเสีย นั่นคือกฎขั้นพื้นฐาน ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่สามารถนําไปวางขายได้สําหรับการจัดการกับน้ำเสียจากกระบวนการการผลิตนั้นทางโรงงานได้ติดตั้งเครื่องบําบัดน้ำเสียเอาไว้ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสําหรับอุปกรณ์เหล่านี้ไปไม่ต่ํากว่าสิบล้านหยวน