Emperor's Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2094 ราชันมารกวงหมิง
จอมราชันเซียนหวังจำนวนเท่าไรต้องวิ่งหนีอย่างรีบเร่งเมื่อสวรรค์ลงทัณฑ์ลงมา สิ่งนี้ใช่ว่าเป็นเพราะจอมราชันเซียนหวังใจเสาะ แต่เป็นเพราะว่าไม่เคยมีผู้ใดบนโลกที่สามารถต้านกับสวรรค์ลงทัณฑ์ได้ ถ้าหากแข็งขืนไปต้านกับสวรรค์ลงทัณฑ์หละก็ จะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย ราชันเหยียนตี้ และราชันหลันตี้ก็คือตัวอย่างที่ดีที่สุด แม้แต่จอมราชันที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายยังต้องมีจุดจบจนตัวตายเมื่อฝืนต้านกับสวรรค์ลงทัณฑ์ นับประสาอะไรกับพวกเขา
จอมราชันเซียนหวังที่ยืนดูอยู่ในระยะห่างไกลต่างหลบหนีไปตั้งแต่วินาทีแรก มีเพียงจอมราชันเซียนหวังเพียงหนึ่งถึงสองคนที่โชคร้ายมีปฏิกิริยาช้าไปจังหวะหนึ่ง ไม่ทันได้หนีและไม่สามารถต้านกับสวรรค์ลงทัณฑ์ได้ สุดท้ายร้องเสียงน่าเวทนาออกมาและต้องตายกลายเป็นเถ้าธุลีไป!
นาทีนี้ทุกคนจึงได้เข้าใจแล้วว่า เพราะอะไรอีกาทมิฬจึงได้สั่งให้พวกราชันเซียนเหรินเซียนจากไป ที่แท้เขาได้วางแผนกับช่วงเวลานี้ที่จะมาถึงเอาไว้แล้ว เขาต้องการอาศัยสวรรค์ลงทัณฑ์มาเข่นฆ่าทำลายศัตรูทั้งหมด!
เวลานี้ มีเพียงพวกของราชันสวรรค์ยิวที่เป็นจอมราชันเซียนหวังเหล่านี้ที่หนีไม่ทันกับการลงมาของสวรรค์ลงทัณฑ์ การสำแดง ‘เคล็ดปราบกบฏ’ ของพวกเขาทำให้พวกเขากลายเป็นผู้ร่วมชะตากรรมบนเรือลำเดียวกัน และต่างฝ่ายต่างยื้อกันเอง
เปรี๊ยะ…ภายใต้สวรรค์ลงทัณฑ์ ผู้ที่ต้องร่วงหล่นลงมาก็คือราชันเซียนฉงหวง ส่วนจอมราชันเซียนหวังคนอื่นๆ แม้ว่ายังคงต้านกับสวรรค์ลงทัณฑ์อยู่ แต่ทว่า ภายใต้พลังอำนาจของสวรรค์ลงทัณฑ์ ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เลือดสดๆ ไหลรินทั่วร่าง
เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะเสียงสวรรค์ลงทัณฑ์แต่ละเสียงที่ดังขึ้น ในขณะที่สวรรค์ลงทัณฑ์ฟาดฟันลงมานั้น ไม่เพียงฟาดเข้าหาพวกของราชันสวรรค์ยิว ไม่เพียงฟาดใส่ราชันซื่อตี้ และไม่เพียงแค่ฟาดเข้าหาจอมราชันเซียนหวังทุกคนที่ยืนดูอยู่ในระยะห่างไกลเท่านั้น มันยังฟาดใส่อีกด้านหนึ่งของสมรภูมิรบ
เดิมทีที่ตรงนั้นปราศจากผู้คน เป็นเพียงท้องฟ้าที่ว่างเปล่า แต่ว่า เมื่อสวรรค์ลงทัณฑ์ได้ฟาดลงไปที่ตรงนั้น พลันทำลายทุกสิ่งที่อยู่ตรงนั้นเปิดออ ก ภายใต้สวรรค์ลงทัณฑ์ ไม่ว่าบุคคลผู้นั้นจะมีฝีมือที่ฝืนลิขิตสวรรค์เพียงใดก็ตาม ไม่ว่าจะมีวิชากำบังตนที่ยอดเยี่ยมเพียงใดก็หลบไม่พ้น ต้องถูกสวรรค์ลงทัณฑ์ฟาดใส่จนเผยโฉมที่แท้จริงออกมา!
ตูม…สวรรค์ลงทัณฑ์ฟาดลงมา ที่ตรงนั้นมีผู้เผยโฉมออกมาทีนที เมื่อต้องเผชิญกับสวรรค์ลงทัณฑ์ คนผู้นี้คำรามเสียงยาว อาศัยชะตาฟ้าโจมตีสวนขึ้นไป หวังจะสกัดสวรรค์ลงทัณฑ์เอาไว้
“นั่นคืออะไร” ทุกคนมองไปยังผู้ที่ถูกโจมตีจนต้องเผยร่างแท้จริงออกมาอย่างกะทันหัน มองเห็นคนผู้นี้โจมตีด้วยชะตาฟ้าสิบเอ็ดสาย อย่างไรก็ตาม ชะตาฟ้าของคนผู้นี้กับมีสีดำดั่งน้ำหมึก
ไม่เคยมีใครได้เห็นชะตาฟ้าลักษณะเช่นนี้มาก่อน ชะตาฟ้าของทุกคนล้วนแล้วแต่แวววาวเป็นประกาย แต่ทว่า ชะตาฟ้าของผู้ที่อยู่ตรงหน้ากลับดำสนิทเหมือนมาจากความมืดอย่างนั้น
“คนนั้น คนนั้นไม่ใช่ราชันมารกวงหมิงรึ?” มีจอมราชันที่วิ่งหนีไปถึงกับตกใจ เมื่อมองเห็นผู้ที่โจมตีด้วยชะตาฟ้าสิบเอ็ดสายผู้นี้ แต่กล่าวด้วยความรู้สึกที่ไม่ค่อยจะมั่นใจเท่าไรนัก
“ราชันมารกวงหมิง เป็นไปไม่ได้กระมัง ราชันมารกวงหมิงตายด้วยสวรรค์ลงทัณฑ์แล้วมิใช่รึ?” มีเซียนหวังเอ่ยขึ้นด้วยความแปลกใจ เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้แล้ว
คำพูดเช่นนี้สร้างความหวั่นไหวในใจของผู้คนจำนวนมาก! ราชันมารกวงหมิงเคยเป็นหนึ่งในจอมราชันที่แข็งแกร่งมากที่สุดของเผ่ามาร เขามีสิบสองลัคนา สิบเอ็ดชะตาฟ้า ที่น่ากลัวที่สุดก็คือ เขามีสายเลือดหมอฟงซึ่งเป็นสายเลือดเซียนของเผ่ามาร!
หลังจากยุคของราชันเหยียนตี้ไปแล้ว ราชันมารกวงหมิงเคยได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เจริญรอยตามต่อจากราชันเหยียนตี้ เนื่องเพราะเหตุนี้เอง ในยุคนั้นเขาจึงได้เป็นผู้ปกครององค์กรราชันที่ใหญ่ที่สุดของเผ่ามารที่ชื่อว่าหมิงไถ!
บางทีอาจเป็นเพราะถูกผู้คนยกย่องว่าเป็นผู้เจริญรอยตามราชันเหยียนตี้ และกลายมาเป็นความจริงโดยไม่ตั้งใจ สุดท้าย เขาก็ต้องตายด้วยสวรรค์ลงทัณฑ์ตามราชันเหยียนตี้ไปเช่นเดียวกัน!
ผู้คนในหล้าต่างเข้าใจว่าเขาได้เสียชีวิตไปภายใต้สวรรค์ลงทัณฑ์ไปแล้ว เวลานี้พลันปรากฎตัวขึ้นที่ตรงนี้กะทันหัน จึงทำให้ผู้คนรู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมา เนื่องจากผู้ที่ตายด้วยสวรรค์ลงทัณฑ์เป็นไปไม่ได้ที่จะฟื้นคืนชีพได้อีก ต้องเป็นลักษณะตัวตายสัจธรรมสูญสิ้นแน่นอน!
การปรากฎตัวอย่างกะทันหันของราชันมารกวงหมิงจึงทำให้ทุกคนบังเกิดความไม่มั่นใจ ต่อให้เป็นผุ้ที่เคยพบเห็นราชันมารกวงหมิงมาก่อน ก็รู้สึกไม่ค่อยจะมั่นใจสักเท่าไรนัก
“เป็นพี่กวงหมิง” หลังจากจอมราชันผู้หนึ่งที่เคยคบหามีความสัมพันธ์กับราชันมารกวงหมิงพบเห็นคนผู้นี้แล้ว สามารถยืนยันได้ว่าคนผู้นี้คือราชันมารกวงหมิงแน่ๆ แต่ทว่า เมื่อเขาได้เห็นลักษณะของราชันมารกวงหมิงแล้ว กลับเกิดความสงสัยขึ้นมา เนื่องจากราชันมารกวงหมิงที่เห็นอยู่ตรงหน้าหาใช่ราชันมารกวงหมิงที่เขาคุ้นเคยมาก่อน โดยเฉพาะความมืดแวบวับที่ปรากฏในดวงตาทั้งสองของเขานั่น ยิ่งทำให้เกิดความหวั่นไหวในใจขึ้นมา
“เหตุใดพี่กวงหมิงถึงกลับกลายเป็นเช่นนี้?” จอมราชันผู้นี้กล่าวด้วยความตระหนกยิ่ง
“ไป…” ในขณะนี้ราชันมารกวงหมิงได้ทำการโจมตีขึ้นไปทันทีเมื่อต้องเผชิญกับสวรรค์ลงทัณฑ์ มองเห็นความมืดที่พุ่งขึ้นไปอย่างรุนแรง นาทีนี้ราชันมารกวงหมิงเสมือนหนึ่งกลับกลายเป็นผู้ดำรงอยู่ในความมืด เหมือนเช่นความมืดที่พุ่งทะลวงขึ้นไปบนท้องฟ้า และความมืดดังกล่าวดุจดั่งดอกไม้แห่งความมืดแต่ละดอกที่เบ่งบานอยู่เหนือศีรษะ หวังจะต้านกับสวรรค์ลงทัณฑ์ที่โจมตีลงมา
แต่ทว่า แม้จะเป็นพลังแห่งความมืดยังคงไร้ประโยชน์ เมื่ออยู่ภายใต้สวรรค์ลงทัณฑ์ ความมืดยังคงถูกสวรรค์ลงทัณฑ์ฟาดฟันจนแหลกไม่มีชิ้นดี! ไม่สามารถรองรับกับการโจมตีสังหารของสวรรค์ลงทัณฑ์ได้อยู่แล้ว
เวลานี้ ราชันมารกวงหมิงเองก็ถูกสวรรค์ลงทัณฑ์ฟาดใส่จนเลือดไหลหยดเป็นทาง ร่างกายของเขาถูกผ่าออกเป็นสองซีก อาศัยชะตาฟ้าในการพยุงชีวิตเอาไว้.ไอลีนโนเวล.
“เพราะอะไรราชันมารกวงหมิงจึงไม่ได้เสียชีวิตภายใต้สวรรค์ลงทัณฑ์ เพราะอะไรราชันมารกวงหมิงจึงได้มาหลบซ่อนตัวอยู่ตรงนี้?” เวลานี้เกิดคำถามขึ้นภายในใจของผู้คนมากมาย
“หนี…” ภายในระยะเวลาอันสั้น พวกของราชันสวรรค์ยิวพลันบรรลุข้อตกลงร่วมกัน วิ่งหนีไปทางประตูมิติของราชันซื่อตี้
อิ๊วว…เสียงหนึ่งดังขึ้น จังหวัที่พวกของราชันสวรรค์ยิววิ่งหนีไปทางด้านประตูมิติของราชันซื่อตี้นั้น ทันใดนั้นได้บังเกิดเป็นเสียงของนกกระเรียนดังขึ้นมา ดังก้องไปทั่วทั้งโลกดึกดำบรรพ์
นาทีนี้เอง พลันปรากฏกระเรียนขาวตัวหนึ่งพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า พลันที่กระเรียนขาวกางปีกสองข้างออก ได้บดบังโลกดึกดำบรรพ์เอาไว้ทั้งหมด ได้ยินเสียงดังแว้งค์ขึ้นมา โลกดึกดำบรรพ์ปรากฎเป็นม่านแสงที่คล้ายดั่งคริสตันที่เปล่งประกายหลากนีออกมา และม่านแสงดังกล่าวพลันครอบผูกโลกดึกดำบรรพ์ทั้งใบเอาไว้
ด้วยม่านแสงที่ครอบผูกกับโลกดึกดำบรรพ์เอาไว้โดยพลันเช่นนี้ ทำให้โลกดึกดำบรรพ์เหมือนดูกดึงออกจากช่องว่างหลัก และเข้าไปอยู่ในมิติอีกมิติหนึ่งที่ไม่ทราบตำแหน่ง ไม่ทราบที่ตั้งของช่องว่า ที่น่าสยองยิ่งไปกว่านั้นก็คือ เมื่อช่องว่างหลักถูกม่านแสงครอบเอาไว้แล้ว ทำให้โลกดึกดำบรรพ์ทั้งโลกกลายเป็นเหมือนกรงขังอย่างนั้น ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่สามารถหนีออกไปจากโลกดึกดำบรรพ์นี้ไปได้!
สำหรับประตูมิติของราชันซื่อตี้นั้น ถูกเนรเทศให้ออกไปจากโลกดึกดำบรรพ์ทันที และถูกขวางเอาไว้ด้านนอกของโลกดึกดำบรรพ์
ไม่มีใครรู้ว่ากระเรี่ยนขาวที่โผล่ขึ้นมากะทันหันตัวนี้มาจากไหน และไม่มีใครรู้ว่าเหตุใดเจ้ากระเรียนขาวที่โผล่ขึ้นมากะทันหันจึงมีพลังที่ยากจะหาผู้ใดทัดเทียมในครอบครอง
“นั่นไม่ใช่กระเรียนขาวหรอกนะ” มีผู้ที่ได้สติกลับมา เมื่อมองเห็นกระเรียนขาวที่ครอบคลุมโลกดึกดำบรรพ์ตัวนี้แล้ว พูดด้วยเสียงอันดังว่า “มันคือค่ายกลขนาดยักษ์ ค่ายกลยักษ์ที่หลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกันกับโลกดึกดำบรรพ์!”
ในเวลานี้ คนอื่นๆ ก็เข้าใจแล้วว่า นี่มันไม่ใช่กระเรียนอะไรนั่น เป็นเพียงค่ายกลขนาดยักษ์เท่านั้นเอง โดยค่ายกลยักษ์ดังกล่าวได้หลอมรวมเข้าเป็นเนื้อเดียวกันกับโลกดึกดำบรรพ์ ที่น่ากลัวยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ค่ายกลนี้ถูกสร้างขึ้นโดยผู้ที่ดำรงอยู่ในชั้นของจอมราชันเซียนหวัง รวมถึงจอมราชันเซียนหวังที่อยู่ในระดับสูงสุด และอาจรวมถึงจอมราชันเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายก็เคยลงมือร่วมสร้างค่ายกลยักษ์นี้ขึ้นมา
อีกทั้งค่ายกลยักษ์นี้หาใช่สร้างขึ้นมาได้ภายในเวลหนึ่งหรือสองวัน แต่ได้ผ่านการหลอมกลั่นมาอย่างยาวนาน มันจึงมีพลังที่น่ากลัวปราศจากผู้เทียบเทียม มันได้รับการทุ่มเทแรงกายแรงใจจากผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วน ด้วยเหตุนี้เอง มันจึงได้ทำการพันธนาการโลกดึกดำบรรพ์เอาไว้ได้ทั้งหมด และทำให้โลกดึกดำบรรพ์กลายเป็นกรงขังที่มีขนาดยักษ์สุดเปรียบเปรย
เสียงตูม…ดังสนั่น เกิดการสั่นไหวโคลงแคลงไปทั่วโลกดึกดำบรรพ์ พวกของราชันสวรรค์ยิวโจมตีอย่างเต็มกำลัง หวังทำลายกรงขังนี้เสีย แต่ไม่เกิดประโยชน์แต่อย่างใด
เนื่องจากพลังของพวกราชันสวรรค์ยิวต้องต่อต้านกับสวรรค์ลงทัณฑ์ แล้วยังถูก ‘เคล็ดปราบกบฏ’ ดูดเอาพลังลมปราณไปมากมาย การร่วมมือโจมตีของพวกเขาจึงอ่อนลงไปไร้ขีดจำกัด
ถ้าหากเป็นช่วงเวลาปรกติ การรวมพลังเพื่อโจมตีของพวกเขาซึ่งประกอบด้วยจอมราชันเซียนหวังจำนวนมากมาย มีความเป็นไปได้ที่จะทำลายกรงขังยักษ์นี้ได้ เวลานี้พวกเขาคิดจะทำลายมันเกรงว่าคงต้องอาศัยระยะเวลาที่ยาวมาก อย่างไรก็ตาม ที่พวกเขาขาดไปก็คือเวลานั่นเอง!
“สมควรแก่เวลาที่กระเรียนขาวจะได้สยายปีกแล้วหละ” หลี่ชิเย่มองดูพวกของราชันสวรรค์ยิวที่ถูกขังเอาไว้ภายในโลกดึกดำบรรพ์ หัวเราะเยาะทีหนึ่งพร้อมกับเอ่ยขึ้นช้าๆ
“พี่ท่าน โปรดช่วยเหลือพวกเราอีกแรง” จากการที่พวกของราชันสวรรค์ยิวถูกขังอยู่ภายในโลกดึกดำบรรพ์ ภายใต้การโจมตีอย่างบ้าคลั่งของสวรรค์ลงทัณฑ์ ทำให้พวกเขามีร่างกายที่แหลกเหลว เวลานี้ราชันสวรรค์ยิวจึงส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือต่อราชันซื่อตี้ ขอความสนับสนุนจากราชันซื่อตั้
ในเวลานี้ ราชันซื่อตี้ที่อยู่ด้านหลังประตูมิติก็ได้ทำการคำนวณพิกัดตำแหน่งของช่องว่างอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า ในขณะนี้ ไม่เพียงแต่ประตูมิติของเขาที่ถูกเนรเทศไปยังมิติที่อยู่ห่างไกลออกไป แม้แต่โลกดึกดำบรรพ์ก็ถูกแยกออกจากช่องว่างหลัก และเนรเทศไปยังมิติที่ห่างไกลและไม่เป็นที่รู้จัก ซึ่งวิธีการเนรเทศเช่นนี้ใช่จะสามารถทำได้ในวันสองวัน แต่เป็นพลังอำนาจที่ได้ผ่านการหลอมสร้างมาเป็นเวลายาวนานนับไม่ถ้วน
แม้ว่าเวลานี้จากประตูมิติของราชันซื่อตี้มองไปยังโลกดึกดำบรรพ์เหมือนอยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่ในความเป็นจริงแล้วทั้งคู่ห่างกันมากมายยิ่งนัก คิดจะอาศัยมิติที่ไม่ทราบรายละเอียดไปคำนวณหามิติอีกแห่งที่ไม่ทราบอะไรเลย มันหาใช่เป็นเรื่องง่ายดาย แม้จะเป็นราชันซื่อตี้ที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายในครอบครอง ก็ไม่สามารถคำนวณออกมาได้ในทันที เขาเองก็ต้องอาศัยเวลา
ขณะที่พวกของราชันสวรรค์ยิวขาดแคลนมากที่สุดก็คือเรื่องเวลา! พวกเขาไม่สามารถรอได้
อ๊ากก…เสียงที่น่าเวทนาอีกเสียงหนึ่งดังขึ้น นาทีนี้ภายใต้การโจมตีสังหารของสวรรค์ลงทัณฑ์ครั้งแล้วครั้งเล่า ราชันเซียนชาติที่สองไม่อาจรับเอาไว้ได้อีก ถูกสวรรค์ลงทัณฑ์สังหาร สัจธรรมเลือดสดๆ กลายเป็นเถ้าธุลี ชะตาฟ้าถูกทำลาย ภายในระยะเวลาอันสั้นก็กลายเป็นจุณ!
ปุ…นาทีนี้ ราชันมารกวงหมิงก็ถูกสวรรค์ลงทัณฑ์ทำลายกายเนื้อไป ถูกสวรรค์ลงทัณฑ์โจมตีจนกลางเป็นหมอกเลือด
“เป็นผู้ชี้นำให้ตกลงสู่ความมืดอีกคน” หลี่ชิเย่เพียงยิ้มเยาะ ขณะมองดูราชันมารกวงหมิงที่ถูกสวรรค์ลงทัณฑ์โจมตีจนกลายเป็นหมอกเลือดไป
จี๊ด…เสียงหนึ่งดังขึ้น ทันใดนั้นกายเนื้อของราชันมารกวงหมิงได้มีการสร้างขึ้นมาใหม่ นาทีนี้เขาได้ร้องคำรามเสียงดังออกมาว่า “เชิญลงมาเถิด สมควรจัดการเขาให้จบสิ้นได้แล้ว!”
พลันที่สิ้นเสียงราชันมารกวงหมิง ร่างกายของเขาได้พวยพุ่งเป็นประกายสีดำขึ้นมา ประกายสีดำที่มาจากความมืดประเภทนี้ทำให้ผู้คนถึงกับตัวสั่นดั่งลูกนก ทำให้ผู้คนต้องหวาดกลัวจนขนลุกซู่
เสียงแว้งค์ดังขึ้นเสียงหนึ่ง ประกายสีดำที่พวยพุ่งออกมาจากราชันมารกวงหมิงฉับพลันได้ถักทอกันจนกลายเป็นดวงตราสัญลักษณ์รูปหนึ่ง เสมือนเป็นการเรียกหาอะไรบางอย่าง
ตูม…เสียงหนึ่งดังสนั่นขึ้นมา พริบตาเดียวนั่นเอง มีสิ่งหนึ่งก้าวข้ามอดีตกาล มาจากยุคสมัยที่ห่างไกลมากมาถึงโลกดึกดำบรรพ์โดยพลัน นำเอาความขมุกขมัวของกาลเวลามาด้วย
นาทีนี้มองเห็นโลงศิลาที่เก่าแก่โบราณยิ่งโลงหนึ่งลอยอยู่สูงขึ้นไปเหนือศีรษะของราชันมารกวงหมิง
……………………..